เวียดนามช่วงนี้กำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยสายแบ็คแพ็ค..เพราะค่าใช้จ่ายไม่แพงมากนัก

เวลาที่เวียดนามกับไทย ก็เท่ากันไม่ต้องเปลี่ยนเวลาให้ยุ่งยาก

เดี๋ยวนี้การเดินทางสะดวกสบาย ไปง่าย จะนั่งสายการบินไหนก็มีให้เลือกหลากหลาย

สำหรับเราก็คงไม่พ้นรอโปรถูก ๆ อีกเช่นเคย..การไปเวียดนามครั้งนี้ถือเป็นการไปเยือนเป็นครั้งที่ 2

ซึ่งครั้งแรกเราไปเวียดนามเหนือ ฮานอยนั่นเอง..ยังหลงรักเวียดนามไม่หาย นี่ขนาดไปรอบ 2 ก็ยัง

โดนสปอยเรื่องโดนโกง...เราว่าไปประเทศไหนก็มีเหมือนกันหมดนะ อยู่ที่เราอย่าประมาท

แต่เราว่ามาครั้งนี้เจอแต่คนเวียดนามใจดี น่ารัก


การเดินทางของเราเริ่มต้นวันที่ 18 - 22 ตุลาคม 60

18 ต.ค. : บินไฟล์เช้า AirAsia 7.55 น. >> 9.15 น. โฮจิมินต์ ซื้อตั๋วไปอุโมงค์กู๋จี่รอบบ่าย ซื้อตั๋วไปดาลัดค่ำ

19 ต.ค. : ถึงดาลัทเช้ามืด มีรถฟรีไปส่งโรงแรมที่จองไว้ & เช่ามอเตอร์ไซค์เที่ยว

20 ต.ค. : เช้ารถรับไปมุยเน่ ถึงมุยเน่เที่ยง ซื้อทัวร์ไว้แล้ว Half Day Tour ค่ำนั่งรถกลับ HoChiMinh

21 ต.ค. : ถึง HoChiMinh เช้ามืด เข้าที่พัก จองไว้แล้ว >> เที่ยวในโฮจิมินต์

22 ต.ค. : บินไฟล์เช้า โฮจิมินต์ ไป ดอนเมือง 09.45 น. >> 11.10 น.

**รถจากดาลัท >> มุยเน่ >> โฮจิมินต์ & ทัวร์ Half Day Tour ที่ มุยเน่ เราได้ติดต่อจองไว้เรียบร้อยแล้วกับโรงแรม Minh Hùng Hotel (พอดีจองที่พักผ่าน Booking เค้าเลยติดต่อกลับมา แต่สุดท้ายเราก็ยกเลิกที่พักไป แต่ก็ยังได้ไปอาศัยนอนชั่วคราวรอเวลาขึ้นรถ คิด 10 $ /ห้อง)


รอบนี้มีเพื่อนเดินทางมาเพิ่มอีก 1 คน...กลุ่มเราต้องเดินทางมาจากเชียงรายล่วงหน้า 1 วัน และมานอนในสนามบินเหมือนทุกที....แลกเงินไป 6,010 บาท >>> 181 us >> เหลือ ๆ เลย

Day 1 : 18 ต.ค.60

07.55 ครื่องออกตรงเวลาไม่ดีเลย์...แต่กว่าจะได้ไปก็หมดสภาพไปก่อนแล้ว เพราะเมื่อคืนนอนหลับไม่สนิท

เครื่องใกล้ลงแล้ว ชะเง้อมองบ้านเมืองเค้าสักหน่อย...มันก็ดูน่ารักไปหมด

ลงจากสนามบิน ก็ผ่าน ตม.อย่างสบายอารมณ์ ไม่มีการถามซอกแซกเหมือนตอนไปอินโดนีเซียแต่อย่างใด

มาถึงก็จัดการแลกเงินก่อน ได้เรท 1 $ >> 22,705 vnd พวกเราแลกกันคนละ 140 $ x 4 คน

ได้มา 12 ล้านกว่า นี่มันเศรษฐีย่อมๆ เลยนะ เก็บไว้เป็นกองกลาง...นอกนั้นใครอยากแลกส่วนตัวก็แล้วแต่..

