ใกล้เทศกาลกินเจเข้ามาทุกทีแล้วนะคะ ร้านอาหารหลาย ๆ ที่เปิดตัวรายการอาหารเจที่จะขายกันในช่วงเทศกาลปีนี้ ห้องร้านอาหารฮ่องกง ฟิชเชอร์แมน อิมแพค เมืองทองธานี :: Hong Kong Fisherman IMPACT Muang Thong Thani ก็เช่นกันค่ะ วันนี้จะเป็นวันเปิดตัวอาหารเจ สไตล์ฮ่องกง ให้ได้ชิมกัน
ภายในร้าน โต๊ะถูกออกแบบเป็นรูปเรือ เก๋ไก๋ เข้ากับธีมของร้านจากฮ่องกง
โต๊ะสวย ๆ แบบเรียบง่ายก็มีนะคะ
ร้านอาหารฮ่องกง ต้องคู่กับเป็ดย่าง และหมูแดง
เชฟกำลังเตรียมติมซำ สำหรับเสิร์ฟ
แอบชะโงกดูในครัวที่ถูกจัดไว้อย่างดี สะอาดสะอ้าน
ติมซำน่ากินมากมายหลายกองทัพ
ตู้ขายเบเกอร์รี่สไตล์ฮ่องกง น่ากินมาก
เรามาถึงร้านอาหารฮ่องกง ฟิชเซอร์แมน อิมแพค เมืองทองธานี ราว ๆ เที่ยงตรง ก็เข้านั่งประจำโต๊ะกันเลยค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เชฟ Chan Yiu Lam ซึ่งเป็น Executive Chinese Chef ของร้านอาหารฮ่องกง ฟิชเชอร์แมน ได้ออกมาต้อนรับ และอธิบายว่าวันนี้เราจะได้กินอะไรกัน แน่นอนค่ะ "อาหารเจ" อย่างที่ได้บอกไปแล้วข้างต้น
หลังจากกล่าวคำทักทายกันแล้ว เชฟก็ขอตัวไปทำอาหารเพื่อจะนำมาเสิร์ฟให้กับพวกเรา เริ่มจากติมซำแบบของทอดเป็นออเดิร์ฟอาหารเจกันก่อนเลย
เริ่มจาก ปอเปี้ยะทอดเจ
เมนูนี้ดูเหมือนจะธรรมดานะคะ แต่ถ้าสังเกตดูให้ดีจะเห็นว่าแป้งปอเปี้ยะที่ห่อมาบางมาก ทำให้เอามาทอดจึงกรอบมาก ๆ ด้วย แถมไม่อมน้ำมันอีกต่างหาก ทั้ง ๆ ที่กินตอนร้อน ๆ และเย็นตัวแล้ว ส่วนไส้ผักที่นำมาทำปอเปี้ยะก็อร่อยมาก มีทั้งกระหล้ำปลี เห็ดหอม เผือก แครอท ผัดปรุงรสออกรสเค็มหน่อย ๆ เมื่อกินกับแป้งปอเปี้ยะบางกรอบแล้วอร่อยมาก ๆ โดยเฉพาะถ้าตัดรสด้วยน้ำจิ้มเกี้ยมบ๋วยที่ให้รสเปรี้ยวอมหวานแล้วด้วยหละก็เคี้ยวเพลินเลยหละค่ะ
เมนูถัดมาเป็น "เผือกทอดเจ"
ปกติเผือกทอดเจที่เรากิน ๆ กันที่ขายตามร้านทั่ว ๆ ไป จะเอาแป้งมาตีเพื่อให้เป็นฝอยเส้น ๆ อย่างที่เราเห็น แต่ที่ฟิชเชอร์แมนนี่ใช้เผือกค่ะ เผือกเอามายีแล้วไปทอดให้เป็นฝอย ด้านในเป็นเนื้อของเผือกกวนทีี่ผสมกับถั่วฝักยาวหั่นเล็ก ๆ แครอทและเห็ดหอม จานนี้ให้รสชาติของเผือกแบบเต็ม ๆ ถูกใจคนรักเผือกกันเลยทีเดียว ทุกคำที่กัดนี่ เผือกล้วน