ปรากเป็นอีกหนึ่งเมืองในยุโรปที่นักท่องเที่ยวสายโรแมนติค ต่างใฝ่ฝันว่าสักครั้งหนึ่งต้องมาเยือนที่นี่ให้ได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นเมืองที่อยู่ในแถบยุโรปแต่ค่าเงินและค่าครองชีพของที่นี่ไม่ได้แตกต่างจากเมืองไทยเราเท่าไหร่เลย ถูกกว่ามาเลเซียซึ่งเป็นเพื่อนบ้านเราเสียด้วยซ้ำไป แต่จะแพงหน่อยก็คือค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ นี่แหละที่เป็นอุปสรรคของขาเที่ยวทั้งหลาย

วันนี้เราจะพาไปชมความงดงามและโรแมนติคของเมืองปราก ริมฝั่งแม่น้ำ Vltava กัน เผื่อว่าใครกำลังวางแพลนจะมาฮันนีมูนกันที่นี่จะได้เก็บไปเป็นอีกหนึ่งในลิสการท่องเที่ยว

ก่อนออกเดินทางขอแจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับทริปนี้กันก่อนละกัน

ค่าตั๋วจะอยู่ที่ คนละ 690 CZK. (ประมาณหนึ่งพันนิดๆ) ราคาก็พอๆกับการล่องเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาบ้านเรานั่นแหละ ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 3 ชั่วโมง

โดยจะรวมอาหารสำหรับดินเนอร์แบบบุพเฟ่ต์และเครื่องดื่ม non-alcohol ส่วนใครจะดื่มเครื่องดื่มแบบมีแอลกอฮอล์ เขาก็มีบริการนะแต่ต้องจ่ายเพิ่ม....บนเรือก็จะมีการแสดงดนตรีสด(Jazz)คอยขับกล่อมให้ยิ่งเพื่มความโรแมนติคเข้าไปอีก...พร้อมแล้วเราก็ไปขึ้นเรือกันเถอะ

บรรยากาศบน roof top ของเรือ แต่ละคู่ก็จับจองที่นั่งกันเป็นที่เรียบร้อย เรือก็เริ่มเดินเครื่อง ได้เวลาตากล้องทั้งหลายก็เตรียมกดชัตเตอร์รัวๆๆกันเลย ห้องอาหารก็จะอยู่ชั้นล่างของเรือ ใครอยากทานอะไรก็ไปตักกินกันได้เลย ...จริงๆเราก็กินกันเรื่อยๆนะแต่มัวแต่ตื่นเต้นกับวิวสองฝั่งแม่น้ำเลยไม่มีใครคิดที่จะถ่ายรูปอาหารกันเลย

วิวด้านบนก็จะเป็นสะพาน ชาร์ลส์(Charles Bridge)ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองนี้ รายละเอียดหรือประวัติเกี่ยวกับสะพานหรือตัวอาคารต่างๆในกรุงปราก ติดตามอ่านกันได้ในบทความถัดไป จะพาไปชมบรรยากาศความงดงามของอาคารบ้านเรือนภายในกรุงปรากโดยรอบกันอีกทีละกัน

ล่องเรือกันมาเรื่อยๆ เราก็เก็บภาพความสวยงามของอาคารต่างๆที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Vltava และดื่มด่ำกับภาพความงดงามของบรรยากาศยามเย็นที่แสนจะโรแมนติคไปพร้อมๆกัน

อาคารที่เป็นโดมด้านบนนี้ก็จะเป็นโรงละครแห่งชาติ(The National theater)

จะเห็นว่าอาคารบ้านเรือนของเมืองนี้มีสีสันสวยงามและดูอบอุ่นเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในเวลาที่แสงตะวันส่องมากระทบในยามเย็นเช่นนี้

บริเวณชายฝั่งสองข้างทางก็จะมีผู้คนออกมาเดินเล่น นั่งเล่น หรืออาจจะมีร้านอาหารไว้บริการสำหรับคนที่อยากมาพักผ่อนยามเย็นรอชมพระอาทิตย์ตกดินกัน

เรือที่เรานั่งกันก็จะคล้ายๆกับเรือลำนี้แหละ การล่องเรือชมเมืองปรากเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมเมืองนี้เป็นอย่างมาก ไม่แพ้เมืองอื่นๆในยุโรปเลย

ก่อนที่ดวงตะวันจะลาลับขอบฟ้า แสงสีทองอ่อนๆที่สาดส่องมายังฝั่ง Old town มองดูแล้วช่างสวยงามและอบอุ่นดีจริงๆ

ในรูปนี้จะเป็นฝั่งของเมืองใหม่สังเกตุได้จาก ตัวอาคารต่างๆจะมีความทันสมัยและเป็นตึกมากขึ้น

ช่วงนี้เรือก็จะย้อนกลับมาทางเดิมเพื่อกลับไปยังจุดเริ่มต้น ภาพที่เราเห็นก็จะเป็นมุมเดิมๆแต่ให้อารมณ์ที่แตกต่างกัน เนื่องจากแสงและสีเริ่มเปลี่ยนไป บางช่วงก็จะเริ่มมีการเปิดไฟตามตัวอาคาร แต่ยังถ่ายรูปไม่สวยเพราะมันยังไม่มืดสนิท

เมื่อแสงตะวันเริ่มลาจาก บรรยากาศโดยรอบก็จะดูเหงาๆขึ้นมาทันที

สะพานชาร์ลส์ ก็เริ่มเปิดไฟกันแล้ว

นักดนตรีก็บรรเลงเพลงขับกล่อมกันต่อไป จากยามเย็นที่เห็นแสงอบอุ่นจากดวงอาทิตย์ ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นค่ำคืนที่ดูโรแมนติคไปด้วยแสงไฟที่ประดับตามอาคารต่างๆแทน

เมื่อความมืดเข้ามาเยือน สีสันจากแสงไฟก็ทำให้เมืองนี้ดูคลาสสิคขึ้นมาทันที

และแล้วเวลาแห่งความสุข 3 ชั่วโมงในการล่องเรือของเราก็ผ่านพ้นไปเร็วเหลือเกิน แต่เราก็ยังมีกิจกรรมอย่างอื่นที่น่าสนใจอีกมายให้เลือกชม

ก่อนที่เราจะกลับเข้าที่พักก็ใช้เวลาเดินชมร้านค้าต่างๆที่แข่งกันตกแต่งร้านสวยๆเพื่อเรียกลูกค้ ก็ถือเป็นการเดินย่อยอาหารไปในตัวละกัน

ของที่ระลึกอันสวยงามจากเปลือกไข่ขนาดต่างๆ

อีกอย่างนึงที่ขึ้นชื่อมากๆของเมืองนี้คือ คริสตัล ที่สีสันและรูปทรงที่แสนจะสวยงามเหล่านี้ เห็นแล้วก็อยากจะซื้อกลับบ้านเหมือนกันนะ แต่ก็กลัวจะไม่รอดถึงบ้าน ก็เลยเก็บแค่ภาพความประทับใจผ่านเลนส์ไว้ละกัน

ค่ำคืนแห่งความโรแมนติคคืนนี้ของเราก็จบละ แล้วจะพาไปชมบรรยากาศเมืองปรากตอนกลางวันกันอีกทีในรีวิวหน้านะ ขอไปเลือกรูปก่อนคือรูปสวยๆเยอะมาก ตาลายเลือกไม่ถูกกันเลย

Adelpatour

 วันศุกร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 12.23 น.

ความคิดเห็น