หน้าฝนใครบอกไม่น่าเที่ยว
ความเขียว ชะอุ่ม ชุ่มชื้น หาได้ที่หน้าฝนนี่แหละค่ะ
แถมไปอีก งานหมอกก็มา
หมอกหน้าฝน หาได้ใกล้ๆ ขับรถวนไปก็ดี โดยสารรถก็เริศ
นี่แค่รูปเปิด ก็ใจคอไม่ดีแล้ว อย่าเพิ่ง งง ใจไป คุณอยู่ที่หมู่บ้านอีต่อง อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
หมู่บ้านนี้แหละที่ใครๆก็พูดถึงหมอก หนาๆ เหมืองเก่า ที่ตอนนี้กลายเป็น Landmark เกร๋ๆ ไปแล้ว
หมู่บ้าน อีต่อง เป็นหมู่บ้านที่ชาวบ้านทำเหมืองแร่ พอมีคนเข้ามาขุดแร่ หาแร่ เ้ามาทำงานกันเยอะ เหมืองนี้เลยกลายเป็นหมู่บ้านเกิดขึ้นมา
เดิมหมู่บ้านให้ชื่อหมู่บ้านนี้ว่า "ณัตเอ็งต่อง" = บ้านเทพเจ้าแห่งขุนเขา แล้วก็มีถูกเรียกเพี้ยนกันมาเรื่อยจนเป็น
หมู่บ้าน "อีต่อง"
เท่าที่รู้มาสมัยก่อนจะเดินทางมาที่หมู่บ้านนี้ใช้เวลาเดินทางนานมาก ปัจจุบันการเดินทางสะดวกขึ้นเยอะมากค่ะ ไปเองก็ได้ โดยสารรถ2แถว ก็ได้อีกบรรยากาศ
เราเนี่ยไปคนเดียว ทำงานจากอ.ศรีสวัสดิ์ เสร็จก็ปลีกตัวมาทองผาภูมิต่อจองที่พักไว้ก่อนไปแล้วมาถึงจะได้เข้าที่พักสบายๆเลย
แค่เริ่มต้นเดินทางขึ้น 2 แถวไปที่หมู่บ้าน ก็ได้เพื่อนใหม่อีก 2 คน เกร๋จะตายค่ะคุณ เรื่องเวลาในการเดินทางเราคาดคะเนไม่ได้อ่ะ เพราะตอนไป 2 แถวมันถูกเหมาขึ้นหมู่บ้าน คนเหมาเลยขอแวะซื้อของด้วย ก่อนออกฝนตกลุงแกก็ให้ฝนซานิดนึง ยังงัยใครไปเองแบบรถสาธารณะก็บริหารเวลากันดีดีจะได้ไม่ตกรถนะจ๊ะ
น้องที่มาเจอกัน น่ารักจะตาย บอกแล้วเที่ยวคนเดียวมันก็จะได้เพื่อนใหม่มาเรื่อย ๆงี้แหละ
ตอนเดินทางเฝนก็กำลังปรอยๆ อากาศเย็นๆ สบายสุดๆ นั่งมาพักนึง หันไปมองหลังรถ อื้อหือ!!! มีความสตั้น ไปแป๊บ ละถามตัวเองว่า ทำไมไม่หยิบกล้องมาถ่ายถ่ายรูป หึ๊!!!