หลังจากนั้นก็จัดแจงไปซื้อซิมที่ VinaPhone คนละอัน ทุกคนเลือก 5 GB ในราคา 105,000 vnd

เห็นใคร ๆ ร่ำลือว่าที่สนามบินจะมีคนมารอรับผู้คนกันมากมาย นี่มาเห็นกับตาตัวเองแล้วถึงกับตะลึง

นี่เขามารับพวกเราใช่ไหม? ♥♥♥♥

จากตรงนี้ก็ไปหารถเมล์สาย 152 ซึ่งหาไม่ยากเลย จะเป็นคันสีเขียวจอดอยู่ทางขวามือเพื่อ ไป

ถนน Pham Ngu Lao ถ้าเราอ่านมาจากรีวิวอื่น ทุกคนจะลงที่ตลาดเบนถันกันหมด แต่คันของเรา

คุณลุงกระเป๋าพาไปจอดถึงปากซอยถนน Pham Ngu Lao เลย...ไม่ต้องข้ามถนนเพราะรถมันผ่านอยู่แล้ว


ลงรถปุ๊บเราก็เดินหา บ.VietSea เพื่อจะไปถามซื้อตั๋วไปอุโมงค์กู๋จี่ คือเราก็ไม่แน่ใจว่ามีรอบบ่ายโมงไหม..

สรุปว่าไปเที่ยวอุโมงค์กู๋จี่มีรอบบ่ายโมง ค่ารถ 105.000 vnd และตอนแรกตั้งใจว่าจะไปจองตั๋วที่ไปดาลัท

กับ บ.Futa แต่พอคุยกับพนักงานที่ Vietsea เค้าบอกซื้อที่เค้าแพงกว่า 40.000 แต่สามารถฝากกระเป๋า

และมาอาบน้ำได้ แต่ที่ Futa ไม่มีบริการแบบนี้ เลยตัดสินใจเลือก Vietsea แทน

13.00 น. รถมารอรับที่หน้า บ.VietSea เพื่อจะไปอุโมงค์กู๋จี่..ไกด์เก็บเงินค่าตั๋วเข้า 110.000 vnd

เค้าจะไปจัดการตั๋วเข้าให้เรา เราทำคลิ๊ปสั้น ๆ สำหรับการไปอุโมงค์กู่จี่ไว้เรียบร้อยค่ะ


กลับมาถึง HoChiMinh ก็ประมาณ 6 โมงกว่า ๆ แล้ว ค่ำคืนนี้เดินเล่น WalkStreet..เข้ามาทานในฟู้ดคอร์ด..อาหารเวียดนามอร่อยทุกอย่าง หลังจากนั้นก็มาจัดการอาบน้ำ รอรถ...ประมาณ 4 ทุ่มเค้าก็พาเราไปรอรถที่ของ Futa นั่นแหล่ะค่ะ...รถเรารอบ 23.20 น.

รถนอนคือนอนจริง ๆ ไม่ได้กึ่งนั่งกึ่งนอนเหมือนบ้านเรานะ..ขึ้นรถปุ๊บเค้าจะมีถุงพลาสติกไว้ให้เราใส่รองเท้า

รถจะแวะพัก 1 จุด ตอนลงรถเค้าจะมีบริการรองเท้าฟองน้ำไว้ให้ด้วย

รถเราออกเกือบเที่ยงคืนแล้วมาถึงดาลัดประมาณตี 5 กว่า

มืดอยู่เลยอ่ะ..โหยยยยยยย...อากาศเย็นพอสมควรนะเนี่ย..

