ก่อนไป

ภูเก็ต หนึ่งในทริปที่วางไว้ว่าควรไปโดน เพราะเรานึกถึงเมืองเก่า ติ่มซำร้อนๆยามเช้า
ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ แต่ก็ยังไม่ได้กำหนดจริงจังว่าจะเมื่อไหร่ อย่างไร

เหมือนฟ้าจะเห็นใจ ส่งที่พักฟรีจากการกดlike กดshare มาให้แฟน แฟนร้องเสียงหลงว่าจะไปให้ได้เพราะเป็นที่พักระดับ 5 ดาวของCape Panwa ความวุ่นวายหลายอย่างจึงบังเกิด ลางาน จองตั๋ว
วางทริป

เมื่อจัดการเป็นที่เรียบร้อย . . . 2 อาทิตย์ต่อมาดันได้Packageฟรีเกาะรอกของ Love andamanอีก ทำให้ต้องสลับสับเปลี่ยน วางแผนกันใหม่ กว่าจะสำเร็จทะเลาะกันไปหลายที ตีกันไปหลายรอบ - -'

วันเดินทาง

ณ วันเดินทางเราใช้รถไฟใต้ดิน ต่อแอรพอทลิ้งค์เพื่อออกจากกทม.ไปสุวรรณภูมิ
เมื่อลงเครื่องเราไปรับรถเช่าที่ทำการจองไว้ก่อนแล้ว โชคเข้าข้างอีกครั้ง
เมื่อYarisที่จองลูกค้าเดิมยังไม่ส่งคืน จึงได้Vios มาแทน

ข้อมูลรถเช่าพี่โชค
"เสียงเข้ม พูดห้วน คนใต้สไตล์" (แต่โคตรใจดี) ให้เช่ารถนับแบบ 24 ชม. ราคา Yaris 800 บาท
เราได้ถามว่าส่งรถเกิน 2-3 ชั่วโมงมีคิดเพิ่มอีกชั่วโมงละกี่บาท พี่แกตอบว่า "ไม่เป็นไร ไม่เก็บเพิ่ม" สามารถส่งรถได้ทั้งที่สนามบินและในตัวเมืองภูเก็ตสำหรับคนที่ยังอยู่เที่ยวต่อ
สามารถติดต่อพี่โชคที่เบอร์ 084 060 2446

DAY 1

ตามแผนเราต้องไปดูเครื่องบินลำยักษ์บินผ่านหัวที่หาดไม้ขาว แต่ด้วยการขึ้นลงของเครื่องบินไม่เป็นใจ
ทำให้มีโอกาสแห้วสูง เราเปลี่ยนแผนไปที่อื่นแทน

ด้วยความหิวระดับ 10 ณ เวลาสี่โมงเย็น เราจึงตัดสินใจไปชิมอาหารหลักร้อย บรรยากาศหลักล้าน
ที่ร้านร่มไทรนาคาเล เมื่อไปถึงดูแล้วยังไม่ว้าวเท่าไหร่เพราะพระอาทิตย์ยังจ้าอยู่ แต่หลังจากพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า แสงทองนั้นเป็นอะไรที่น่าโรแมนติกมาก

"ร้านร่มไทรนาคาเล"


ไปตามหาหอยในตำนานที่ "ร้านหอยป้ายแดง" (หอยชักตีน)

หอยชักตีนสามารถหาทานได้จังหวัดทะเลฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน เช่น ภูเก็ต กระบี่ พังงา ตรัง สตูล
ที่เรียกว่า ชักตีน เพราะมีติ่งสีน้ำตาลยิ่งออกมาคล้ายตีน เวลากินก็ดึงส่วนนี้ เพื่อให้ได้ตัวหอยออกมาลิ้มลอง อาการดึงนี้เองถูกเรียกว่า ชักตีน

