"ป่าปงเปียง" ดินแดนสายเขียว

"ป่งปงเปียง" ที่ที่จะทำให้คุณลืมเมืองอันแสนวุ่นวาย คุณจะได้ขลุกตัวอยู่กับธรรมชาติแบบใกล้ชิด ทุ่งนาเขียว ๆ ทิวเขาซับซ้อน กลิ่นดิน และกลิ่นน้ำ พร้อมทัศนียภาพสุดตระการตา จึงถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์แห่งฤดูฝนของเมืองไทย

บ้านป่าบงเปียง เป็นหมู่บ้านของชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญอ อยู่เกือบจะปลายสุดของ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เยื้องออกมาทางด้านหลังของดอยอินทนนท์ การเดินทางมาที่นี่ค่อนข้างจะลำบากซักหน่อย เนื่องจากยังเป็นเพียงทางลูกรัง เมื่อฤดูฝนทางจะแฉะๆ หน่อยๆ ทางก็จะเป็นหลุมเป็นบ่อและมีน้ำขัง ควรใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือ โฟร์วีล เท่านั้น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาเที่ยวกันช่วงในหน้าฝนเพราะเป็นฤดูทำนา ต้นข้าวกำลังเจริญงอกงาม เขียวขจีไปทั่วท้องทุ่ง

เราออกเดินทางในเช้าวันเสาร์ ที่23 ก.ย 2560 ใช้เส้นทาง ถนนเลี่ยงเมืองสันป่าตองหางดง, ถนนถนนหมายเลข 1009 ไป ตำบล ท่าผา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ใช้เวลาประมาน 2.30 ชม. (122 กม.) เพื่อเข้าเช็คอิน ที่พัก เราพัก มนต์เมืองแจ่มรีสอร์ท และเป็นจุดนัดพบกับไกด์นำเที่ยว อย่างที่บอกแหละ ทางมันค่อยข้างลำบาก ต้องใช้คนชำนาญเส้นทางและรถที่พร้อม

พี่ไกด์ขับรถโฟร์วีลพาเราฝ่าถนนโคลน อันที่จริงบางจุดไม่เหลือสภาพของถนนแล้วด้วยซ้ำ ระยะทางแค่ 19 กิโลเมตร แต่ต้องใช้เวลาเกือบชั่วโมงครึ่ง

แล้วสิ่งที่เราได้สัมผัสกับตัวเอง หลังพ้นแนวป่ามาได้ คือ นาข้าวกลางฤดูฝน ที่กำลังเขียวชะอุ่ม ไกลออกไปเป็นทิวเขาสลับซับซ้อน เบื้องบนแม้เป็นเมฆฝนที่เพิ่งหยุดไปแต่ก็พอจะมีแสงสวยๆลอดผ่านมา

เห็นแวบแรกก็รู้สึกได้ ว่าคิดไม่ผิดที่ตัดสินใจมาที่นี่

เมื่อเดินลัดเลาะลงเขามาตามคันนา เราก็จะได้เห็นอีกมุมมองหนึ่ง มุมซึ่งผืนนาโอบล้อมตัวเรา พร้อมฉากหลังเป็นทิวเขาซ้อนกันเป็นชั้นๆ มีริ้วของแสงอาทิตย์สาดส่องลงมาพอดี ดุจภาพวาด นี่แหละคือสิ่งที่ธรรมชาติสร้าง

ชมวิวกันจนหมดแสงแล้ว เดินทางกลับที่พักกัน ที่พักของเราคืนนี้ ที่มนต์เมืองแจ่ม

ที่นี่ไม่มีอาหารมื้อเย็นให้นะต้องกินมาจากข้างนอกหรือซื้อมาทำเอง เราเลือกที่จะแวะตลาดซื้อผัก ไก่ นู้นนี้นั้นมาทำจิ้มจุ่มกัน อุปกรณ์ทำครัวหน๊ะหรอ ยืมป้าเจ้าของที่พักเอาจร้า