หมอกมาเต็มค่ะคุณผู้โช้มมมมม อย่างกับมีคัยเอาสำลี ไปแปะไว้หน้า ภูเขาแน่ะ ไม่เชื่อดูนี่นะ
สำหรับเรานี่คือยอมใจสุดๆ เหมือนเด็กได้ของเล่น ตื่นเต้นสุดๆ ถ้าคุณใช้ชีวิตอยู่ในเมืองทุกวันๆ แล้วเจอควันรถเนี่ยุณจะรู้ว่าเวลาคุณได้เจอหมอก เวลาฝนตก มัน โค-ตร ตื่นเต้น แล้วมันก็สวยมาก
แต่อย่ามัวมองหมอกผ่านจอ หรือเลนส์นะจ๊ะ ลองมองมันด้วยตาจริงๆ ด้วย มันจะฟินมาก
ปกติเราไม่รู้ว่าถ้านั่ง 2 แถวมาคันอื่นลุงแกพาแวะจุดชมวิวมั้ยแต่คันเราลุงแวะให้ คิดว่าคันอื่นๆ ก็น่าจะแวะให้นะ แต่เราเนี่ยดั๊นนนน ง่วนกับเลนส์กล้อง เลนส์อีกอันดันมีปัญหา เลยได้แต่ใช้ Fix ถ่ายมา มุมมันจะ แคบๆ หน่อยน้า ได้มาไม่กี่รูปเอง
มีเขาตรงไหน หมอกลอยกันเป็นสำลีเล้ยยคุณขา
วิถี Biker ก็มา เท่ห์ สุดๆ
ไอ่เราเนี่ยด้วยความที่ไม่ได้แพลนอะไรไปมากมายว่าจะไปไหนยังไงบ้าง คิดอยู่แค่ว่าเดี่ยวต้องได้ trek ขึ้นไปดูวิวบน เนินช้างศึก วันนึง ส่วนวันอื่นๆ ก็เช้ามาค่อยคิด ส่วนนึงเพราะที่นี่พอฝนตกแล้วถ้าคิดจะtrekขึ้นเนินช้างศึก คงไม่เข้าที คงได้มีไถลเถลือกกันเป็นแน่ แถมก่อนหน้า น้องๆ ก็ชวน เช่ามอไซค์ แล้วแว๊นกันไปเรื่อยๆ ก็เป็นอันตกลงกันว่า แว๊นไปเลย 1 วันจะไปไหนกันมั่งก็หน้างานเลย
ถึงหมู่บ้านแล้วค่า คุณขา อากาศนี่หนาวเลยค่ะ รถ 2 แถวจอดปุ๊บเดินไปที่พักเลยจ้า เราจองที่ "อีต่อง โฮมสเตย์" ชั้นบนห้องเลข 5 เห็นวิวเบาๆ ได้กุญแจปุ๊บไม่รอช้าขึ้นห้องเลยค่ะคุณขา
ท๊าดาาาาาา....ห้อง Mickey Mouse ค้าคุณขา ในห้องมีทีวี พัดลม ห้องน้ำในตัว เตียง2เตียง มีน้ำ 2 ขวด สำรวจห้องแล้วรอช้าอะไรคะคุณขา ทิ้งตัวลงบนเตียงเบาๆ แล้วเช็คอินโล๊ดดดด
:
:
โถๆๆๆ เพลินกับวิว จนลืมไปว่า หิว จริงๆมันก็เริมเย็นแล้วอ่ะนะ หาข้าวกินร้านใกล้ๆ แล้วเดินเล่นซักหน่อยคงจะดีเน๊าะ
มื้อแรกฝากท้องที่ ร้านติดกับที่พักเลย
ข้าวผัดแหนม ณ ร้านน้องหน่อย
ข้าวร้อนๆ อากาศเย็นๆ กินไป มองหมอกมั่ง มองฝนพรำบ้าง อื้อหือ อย่าให้ต้องบรรยายว่ารู้สึกยังไง
:
:
ก่อนฟ้าจะมึดเดินสำรวจระแวกตลาดของหมู่บ้านกันเบาๆ นะคุณ เอาแค่ระแวกๆที่พักก่อน เพราะด้วยความหมอกหนา กับเริ่มใกล้มึด มันก็จะไม่ค่อยกล้าเดินเท่าไหร่
>> ก่อนเดินไปไหนก็เจอน้องที่มาด้วยกัน เลยตกลงให้น้องเช่ามอไซต์ให้ นัดเจอกันอีกทีวันรุ่งขึ้น <<
:
:
ป่ะ !! สำรวจ ตลาดอีต่องกัน
สิ่งปลูกสร้างที่ถูกปล่อยทิ้ง ไม่ได้รื้อ และหยุดการสร้างไปแล้ว ใครมาก็ต้องถ่ายรูปสิ่งปลูกสร้างนี้
หมอกมันก็จะลอยมา ลอยไป ตามแรงลม เป็นจังหวะๆ
ใครที่อยากจับจ่ายซื้อขนมขบเคี้ยวระหว่างวัน หรือระหว่างคืน เดินไปซื้อได้ที่ใต้ที่พักชื่อ เอี่ยว โฮมสเตย์ ด้านบนเป็นที่พัก ด้านล่างเป็นขายขนม ของกิน จุ๊กจิ๊ก....ปากทางเข้าตลาดด้านในหมู่บ้าน ขออภัย ที่ไม่มีรูปมัวแต่ซื้อของกิน อิอิ
:
:
ได้เวลาเข้าที่พักละ เดี่ยวจะโชว์รูปวิวจากระเบียงที่พักให้ดูว่า ฟินไปอีก
เมื่อหมอกมา อะไรก็จะขาวๆ โพลนๆ สร้างความละเม้อเพ้อฝันไปอีก
:
:
เช้าแล้วยังอยู่บนที่นอน...เงียบๆคนเดียวแลไม่อยากตื่นนนนน
ว้าย!!! ไม่ตื่นไม่ได้แล้ววววลุกมายังไม่ทันทำอะไร รีบลุกจากเตียงเปิดประตูห้องไปถ่ายวิวก่อนเล้ยยย
เนี่ยๆๆ ละตื่นมาเจอวิวแบบนี้ ก็ต้องยอมใจมั้ยล่ะ....