ก่อนมาเราจะได้ตั๋วสำหรับขึ้นรถตู้ฟรีเพื่อไปส่งยังที่พัก ก็เอาไปยื่นให้เค้า แล้วบอกว่าเราพักที่ไหน


สรุปค่าใช้จ่าย Day 1

ซิมคนละ 105.000

ค่ารถเมล์ 152 : คนละ 5.000

ค่ารถบัสไปอุโมงค์กู่๋จี่ คนละ 105.000

ค่าเข้าอุโมงค์กู๋จี่ คนละ 110.000

ค่าตั๋วรถไปดาลัด vietsea คนละ 250.000

ค่ากินคนละประมาณ 530.000 / 4 คน


Day 2 : 19 ต.ค.60

รถออกจากสถานีขนส่งแค่แป๊บ ๆ ก็มาถึงที่พักพวกเราแล้ว ดูแล้วคงไม่ไกลกันมากนัก

เราจอง Dang Uyen 2 Hotel ผ่าน Booking ในราคาห้องเตียง 2 ชั้น 4 คนในราคา 13 $

เราถึงที่พักก่อนเวลาที่เค้าเช็คอินกัน ตามปกติต้องเข้าที่พักประมาณเที่ยงถึงบ่ายสอง..

แต่พวกเราเข้าที่พักประมาณตี 5 กว่า ต้องกดกริ่งเรียกกันเลยทีเดียว เพราะยังไม่มีใครตื่น

พอเข้าไปพนักงานดูแลที่พักเขียนบอกเราว่า เราเข้าก่อนเวลาต้องคิดเพิ่ม 50 usd ค่ะ ใช่ค่ะ ทุกคนคงงง

พวกเราก็ยัง งง..งง กันหมด เฮ้ย!! ทำไมแพงเว่อร์ เราก็เอากระดาษให้เพื่อนดู เค้าเขียน usd จริง ๆ

พนักงานคุยภาษาอังกฤษไม่ได้ค่ะ คุยกันด้วยความงุนงง..ต้องคุยกันผ่าน Google สำหรับแปลภาษา

สุดท้ายเจ้าของที่พักออกมา...เค้าก็ถามว่ามีอะไร คงสงสัยว่าทำไมเราไม่เข้าห้องกันสักที

และแล้วเจ้าของก็บอกว่า No usd แต่คือ vnd โอ้วววววววว เกือบจะได้ออกไปเดินเล่นข้างนอกกันแล้ว

ก่อนขึ้นห้องก็จองรถมอเตอร์ไซค์ไว้ 2 คัน สำหรับไปแว๊นซ์วันนี้กัน

เข้าห้องปุ๊บ..ของีบเอาแรงกันก่อน ที่นี่อากาศเย็นสบายไม่ต้องมีแอร์..ประมาณ 9 โมงกว่าก็เริ่มตื่นกันแล้ว

วิวสวย ๆ จากที่ Dang Uyen 2 Hotel & ห้องโถงชั้นบน



ลงมาข้างล่างเจ้าของที่พักเตรียมมอเตอร์ไซค์ไว้รอพวกเราแล้ว

หลังออกมาจากที่พักไม่ไกลก็จัดอาหาร Local กันเถอะ..เห็นแบบนี้อร่อยนะค่ะ..

อิ่มจากมื้อนี้เราเดินทางไปหาเติมน้ำมันรถกันก่อน แนะนำว่าเติมแค่ครึ่งถังก็พอค่ะ

พวกเราเติมไปเต็มถัง ขนาดขี่ทั้งวันลงไปนิดเดียวเองอ่ะ....จุดหมายปลายทางแรกที่จะไปคือ

Lang Biang จุดที่พีคที่สุดของเมืองดาลัทนี่เอง ส่วนใหญ่เราจะใช้ Google Map เป็นหลักเลย

ใช้เวลาไม่นานก็มาถึง...สำหรับที่นี่มีค่าเข้าคนละ 30.000 และต้องใช้บริการรถจิ๊บขึ้นเขาคันละ 360.000

มีค่าฝากมอเตอร์ไซค์คันละ 5.000


พระราชวัง Bao Dai’s Summer Place ค่าเข้า20.000 ค่าจอดรถ 5.000 เป็นวังของจักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งเวียดนาม พระราชวังแห่งนี้ใช้เวลาก่อสร้าง 5 ปี ภายในตัวตึกมีห้องภาพของพระเจ้าเบ๋าได่ พระมเหสี พระโอรส ธิดา และมีห้องสำหรับทรงงาน....แต่ก่อนเข้า เค้าจะมีถุงใส่รองเท้าซึ่งจะอยู่ในตะกร้าด้านหน้าหยิบไปคนละคู่เลยค่ะ ไม่ต้องถอดนะ ใส่ทับรอบเท้าไปเลย...ขาออกอย่าลืมถอดหล่ะ



...ดูภายนอกเหมือนไม่ใหญ่มากนัก แต่ข้างในกลับโอ่โถง กว้างขวาง และโปร่งโล่ง ทุกอย่างถูกจัดวางไว้

อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม น่าอยู่จริง ๆ ...


