..หน้าฝนเป็นอะไรที่สำหรับบางคนแล้วอาจจะรู้สึกว่ามันเฉอะแฉะ ไม่อยากออกไปเที่ยวไหน นอนเล่นอ่านหนังสืออยู่กับบ้านจะดีกว่า แต่ถ้าเปลี่ยนสถานที่พักผ่อนนอนอ่านหนังสือบนบ้านที่มีวิวท้องนาเขียวๆ นอนฟังเสียงฝน เสียงธรรมชาติรอบๆตัว มีสายหมอกลอยผ่านไปมาเกือบทั้งวัน มันคงจะฟินไม่น้อยใช่ไหมล่ะ ทริปนี้ผมตั้งใจมาหาสถานที่อย่างว่านั้นเลยทีเดียว ตามผมมาเลยครับ


โกวิทกระท่อมปลายนา

โกวิทกระท่อมปลายนาตั้งอยู่ อ.แม่แจ่ม ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 120 กิโล

  • สถานที่ตั้ง : 98 ม.1 ตำบล ท่าผา อำเภอ แม่แจ่ม เชียงใหม่ 50270
  • เบอร์โทรศัพท์ : 091 858 4546
  • เว็บไซด์ :http://maechaem-farmhouse.blogspot.com/
  • เฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/maechaem.farmhouse/
  • Line id : wit8548
  • พิกัด : 18.501348, 98.455266
  • ราคา : 900 / คน (รวมอาหารเช้า+เย็น)

การเดินทาง

  • รถส่วนตัว ออกจากตัวเมืองวิ่งมายังอ.หางดง > สันป่าตอง > จอมทอง ก่อนเข้าอ.จอมทองเห็นป้ายไปดอยอินทนนท์เมื่อไหร่ก็เตรียมตัวเลี้ยวขวาขึ้นดอยอินทนนท์ ขับขึ้นดอยไปเรื่อยๆ เส้นนี้จะมีที่เที่ยวทั้งน้ำตก นาขั้นบันได โครงการหลวง แวะชมได้พอถึงด่านตรวจที่ 1 และที่ 2 บอกไปแม่แจ่มจะไม่เสียค่าผ่านทาง เลยด่านตรวจที่ 2 มา ไม่กี่เมตร เลี้ยวซ้ายไปแม่แจ่ม เส้นทางช่วงนี้จะเป็นทางขึ้นเขาลงเขาแคบๆมีโค้งหักศอกหลายโค้ง ระยะทางประมาณเกือบ 20 กิโล โปรดขับขี่ด้วยความระมัดระวัง พอผ่านจุดชมวิวแม่แจ่มมาเตรียมมองป้ายทางเข้าหมู่บ้านผานัง เลี้ยวซ้ายเข้าไปตาม GPS (ทางน้องโกวิทจะส่งแผนที่มาให้ทางไลน์ว่าจะมารับเราตรงจุดไหนอาจจะเป็นวัดแม่แรกหรือบ้านผานัง ขึ้นอยู่กับสภาพเส้นทางณ.ขณะนั้นว่าถนนเละหรือไม่เพราะต้องใช้รถ 4 wd มารับไปอีกช่วงนึง
  • รถสาธารณะ จากสถานีขนส่งหรือสนามบินโบกรถแดงไปลงที่ท่ารถจอมทองตรงประตูเชียงใหม่ 20 บาทจากนั้นขึ้นรถเมล์ฟ้าไปลงตรงท่ารถจอมทอง-แม่แจ่ม ตรงวัดพระธาตุศรีจอมทอง แล้วนั่งรถสองแถวเหลืองไปแม่แจ่มไปลงปากทางเข้าบ้านผานัง หรือวัดแม่แรก ราคา 80 บาท

การเดินทางของผมเลือกใช้บริการรถเช่าของ AVIS เพราะว่าสะดวกในการทำเวลา และนึกอยากจะแวะตรงไหนก็แวะ เมื่อเจอสถานที่ที่น่าสนใจ แต่ไอ้เพราะแวะจอดอยู่เรื่อยทำให้กว่าจะถึงที่หมายก็เย็นย่ำ แถมยังหลงเลยป้ายบอกทางเข้าบ้านผานังไปประมาณ 2 กิโล และgps มันก็ฉลาดคำนวณเส้นทางใหม่ให้เสร็จสรรพตัดทางไปทางใหม่เข้าทางวัดบ้านเหล่าโดยไม่รู้ว่ารถจะไปได้ไหม วิ่งไปจนสุดทางคอนกรีตเจอถนนลูกรังจึงเอะใจถามทางคุณโกวิทจึงรู้ว่ามาผิดเส้นทางจึงกลับรถออกมาทางเดิม แล้วขับย้อนขึ้นไปใหม่ แต่การหลงทางมันก็ดีอย่างคือผมได้พบนาข้าวขั้นบันไดสวยๆอีกแห่งหนึ่งในหมู่บ้านนั้นนั้นเอง

