จากสนามบินอู่ตะเภา สู่ภูเก็ต 3 วัน 2 คืน (U-tapao to Phuket) คุ้มไหมถามใจดู

แมงน้อยพาเที่ยวภูเก็ตรอบนี้ เพราะสอยตั๋วโปรจาก Air Asia ตั้งแต่ปีที่แล้ว รอมาเกือบสิ้่นปีก็ได้เวลาออกเดินทาง รอบนี้ตั้งใจบินจากสนามบินอู่ตะเภา พัทยา-ระยอง เพราะบ้านอยู่ศรีราชา ชลบุรี เดินทางสะดวกกว่า แค่ 50 นาทีก็ถึงสนามบิน และได้มีโอกาสไปเยี่ยมสนามบินนี้ด้วยว่าสะดวกแค่ไหน เผื่อทริปหน้าจะได้วางแผนได้อีกค่ะ

สนามบินอู่ตะเภา จากศรีราชา เดินทางโดยถนนสุขุมวิท เข้าแยกกระทิงลาย ใช้ถนนสาย 331 และ Google Map นำทาง เมื่อถึงสี่แยกโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริิกิตติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ วิ่งผ่านเข้าไปจนถึงป้ายทางเข้าสนามบิน ซึ่งสนามบินนี้อยู่ในเขตการดูแลของทหารค่ะ

สนามบินไม่ใหญ่มาก สายการบินน้อย แต่สำหรับเราชอบนะ ไม่พลุกพล่านดี แถมยังไม่ต้องเดินไกล เหมือนเข้ามาในอาคารแล้ว เข้าเกทรอขึ้นเครื่องเลย สะดวกดีค่ะ มีร้านอาหาร คาเฟ่ให้บริการอยู่ด้านนอก เป็นแบบร้านเล็กๆ แต่ก็เพียงพอ สำหรับคนที่ต้องการรองท้องเพื่อการเดินทางเล็กน้อย และมีส่วนขยายพื้นที่อาคารใหม่ กับสถานที่จอดรถเพิ่มเติมอยู่ด้วยค่ะ

*อัตราค่าจอดรถค้างคืน เหมาจ่ายวันละ 140 บาท / ไม่ถึงวัน คิดชม.ละ 20 บาท (ถูกมากเลย)

อาคารผู้โดยสารขาเข้าใหม่

ในสนามบินมีตู้กดน้ำหลายจุดมากค่ะ เป็นตู้ที่น่าจะซื้อมาจากประเทศญี่ปุ่น เพราะป้ายคำอธิบายส่วนใหญ่ยังเป็นภาษาญี่ปุ่นอยู่ บริหารโดย บริษัท AJ

ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว วิวตอน Take off สวยมาก เป็นวิวทะเลสัตหีบ สีน้ำเขียวมรกตเลยค่ะ

ประมาณ 1 ชม. ก็ถึงสนามบินภูเก็ต เราได้เช่ารถของ AVIS วันละ 1,000 บาท เครื่อง 1,200 พร้อมประกันชั้น 1 ที่สนามบินไม่มีออฟฟิศ มีแต่เคาน์เตอร์ เมื่อไปถึง จะมีรถไปส่งที่ออฟฟิศ เพื่อไปรับรถอีกที อยู่ใกล้ๆ สนามบินค่ะ ขากลับไปคืน ให้เติมน้ำมันเต็มถังที่ปั๊ม SUSCO ใกล้สุด แล้วทางรถเช่าก็จะขับไปส่งที่สนามบินอีกทีค่ะ

ตอนทำโปรแกรมเที่ยว บุ๊คร้านอาหารมามากมาย ทำการบ้านมาหลายเดือน แต่สุดท้ายดันตรงกับเทศกาลกินเจ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าที่ภูเก็ตกินเจจริงจังมาก ร้านแทบทุกร้านทั้งปิดและขายเจเกือบทั้งหมด สุดท้ายได้กินร้านที่เลือกไว้แค่ไม่กี่ร้าน แอบเศร้านิดนึง T_T