ๆ ได้ผักต่าง ๆ ที่ผสมมาสร้างรสสัมผัสให้กับเผือกทอดเจจานนี้เป็นอย่างดี แน่นอนค่ะ เสิร์ฟมากับน้ำจิ้มเกี้ยมบ๋วย ลดความเลี่ยนของอาหารประเภททอดได้เป็นอย่างดี จานนี้เรียกได้ว่าแย่งกันกินเลยค่ะ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่ามากับคนที่ชอบกินเผือกเหมือน ๆ กัน
ซุปข้าวโพดเห็ดหอม และเห็ดเข็มทอง
ในบรรดาอาหารที่เสิร์ฟทั้งหมดในวันนี้ จานนี้คงจะชอบน้อยที่สุด มันคือ ซุปข้าวโพดเห็ดหอม และเห็ดเข็มทอง เนื่องจากซุปตัวนี้ใส่ข้าวโพดหวาน และไม่ได้ปรุงรสใด ๆ เพราะเชฟต้องการให้รสชาติเป็นไปตามรสเด่นของวัตถุดิบ ซึ่งข้าวโพดหวานที่นำมาใส่ในซุปนั้นหวานมาก ทำให้กลบรสของวัตถุดิบอื่นหมด จนแทบจะกินเป็นของหวานได้เลยค่ะ
ซึ่งเชฟอธิบายว่าต้องการคงรสชาติของวัตถุดิบเอาไว้ และซุปตัวนี้ใช้เป็นการ "ปลุกกระเพาะ" เพื่อให้ตื่นตัวเตรียมพร้อมที่จะรับอาหารหลักที่กำลังจะตามมา อีกทั้ง น้ำผักที่นำมาใช้เป็นน้ำสต๊อกยังใช้เป็นการล้างคอ ล้างรสชาติของของทอดที่ทานกันไปก่อนหน้านั้นอีกต่างหาก
เยื่อไผ่และคะน้าฮ่องกงซอสเจ
เป็นการนำวัตถุดิบที่คัดสรรและส่งตรงจากฮ่องกงอย่างคะน้าฮ่องกง และเยื่อไผ่มาผัดกับซอสเจสูตรของเชฟ ซาน ยิ้ว แลม และใช้เทคนิคในการผัดทำให้คะน้ายังดูสดเขียว และกรอบหวาน ตัดรสกับซอสเจ และความนุ่มลิ้นของเยื่อไผ่แล้ว อร่อยมากค่ะ
เต้าหู้ทอดกรอบซอสสามรส
จานนี้เคี้ยวเพลินลิ้นมากค่ะ เพราะเชฟให้เต้าหู้ญี่ปุ่นเนื้อแน่นมาทอดกรอบ ราดด้วยซอสสามรสที่กลิ่นหอมมาก และสีสวยมาก เพราะนอกจากสีทองของเต้าหู้ทอดแล้ว ยังได้สีต่าง ๆ จาก แครอท ถั่วลันเตา ข้าวโพด และพริกหวานสีสด
เต้าหู้ที่ทอดกรอบมากำลังดี พอกันลงไปก็กรอบนอกนุ่มใน ความหอมหวานของเต้าหู้ทอดตัดรสกันได้ดีกับน้ำซอสที่ออกรสเปรี้ยวนำ หวานตาม และเผ็ดเล็ก ๆ แค่พอซ่าลิ้น ผักต่าง ๆ ที่นำมาผัดในน้ำซอสก็ซับรสชาติของน้ำซอสไว้ได้เป็นอย่างดี อร่อยทั้งกินเล่นและกินจริง
เนื้อเต้าหู้แน่น และเหลืองนวล เรียกว่าสดใหม่ น่ากินเลยค่ะ
สาหร่ายปลาเจทอดเสฉวน
