นุ่งโจงห่มสไบ ทานอาหารไทยโบราณ ที่ เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124

วันนี้อดิจะพาไปนุ่งโจงห่มสไบ ทานอาหารไทย แบบชิลๆ ที่ เมืองมัลลิกา ร.ศ.124 ใครอยากแต่งชุดไทย นุ่งโจง ห่มสไบ เดินเที่ยวเล่นเล่นถ่ายรูปสวยๆ เมืองมัลลิกา เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่หลายๆคนคิดถึง

บนพื้นที่กว่า 60 ไร่ ภายใต้แนวคิดในการสร้างโดยการจำลอง เมืองย้อนยุคของวิถีชีวิตชาวสยามบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ วิถีชีวิตของชาวสยามในยุค ร.ศ.๑๒๔ มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายหลายด้าน ที่เด่นชัดมากคือการประกาศเลิกทาส เมื่อทาสได้รับความเป็นไทพวกเขาต้องใช้ชีวิตอยู่อาศัยและทำมาหากินด้วยตนเอง ไม่ได้อยู่ภายใต้อาณัติหรือการดูแลของบรรดาเจ้าขุนมูลนายอีกต่อไป

ด้านในจัดเป็นโซนเข้าชมหลากหลายบรรยากาศ เช่น สะพานหัน, ย่านการค้า, หอชมเมือง, เรือนเดี่ยว, เรือนคหบดี, เรือนหมู่ และอีกหลายๆจุด แต่ละจุดสวยงามแตกต่างกันไป นอกจากชมสถานที่สวยๆ แล้วยังได้ชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบไทยของคนในสมัยนั้นอีกด้วย

แนวคิดในการสร้างมาจากการจำลอง เมืองย้อนยุคของวิถีชีวิตชาวสยามบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ วิถีชีวิตของชาวสยามในยุค ร.ศ.๑๒๔ มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายหลายด้าน ที่เด่นชัดมากคือการประกาศเลิกทาส เมื่อทาสได้รับความเป็นไทพวกเขาต้องใช้ชีวิตอยู่อาศัยและทำมาหากินด้วยตนเอง ไม่ได้อยู่ภายใต้อาณัติหรือการดูแลของบรรดาเจ้าขุนมูลนายอีกต่อไป

เดินเข้าประตูเมืองมาเหมือนย้อนเข้ามาสู่ยุคนั้นจริงๆเลย

ก่อนเข้าเมืองอย่าลืมแลกเงินรูกันนะ เพราะซื้อของข้างในรับแต่เงินรูนะครับ

  • สะพานหัน

ชื่อนี้เรียกตามจาก ลักษณะของตัวสะพานที่ สมัยก่อนนั้นจะเป็นไม้แผ่นเดียวพาดข้ามคลอง ปลายข้างหนึ่งตรึงแน่นกับที่ ส่วนอีกข้างจะไม่ตอกติด จับหันไปมาได้เพื่อให้เรือแล่นผ่านต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 โปรดเกล้า ฯ ให้สร้างใหม่เป็นสะพานโครงเหล็กพื้นไม้ จนถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ได้เปลี่ยนทำเป็นแบบสะพานริอัลโตทีนครเวนิซ และที่ปองเตเวกคิโอ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี




บรรยากาศของสะพานหันภายในมีร้านขายของ

  • ย่านการค้า

ในสมัย ร.ศ. ๑๒๔ มีย่านการค้าที่ขึ้นชื่อและมีสินค้ามากและทันสมัยสำหรับยุคสมัยนั้น

บรรยากาศบริเวณย่านการค้ามีพ่อค้าแม่ค้า เปิดร้านขายของกันอย่างคึกคัก

ตู้ไปรษณีย์แบบโบราณ


ศาลเจ้าแม่ทับทิม

  • เรือนคหบดี

เป็นเรือนคนมีฐานะ บนเรือนคหบดีนั้น แสดงวิถีความเป็นอยู่ของชนชั้นปกครองซึ่งจะมีกิจกรรมบนเรือน เช่น งานใบตอง งานดอกไม้ งานเครื่องแขวน งานแกะสลักผลไม้ ซึ่งงานเหล่านี้เป็นงานวิจิตรที่จะใช้จริงในเมืองมัลลิกา




บรรยากาศรอบๆเรือนคหบดี



บรรยากาศบนเรือนคหบดี ช่างฝีมือกำลังทำงานฝีมือกันอย่างปราณีตบรรจง


งานเครื่องแขวนประดับซุ้มประตูหน้าต่างไว้อย่างสวยงาม


บริเวณโรงครัวกำลังตำข้าวกันอยู่


หลังจากตำเสร็จก็ต้องมาร่อนเอาเปลือกออกให้เหลือแต่เมล็ดข้าว

  • เรือนเดี่ยว

เป็นเรือนชาวบ้าน ซึ่งผู้ที่อาศัยอยู่เรือนนี้คือคนชนชั้นกรรมาชีพ มีหน้าที่ ผลิตปัจจัยเบื้องต้นในการยังชีพอันได้แก่ การทำไร่ ทำนา ทำสวน ปลูกผัก สีข้าว ทอผ้า จักสาน อันเป็นอาชีพทั่วไปของชนชั้นนี้ ในเมืองมัลลิกา



