สิงคโปร์เป็นประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆ ที่สามารถไปเที่ยวได้ง่ายๆ

ใช้เวลาเดินทางก็แสนจะสั้นเพียง 2 ชม. เราก็สามารถไป กิน เที่ยว

พร้อมไปพักผ่อนกันได้อย่างง่ายๆ มาลองกันดูว่า การไปเที่ยวสิงคโปร์ 4 วัน 3 คืนนี้

จะสนุกและเดินจนเมื่อยเท้ากันขนาดไหนไปดูกันเลย!!!

Day 1 : Gardens by the bay

เครื่องลงปุ๊ปเก็บของเข้าที่พักเสร็จเกรซก็มุ่งตรงไปที่ Gardens by the bay เป็นที่แรกเลยคร่า เนื่องจากเวลามีจำกัดเราต้องเที่ยวให้คุ้มเอาให้ได้มากที่สุด Gardens by te bay เป็นสถานที่โด่งดังของสิงคโปร์ใครมาก็ต้องมาเดินชมการแสดง แสง สี เสียงกันที่นี่ให้ได้ เกรซซื้อตั๋วมาแล้วจากไทยเป็น Package 1,050 บาท รวมทั้งการเข้า Flower doam, Cloud forrest และ Marina Bay Sands

เกรซเดินมาเข้าที่ Flower doam ก่อน ช่วงที่มาเป็นช่วง Autumn Harvest เลยมีฝักทองเต็มไปหมด จะมีตั้งแต่ 1ก.ย - 29 ต.ค. 60 เท่านั้นนะค๊า ข้างในอากาศเย็นสบายไม่ต้องกลัวเดินแล้วร้อนเลย แถมยังเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิดจากหลากหลายประเทศเลยแหละ สาวกคนรักดอกไม้ต้องห้ามพลาดเลยนะ!

มาถึงทั้งทีก็ขอถ่ายรูปคู่กับดอกไม้กันสักหน่อยเนอะ 5555

มาต่อกันที่ มาต่อกันที่ Cloud Forest เป็นส่วนของป่าไม้ น้ำตก อากาศเย็นสบายอีกเช่นเคย ทุกคนต้องมาหยุดยืนถ่ายรูปกันอยู่ที่ตรงนี้ พอเดินเข้ามาก็จะเจอน้ำตกขนาดใหญ่ที่คนยื่นถ่ายรูปกันอย่างหนาแน่น หลังน้ำตกก็จะเป็นตึกที่เราสามารถเดินวนขึ้นไปได้เรื่อยๆ เช่นกัน

พอเริ่มเย็นเกรซก็รีบเดินไปที่ Marina Bay Sands เพื่อที่จะขึ้นไป Marina Bay Sand หรือเรียกว่า Sands sky park ตอนแรกเดินๆอยู่ฝนก็ตกแต่ตกแปปเดียวโชคดีไป ระหว่างเดินไปก็ชมวิวไปได้เพลินๆ

เดินมาเรื่อยๆ จรถึงสะพานไฟก็ถึงแล้ว Marina Bay Sands

เราซื้อตั๋วมาตามPackageที่บอกไปก็ไม่ต้องรอซื้อตั๋วสามารถขึ้นไปได้เลยค่ะ ชั้น 46 จะมีพนักงานคอยบอกเราอยู่ ตอนไปเกรซก็หาทางขึ้นไปเจอ ใครที่หาไม่เจอก็ถามที่จุด Information ได้เลยนะคะ รับรองว่าขึ้นไปแล้วต้องร้องว๊าววววแน่นอน เพราะเราจะเห็นวิวแบบ Panorama ทั้งสิงคโปร์กันเลย

ชมวิวเสร็จก็ขอมาฟากของอร่อยๆ ทานกันบ้าง วันนี้ขอมาฝากท้องที่ร้าน Din Tai Fung ร้านดังที่นี่กันค่ะ คนกินเต็มทุกโต๊ะ เค้าให้สั่งตั้งแต่หน้าร้านเลยว่าจะทานอะไรบ้าง จัดหนักสิรออะไรเดินเมื่อยมาครึ่งวัน ทั้งไก่ เสี่ยวหลงเป่า เกี๊ยวเจ๊เอาหมดจร๊าาา

กลับที่พักมานอนพักเอาแรงเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับลุยต่อวันพรุ่งนี้ เกรซพักที่ Parc Sovereign Hotel สาขา Tyywhitt นะจ้ะทั้ง 3 คืนเลย ห้องดี ดูแลดี มีสระน้ำ ฟิตเนตพร้อม เรียกว่าครบค่ะ

Day 2: Universal Studio

แหกขี้ตาตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อนที่จะมาสวนสนุก Universal Studio สถานีที่รวมคนทุกวัย ตั้งแต่เด็กยันแก่ 5555 แค่เข้ามาก็รู้สึกถึงความสนุกสถาน และความตื่นเต้นของทุกคนที่ได้เจอตัวการ์ตูนตัวโปรดของเค้ากัน ใครที่จะมาขอให้เพื่อนเวลามาที่นี่ทั้งวันเลยนะ เพราะบางทีอาจจะต้องต่อแถวนาน บางอันเป็นชั่วโมงเลยน้าา

หมดแรงกันเลยทีเดียวหลังจากเล่นสวนสนุกมาทั้งวัน ตกเย็นท้องเริ่มร้องเลยไปหาของกินกันที่ย่านChina Town แต่โผล่ออกมาผิดฝั่ง ในความโชคร้ายก็มักจะเจอแต่ความโชคดี เพราะเดินโผล่มาเจอร้าน Song Fa Buk Kut Teh ร้านบักกุดเต๋ชื่อดังของที่นี่ คนเข้าแถวกันยาวเลย

รสชาติดีงามสมคำล่ำลือ แทะกระดูกมันส์เลยค๊าา สั่งมาลองแค่สองอย่าง รสชาติถือว่าอร่อยนะหอมพริกไทย

อิ่มแล้วก็เดินไป China Town กัน เปิด Maps พาไป 555 สองข้างทางตามถนนเค้าก็ตบแต่งเล่นไฟสวยงามสมกับที่เป็นสิงคโปร์จริงๆ แต่สำหรับเกรซไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่มาเดินเอาบรรยากาศ บวกกับเดินย่อยด้วย แต่ถ้าใครหิวก็สามารถมาหาของทานกันที่ย่านนี้ได้นะคะ

เดินเสร็จก็นั่ง Mrt ไปกินข้าวมันไก่กันต่อตรงแถวถนน Albert ร้านนี้พี่เกรซบอกเลยว่าต้องมากินให้ได้ เพราะว่าไก่เค้าอร่อยมาก ไก่นุ่ม น้ำราดอร่อย

ถือว่ารสชาติให้ สามผ่าน เพราะว่าอร่อยจริงๆ ใครที่สนใจก็มาลองทานกันได้นะ

ราตรีนี้ยังไม่จน มาถึงจุดนี้เท้าจะแตก เมื่อยขั้นสุดแวะมาเดินย่อยก่อนกลับที่พักกันที่ Bugis Street ของขายพียบแต่ท้องกินไม่ไหวแล้ว เลยได้แต่ซื้อขนมของฝากนิดหน่อยกลับไปฝากเพื่อนๆ

Day 3 : วัดเยี่ยไห่ชิง (Yueh Hai Ching Temple หรือ Wak Hai Cheng Bio)

วันนี้ของแบบสบายๆ เพราะเมื่อวานตีนแตกไปเรียบร้อย เลยแอบแวะมาไหว้ขอความรักกับเทพเจ้าด้ายแดงที่สิงคโปรบ้าง555 เพราะล่าสุดไปไหว้ขอพรความรักกับเทพเจ้าด้ายแดงที่ฮ่องกง งมงายขั้นสุด แต่ของแบบนี้ไม่เชื่อก็อย่าล่บลู่นะจ้าาา

ไหว้พระเสร็จก็นั่งMRT มาเดินช็อปปิ๊งกันที่ย่าน Orchard ออกมาปุ๊ปโผล่ที่ห้าง IONเลย แบรนด์เนมเพียบ ของกินพรึบ คือขอบอกว้าที่นี่คือห้างเยอะมากมีทุกตึกเลย ตึกเล็กตึกน้อยข้างในเป็นห้างหมดเลย เลือกเดินไม่ถูกเลย ว่าจะเข้าห้างไหน

ท้องร้องหิวแล้วววว มากินที่ร้าน Kuroson เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ราคาแอบสูงอยู่นะจ้ะ แต่ด้วยการที่เราเดินเข้าไปแล้วมันคงถอยไม่ได้ งั้นลุยเลยละกันเนอะ