...ในนี้จะมีให้เช่าชุดสำหรับถ่ายรูป อยากเป็นกษัตริย์ หรือ ราชินี ก็จัดกันเต็มที่ เค้าคิดค่าเช่าชุดละ 90.000

ก็ถ่ายกันเต็มที่ไปเลยค่ะ เอาให้พอใจกันเลยทีเดียว >> เห็นรูปตัวเองก็ยังอดขำไม่ได้ :-)


...ใกล้ ๆ กับวังนี้จะมีร้านกาแฟน่านั่งอยู่ร้านหนึ่ง พวกเราเจอแบบบังเอิญ พอดีว่าเพื่อนอยากนั่งทานกาแฟ แล้วมันก็ใกล้เที่ยงพอดี ลงมาจากวังมาเจอถนนหลักเลี้ยวขวาขี่ไม่ไกลสังเกตุร้านอยู่ขวามือ (จำชื่อร้านไม่ได้)

...เข้ามาในร้านได้สักพักฝนตกแรงมาก...โชคดีที่อยู่ในร้าน เลยนั่งฆ่าเวลา รอฝนซาแล้วก็ไปจุดหมายต่อไป

Robin hill ได้เวลาที่พวกเราจะไปขึ้นกระเช้า Cable Car กันแล้วน๊าาา..ตื่นเต้น ตื่นเต้น

ไปถึงก็ไม่ต้องรอคิวใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ เพราะมีคนน้อย ขึ้นได้เลย ค่ากระเช้า ไป-กลับ คนละ 80.000

เพื่อนเราก็มีแอบเสียว ๆ กันบ้าง

พอลงจากกระเช้า ก็จะเจอร้านขายของ เดินผ่านไป เราไม่ใช่สายช๊อป...

เดินขึ้นไปชั้นบนก็เที่ยววัด Truc Lam กันต่อได้เลยค่ะ...การมาวัด Truc Lam มาได้ 2 ทางคือ

ทางกระเช้า และทางรถ สำหรับพวกเราก็มาทางกระเช้านี่ไงค่ะ..ได้เห็นวิวมุมสูงของเมืองด้วย

ที่วัด Truc Lam เราไม่ได้เข้าไปถึงข้างใน เพราะเวลามีน้อยต้องรีบขึ้นกระเช้ากลับ

แต่ถ้ามีเวลาเข้าไปเที่ยวข้างในด้วยน่าจะสวยมาก ๆ เลยค่ะ


เจอฝรั่งงานดี..เลยชวนมาถ่ายรูปด้วยกันซะเลย เพราะเห็นพี่แกยืนมองยืนยิ้มอยู่นานแล้ว

...จากวัด Truc Lam แล้ว เราก็มุ่งหน้าไป Dalanta Waterfall Roller Coaster กันต่อ ยังมีลุ้น ๆ

ว่าจะไปทันได้เล่น Roller Coaster เพราะเริ่มจะเย็นแล้ว.. โชคดีที่เราไปถึงทันเวลา

เค้าให้เข้าไปเล่นเป็นกลุ่มสุดท้ายก่อนจะปิดพอดีเลย...น้ำตก Dalanta ก็เป็นน้ำตกไม่ใหญ่มากนะ

เราจะเลือกเดินลงไปหรือเลือกเล่น Roller Coaster ลงไปก็ได้ แถวบ้านไม่มีให้เล่นค่ะ ก็เลือก Roller

ทั้งขาไป- ขากลับเลย แต่ช่วงที่ไปหน้าฝน น้ำเยอะ น้ำที่ตกออกมาเลยดูอลังการมาก



ไปเล่น rollercaoster กัน ม่วนขนาดจ้าววว


ออกจากน้ำตกมาก็เริ่มจะค่ำแล้ว...พวกเราเลยแว๊นซ์ไปแถว ๆ Night Market แต่ว่าอยากทานแหนมเนือง

มีคนเคยแนะนำร้านนี้มา Ba Nghia ก็วนหากันอยู่นาน สุดท้ายก็เจอแต่ไม่รู้จะใช่ร้านเดียวกันไหม..

