ตะลุยเดี่ยว...เที่ยวเชียงใหม่...แบบชิลล์ ชิลล์

มาเชียงใหม่กี่ครั้งแล้วก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ลุยเดี่ยวเลย

ครั้งนี้เราเดินทางโดยสายการบิน Vietjet เวลา 9:50 น.

เดินทางมาถึงสนามบินเชียงใหม่เวลา 11.10 น.

ตอนแรกตั้งใจว่าจะลองนั่งรถเมล์ขาว รอซักพักกลายเป็นรถขาวคันนี้แทน

พี่กุ้งคนขับรถท่านนี้ คิดราคาพิเศษให้เรา 100 บาท บอกว่าจะไปส่งให้ถึงขนส่งช้างเผือกเลย

อัธยาศัยดีขนาดนี้ เราเลยเลือกใช้บริการเลย ใครสนใจโทรติดต่อได้ที่เบอร์ 086-912-5775 นะคะ

มาถึงขนส่งช้างเผือก ได้เวลารถออกพอดีเลย

ค่ารถจากเชียงใหม่ มาเชียงดาว 40 บาท บอกคนขับรถว่ามาลงที่เชียงดาวป้าย 2 นะคะ

นั่งรถประมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้วค่ะ

,มาลงเชียงดาวป้าย 2 คือร้านพีระการเกษตร บอกทางร้านว่ามาพักที่เจียงดารา จะมีเจ้าหน้าที่มาส่งค่ะ

ร้านพีระการเกษตรมีสองฝั่งเลย เราเลือกบอกที่ฝั่งนี้ เพราะเป็นด้านเดียวกับที่ลงรถ

มาถึงที่เจียงดาราแล้ว

ที่พักมีเสริฟ Welcome Drink เป็นน้ำมะขามให้ด้วยค่ะ

เรากินข้าวกลางวันของที่พัก มีขายทั้งอาหาร และเครื่องดื่ม ราคาไม่แพงด้วย

บ้านพักที่นี่ราคาคนละ 300 บาท เราพักคนเดียว ทางที่พักก็ให้บ้านทั้งหลังเลย

ภายในที่พักมีพัดลมกับมุ้งให้ค่ะ

มีระเบียงด้านนอกที่พัก และประตูทางขวามือจะเป็นห้องน้ำ

มีห้องน้ำภายในที่พักด้วย

เปิดหน้าต่างด้านหัวเตียง จะมองเห็นวิวได้ตามภาพนี้

เปิดหน้าต่างด้านปลายเตียง จะมองเห็นวิวได้ตามภาพนี้

ที่พักที่นี่มีเพียงบ้านสามหลัง สนใจเข้าพักติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 082-605-9902

หรือ inbox เข้าไปที่ เพจของ เจียงดารา-บ้านทุ่งหลุก อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

ด้านหน้าที่พักสามารถชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้ายามเย็นได้

เพิ่มเติมแสงสีให้กับท้องฟ้าซักหน่อย

หลังจากที่ชมตะวันลับขอบฟ้าแล้ว เราก็มาดื่มน้ำอัญชันมะนาว

ทางที่พักเก็บดอกอัญชันสดๆที่ปลูกไว้มาคั้นน้ำให้ ดื่มแล้วสดชื่นมากมาย

มื้อเย็นวันนี้ทางที่พักชวนกินข้าวด้วยกัน เป็นครั้งแรกที่ได้กินอาหารพื้นบ้าน ลำแต๊ๆเลยจ้าว โดยเฉพาะน้ำพริกน้ำปู๋

ทางที่พักอยากให้ผู้เข้าพักได้มาช่วยกันทำอาหาร คนนึงหาปลา คนนึงเก็บผัก อีกคนปรุงอาหาร

เราได้แต่ช่วยล้างจานมื้อนี้ ไว้ครั้งหน้าได้ไปอีก จะขอไปทดลองเกี่ยวข้าวหอมนิล

หลังจากกินอาหารมื้อค่ำแล้ว พี่พรเจ้าของที่พักก็ชวนขึ้นมาชมดาว และเดือน บนบ้านพักของพี่พร

ได้มองเห็นวิว 360 องศาเลยทีเดียว

คืนนี้มองเห็นดาวเต็มฟ้า แต่ว่ามองไม่เห็นทางช้างเผือก เพราะไม่ใช่คืนเดือนมืด แอบเสียดายจัง