เนื้อ A5 มีอยู่ 7 คำ กับราคาที่อยากร้องไห้ แต่เมื่อเทียบกับรสชาติขอบอกว่า ดีงามพระราม8มากจร้า

รีบนั่งรถไฟใต้ดินมา ย่าน Clark Clay แต่ขอแวะมาวัดตันสิชงซู (Tan Si Chong Su Temple) วัดที่มีบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ คนชอบมาขอพรด้านการเงิน เฮงๆ รวยๆ กันก่อน

เดินย้อนกลับมาที่ Clark Clay ย่านที่เต็มไปด้วยอาหาร พับ บาร์ เกรซแนะนำให้มาตอนเย็นๆ นั่งกินไอติมริมแม่น้ำ อากาศกำลังเย็นสบายๆ ถือว่าได้พักเท้าไปด้วยในตัว

ร้านอาหารชื่อดัง Jumbo Seafood ที่ใครมาก็ต้องสั่ง Chili Crab อาหารขึ้นชื่อของร้านนี้ แต่ด้วยความที่กินไปเยอะแล้ว งบหมดเลยหาร้านอื่นเพื่อนที่จะลองกิน Chili Crab ให้ได้

และเราก็ได้พบกัน เดินมานิดหน่อย ก็จะเจอร้าน Macpherson เห็นในพันทิปบอกอร่อยไม่แพง เลยจัดเลย เอาไปเลย 5 ดาว เพราะรสชาติ Chili Crab ดีงามมาก ก้ามปูตัวใหญ่ราดน้ำรสชาตินุ่มนวล ละมุนลิ้นสุดๆ

มาต่อที่ Mustafa Center ย่านคนแขกที่มีขายทุกอย่าง!! สักกะเบือยันเรือรบ มาถึงที่นี่ประมาณ 4 ทุ่มยังครึกครื้นอยู่เลย ขอบอกว่า น้ำหอมถูกมากกก ยิ่งซื้อ 2 ขวดยิ่งถูก แต่ไม่รู้ว่าแท้ไหมนะ บางคนบอกแท้ บางคนบอกปลอม อันนี้แล้วแต่เลยจร้า

Day 4 : Tian Tian Chicken Rice

วันสุดท้ายก่อนกลับ ก็ไม่พลาดที่จะมาลองชิมข้าวมันไก่ชื่อดัง Tian Tian ที่สูตรอาหาร Maxwell คนต่อแถวยาวเยีดประมาณ10-20คิวได้ แต่รอไม่ถึง15 นาทีก็ได้ทานละนะ

รสชาติอร่อยดี ไก่นุ่ม น้ำราดอร่อย แต่ไม่รู้ทำไมชอบร้านแรกมากกว่าสงสัยลิ้นไม่ถึง เพราะเกรซชอบน้ำร้านของร้าน Sing ho hainan มากกว่า กินอิ่มก็บินกลับบ้านเราอย่างสบายใจ คิคิ

จบแล้วสำหรับ Hello Singapore!! 4 วัน 3 คืน กิน/เที่ยว/เสริมดวงครบในทริปเดียว รู้สึกว่าจะเน้นกินเป็นหลักเลยแหละ สำหรับการมาเที่ยวสิงคโปร์ประทับใจตั้งแต่แรกพบ เป็นเมืองที่สะอาด อากาศดี ต้นไม้เยอะ ผู้คนยิ้มแย้ม และมีที่ให้ไปค้นหาเยอะมาก สถานที่แต่ละที่ของเค้าคืออลังการทุกที่การแสดง แสง สี เสียง!จัดเต็ม และการไปสิงคโปร์ทำให้รู้เลยว่าตีนแตกเป็นยังไง เพราะเดินเยอะมากกกก

เกรซสรุปค่าใช้จ่ายคราวๆ มาให้ทุกคนด้วยนะ

-----
ค่าใช้จ่าย
เราพักที่เดียวเลยคือที่ Parc Sovereign Hotel
-ค่าเครื่อง+ที่พัก = 8,000บาท
-ค่ากิน = มหาศาล
-ตั๋ว Universal + Cable Car = 2,100บ. (ซื้อที่ไทย)
-ตั๋ว Gardens by the bay + Marina Bay Sands = 1,050บ. (ซื้อที่ไทย)

เกรซเปลี่ยนจากเพจ Gangster456คำ มาเป็น เพจ ลาลันล้าแล้วน้าาา ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปด้วยน้าา