...แนะนำเลยค่ะว่าร้านนี้อร่อยจริง ๆ พวกเราจัดมาเต็มที่เลย นั่งทานสักพักลูกค้าเต็มร้านเลย

...ราคาอาหารก็ไม่แพงด้วย..คุ้มค่า คุ้มราคาจริง ๆ

....หลังจากหนังท้องเริ่มตึง ก็หาแหล่งเดินย่อยอาหารกันเถอะ... Night Market นั่นเอง

...ที่นี่ของกินหลากหลายมากอ่ะ..ยังคุยกับเพื่อนเลยว่าถ้ารู้แบบนี้ทานตรงที่ร้านแค่อย่างเดียวก็พอ

ตอนนี้อิ่มซะแล้ว...

มาถึงเวียดนามก็ต้องอยากหาจิบเบียร์เวียดนาม เดินหาร้านที่ดาลัทอยู่นานมาก กว่าจะเจอร้านขายเบียร์

ตอนแรกตั้งใจว่าจะจิบเบียร์แล้วเดินเทียวกันไปด้วย..มองไปทางไหนก็ไม่เห็นมีใครดื่มกันสักคน

พวกเราก็เลยกลัว ๆ ไม่กล้าเดินดื่ม เกิดตำรวจเค้าจับมาก็จะซวยได้...ก็ซื้อกลับไปดื่มกันที่ห้องแล้วกัน


อากาศค่ำคืนตรงระเบียงที่พัก...อากาศดี ดี เงียบสงบ หลงรักเมืองนี้ซะแล้วค่ะ..คืนนี้ Good Night..

**ดาลัท เค้าบอกเป็นเมืองดอกไม้ แต่พวกเรามาจากเชียงราย เมืองหนาว เมืองดอกไม้เหมือนกัน

เลยไม่เข้าไปเที่ยว แค่ขี่มอไซค์ผ่านก็พอจร้า**

สรุปค่าใช้ Day 2

ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ 50.000 / 1 คัน

น้ำมันรถ 50.000 / 1 คัน

ค่าเข้า Lang Biang 30.000

ค่ารถจิ๊บขึ้น Lang Biang 360.000 / 1 คัน

ค่าฝากรถมอเตอร์ไซค์รวมหมด 8.000 / 1 คัน

ค่าเข้าพระราชวัง Bao Dai 20.000

ค่าเช่าชุดถ่ายรูปที่พระราชวัง 90.000

Cable Car ไป-กลับ 80.000

ค่าเข้าน้ำตก 30.000

ค่า Roller Coaster ไป-กลับ 80.000

อาหาร 188.750 / 4 คน

ค่าที่พัก+ค่าเข้าก่อนเวลา+น้ำในห้อง 1 ขวด 336.000 / 4 คน

จ่ายส่วนตัวของเราเอง 20.000


Day 3 : 20 ต.ค.60

เราจองรถไปมุยเน่รอบ 07.00 น. ค่ารถคนละ 6 $ เรานัดแนะกับน้องเค้าทางไลน์ว่าให้มารับตรงที่พัก

บอกเลยว่ารอแบบลุ้นมาก ๆ คือปกติถ้าคนอื่นเค้าไปเค้าจะซื้อตั๋วกันไว้เลย แต่ของเรามีแค่ตกลงทางไลน์

ก็กลัวน้องเค้าจะไม่มา แต่เค้าก็ให้เบอร์โทรไว้นะ...รอจนถึง 8 โมงกว่า ๆ เจ้าของที่พักก็ถามเราว่ามีตั๋วไหม

ขอดูหน่อย..เราบอกไม่มีเพราะตกลงกันทางไลน์ไว้ แต่มีเบอร์โทร แกก็เลยโทรไปถามให้

...ดีใจที่ได้ยินคำตอบกลับมาว่า รอสักครู่กำลังจะมา ค่อยโล่งใจหน่อย...