ชมวิวพอสมควรก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัว หาอะไรกินกันดีกว่า มื้อนี้สายหน่อย อยากนั่งกินข้าวไปมองวิวไปสุดท้ายจบที่ร้านนี้ค่ะ
ร้าน "ช้างแก่ คลาสสิคโฮม" ร้านถูกตกแต่งด้วยไม่เก่า ของเก่า ชอบรึ๊เกิ๊นนนนไอ่ร้านสไตล์นี้ ไม่ลังเล จัดไปเลยค่ะ
อาหารร้าน ช้างแก่ คลาสสิค จะเป็นแนวเบาๆ ใครชอบหนักๆ อาจจะไม่เหมาะ แต่อาหารเช้า เบาๆ นี่ก็ถูกแล้วแหละนา
จัดไปเบาๆ เมนู ไข่นอกกะทะ กับกาแฟร้อน จริงๆเราชอบป้าเจ้าของร้าน แกมีความง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก คัยชอบอะไรเรียบง่ายเราว่าร้านนี้เหมาะ เรากินร้านนี้หลายมื้อเลยนะ แต่ละมื้อมันก็ได้อารมณ์ต่างๆ กันไป กินตอนมีหมอกหนา ตอนฝนตก ตอนมึด มันฟินนะคู๊ณณณณ
เอาตอนฝนตกไปชมเลย
เอ๊าอันนี้ตอนหมอกๆ มัวๆ
โรแม๊นนนนน จะตายยยย
รูปตอนกลางคืน มันจะไม่ค่อยมีเน๊าะมัวแต่กินบรรยากาศ นั่งอยู่นาน กินอยู่หลายมื้อ สุดท้ายป้าแกทำเค้กกินเอง แกเลยลองให้ชิม น่ารักป่ะล่ะ!!
ขนมชิ้นที่ว่า ป้าแกเฉียบไม้มาให้ชิม
อันนี้ป้าแกบอกเป็นที่ร่อนแร่ แต่เป็นแบบเหล็ก
ทั้งร้อนและเย็นก็ฝากท้องไว้ที่ร้านแกนี่แหละ
ป่ะเราแว๊นไปชมวิวกันที่ "เนินช้างศึก" - -> ต่อด้วย "น้ำตกจ๊อกกะดิ่น"
ยังๆ ยังไม่ถึง แวะเดินขึ้นไปมองๆ แถวทางเดินขึ้นเนินนิดนึง
เดินลง ละไปเอามอไซต์ปั่นต่อ เอ้ย...ขี่ต่อขึ้นเนินช้างศึกต่อกัน
รูป รัวๆ เลยนะ
คัยบอกมาคนเดียวไม่มีรูป
ละวันนี้ฟ้าเปิด ฟ้าเป็นใจสุดๆ
มองลงไปจะเห็นเป็นหมู่บ้าน อีต่อง
คือมองไปทางไหนมันก็สวยหมดเลย ดีที่เรามาวันธรรมดาด้วยเลยคนไม่เยอะ เหมือนเนินนี้เป็นของเรา
จะรูปคู่
รูปเดี่ยว
หรือจะรูป 3 คน มันก็สวยไปทู๊กกกรูป
ถ้าใครมาหน้าฝน แล้วเจอฟ้าเปิดแบบเรา เราว่าโชคดีมากกกจริงๆ
:
:
ป่ะแว๊นไปจ๊อกกระดิ่นกันต่อ...ถ้าถามว่าทางลำบากมากมั้ย เอาเป็นว่าไม่ได้ยากมาก แต่ ให้มีสติเวลาเลี้ยวทางโค้ง แล้วก็ใช้ความระมัดระวังในการขับขี่จะดีมากกก
เสียค่าเข้าแล้วเจ้าหน้าที่จะถาม เราเล่นน้ำมั้ย เพราะถ้าเล่น เจ้าหน้าที่จะตามไปดู แต่บอกเลย น้ำเย็นมากแค่เอาเท้าจุ่มขนก็ลุกชันแล้ว แถมฝนตกด้วย หนาวไปอีก
น้ำนี่แรงมากกกก
หลังจากแว๊นเสร็จแล้วเรานัดไปกินข้าวกันน้องๆ อยากกินร้านเจ๊ณี กินเสร็จแล้วว่าจะไปชายแดน กับวัดด้านบน สรุปฝนตกหนักถล่มทลาย แว๊นกลับเถอะค่ะ ไม่งั้นไม่รอดแน่ๆ