(สำหรับร้านที่ตั้งใจมาแล้วไม่ได้ทาน เพราะว่าทั้งปิด ทั้งขายเจ คือ ร้านน้ำย้อย, ข้าวต้มโกเบนซ์, ร้านโกชัยปาท่องโก๋, ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำชากังราว, ไอติมไข่แข็งโบราณ ร้านลุงดำ, ร้านกาแฟ Eleven two & co., ร้านกาแฟ โกปี้ เดอ ภูเก็ต, ร้านติ่มซำบุญรัตน์, ขนมอาโป๊ง, หมี่หุ้นกระดูกหมูจี้เป๋ง)

ร้านแรกที่ได้ฝากท้อง คือ ร้านวันจันทร์ เราตั้งใจไม่กินอะไรมาเลย เพื่อมาลิ้มลองอาหารใต้แท้ๆ ร้านนี้มีเอกลักษณ์ที่รูปแบบของการแต่งร้าน ที่แต่งด้วยของเก่าโบราณ และเจ้าของร้านสวย 555

ที่รับรองแขก กรณีรอโต๊ะ

เมนูอาหารหลากหลาย แต่ราคาค่อนข้างสูงไปนิ๊ดดดด

เริ่มด้วยเมนูไฮไลต์ ที่เสิร์ฟมาพร้อมเนื้อปูเต็มเม็ดเต็มหน่วย

แกงปูใบชะพลู (350 บาท) ทานพร้อมเส้นหมี่หุ้น (20 บาท) เข้ากั๊น เข้ากัน แกงปูเข้มข้นสุดยอด แต่ส่วนตัวชอบกินกับข้าวสวยร้อนๆ ค่ะ แบบน้ำยาแกงซึมเข้าไปในตัวข้าว มันจะจุ้ยส์ ชุ่มช่ำ

ผักเหมียงผัดไข่กุ้งเสียบ (150 บาท) หวานมันส์ กุ้งแห้งกร๊อบ กรอบ อร่อยจัง

สะตอผัดกะปิกุ้ง (220 บาท) กุ้งใหญ่ได้ใจ แต่เม็ดสะตอยังไม่ค่อยมันเท่าไร รสชาติอ่อนไปสักหน่อย อยากได้จัดๆ กว่านี้

ถ่ายเสร็จ ผักเคียงเพิ่งมา เลยถ่ายด้วยมือถือ เพราะว่าหิว อดใจไม่ไหวแล้ว ข้าวสวยเสิร์ฟมาในโถเซรามิคลายคราม โดยภาพรวมรสชาติไม่ผิดหวังค่ะ

ตั้งใจต่อด้วยร้านกาแฟ ร้านก็ปิด เลยได้ลองลาเต้เย็นที่ร้าน Cafe' del sol อร่อยใช้ได้ค่ะ

หลังจากร้านที่ตั้งใจไปลองปิดหลายร้าน เลยตัดสินใจเดินทางเข้ารีสอร์ทดีกว่า

สำหรับคืนแรก แมงน้อยเลือกพักที่ป่าตอง ที่เครสต์ รีสอร์ตแอนด์พูล วิลล่า (Crest Resort & Pool Villas) ห้อง Deluxe Room

อ่านรีวิวรีสอร์ทเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ

https://th.readme.me/p/13265

หลังจาก Check out แล้ว วันนี้มีโปรแกรมไปเที่ยวที่ Paradise Beach หากใครพักที่ Crest แล้ว สามารถเข้าได้ฟรีค่ะ ห่างจากรีสอร์ทไปไม่กี่กิโล กรณีไม่ได้เช่ารถ ทางรีสอร์ทจะมีบริการรถรับ-ส่งเป็นรอบๆ ด้วยนะคะ และมีรถรับ-ส่งไปป่าตอง

กรณีจะลงไปหาด Paradise จะต้องนั่งรถสีเหลืองของทางหาด เพราะทางลงชันมากค่ะ แต่ถ้าใครจะขับมอเตอร์ไซด์ก็ลงไปได้ แต่อาจจะต้องระวังสักหน่อย

Paradise Beach เป็น Private Beach จะมีจัดงาน Full moon บ้าง แล้วแต่ประกาศ ข้างในสวยดีค่ะ เคยเห็นมีคนมารีวิว ตอนนั้นคนยังไม่เยอะ แต่ตอนนี้ มีแต่ต่างชาติมานอนอาบแดด และเล่นน้ำค่ะ ในนั้นคนต่างชาติประมาณ 90% เลยทีเดียว