ขณะรอเวลาก็ถ่ายรูปเล่นกันสนุกสนาน..ส่วนใหญ่เค้าจะเอาบ้านมาทำเป็น Hostel กันเยอะ

...ในที่สุดรถก็มาเสียที...นึกว่าจะได้รอเก้อซะแล้ว.... Bye Bye Dalat

...มีความรู้สึกว่ารถเราใช้เวลาในการขับเร็วมากอ่ะ...คือแทบจะนั่งลุ้นไปตลอดทางพี่แกซิ่งน่าดู

แกคงทำเวลาให้ถึงมุยเน่ประมาณเที่ยง เหมือนกับว่าแกออกจากดาลัทมาช้ากว่ากำหนด

..เราถึงมุยเน่ประมาณ เที่ยงครึ่ง.....ถึงซะทีเมืองแห่งทะเลทราย

..ตอนแรกตั้งใจว่าจะนั่ง Taxi ไปที่ Minh Hùng Hotel เป็นโรงแรมที่เราจองทัวร์ครึ่งวันไว้กับเขา

แต่จากจุดนี้ไปประมาณ 1 กม.เอง Taxi ก็บอกให้พวกเรา Walk Walk not far. Ok เดินสิค่ะรออะไร..

เมือง MuiNe อากาศร้อนมากมาย พกร่มไปด้วยก็จะดีมาก..

...ทัวร์เราเริ่มประมาณ บ่าย 2 จร้า...ค่าทัวร์วันนี้ 35 $ / 4 คน รถจิ๊บมารับเราที่โรงแรมเลย


Fairy stream >>> เป็นจุดแรกที่ทัวร์พาเราไป มันจะคล้าย ๆ คล้ายแพะเมืองผีนะ แต่แพะเมืองผีไม่มีน้ำ

ที่นี่เราต้องเดินลุยน้ำ ใส่ขาสั้นมาก็จะดีมาก กางเกงจะได้ไม่เปียกจร้า พวกเรานี่ถอดรองเท้าเดินกันเลย

ใส่รองเท้าแล้วเดินยาก รองเท้ามันจมทราย..เค้าให้เวลาเราแค่ 45 นาที...เดินไปได้ครึ่งทางก็ต้องกลับแล้ว

กำลังเพลิน ฝนก็มาลงเม็ดอีก เศร้าจัง



Fishing Village หมู่บ้านชาวประมง>>> จะได้เห็นการพายเรืออ่างที่เดียวในโลก มีเวลาแค่ 15 นาทีเอง



White Sand Dunes ทะเลทรายขาว
>> ที่นี่มีให้เราเลือกขึ้นทะเลทรายได้ 3 แบบ คือ

เดินด้วยเท้า รถ ATV หรือรถจิ๊บ ค่ะ กลุ่มเราเลือกรถจิ๊บตอนแรกพี่แกเรียกคนละ 300.000/คน

แต่ขอต่อราคาหน่อยนะ ได้มา 250.000/คน ได้ลดนิดหนึ่งก็ชื่นใจแระ

มีน้อง ๆ มาชวนไปเล่นแผ่นกระดาน คิดราคา 20.000 สรุปไม่มีใครเล่นเลย

แต่น่าเสียดายว่าวันที่พวกเราไป ฝนตก ทรายมันก็เลยเกาะกันเป็นก้อน ดูแล้วไม่สวยเท่าไหร่


Red Sand Dunes ทะเลทรายแด >>> สถานที่สุดท้ายของทริปวันนี้แล้ว..เวลาเราไปเที่ยว

เวลามันมักจะผ่านไปรวดเร็วเสมอนะ..ก็ขึ้นไปถ่ายรูปสักพัก ก็กลับแล้วค่ะ เริ่มค่ำแล้วด้วย


ออกจากทะเลทรายแดงมาสักพัก ฝนก็กระหน่ำตกลงมาอย่างหนัก....