ถ้ามีใครจะบอกซักคนว่าจานนี้ไม่ใช่อาหารเจ เราก็คงจะเชื่อค่ะ เพราะทั้งกลิ่นและรส ไม่บ่งบอกใด ๆ ว่าเป็นอาหารเจ เชฟใช้แป้งสาลีมาปรุงรส ผสมกับสาหร่ายทำให้ได้กลิ่นแบบเดียวกับปลาเค็มวางบนหมี่กรอบและราดด้วยซอสเสฉวนที่ออกเปรี้ยว ๆ เผ็ด ๆ เรียกได้ว่าได้ทั้งอาหารปาก อาหารตา และอาหารจมูกเลยทีเดียว รสสัมผัสของเนื้อแป้งที่นำมาทำอาหารก็ให้ความแน่น และหนึบ กลิ่นกรุ่น ๆ ของปลาเค็ม รสเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ เผ็ดนิด ๆ ของซอสเสฉวน ผักสด ๆ ที่ผัดตกแต่งมาและหมี่กรอบ อร่อยลิ้นเลยหละค่ะ
ผัดโหงวก๋วยไก่เจ ซอสน้ำผึ้ง
เมนูนี้ดูแล้วเหมือนจะหวานใช่มั้ยค่ะ แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้หวานแหลมอย่างที่คิด เพราะความหวานต่าง ๆ นั้นเกิดจากส่วนผสมอย่าง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เห็ตหอม พุทราจีนเชื่อม แปะก๋วย และซอสน้ำผึ้ง ทำให้รสชาติกลมกล่อมหวานมันมาก โดยเฉพาะตัวแป้งที่ทำมาจากถั่วเหลืองอย่างดี ที่ทั้งแน่น และหนึบหนับผัดกับเครื่องปรุงต่าง ๆ แล้วให้รสสัมผัสที่ดีมากทั้งหนึบหนับและนุ่มหวานลิ้น
ทุก ๆ จานที่ถูกนำมาเสิร์ฟ ถูกตกแต่งมาอย่างดี ผักและวัตถุดิบในการปรุงต่าง ๆ ล้วนแต่สดใหม่ เรียกว่ากัดแล้วยังกรุบ ไม่ยุบหยุ่น คงรสชาติของตัววัตถุดิบเอาไว้อย่างชัดเจน แถมยังคงคอนเซปอาหารเจ ที่งดเว้นการใช้เนื้อสัตว์มาปรุงอาหาร แต่วัตถุดิบต่าง ๆ สามารถให้รสชาติแทนที่เนื้อสัตว์ได้เป็นอย่างดี ลองมาดูเมนูต่อไปกันดีกว่าค่ะ
หมิ่นกั้นซอสเจ
จานนี้ต้องบอกว่าเป็นอาหารเจออริจินัล เลยก็ว่าได้ เชฟนำฟองเต้าหู้นุ่ม ๆ มาเจี๋ยน (หั่นบาก) แล้วนำมาผัดกับบล็อกโคลี่และเห็ดหอมด้วยน้ำมันงา จึงได้กลิ่นและรสของน้ำมันงาชัดเจน เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ที่ชื่นชอบความดั้งเดิมของการปรุงอาหารแบบเจ บล็อกโคลี่สด ๆ ที่นำมาผัดแบบกำลังดีทำให้ไม่สลดและเหม็นเขียว เคี้ยวเพลิน ๆ กับเห็ดหอมดอกใหญ่ที่ซับรสชาติของน้ำซอสไว้อย่างชุ่มฉ่ำ ยิ่งฟองเต้าหู้แล้วไม่ต้องพูดถึง ทั้งนุ่มและนัวเลยหละค่ะ แต่สำหรับท่านที่ไม่ชอบกลิ่นของน้ำมันงา จานนี้อาจจะไม่ใช่จานโปรดของท่านนะคะ
เทมปุระผัก
ซอสวาซาบิสูตรพิเศษของเซฟชาน ยิ้ว แลม