หลังจากกลับรถแล้วนำรถมาจอดที่บ้านญาติของคุณโกวิทในหมู่บ้านผานัง พบหน้าคุณโกวิทเจ้าของฟาร์มสเตย์แล้วถึงกับทึ่ง เป็นเด็กหนุ่มไฟแรงอายุอานามไม่น่าจะถึง 30 ปี แต่เป็นเจ้าของบริหารจัดการธุรกิจที่พักด้วยตัวเองทั้งหมด จากนั้นน้องเขาก็ขับรถบุกตะลุยบนเส้นทางวิบากออกจากหมู่บ้านไต่สันดอยพาผมไปยังที่พักกระท่อมปลายนาระยะทางประมาณ 7-8 กิโล พร้อมกับเล่าเรื่องต่างๆในพื้นที่ให้ฟังไปตลอดทาง ตามรายทางจะมองเห็นการปลูกข้าวไร่ ข้าวโพด หรือพืชผักตามฤดูกาลตามที่ราบเชิงเขา ชาวบ้านที่อาศัยทำมาหากินบริเวณนี้จะเป็นชนเผ่ากะเหรี่ยง บนเขาจะมองเห็นการบุกรุกแผ้วถางผืนป่าเพื่อเข้าไปจับจองพื้นที่ทำกิน ซึ่งทางน้องโกวิทบอกว่าชาวบ้านเขาบุกรุกเข้าไปทำไร่ทำนามาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า-ตายายแล้ว แต่ตอนนี้ด้วยข้อกฎหมายและชาวบ้านเริ่มเห็นความสำคัญของผืนป่าจึงทำข้อตกลงกันว่าจะไม่มีการบุกรุกเพิ่มจะทำกินเฉพาะที่ที่มีอยู่เท่านั้น..

โกวิทกระท่อมปลายนา เป็นที่พักที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา ตัวที่พักทำเป็นเหมือนกระท่อมหรือเถียงนาเล็กๆ มีด้วยกันอยู่ 7 หลังด้านบน 4 หลัง และด้านล่างอีก 3 หลัง วิวด้านบนเมื่อมองลงไปจะเห็นกระท่อมที่ปลูกอยู่บนแปลงนาด้านล่าง และมีการปลูกดอกไม้แซมอยู่เต็มไปหมด วิวที่ตั้งของโกวิทกระท่อมปลายนาจะหันหน้าไปทางทิศตะวันตก เหมาะกับการเก็บภาพช่วงพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขา

กระท่อมที่พักทุกหลังจะมีห้องนอน ห้องน้ำ และนอกชานสำหรับทำกิจกรรม นั่งเล่น นอนเล่น ชมวิวทิวทัศน์ของหน้าบ้าน อุปกรณ์อำนวยความสะดวกมีแต่ปลั๊กไฟ กับ พัดลมตัวเดียว ซึ่งจริงๆแล้วอากาศบนนั้นค่อนข้างเย็นสบายทีเดียว กลางคืนนี่มีหนาวด้วยซ้ำ ไม่ต้องเปิดพัดลมเลย ส่วนสัญญาณ internet ที่ทุกวันนี้แทบจะขาดกันไม่ได้ รับรองว่าสัญญาณมีเต็ม เพราะอยู่ใกล้เสาส่งสัญญาณ การท่องเที่ยวรูปแบบโฮมสเตย์ไม่ต้องการอะไรมากแค่มาพักผ่อนเข้าถึงธรรมชาติ สัมผัสวิถีชิวิตผู้คนท้องถิ่นมันก็เป็นอะไรที่มีความสุขสำหรับผมแล้ว

อาหารเช้า + อาหารเย็น กับวิวสวยๆหน้าที่พัก บอกตามตรงว่าโคตรฟินเลย แถมรสชาติอาหาร รสชาติดีทีเดียว วัตถุดิบก็มาจากในฟาร์มทั้งนั้น แม้แต่เนื้อสัตว์

เดินสำรวจรอบๆที่พักกันหน่อย รอบๆพื้นที่จะเต็มไปด้วยนาข้าว มีจุดให้ถ่ายภาพคู่กับป้ายอยู่ด้านหน้าและด้านหลังกระท่อม สามารถเดินเที่ยวชมบรรยากาศไปได้โดยเดินไปตามคันนาวนไปเรื่อยๆ แต่ต้องระวังหน่อยน่ะครับเพราะดินมันค่อนข้างลื่นบางช่วง

สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้ของที่พักแห่งนี้คือความชุ่มชื้น มีลำธารเล็กๆหลายสายไหลลงมาจากเทือกเขากะเหรี่ยงที่อยู่เบื้องหน้า กลิ่นไอและสรรพสำเนียงของธรรมชาติคละคลุ้งอยู่รอบตัวจนแทบจะรู้สึกว่าการมาพักแค่คืนเดียวมันไม่พอ

ขากลับผมแวะซึมซับบรรยากาศเบื้องหน้า และเก็บภาพตรงปากทางเข้าฟาร์มสเตย์อีกครั้งเป็นการส่งท้ายก่อนจากลาดินแดนแห่งความสดชื่นกลางหุบเขาในอ.แม่แจ่มแห่งนี้ และนี่คือการเดินทางค้นหาทีพักบรรยากาศดีดีแบบนี้อีกครั้งของผม สวัสดี..



-ขอขอบคุณเพื่อนๆที่ได้เข้ามาชม และ กด like กด share เป็นกำลังใจน่ะครับ

-แลกเปลี่ยนข้อมูล หรือพูดคุย สอบถามข้อมูลการเดินทาง Fanpage : สตั๊ดดอยร้อยเรื่องราว

-ติดตามบทความเก่าๆ ได้ที่นี่ครับ ทริปเดินทางทั้งหมด



สตั๊ดดอย ร้อยเรื่องราว

 วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 16.24 น.

ความคิดเห็น