จากทริปกระบี่ ไปหาหอยชักตีนแต่ร้านแจ้งว่าขายดี "หมด" ทำให้ยังคงค้างคาในความรู้สึก
มาภูเก็ตเที่ยวนี้เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่คิดว่าจะต้องกินให้ได้ และแล้วก็ "สำเร็จ !!"
รสชาติหวานมันคล้ายหอยหวาน แต่เราว่าอันนี้อร่อยกว่า หอมกลิ่นหอมจากการย่างด้วย ฟินมาก

"แกงคั่วหอยแครงใบชะพลู" รสชาติเผ็ดร้อนเข้มข้น ไม่ได้เผ็ดโดดแบบเผ็ดพริก แต่เผ็ดร้อนแบบพริกแกง พริกไทย เหมาะสำหรับกินกับข้าวสวยร้อนๆ


"Rommanee Boutique Guesthouse"


ที่พักในเครือของ Rommanee มีทั้งหมด 2 ที่ คือ Rommanee Boutique Guesthouse
และ Rommanee classic guest house

สวยทั้ง 2 ที่ ต่างสไตล์แต่ยังคงกลิ่นอายของRommanee ประเภทปูนเปลือย กำแพงอิฐ ลายไม้สวยๆ

มาดูในห้องกันบ้าง ประทับใจเช่นกัน อยากทำห้องนอนโทนนี้บ้าง สวยงามครับ

ทาง Guest house มีแผนที่รอบเมืองให้ด้วย ดีจัง

เพิ่งจะ 2 ทุ่ม แล้วมาเที่ยวแบบนี้ให้มานอนอยู่ห้อง คงไม่ใช่เรื่อง
ชวนกันออกมาเดินเล่นย่านเมืองเก่าภูเก็ตหน่อยดีกว่า


"Crepe is Crepe"

เดินไปเดินมาเริ่มอยากของหวาน แวะร้านนี้ดีกว่า ร้านน่ารักอีกแล้ววววว
เดินไปดูเมนูที่หน้าร้าน อื้ม... มีของกินให้เลือกเยอะดีแหะ เข้าไปในร้านกันเลยดีกว่า


การตกแต่งในร้านสวยงามลงตัว ด้วยไอเดีย สิ่งของธรรมดาที่คนมักมองผ่าน ถูกดึงเสน่ห์ในตัวออกมาจัดวางได้อย่างพอดิบพอดี

ขอแสดงความเคารพต่อเจ้าของไอเดีย ทำได้ประทับใจมากครับ

พระเอกของเรามาแล้วว "Cookie & Cream crepe" 🍰

ไม่คิดว่าจะใหญ่อลังการขนาดนี้ แต่ก็ไม่มีผล เพราะเราทานไม่เหลือเลย อิอิ อร่อยดี แป้งกรอบ ช้อกโกแลตหอม วิปรสจืด


DAY 2

"ซุปเปอร์ติ่มซำ"

เราตื่นกันตั้งแต่ 07.00 น. นอนกลิ้งอยู่สองสามตลบ ก่อนที่จะลุกออกจากเตียงได้
เป้าหมายเช้านี้ คือ ติ่มซำ ไปดูความน่ากินของแต่ละเข่งกันดีกว่า

ชาร้อนๆ กับลมหนาว ช่างเข้ากันเสียนี่กระไร ... ทั้งยังช่วยให้การกินติ่มซำคล่องคอมากยิ่งขึ้นด้วย

หมดนี่ ค่าเสียหาย 400 บาท เรียกได้ว่าพุงกางกันเลยทีเดียว


"โกปี๊ เดอ ภูเก็ต"

ไปหาโกปี๊กินแก้ง่วงกันต่อดีกว่า . . .

เป็นที่รู้กันว่าชาใต้นั้นหอมอร่อย
เราเลยไม่พลาดที่จะสั่ง "ชานม" (แก้วซ้าย) ด้วยความที่เป็นGen Y อยากชิมโกปี๊แต่สั่งไม่เป็น
ทางร้านแนะนำให้ลอง "โกปี๊ชาม" มันคืออะไรอ่ะพี่ ?? กาแฟผสมชานั่นเอง
สองแก้วนี้ เราลงมติกันว่า "โกปี๊ชาม" อร่อยกว่าครับ


"โรตีร้านข้าวหมกไก่ ถนนถลาง"

มีชาแล้ว มันยังขาดอีกอย่าง อะไรน๊าาาา..... อ้อ โรตีนั่นเอง !!