ชื่อฟังดูธรรมดานะคะ แต่ถ้าได้กินแล้วไม่ธรรมดาเลยค่ะ เริ่มจากการที่เชฟนำผักสามอย่าง นั่นก็คือ เผือก ฟักทอง และแครอทชุปแป้งปรุงพิเศษที่ถึงแม้นจะตั้งไว้จนเย็นก็ยังกรอบอร่อย มาทอดจนเหลืองกรอบ ด้วยตัวแป้งที่ข้นหนาเลยทำให้เนื้อแป้งไม่แตกเมื่อโดนน้ำมันเหมือนเทมปุระทั่วไป
รสชาติของแป้งออกเค็มปะแล่ม ๆ เมื่อกัดพร้อมกันกับผักสด ๆ ที่มีรสหวานและยิ่งถ้าได้น้ำจิ้มสูตรพิเศษอย่าง ซอสวาซาบิของเชพด้วยแล้ว กินกันลืมอ้วนไปเลยค่ะ เพราะมันทั้งกรอบ เค็ม หวานมัน ครบรสสุดยอดของอาหารทอดกรอบเลยค่ะ
ข้าวผัดไก่เจ
จานนี้ถ้าเป็นโต๊ะจีนก็ต้องบอกว่า เตรียมเก็บโต๊ะเลยหละค่ะ เพราะถ้าเสิร์ฟข้าวผัดแล้วเดี๋ยวก็ตามด้วยของหวาน แล้วก็กลับบ้านกันเถอะ แต่ไม่ใช่วันนี้ค่ะ ข้าวผัดไก่เจ เป็นเมนูที่ว่านั่น ข้าวเม็ดสวยนำมาคั่วผัดกับผักสามสี และไก่เจที่หั่นเป็นลูกเต๋า คลุกเคล้ากับซอสผัดคั่วมาในกะทะร้อน จนเนื้อข้าวเป็นมันวาวแต่ไม่เลี่ยนน้ำมันเหมือนข้าวผัดทั่ว ๆ ไป ผิวสัมผัสกรุบหนึบเหนี่ยวนิ่ม ออกรสชาติเค็ม ๆ มัน ๆ กินอิ่มได้เลยค่ะ
ผัดหมี่ซั่วหมูแดงเจ
จานนี้ไม่รู้ใครจะว่ายังไง แต่เราให้เต็ม 10 เริ่มตั้งแต่การเลือกหมี่เหลืองเส้นเล็กเรียวมาคั่วผัดกับแครอทและเห็ดหอม ตามด้วยหมูแดงเจ ที่ทั้งหน้าตาและรสชาติแทบไม่แตกต่างกับหมูแดงเลยค่ะ ได้ความเหนี่ยวหนึบหนับของเส้นหมี่เหลืองทอง แถมด้วยกลิ่นคั่วกะทะ ที่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีแล้วด้วยยิ่งถูกใจ รสชาติเค็ม ๆ มัน ๆ ยิ่งตัดรสเปรี้ยวเล็ก ๆ ของซอสจิกโช่วด้วยแล้วยิ่งเน้นรสของเส้นหมี่ให้เด่นขึ้นอีกมากมาย
ซาลาเปาไส้หมูเจอบ
ยังไม่พอค่ะ เชฟขุนเราต่อด้วย ซาลาเปาไส้หมูเจอบ ซาลาเปาลูกกลม ๆ สอดใส้หมูเจแทนที่การนึ่งด้วยการนำไปอบจนเหลืองกรอบตกแต่งด้วยงาขาวจนให้กลิ่นหอมชวนกิน
บิดูทีแรก ไม่น่าจะอร่อย เพราะดูแล้วแป้งหนาเหลือเกิน แต่พอกินแป้งเอ๊ะ หวานนะ ยิ่งเคี้ยวยิ่งหวาน ยิ่งตัดรสกับไส้หมูเจด้วยแล้วเคี้ยวมันขึ้นอีกเยอะเพราะหอมด้วยงาอบที่ตกแต่งมาด้านหน้า เรียกได้ว่า แทบตายค่ะ อิ่ม จนต้องบอกว่าติ่มซำ 9 รายการนี่ ขอแค่ 3 ที่เสิร์ฟมาแล้วนี้ก็พอนะ
ติ่มซำเจที่เหลืออีกสองจานนั่นคือ ฮะเก๋าเจ และก๋วยเตี๋ยวหลอดค่ะ ติมซำนี่เสิร์ฟมาในเข่งร้อนเหมือนร้านทั่ว ๆ ไป แต่แตกต่างกันตรงเนื้อแป้งที่บางใส แต่ยังคงความหนึบเหนียวตามแบบฉบับของฮะเก๋า กินทั้งลูกยิ่งได้รสชาติหอมหวานของผักที่ทำเป็นไส้ด้านใน
