อากาศเย็นๆ ฝนพรำๆ หลายคนอาจจะอยากนอนสูดอากาศอยู่บนเตียง แต่เราพาเห็นฝนก็เหมือนตอนเด็กๆ ที่ต้องรีบออกไปเล่นน้ำฝน แล้วโดนแม่ตะโกนบ่น แต่พอโตแล้ว พอเริ่มจะมีฝน หรือ จะหมดฝน ร่างกายกลับโหยหา ภูเขา ต้นไม้ เมฆ หมอก ให้เข้าไปวิ่งเล่น....

เขา(ค้อ) คนนี้ ไม่สิ่ ต้องเขา แห่งนี้ เรายังไม่เคยเจอะเจอกันเลย เห็นรีวิวสวยๆ มาก็เยอะ แต่ยังไม่เคยได้มีโอกาสนัดเขา(ค้อ) มาเจอเลย ครั้งนี้ได้โอกาส เราเลยว่าจะขึ้นมาหา เขา(ค้อ) ซะหน่อย

ช่วงเวาก่อนวันเดินทาง สมาชิกร่วมทริปอยากจะชวนเราไป อุทัยฯ ก่อนจะไปหาเขา จัดไปค่ะ การเดินทางเราเลยเริ่มต้นกันที่ วัดสังกัสรัตนคีรี ,วัดท่าซุง ,หาของคาว ของหวานอร่อย รับทานกัน แล้วค่อยมุ่งหน้าไปหาเขา(ค้อ) กัน แต่ช่วงเวลาเรามันช่างสั้นเหลือเกิน เรามีเวลาอยู่กับ เขา(ค้อ) แค่ 2วัน 1คืน สั้นๆเท่านั้น สงสัยจะเป็นแผนของเขา(ค้อ) ที่อยากให้เรามาหาอีกเป็นแน่


เริ่มออกเดินทางแต่เช้าตรู่ ขนาดหมีที่มาด้วยยังไม่ยอมตื่นเลย

เส้นทางเดินทางไปที่วัดสังกัสฯ เราเลือกเส้นทางตาม GPS ที่ต้องใช้บริการ ข้ามแพขนานยนต์ ใช้เวลาไม่นานไม่ถึง 5 นาที ในการข้ม แต่ต้องรอช่วงที่แพมารับ ระหว่างรอ ขอแวะเดินตลาดซื้ออะไรกรุบกรับ แก้หิวก่อนเน๊าะ

ตลาดเช้ายังคนเยอะ ตอนอยู่ตลาดยังไม่ 8 โมง เลยของกินเลยมีให้เลือกเยอะเลย

กาแฟ ซักแก้ว แก้ คาเฟอีน พร่อง

แพขนาน มาแล้ว ข้ามน้ำกัน

ราคา ค่าข้าม 30 บาท

ระหว่างแพ กำลังพาข้ามน้ำ เราก็ลงมาคุยกับคุณลุง แกนี่แหละ เพลินๆ

ส่องกระจกซักหน่อยก่อนขึ้นฝั่ง

ขึ้นฝั่งแล้ว เดินทางต่อที่

"วัดสังกัสรัตนคีรี"

เข้าไหว้พระ ที่วิหารพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์

จุดธูปเทียน ขอพรแล้วปักธูปด้านนอก

หลวงพ่อพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ ภายในวิหาร สวยงามมาก

กราบไหว้ขอพรเสร็จ เราก็หันมาเสี่ยงทายกันตามประสาเรา

ยืนอ่านเสร็จ แล้วเก็บกลับที่เดิมเน๊าะ

ก่อนออกจากวิหาร มองไปตรงหน้ามุมสูงบนเขาโน่นจะเห็นบรรได มีจำนวนทั้งหมด 449 ขั้น (วัดใจแล้วก้าวเท้าขึ้นบนนได หรือจะขับรถวนอีกทางก็ได้) ด้านบนเป็นยอดเขาสะแกกรัง