ตั้งใจว่าจะตื่นมาดูแสงแรก แต่วันนี้ฟ้าปิด เลยได้เห็นแต่สายหมอกแทน

ที่พักที่นี่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา อากาศเย็นสบายมาก

เจ้าเหมียวตัวนี้ชื่อว่า "เป้ย" ออกมาต้อนรับเราแต่เช้าเลย

เช้าวันนี้อากาศดีมาก

วิวจากด้านหน้าที่พักคือดอยหลวงเชียงดาว

ประทับใจสุดๆที่ทางที่พักบอกว่าปลูกข้าว และถั่วฝักยาวไว้กินเอง

และได้ทำอาหารที่เก็บสดๆให้ลูกค้าได้รับประทาน

มื้อเช้าวันนี้ทางที่พักเตรียมข้าวกั๊นจิ๊น หรือข้าวเงี้ยว ไว้ให้เรากิน เป็นอาหารพื้นบ้านรสชาติดีเลยทีเดียว

เราได้รู้จักเพื่อนใหม่ ชื่อน้องแป้ง เธอเดินทางมาเที่ยวคนเดียวเช่นกัน

เธอได้มอบภาพวาดให้เราเป็นที่ระลึกด้วย มิตรภาพระหว่างทางนั้นก็งดงาม

มื้อเที่ยงวันนี้เรากิน เข้าหนมเส้น หรือขนมจีนน้ำเงี้ยว จานนี้ราคา 20 บาท

กินข้าวอิ่มแล้วเราก็มาเดินชมวิวรอบๆที่พัก

บรรยากาศดี๊-ดี

หลังจากที่ฝนตกจนหยุดแล้ว เราก็ยืมจักรยานของที่พักมาปั่นเล่นรอบๆ

ปั่นข้ามแม่น้ำปิง

ปั่นมาวัดที่อยู่ไม่ไกลจากที่พัก

แวะมากินข้าวขาหมูเชียงดาว

น้ำผึ้งมะนาวหอมหวานชื่นใจ เป็นเมนูที่ทางร้านไม่ได้ทำขาย แต่เจ้าของร้านเอาไว้ทำกินเอง

เราบอกว่าอยากกิน เจ้าของร้านเลยทำให้ เป็นอีกเรื่องที่น่าประทับใจอีกแล้ว

ที่ระลึกจากเชียงดาว คือการเล่าเรื่องราวผ่านโปสการ์ด

ส่งโปสการ์ดเสร็จแล้ว ก็ปั่นจักรยานกลับที่พัก

ชมผีเสื้อกับดอกไม้ด้านหน้าที่พัก ธรรมชาติงดงามเสมอ

คุณเคนจิเจ้าของที่พัก เล่นดนตรีพื้นบ้านให้เราได้ฟังด้วย

ได้บันทึกเสียงพิณเปี๊ยะมาให้ฟังกันค่ะ เครื่องดนตรีอันนี้คุณเคนจิบอกว่าทำขึ้นมาเองด้วย

ด้านท้ายเครื่องดนตรีจะเป็นรูปช้าง เราก็นั่งมองอยู่นานเลย

น้องๆที่พักให้บริการเป็นกันเองมาก ได้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนกับอยู่บ้านตัวเองเลย

เรานั่งคุยกันจนเจ้าเป้ยหลับ มันเป็นแมวที่นอนได้ทั้งวันเลยฮะ

และเราก็ปลุกเจ้าเป้ยตื่นก่อนที่เราจะเดินทางกลับ เจ้าเป้ยตื่นมายิ้มให้และนอนต่อ

ชมวิวตรงหน้าแล้วยังไม่อยากกลับเลย

พี่เคนจิบอกว่าขอหิ้วขยะไปทิ้งก่อน แล้วจะมารับไปส่งที่ท่ารถเพื่อกลับไปยังตัวเมืองเชียงใหม่

ทุกๆคนในที่พักส่งยิ้มให้ และบอกลาก่อนกลับ

แล้วเราจะกลับมาที่นี่อีกนะคะ ประทับใจในมิตรไมตรีของทุกๆคนที่นี่มากค่ะ

พี่เคนจิถ่ายภาพให้เป็นที่ระลึกก่อนเดินทางกลับ

บรรยากาศก่อนกลับ อากาศดี๊ดี

อยากอยู่ต่ออีกคืนจังเลย

พี่เคนจิมาส่งถึงท่ารถเชียงดาว รอรถล่องเชียงใหม่

ได้ขึ้นรถเวลาประมาณ 17.30 น.