แล้วรถคันที่พวกเรานั่งมาไม่มีที่ปัดน้ำฝน...พวกเราทุกคนนี่นั่งลุ้นกันมาก ทางก็มืดมาก

ต้องพยายามช่วยดูทางตลอด...ถึงในตัวเมืองก็บอกคนรถให้ไปส่งร้านอาหารที่แกไปส่งเราทานข้าวกลางวัน

อาหารทะเลถูกมาก ยิ่งกุ้งล็อปสเตอร์ โลแค่ 7 ร้อยกว่าเอง จัดเต็มเลยคืนนี้ กินกันเกือบจะไม่หมด

มื้อนี้หมดไป 1.795.000 vnd หารกัน 4 คน สบายตัวเลย

...คืนนี้ไม่ได้นอนค้างที่มุยเน่ค่ะ...แต่เราเปิดห้องของ Minh Hùng Hotel ไว้ชั่วคราว คือเค้าเปิดให้

ตั้งแต่ตอนเที่ยงที่เรามาถึงแล้ว Check Out ประมาณ 5 ทุ่ม พี่แกคิด 10 $ / 1 ห้อง

..5 ทุ่ม เราก็ออกมานั่งรอรถอยู่หน้าโรงแรม สักครึ่งชั่วโมงรถนอนก็มารับเรา

..รอบนี้ได้นั่งหลังสุดชั้นบนเลย รู้สึกว่านอนเหยียดขาไม่ค่อยสะดวกเหมือนรถของ futa

..รถก็จะแวะรับตามโรงแรมต่าง ๆ ตามที่มีการจองไว้

ราตรีสวัสดิ์กันบนรถนะค่ะ พรุ่งนี้เช้าเจอกันที่ HoChiMinh

สรุปค่าใช้จ่าย Day 3

ค่ารถไปดาลัท>>มุยเน่>>โฮจิมินต์+ทัวร์ Half Day + ที่พักชั่วคราว+น้ำ 1 ขวด 90 $+74.000 / 4 คน

(จ่ายที่ Minh Hùng Hotel หมดเลย)

ค่ารถจิ๊บขึ้นทะเลทราย 250.000 / คน

อาหารทะเล 2.051.000 / 4 คน ( 2 มื้อ แต่มื้อเย็นนี่จัดหนักจัดเต็ม)


Day 4 : 21 ต.ค.60

สวัสดี โฮจิมินต์อีกรอบ...รถมาถึงโฮจิมินต์ประมาณ 5.30 น. เช้ามืดอีกแล้ว..

เปิด Google map ตามหาที่พักที่เราจองไว้ Color House Hostel เดินวนไปวนมาอยู่นานไม่เจอสักที

แถมยังมีฝรั่งขี้เมา 2 คน (หน้าตาดี เรียกว่าหล่อเลย) มารุ่มร่ามกะเพื่อนเราอีก

อย่าทายนะว่าเพื่อนคนไหนเดาไม่ถูกกันแน่เชียว... สุดท้ายมีคุณป้าใจดีมาช่วยพาพวกเราไปที่พัก

มันอยู่ในซอยเล็ก ๆ ที่ไม่โผล่ใน Map ...ไปถึงก็ต้องเคาะประตูเรียกเช่นเคย..

เข้าห้องก่อนเวลามีชาร์ตนิดหน่อย 3 $ เอง ถึงห้องของีบเอาแรงก่อนแล้วกัน

ตื่นนอนมีแรงก็ลุยกันต่อไป...วันนี้จะเดินเที่ยวในเมืองโฮจิมินต์

แต่ก่อนอื่นก็ต้องอะไรเข้าท้องก่อน จะได้มีแรงต่อ

เลยไปเดินตลาดขายอาหารสด..ใกล้ ๆ ที่พัก...อาหารมีให้เลือกเยอะมาก


Notre Dame Cathedral...เปิดให้เข้าชมวันจันทร์-เสาร์ เข้าได้ 2 รอบคือ 08:00 AM - 10:30 AM และ 03:00 PM - 04:00 PM แต่พวกเราไม่ไม่ตรงเวลาเปิดเลยอดเข้าไปดูข้างใน



Ho chi min Central post office : ไปรษณีย์กลางอยู่ตรงข้ามกับโบสถ์เลยจร้า

การ์ด 3 มิติ ที่วางขายอยู่หน้าไปรษณีย์กลาง...