เมื่อมองท้องฟ้ายามเย็นที่ไม่เป็นใจในการไปต่อ เราก็แยกย้ายกันกลับที่พักร่ำลากัน เพราะพรุ่งนี้น้องต้องเดินทางกลับแต่เช้า พรุ่งนี้ก็จะต้อไปต่อคนเดียวแล้วนาจา....ในส่วนแพลนของเรานั้น คิดเพียงแค่ พรุ่งนี้คงได้ trek ไปเนินช้างศึก ภาวนาให้ท้องฟ้าเป็นใจในการจะก้าวย่างขึ้นด้านบนเนิน แต่จนแล้วจนรอด ไม่มีวี่แววว่าฝนจะหยุดลง
แม้กระทั่งนก ยังต้องมาหลบฝนแถวหน้าต่างห้องพัก
สุดท้ายเราก็หลับไปพร้อมเสียงฝนที่ตกแบบ เดี๋ยวเบา เดี๋ยวแรง
:
:
lสุดท้ายที่เราหลับไปพร้อมเสียงฝน...แล้วเราก็ตื่นมาพร้อมเสียงฝน...คิดเพียงแค่เอาไงดีล่ะทีนี้ ฝนไม่มีทีท่าจะหยุดเลย จะไปไหนดีนะ...อาบน้ำแต่งตัวเสร็จไปหาอะไรกินก่อนละกัน
มองอะไรไม่เห็นเลยค่ะคู๊นนนน
ระหว่างเดินจะไปกินข้าว เจอพี่เจ้าของถามว่าไปกับแกมั้ยแกจะพาลูกค้าไป "เหมืองลุงสมศักดิ์ หรือ ที่ป้าเกล็น" แกอยู่ตามที่ทุกคนรู้จักนั่นแหละ ไอ่เราก็จริงๆเหมืองลุงแกไม่ได้อยู่ในแพลนว่าจะไปเลยเพราะมันต้อง 4 WD Only แต่ไหนๆก็ไม่มีที่ไปละ ไปก็ได้ เลยไปกินข้าวรอพี่แกมาเรียก สุดท้ายเราก็จะได้เพื่อนใหม่ในการเดินทางอีกแล้วค้า
เมื่อคณะการเดินทางไปเหมืองสมศักดิ์พร้อมกันแล้ว ทำความรู้จักกันก่อนนิดนึง ใส่เสื้อกันฝน แต่งกายให้พร้อม อ้อ!!! ลืมบอกไป เที่ยวหน้าฝนแบบนี้อย่าลืมพก ซอฟเฟลไว้ฉีดกันทากนะจ๊ะ..เห็นว่าเหมืองลุงแกมีทากนะ ก่อนลงรถนี่ก็ฉีดก่อนเลย เมื่อคณะพร้อมแล้วเราก็ออกเดินทางกันโลดดดด
ถ้าจะให้พูดถึงเส้นทางการเดินทางไปเหมืองลุงแก มันก็จะมันส์ๆ โยกซ้าย โยกขวาหน่อยๆ ช่วงไหนทางโหดพี่แกก็จะตะโกนบอกจับแน่นๆ นะ ไหวกันมั้ยๆ สนุกสุดๆเลยล่ะค่ะ ไม่คิดใช่มั้ยคะว่า เราจะเที่ยวแบบสนุกๆกับคนที่เราเพิ่งเจอกันได้ยังไง ลองดูซักครั้งแล้วคุณจะติดใจ...แต่เป็นที่น่าเสียดายเก็บภาพไม่ได้เลย ระหว่างทาง มือไม่ว่างเลย เหนี่ยวเต็มที่ แรกๆก็แค่มือที่ช่วยพยุงตัว ซักพัก ทางโหดขึ้นก็เท้านี่แหละค่ะช่วยยัน สนุกๆกันไป
ถึงละค่ะคู๊นนนนนนน อากาศนี่เย็นสบ๊ายยยย เขียวชะอุ่ม เกินบรรยายจริงๆ
ป้าเกล็นแกเห็นก็ออกมารับเลยยยย...มาถึงที่แล้วมีหรอที่จะไม่ถ่ายรูปกับป้าแก
ไปค่ะ...ชมบรรยากาศภายในบ้านป้าแกเลยค่ะ
ใครอยากเดินชมที่พัก หลังอื่นๆ ของป้าแกก็เดินได้เลยค้าา แต่อย่าลืม ซอฟเฟลๆๆ
ธรรมชาติล้วนๆ
ที่พักหลังนี้ ติดน้ำ บรรยากาศดีตุดยอดดดดด...