เมนูที่สั่งเป็นเมนูหวาน "โรตีนมน้ำตาล" เหมือนจะธรรมดา แต่กรอบอร่อยไม่ธรรมดา ราคา 25 บาทเอง


"วัดพระทอง (พระผุด)"

เริ่มกินต่อไม่ไหว ขับรถย้อนไปไหว้พระที่วัดพระทอง (พระผุด)
ข้างผนังโบสถ์ มีประวัติวัดและองค์หลวงพ่อพระทองน่าสนใจ จึงขออนุญาตคัดลอก เป็นข้อความดังนี้

ประวัติหลวงพ่อพระทอง (พระผุด)

มีคำบอกเล่าจากผู้เฒ่าผู้แก่ที่เป็นคนไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดภูเก็ต เล่าว่า เมื่อสมัยสองพันปีเศษ
ตะกูลเจ้าเมืองจีน (เซี่ยงไฮ้) ได้หล่อองค์พระทำด้วยทองคำขึ้น เดิมมีชื่อว่า "กิมมิ่นจ้อ" ต่อมาเซี่ยงไฮ้ได้พ่ายแพ้สงครามแก่ชนชาติธิเบต ชาวธิเบตจึงนำองค์หลวงพ่อลงเรือมาทางทะเล ผ่านมาทางมหาสมุทรอินเดีย เพื่อนำกลับประเทศธิเบต ระหว่างเดินทางเกิดพายุพัดทำให้เรือล่มบริเวณชายฝั่งจังหวัดพังงา เรือและองค์หลวงพ่อจึงจมลง ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก ทำให้บริเวณที่เรือจมเกิดเป็นแผ่นดินขึ้น คือเกาะภูเก็ตในปัจจุบัน ต่อมาชั้นดินบริเวณองค์หลวงพ่อเกิดทรุดตัวลงเนื่องจากอยู่ใกล้ลำคลอง องค์หลวงพ่อจึงผุดขึ้นมาให้เห็นเพียงพระเกตุมาลา สูงประมาณ 1 ศอก คนจีนเรียกว่า "พู่ฮุก" ส่วนองค์พระนั้นยังคงอยู่ใต้ดินจนถึงปัจจุบัน จึงได้หล่อองค์พระพุทธรูปครึ่งองค์สวมองค์พระทอง (พระผุด) ไว้



"โอ้เอ๋วแปะหลี"

เริ่มหิวกันอีกครั้ง จึงย้อนกลับมาที่แถวตึกชิโนฯ เพื่อหาของอร่อยๆกิน
อะไร คือ โอ้เอ๋วว๊าาา รู้แค่เป็นขนมพื้นถิ่นของภูเก็ต ก่อนถึงร้านจิตนาการไปก็คิดไม่ออก

ไปถึงหน้าร้านเห็นแม่ค้ากำลังปั่นๆน้ำแข็ง ราดน้ำแดง ถึงกับร้อง "อ๋ออออ" น้ำแข็งใสบ้านเรานี่เอง
แต่พิเศษตรงที่มีใส่ถั่วแดงกับวุ้นนุ่มนิ่ม (มาหาข้อมูลภายหลัง มันคือ วุ้นจากเมล็ดโอ้เอ๋ว) ช่วยคลายร้อนได้มากทีเดียว




"ร้านลกเที้ยน"

มาต่อกันที่ผัดหมี่ ถึงจะเจแต่ก็มีความอร่อย หอมซอสที่ผัดมาก "หมี่เหลืองผัดฮกเกี้ยน"

หมี่หุ้นกระดูกหมู (บะกูด)

ฝั่งตรงข้ามมี Street art พระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 9