จากที่รู้คือ ยอดเขานี้ เป็นจุดที่สูงสุดของ จ.อุทัยธานี บริเวณของวัดสังกัสคีรี นี้มีสิ่งที่ควรคู่แก่การกราบไหว้มากมาย มีทั้งระฆังอายุเป็น 100 ปี แล้วจะยังสามารถเห็นวิว ทิวทัศน์ ได้กว้างสุดลูกหู ลูกตาเลย

อย่างเรานะหรอ พาหนะคู่ใจ ทะยานขึ้นไปด้านบนเลย...ถ้าไม่ติดตรงอยากรีบทำเวลาให้ไม่ช้า ก็คงต้องได้เดินขึ้นเป็นแน่

ในส่วนของด้านบนนั้น ด้านหน้าก็จะมีพระเครื่อง มากมาย ให้เช่า มีเครื่องประดับอารมณ์ จีนๆ ขายอยู่ด้วย (เนื่องจากว่า ด้านบนมี วิหารพระโพธิสัตว์กวนอิม)

เห็นแบบนี้ มันก็จะ คลาสิค หน่อยๆ

ส่วนนี้เป็นที่ปัก ธูป ที่กราบไหว้ของ พระโพธิสัตว์กวนอิม

ชอบวิวเแบบไหนเชิญเลือกหามุมได้ตามสบาย


>>> สถานีต่อไป <<<

" วัดท่าซุง "

ความสวยงามของอุโบสถ

ปราสาททองคำ

หลังจากทำบุญกันแล้ว จนอิ่มบุญแล้ว

ได้เวลา จะต้องอิ่มท้องกันแล้วล่ะ

ขอจัดเป็นของเย็นก่อนเน๊าะ

"ร้านกาแฟ บ้านอาม่า"

สำหรับเรา Recommend ที่นี่นะ

เครื่องดื่ม การตกแต่งร้าน แล้วที่สำคัญคือ ความเป็นมิตรของเจ้าของร้าน

เจ้าของร้านแนะนำร้านดีมาก

มาดูกันว่า ของที่ใช้ตกแต่งเป็นแบบไหน

ของเย็นๆ แล้วต่อมาก็ตามด้วยของคาวกันเลย

เจอกันได้ที่ร้าน ก๋วยเตี๋ยวชื่อดังย่าน ตอกโรงยา

"เจ๊โหนก ก๋วยเตี๋ยวไก่"

อยากได้เส้นอะไร สั่งเลย

สิ่งหนึ่งที่เราช๊อบ ชอบของร้านเจ๊โหนก คือ ตะเกียบ ใหม่ สะอาด แล้วร้านแกก็สะอาดมาด้วย

รับทาน ก๋วยเตี๋ยวเสร็จแล้ว ร้านตรงข้ามอาม่าขาย ขนมจุ๋ยก้วย

มันก็เป็นแป้ง ก้อนๆ มีเครื่องเป็นหน่อไม้แล้วราดน้ำซอส ก็แปลกๆดีไม่เคยรับทาน


ออกจากตรอกโรงยา แวะซื้อของฝากเป็นของแปรรูปจำพวกหมูกันที่ร้าน "ไพศาล"

เส้นทางเราก็คลำๆ มา ถามทางเอา หาไม่อยากนะ จากตรอกโรงยา

ปิดท้ายของรัปทานกันด้วย "ร้านกล้วยทับ" ร้านนี้ถูกใจมาก

กล้วยป้าแกดีจิง มันก็อร่อย กล้วยทับกินจนหมด ไม่มีฝาดซักชิ้น

แถมป้าแกเป็นคนตลก ร้านอยู่ในซอย ศรีอุทัย แถวๆร้านกาแฟอาม่า

หมดไปครึ่งวันกว่า กันที่ อุทัยฯ จากนี้เราจะมุ่งหน้าไปหาเขากันจริงๆ แล้วนะ

:

:











ความคิดเห็น