นี่สิ่นะที่เค้าเรียก ความสุขจากธรรมชาติ มันสดชื่นมากจริงๆ
เห็นละเหงาเลยยยย
สุดท้ายต่อให้เราชอบสถานที่นี้ขนาดไหนเราก็ต้องกลับกันแล้ววว
แค่เวลาสั้น แต่เราก็เห็นความจากคนร่วมทริปเรามีรอยยิ้ม บางทีแค่ตัวหนังสืออาจจะไม่ได้สื่ออะไรได้มากมาย แต่รูปภาพที่มี "รอยยิ้ม" ไม่โกหกสายตาคนดูอยู่แล้ว
เรากำลังกลับกันแล้ววววว...
เมื่อมีโอกาสได้เก็บภาพระหว่างทาง เพื่อนร่วมทริปเราก็ไม่รอช้ารีบบอกให้พี่แกหยุดรถให้แล้วแช๊ะ ภาพเป็นที่ระลึก...ขอบคุณภาพจากมือถือ เพื่อร่วมทริป
ก่อนจะแยกจากกันกับเพื่อนร่วมทริป...พี่เจ้าของรถพาเราแวะกินข้าว ,ซื้อเค้กก่อนกลับตรงทางเข้าหมู่บ้าน แล้วซื้อเค้กติดไม้ ติดมือกลับด้วย อยากจะบอกว่าเค้กอร่อย เนื้อเค้กนุ่ม หอม อร่อยๆๆๆ
อ๊ะๆๆ!!!...จริงๆแล้วพี่แกพาเราเข้าไปในเหมืองด้วยยยย พาขี่ฝ่าหมอกเข้าไปเลยยย
เหมืองปิล๊อก อยู่นี่เอง
เสร็จจากตรงนี้ก็แยกย้ายค้า รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดเล้ยยย แล้วจะได้มาใช้เวลาที่เหลือก่อนจะต้องเดินทางกับในวันพรุ่งต่อไป
จริงๆ ตั้งใจจะเดินไปแถววัด กับชายแดด้านบน แต่พี่ที่ที่พัก บอกไว้ หมอกหนาๆ แบบนี้ เดินไปมันก็จะวังเวงๆหน่อย เปลี่ยนให้เราเดินลงไปที่หมู่บ้านดีกว่า จัดเลยค่ะ เดินนนนลงหมู่บ้านก็ไม่เลวเลยแหละ
ก่อนถึงทางลงหมู่บ้าน เจอทางแนกเดินไปเขาช้างเผือกไปอีก กระตุ้นต่อมอยากไปอี๊กกกก
เพราะธรรมชาติ มัน เพอร์เฟคมากกก ลงตัวสุด ๆ
ชมธรรมชาติเสร็จแล้วก็เดินกลับมาย่าน โคเรีย โคเรีย ของหมู่บ้านกันดีกว่า
ดูๆๆ นังคนนี้มันมอง มองซะต้องหันไปถ่ายเลยนะ
แล้วมันก็หมดไปอีก 1 วันที่เป็นคืนสุดท้ายที่ต้องอยู่....
เข้านอนแล้วรีบมารอรถ 2 แถวแต่เช้ามันก็จะพอมีเวลาเก็บภาพเล็กๆน้อยๆก่อนกลับ
เนื่องจากว่า เช้าวันสุดท้ายที่ตื่นมาเป็นวันเสาร์ นักท่องเที่ยวเลยเยอะเป็นพิเศษ
นี่เลยรูปสุดท้ายก่อนกลับ...แอบเจอคู่รักมาถ่ายพรีเว๊ดดดกัน...น่าร๊ากกกก
สุดท้ายแล้ว ถ้ากล้าจะออกเดินทาง เราก็จะได้เจออะไรใหม่ๆ เพื่อนใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ ออกจากcomfort zone บ้าง จะทำให้เรารู้ว่าเราหาความสุขจากการเที่ยวแบบนี้ได้
สุดท้ายจริงๆ ...ต้องขอบคุณที่อ่านกันมาจนถึงตอนนี้
กู๊ดดดไนท์กันด้วยภาพแสงไฟเหลืองสะท้อนผิวน้ำ...แล้วเจอกันในฝันทู๊กกกคน
เที่ยว กับ เธอ
วันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.38 น.