บ่ายสามกว่าแล้ว รีบขับรถไปเข้าที่พัก พระเอกของทริปนี้กันเถอะ

"CAPE PANWA, Phuket"

มาถึงแล้ว... ยังมิอาจละเลยหน้าที่ของพ่อบ้านใจกล้าได้ !! (ได้แต่บ่นในใจ)
นางถ่ายรูปนี้ลง FB พร้อม caption ว่า "พนักงานที่นี่ดูแลดีมากเลยข่า ทั้งถือกระเป๋า เสิร์ฟ welcome drink ด้วยความนอบน้อม"

ไม่อยากจะสนใจ เชรอะ เก็บภาพบรรยากาศโดยรอบของโรงแรมต่อดีกว่า อิอิ

พักจนหายเหนื่อยแล้ว รีบลงไปเล่นน้ำดีกว่า เดี๋ยวจะมืดซะก่อนที่นี่มี 2 สระ
สระใกล้ๆไม่เล่น คนเยอะ ไปสระหน้าชายหาดแทน ลงไปด้วยรถกระเช้า ดีมาก ไม่ต้องเดิน

ยังจะขึ้นมาซ้ำสระด้านบนอีกรอบ
เย็นวันนั้นเรานอนแช่น้ำที่อ่างจากุดซี่ถึงตอนค่ำ เริ่มหิวแล้ว เข้าเมืองไป "หลาดใหญ่" หาอะไรกินดีกว่า
หลาดใหญ่ให้อารมณ์ Walking street เปิดทุกวันอาทิตย์ อยู่ที่ถนนถลาง

ก่อนนอนไปจิบแอลกอฮอลต่อที่ Otter's Bar แล้วกลับมานอนคุยกันที่ระเบียงห้อง ได้ฟังเพลง "บอก" ของปลานิลเต็มบ้านด้วย : ) ฝันหวานค๊าาบ


DAY 3

เช้าวันนี้ไม่สามารถตื่นเช้าได้เนื่องจากฤทธิ์แอลกอฮอล์และความเหน็ดเหนื่อยสะสมของวันก่อนๆ
หลังกินอาหารเช้าเสร็จ เราลงมาเดินเล่นเก็บบรรยากาศหน้าชายหาดและไปที่สะพานสีขาว
สะพานที่ทอดยาวลงไปในทะเล ใช้เป็นที่เทียบเรือของทางโรงแรม ไปเดินเล่นถ่ายรูปกันดีกว่า

ปูเยอะมาก จนแฟนพูดว่า "นี่มันเกาะของปูนิ" ตัวใหญ่ๆทั้งนั้นเลย : )

เราได้แต่ขำในใจว่าอะไรจะตื่นเต้นขนาดนั้น 5555+

Bamboo bar

ห้องอาหารไทย "บ้านพันวา"

ได้เวลาต้องโยกย้ายอีกครั้งแล้ว . . . บ๊ายบายนะ Cape Panwa

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำภูเก็ต

ขับรถเพียง 3 นาทีจาก Cape Panwa เราก็มาถึงพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำภูเก็ต (จะสื่อว่าใกล้มาก) 555+
ซื้อตั๋วคนละ 50 บาท แล้วไปลุยกันเลย

บ่อด้านหน้าเจอเข้ากับพี่ปลิงตัวเขื่อง แฟนบอกให้ลองจับขึ้นมาดู "ตะบ้าหราาา" เราร้องเสียงหลง

ปลาอะไรตัวใสจัง

พี่ปลาไหลไฟฟ้าตัวใหญ่กว่าที่คิดแห๊ะ เพราะถิ่นกำเหนิดพี่แกอยู่ที่อเมซอน ยาวได้สูงสุดตั้ง 2 เมตรแหนะ


"ร้านหมอมูดง"

ไปหามื้อเที่ยงกินดีกว่า ร้านหมอมูดงร้านอาหารพื้นเมืองตั้งอยู่ริมป่าชายเลน

ที่พื้นเลน มองไปใกล้ๆ น้องปูตัวส้มชูกล้ามสีขาวเต็มไปหมด สำหรับเรามันมหัศจรรย์มาก น่ารักจัง