ส่วนก๋วยเตี๋ยวหลอดที่ผัดใส้ผักเจห่อมาในแป้งเส้นก๋วยเตี้ยวราดซีอิ้วชุ่ม ๆ ก็นุ่มหวานรสผักและน้ำซอสที่ราดมาโดยรอบ แถมหนึบเหนียวด้วยเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ห่อมา
เชพ ชาน ยิ้ว แลม ออกมาให้ข้อมูลและตอบข้อซักถามเกี่ยวกับอาหารมื้อนี้ด้วยตนเอง
จริงอยู่ค่ะ การรับประทานอาหารเจนั่นมีความมุ่งหวังในการแสวงบุญด้วยการงดเว้นการกินเนื้อสัตว์ ทำให้เกิดจิตเมตตา ความสงบสุข เยือกเย็น ธรรมญาณอันบริสุทธิ์จะปรากฏออกมาซึ่งจะช่วยเกื้อกูลเสริมบารมี ทำให้บรรลุธรรมสูงขึ้นได้ เป็นประโยชน์ต่อชีวิตและการทำงาน
นอกจากนี้ ในทางการแพทย์การกินเจก็ทำให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะอาหารเจส่วนใหญ่ให้พลังเย็น ที่เกิดจากฟรุกโตส ที่มีในผักและผลไม้ ทำให้ร่างกายขับถ่ายของเสียได้โดยง่าย ไม่มีสารพิษตกค้าง เพราะกากใยในพืช ผัก ผลไม้ จะช่วยระบบการย่อยและการขับถ่าย
หากกินเป็นประจำจะช่วยฟอกโลหิต และทำให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายเสื่อมช้าลง ผิวพรรณผ่องใส ร่างกายแข็งแรงมีความด้านทานโรคต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เพราะได้รับอาหารจากธรรมชาติที่มีประโยชน์
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ารสชาติจะไม่สำคัญ นั่นเพราะเรายังไม่ได้บรรลุธรรมขั้นสูงจนขนาดที่จะไม่สนใจรสชาติหรือหน้าตาของอาหารได้ ในเทศกาลกินเจปีนี้ ร้านอาหารฮ่องกง ฟิชเชอร์แมน อิมแพค เมืองทองธานี จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี เพราะนอกจากเมนูอาหารเจที่เพิ่มขึ้นอีก 11 รายการแล้ว ยังมีเมนูติมซำเจอีก 9 เมนูให้เลือกกิน อิ่มบุญ อิ่มใจ อิ่มท้องกันในเทศกาลกินเจปีนี้
ร้านฮ่องกง ฟิชเชอร์แมน อยู่ที่ล๊อบบี้อาคาร 8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0-2833-5434-5
หรือ www.hkfisherman.com และเฟชบุ๊ก Hong Kong Fisherman
ขอบคุณที่รับชมค่ะ
สายลม ที่ผ่านมา
วันพฤหัสที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 23.57 น.