ทุ่งนาบริเวณเรือนเดี่ยว

  • เรือนแพ

ในยุคสมัยนั้น การสัญจรไปมาส่วนใหญ่ใช้แม่น้ำดังนั้น ร้านค้าขายที่จะตั้งอยุ๋ริมน้ำเป็นส่วนใหญ่ซึ่งในเมืองมัลลิกาก็เข่นเดียวกัน จะมีเรือนแพสำหรับค้าขาย


บรรยากาศของเรือนแพ มีเรือมาจอดขายของ อาหารอยู่ มีโต๊ะนั่งทานริมน้ำ

เดินจนทั่วเริ่มหิวแล้วเรารีบเดือนไปทานอาหารกลางวันกันที่เรือนหมู่

บุฟเฟต์มื้อกลางวันจะจัดบริเวณโถงใต้เรือนหมู่ นอกจากสถานที่ที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงามแล้วที่นี่ยังมีบุฟเฟต์อาหารไทยโบราณที่หาทานได้ยาก อาทิ ข้าวตังหน้าตั้ง, ม้าฮ่อ, แกงรัญจวน, แยมหยวก, ขนมจีนน้ำยาและน้ำพริก ของหวาน เช่น ขนมลืมกลืน, ขนมรังไร และอีกหลายเมนู ขอบอกว่าอร่อยและหาทานยากมากๆ




บรรยากาศบริเวณโถงใต้เรือนหมูตกแต่งไว้อย่างสวยงาม


อาหารจัดไว้อย่างสวยงาม น่าทานทั้งนั้นเลย


หมูโสร่งแปลง


ผัดพริกขิงกากหมู



น้ำพริกปลาทูกับน้ำพริกอ่อง พร้อมผักเคียง


แกงสายบัว


ขนมจีน น้ำพริกและน้ำยา

มุมของหวานก็มีมาให้เลือกหลากหลายมาก


ขนมลืมกลืน


ม้อฮ่อ และ ขนมลืมกลืน



ข้างตังหน้าตั้ง



ขนมรังไร โรยด้วยมะพร้าว น้ำตาลงา ราดกระทิ อร่อยมากดีครับ เพิ่งเคยทานครั้งแรก


ผลไม้แกะสลักไว้อย่างสวยงาม

บัวลอยญวน อร่อยดีครับเป็นไส้แบบขนมเทียน

ไอติมกะทิใส่งาดำ อร่อย เย็นชื่นใจ


น้ำดื่มมีน้ำเปล่ากับกระเจี๊ยบ

อิ่มแล้วไปเดินเล่นเรือนหมู่กันดีกว่า

  • เรือนหมู่

เป็นเรือนสำหรับรับรองแขกบ้านแขกเมือง ของคหบดีไทยซึ่งอาจเป็น ขุนนางผู้ทรงศักดิ์ หรือคหบดีผู้มั่งคั่ง ซึ่งในสมัยนั้น นิยมมีคณะนาฎศิลป์ เป็นของตนเอง สำหรับรับแขก



บันไดทางขึ้นเรือนหมู่


บนเรือนหมู่จัดวางหัวโขนไว้อย่างสวยงามสามารถขึ้นไปกราบไหว้ได้


โต๊ะสำหรับใครที่จองทานอาหารมื้อเย็นไว้มีการแสดงนาฏศิลป์ไทยให้ชมด้วย




บรรยากาศภายในเมืองมัลลิกกาที่ถูกสร้างไว้อย่างสวยงาม

ทั้งได้ชมบรรยากาศย้อยยุคสวยๆ แถมได้ทานอาหารไทยโบราณอร่อยๆหาทานยาก ใครอยากแต่งชุดไทยเดินชิลๆ ถ่ายรูปกับบรรยากาศสวยๆแบบนี้ รีบเคลียวันว่างจัดตารางมาเที่ยวเมืองมัลลิกากันนะครับ

เมืองมัลลิกา รศ.124

Facebook : เมืองมัลลิกา ร.ศ.124
Website : www.mallika124.com
ที่อยู่ : ตั้งอยู่ตรงทางเข้าปราสาทเมืองสิงห์ ติดปั๊มบางจาก ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จากตัวเมืองกาญ 32 กม.
วันและเวลา เปิดให้บริการ : เปิดบริการทุกวัน 9.00 – 20.00 น.
ค่าบริการ :
ราคาเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1 วัน ราคา 250 บาท เด็กและผู้สูงอายุ 120 บาท
ราคาเข้าชมรวมอาหารเย็นและโชว์ : ผู้ใหญ่ 700 บาท เด็กและผู้สูงอายุ 350 บาท
ราคาเข้าชมรวมอาหารกลางวัน : ผู้ใหญ่ 450 บาท เด็กและผู้สูงอายุ 250 บาท
*เด็กสูง ต่ำกว่า 100 ซม. เข้าฟรี / สูงระหว่าง 100-130 ซม.- ราคาเด็ก / ผู้ใหญ่อายุ 70 ปีขึ้นไป

ราคาเช่าชุดไทย : ผู้ชาย เริ่มต้น 100 บาท และผู้หญิง เริ่มต้น 200 บาท
สำหรับการเข้าชมเป็นหมู่คณะ โทร 034- 540884-6

เพื่อนที่เข้ามาอ่านแล้วชอบฝากเข้ามากดถูกใจเพจผมได้ที่นี่เลยครับ >> ChillWithAdi

แล้วมาเป็นเพื่อนเที่ยวไปกับอดินะครับ

#chillwithadi
#อดิพาชิล
#อดิพาเที่ยวกาญจนบุรี
#เมืองมัลลิกา

อดิพาชิล

 วันพฤหัสที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 21.29 น.

ความคิดเห็น