#แนะนำ อาหารเด็ดฝุดๆ มาภูเก็ตอย่าพลาดร้านนี้ !! เอาไปเลย 10 กะโหลก

น้ำพริกฉิ้งฉ้าง (ปลาตัวเล็กๆกรอบ)
หอยหวานต้มตะไคร้ (หอมใบโหระพา)
กุ้งสดผัดผักกูด


"วัดฉลอง (วัดไชยธรรมธาราม)"

"ไปไหว้พระกันเถอะ"
กราบสักการะหลวงพ่อแช่ม
พ.ศ. 2419 เกิดพวกอั้งยี่ หรือกบฎจีน ซ่องสุมกำลัง ก่อความเดือดร้อน ฆ่าฟันผู้คนล้มตายจำนวนมากถึงขนาดจะยึดเมืองภูเก็ตไว้เป็นของตนเอง ชาวบ้านที่รอดตาย บางส่วนหนีเข้าป่า บางส่วนหนีมาที่วัดฉลองแห่งนี้ ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อแช่มให้หนีไปด้วยกันแต่ท่านปฏิเสธ ชาวบ้านว่าถ้าท่านไม่หนีแล้วพวกเราจะหนีได้อย่างไรจึงใช้วัดแห่งนี้เป็นฐานที่ตั้งต่อสู้กับพวกอั้งยี่ ท่านได้มอบผ้าประเจียดขาวคาดหัวเป็นชวัญกำลังใจให้ชาวบ้าน ในที่สุดก็แคล้วคลาดปลอดภัย ต่อมาคณะกรรมการภูเก็ตกราบบังคม-ทูลคุณงามความดีของท่านแด่ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทราบ ภายหลังได้รับพระราชทานสมนะศักดิ์ให้เป็น
พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี

ฝั่งตรงข้ามของพระอุโบสถ คือ พระมหาธาตุเจดีย์ พระจอมไทยบารมีประกาศ
ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่นำมาจากศรีลังกา อีกทั้งมีพระพุทธรูปปางต่างๆ
และภาพพุทธประวัติที่ผนัง


พระพุทธมิ่งมงคล (Big Buddha)

พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี หรือ "พระใหญ่" พระพุทธรูปประจำเมืองภูเก็ต
พระพุทธรูปปางมารวิชัยหน้าตักกว้าง 25.45 เมตร สูง 45 เมตร สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก
ผิวนอกบุด้วยหินอ่อน ตั้งอยู่บนยอดเชานาคเกิด ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขานากเกิด สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2545 จากเงินบริจาคของประชาชน งบประมาณ 30 ล้านบาท

พระพักตร์หันไปที่อ่าวฉลอง (ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ)

ภายในองค์พระ พระสงฆ์กำลังทำวัตรเย็น


"แหลมพรหมเทพ"

ทำไมผู้คนถึงนิยมไปถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพกันน๊าา ... ??
แหลมพรหมเทพอยู่ส่วนใต้สุดของเกาะภูเก็ต ชาวบ้านเรียกกันว่า "แหลมเจ้า"
ได้รับการยอมรับว่าเป็น จุดชมพระอาทิตย์ตกก่อนใคร ที่สวยที่สุดในประเทศไทย
(รีบไปเก็บแสงสุดท้ายที่แหลมพรหมเทพ ทางไปแหลมฯทำอุโมงค์รอด รถติดมากมาก
เกือบมาไม่ทันซะแล้ว ><)

ได้ถ่ายกับลายเซ็นต์ของภูเก็ตสมใจแล้ว เข้าที่พักกันดีกว่า


"Quip Bed & Breakfast"

ภายในห้องพัก ทำได้สะอาดตา แต่ไม่มีหน้าต่าง(แอบตกใจเล็กน้อย) ทำให้รู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที ><



"ร้านวันจันทร์"