Independent Palace หรือ ทำเนียบของอดีตประธานาธิบดีเวียดนามใต้ มีค่าเข้าชมคนละ 40.000

ที่นี่เป็นอดีตศูนย์บัญชาการของเวียดนามใต้ในช่วงสงครามเวียดนาม

และเป็นสถานที่ยุติสุดสงครามเวียดนามในเหตุการณ์ Fall of Saigon

ข้างในปลูกต้นไม้ไว้ร่มรื่นมาก แต่ละต้นคงมีอายุพอสมควร..ช่วงที่เราไปฝนตกหนักมาก


ร้าน Pho 2000 ใครไปต้องไปแวะทานให้ได้ แนะนำว่าอย่าสั่ง L เพราะมันใหญ่มาก 1 ชามทานได้สัก 3 คน

พวกเราสั่งมาคนละอย่าง เฝอไซส์ L มีเฝอเนื้อ & ต้มยำทะเล สรุปทานไม่หมด เฝอต้มยำเหลือบาน


ตลาดเบนถัน อยู่ใกล้กับร้าน Pho 2000 ตรงฝั่งถนนเลย..เราว่าในนี้สินค้าค่อนข้างแพง

เริ่มขี้เกียจเดินแล้ว เลยใช้บริการ Uber เรียกไปลานลุงโฮ หรือ ศาลากลางนั่นเอง สะดวกสบาย

เพื่อนบอกเมิงน่าจะเรียกตั้งนานแล้วนะ...555

น่าเสียดายรูปปั้นลุงโฮถูกครอบไว้ คงจะปรับปรุง เลยไม่ได้เจอลุงโฮเลย

..แต่ตรงนี้จะเป็นลานกิจกรรม วันที่ไปมีงานแฟชั่นโชว์ มีกิจกรรมให้เล่น แจกของ

ก็เลยเดินเล่นกันสักพัก...ฝนตกอีกแล้ว เลยเรียก Uber กลับที่พัก

สรุปค่าใช้จ่าย Day 4

ค่าเข้าทำเนียบประธานาธิบดี 40.000

ค่ารถ Uber 2 เที่ยว 94.000 / 4 คน

ค่าที่พัก+ค่าเข้าก่อนเวลา 476.000 / 4 คน


Day 5 : 22 ต.ค.60

Bye Bye South Vietnam

วันนี้เราจอง Taxi กับที่พักไว้แล้วในราคา 160.000 / 4 คน เราออกจากที่พักประมาณ 7 โมงเช้า

ถึงสนามบินประมาณ 7 โมงครึ่ง..Check in แป๊บเดียว

แต่แถวขาออกจาก ตม. กับจุดตรวจกระเป๋า ยาวมาก ๆ ยืนจนเมื่อยอ่ะ...ช่วงเช้าคนเดินทางเยอะ

Take off 09.45 น. >> 11.10 น.

...ถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ เที่ยวใน กทม.ครึ่งวัน รอเวลากลับเจียงฮายไฟล์สุดท้าย

ค่าใช้จ่าย Day 5

ค่า Taxi 160.000 / 4 คน


ตั่วเครื่องบินของเราจาก เชียงราย >> กทม.  ไป-กลับ 200.-
ตั๋วเครื่องบินของเราจาก กทม. >> โฮจิมินต์ ไป-กลับ 2,200.-
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดต่อคน ประมาณ 5,000.- 
ยังมีเงินเหลือให้แลกกลับบ้านกันอีกด้วย..
เมืองที่คนน่ารักที่สุดก็คือเมือง Dalat นั่นเอง...ส่วนเมือง Muine ผู้คนจะดูโหด ๆ สักนิด
ถ้าใครจะแว๊นซ์มอเตอร์ไซค์มีผ้าปิดหน้าไปด้วยจะดีมาก
ที่โฮจิมินต์ สวนสาธารณะ ต้นไม้ใหญ่เยอะมาก ร่มรื่นดี
แต่ถ้ามีโอกาสก็ยังอยากกลับไปเที่ยวอีกสักครั้ง...เพราะไปรอบนี้เจอฝนเยอะไปหน่อย




ความคิดเห็น