ค่ารถขากลับ 40 บาท เหมือนเดิม

ชมวิวระหว่างทางกลับ

เดินทางถึงขนส่งช้างเผือกประมาณทุ่มนึง

คืนนี้เราพักที่ X2 Vibe Decem อยู่ไม่ไกลจากห้างเมญ่า และถนนนิมมานเหมินทร์

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://x2vibe.com/hotel/chiangmai-decem

บริเวณ Lobby จะมีพนักงานคอยต้อนรับ

บรรยากาศภายในห้องพัก

ตื่นเช้ามาดื่มกาแฟ และเขียนโปสการ์ด

บรรยากาศห้องอาหารภายในโรงแรม

แช่น้ำคลายร้อน ก่อน Check out

ถึงแม้ว่าจะ Check out แล้วทางที่พักมีบริการรับฝากกระเป๋าให้ด้วย

มื้อกลางวันนี้เราเดินมากินอาหารที่อยู่ข้างๆที่พัก เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวและส้มตำ

แล้วก็เดินจากที่พักมาเช่ารถที่ร้าน Bikky สาขาห้วยแก้ว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก

ทาง ฺBikky มีหลายสาขา สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bikkychiangmai.com

ค่าเช่ารถราคา 300 บาท หากต้องการคืนรถที่สนามบิน จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก 50 บาท

คืนสุดท้ายเราพักที่ The Small Hotel ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตลาดวโรรส

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thesmallhotelgroup.com

มาถึงมีเสริฟ Welcome Drink ด้วย ชื่นใจจัง

ภายในห้องพัก เตียงใหญ่และนุ่ม นอนสบายมาก

ห้องน้ำจะแยกจากห้องอาบน้ำเป็นสัดส่วน

ห้องอาบน้ำจะเป็นฝักบัว

เก็บของเข้าที่พักแล้ว เราก็ขับรถมาไหว้พระธาตุดอยคำ

ไหว้พระธาตุดอยคำเสร็จแล้ว เราก็ออกเดินทางมาที่วัดผาลาดต่อ

วัดที่นี่เงียบสงบมาก

มีน้ำตกเล็กๆภายในวัดด้วย

มีร้านขายเครื่องดื่มภายในวัด เครื่องดื่มรสชาติดีเข้ากับบรรยากาศดีๆเลย

มื้อค่ำวันนี้ เราขับรถไปกินข้าวเย็นที่ร้านอิมเมจิ้นเฮ้าส์

ตั้งใจมาฟังพี่บอย อิมเมจิ้นร้องเพลง

อาหารและเครื่องดื่มที่นี่ราคาไม่แพงเลย จานนี้คือสเต็กลาว

จานนี้ คือ ยำอิมเมจิ้นรสชาติแซ่บเว่อร์

และแล้วก็ได้ยินเสียงพี่บอยร้องเพลง

บันทึกเสียงของพี่บอยมาให้ฟังด้วยนะคะ

ที่ระลึกจากพี่บอย เก็บลายเซ็นลงบนเสื้อไว้เป็นความทรงจำ

ชื่นใจสุดๆกับการนั่งฟังเพลงเสียงร้องสดๆของพี่บอย คืนนี้คงหลับฝันดี

กลับถึงที่พักตอนเที่ยงคืน เราพักอยู่ที่ชั้นลอย หน้าห้องพักมีมุมนั่งอ่านหนังสือด้วย

ห้องอาหารเช้าจะอยู่ชั้นบนสุดของโรงแรม

จากที่พักสามารถเดินไปตลาดวโรรสได้ อยู่ไม่ไกลเลย

ระหว่างทางมีขายของพื้นบ้านมากมาย

เราซื้อของฝากที่ร้านหล้า ซื้อเพราะคนขายเลย หยิบของให้ชิมแทบทุกรายการ ทั้งลดและแถม ใจดีสุดๆ

ซื้อของฝากเสร็จแล้ว เราก็เดินทางไปสนามบิน โดยคืนรถเช่าได้ที่สนามบินจะเห็นซุ้มของรถ Bikky

สี่วันสามคืน ผ่านไปอย่างรวดเร็ว - - ยิ น ดี ที่ ได้ พ บ เ ธ อ " เ ชี ย ง ใ ห ม่ " - - -