นี่ก็จะสองทุ่มแล้วยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลย ร้านอาหารดั้งเดิมก็ปิดไปหลายร้านเพราะช่วงเทศกาลเจ
เราจึงเดินย้อนมาที่ร้านวันจันทร์
แกงปูใบพลู
หมูฮ้อง
กุ้งสดผัดกะปิสะตอ


"Pancake corner"

ไปหาของหวานล้างปากดีกว่า เจ้านี้แพนเค้กทำเอง แวะชิมซะหน่อย

มาแล้ววว Choco pancake อร่อย ไม่เลี่ยนจนเกินไป

อิ่มจนเดินไม่เป็นกันเลยกันทีเดียว เข้าที่พักก็ยังนอนไม่ได้ จุก 555+


DAY 4

เกาะรอก "ราชินีแห่งอันดามัน"


เกาะรอก ตั้งอยู่ในจังหวัดกระบี่ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา
(มีที่ให้ปั้มตราอุทยาน อย่าลืมเอาPassportอุทยานแห่งชาติ มาด้วยนะ)


ทริปเกาะรอก ฟรี จากผู้สนับสนุนใจดี Love Andaman
รถตู้มารับเราตั้งแต่เช้าตรู่ ไปที่ท่าเรือ ระหว่างรอขึ้นเรือเราได้ทานกาแฟและของว่างรองท้อง
จากท่าเรือใช้เวลาเดินทาง 1.40 ชม. ก็มาถึงเกาะรอก

กำหนดการของ One day trip

  • ถ่ายรูปบนเกาะรอกประมาณ 30 นาที
  • ออกเดินทางจากเกาะรอก ไปดำน้ำที่จุดชมประการังเกาะรอก
  • กลับมาทานข้าวกลางวันบนเกาะรอก
  • ออกเดินทางจากเกาะรอกไปดำน้ำที่จุดชมประการังเกาะห้า
  • เกาะห้า กลับสู่ท่าเรือ

ได้เวลาออกไปดำน้ำแล้วววว

เข้าไปดูใกล้ๆ เจอนีโม่ด้วย ดีใจ : )

กลับมาเต็มพลังบนเกาะรอก บุฟเฟ่เรียบง่าย

อิ่มแล้ว เดินเล่นรอบเกาะรอกระหว่างรอขึ้นเรือไปเกาะห้า #NoFilterPicture

เกาะห้า มีรูปร่างคล้ายเรือใบ จุดดำน้ำขึ้นชื่ออีกจุดหนึ่ง

จบทริปแล้วจ้า สรุปได้ตามนี้ . . .

Day 1 :

ร้านอาหารร่มไทรนาคาเล

ร้านหอยป้ายแดง

Crepe is Crepe

Rommanee Boutique Guesthouse

Day 2 :

ซุปเปอร์ติ่มซำ

โกปี๊ เดอ ภูเก็ต

โรตีแกงแถวน้ำ

วัดพระทอง

ตึกชิโนโปรตุกีส

โอ้เอ๋วแปะหลี

ลกเที้ยน

หลาดใหญ่

Cape Panwa

Day 3 :

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำภูเก็ต

จุดชมวิวช่องเขาขาด

ร้านหมอมูดง

วัดฉลอง (วัดไชยธรรมธาราม)

พระพุทธมิ่งมงคล (BigBuddha)

ร้านวันจันทร์

Pancake corner

Quip Bed & Breakfast

Day 4:

เกาะรอก เกาะห้า

*ร้านที่พลาดดเพราะส่วนใหญ่ปิดเจ 😭 : ขนมจีนแม่ติ่ง ,บุญรัตน์ติ่มซำ ,หมี่โกลา ,อาโป๊งแม่สุณีย์ ,หมี่หุ้นกระดูกหมูจี้เป๋ง , เย็นตาโฟสามพี่น้อง ,โรตีเจ้าฟ้า ,โกปี๊เตี๊ยม ,โกฮ้องข้าวต้มปลา ,ข้าวต้มโกเบนซ์



Aum Sripatcharapas

 วันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 22.03 น.

ความคิดเห็น