รีวิวนี้ เราจะพาไปเที่ยวเชียงใหม่กัน แบบ 3 วัน 2 คืน เที่ยวแบบไม่เหนื่อยมากสไตล์เที่ยวไปเรื่อยของเรา เป้าหมายหลักในทริปนี้ ก็เป็นในตัวเมือง เที่ยวคาเฟ่ แถวๆนิมมาน และ ไหว้พระสักหน่อย ก่อนไปก็ทำการบ้านกับเพื่อนอย่างดีว่าจะไปไหนบ้าง เดี๋ยวเรามาลองดูกันว่า จะเที่ยวได้ตามแผนไหม [แต่เดี๋ยวกระทู้แรกนี้จะขอรีวิวในด้านของ โรงแรม กับ เครื่องบิน ล้วนๆก่อน]



วันที่ 1 : ออกจากบ้านเตรียมตัวไปขึ้นเครื่องที่สนามบิน



เครื่องเราออกประมาณ 8 โมงกว่า เลยต้องไปถึงตั้งแต่ 7 โมง นัดกับเพื่อนๆทุกคนว่าให้ไปถึง 7 โมง ทุกคนมาตรงเวลามาก



พอมาถึงก็ไปโหลดกระเป๋า ครั้งนี้เราเดินทางกับสายการบิน Bangkok Airways ซึ่งไฟลท์เวลานี่ถือว่าถูกใจมาก



พอเช็คอิน โหลดกระเป๋าเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็ไปต่อกันที่ Louge ของ Bangkok Airways กันต่อ เพื่อไปหาไรกินรองท้อง มื้อเช้า



ข้างใน Lounge ของที่นี่จะมีอาหาร และ ของกินเล่นของไทย ค่อนข้างเยอะเลย (ปกติถ้าแม่บินแม่จะชอบมาก) เดี๋ยวพาไปดูกันว่ามีไรให้กินบ้าง



พอกินเสร็จ เราก็เตรียมไปขึ้นเครื่องกัน ก็ขอถ่ายรูปแบบชิคๆไว้หน่อย (นั่งบัสไปขึ้นเครื่อง)



ขึ้นเครื่องก็เจอแอร์สาวมายืนต้อนรับอยู่ข้างหน้า ส่วนพวกเราก็มุ่งตรงไปที่ที่นึง



นั่งไปแปปนึงก็มีของกินมาเสริฟ์ ก็กินจนหมดเหมือนเคย



ระหว่างกินเสร็จเผลอหลับไป 15 นาที ตื่นขึ้นมาก็ถึง เชียงใหม่ซะแล้ว



ถ้าชอบรีวิวฝากติดตามเพจท่องเที่ยวของพวกเรากันด้วยนะ



[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/busytraveller/

เข้ามาถึงในเมืองก็ประมาณ 11 โมงละ ตรงไปที่ รร ของเราก่อนที่ U Hotel Nimman นั่นเอง



พอมาถึงก็หารถเข้าไปที่ โรงแรมกันก่อน รอบนี้โชคดีมาถึงมีแบบเหมาๆ 150 บาทไปส่งที่ โรงแรม เรามากัน 4 คน เฉลี่ยแล้วถือว่าถูกมาก



ได้รถตู้มาทั้งคันเลย ไม่ต้องรอเลยด้วย



ลุงขับรถก็ใจดีชวนคุยนู่นนี่นั่น แปปนึงก็ถึงที่พักเราละ



ลุงมาส่งที่ล๊อบบี้โรงแรมเลย เลยแวะถ่ายภาพหน้าโรงแรม ซะก่อน บอกก่อนว่าตอนแรกก็อ่านรีวิวจากใน pantip เนี่ยแหละว่าอยู่ใจกลางเมืองเลย แต่ไม่คิดว่าจะกลางขนาดนี้คือเดินไปหลายๆที่ใกล้มากๆ เดี๋ยววันหลังๆจะมารีวิวว่าเราไปไหนกันบ้าง ใกล้ๆโรงแรม


เมื่อมาถึงก็ไปคุยกับพนักงานที่ Lobby ก่อน ชวนคุยเกี่ยวกับ รร ไปเรื่อยๆ เลยรู้ว่าที่นี่มีจักรยานให้ใช้ฟรี กับ เลือกพวกกลิ่นสบู่ได้




ส่วนพวกเรื่องห้องที่พักได้ 24 ชั่วโมง อันนี้อ่านก่อนมาเข้าพักแล้ว คิดว่า แฟร์กับลูกค้ามากๆ ระหว่างรอจัดห้องสักแปปก็เดินถ่ายรูปเล่นก่อน



หลังจากถ่ายรูปเล่นเสร็จ พนักงานก็เดินมาบอกว่าห้องพร้อมเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปตะลุยห้องกันเลย



ห้องของที่นี่จะมีอยู่หลายรูปแบบเหมือนกัน แต่สไตล์การตกแต่งก็จะ Modern หน่อยๆ ที่ชอบคือการคุมโทนห้อง



สำหรับใครที่ชอบถ่ายรูปนี่คือสวรรค์เลย คือในห้องแต่งออกมาแล้วถ่ายรูปสวยมาก ส่วนพวกริมระเบียงก็มองออกไปข้างนอกได้



ส่วนอุปกรณ์ต่างๆในห้องถือว่าให้มาอย่างครบถ้วนไม่ขาดเลย แม้กระทั่งผลไม้และของกินต่างๆ



ในห้องก็จะมี TV ด้วยนะ แต่ทีวีทันสมัยน่าดู ส่วนตัวชอบทีวีแบบนี้มาก รายการหนังก็มีให้ดูเยอะเลย



ในห้องน้ำก็แบ่งเป็นสัดส่วนได้ดี และ จะมีพวกสบู่แชมพู กลิ่นที่เราเลือกเอาไว้ก่อนหน้านี้ด้วย



ส่วนอันนี้ก็เป็นวิวจากในห้องน้ำ ห้องน้ำก็เป็นกระจกใสเลย ส่วนใครเขินอายก็สามารถรูดม่านลงมาปิดได้



นอกจากในห้องแล้วอยากจะพาไปดูสระว่ายน้ำอันอลังการ วิวเมืองแบบเต็มๆ และ ยังสามารถเอาอาหารเช้าเข้ามากินที่นี่ได้ด้วยนะ



เพราะ ที่นี่เค้ามี Breakfast เมื่อไหร่ และ ที่ไหนก็ได้ อยากกินในห้องนอนก็ได้ สระว่ายน้ำก็ได้ แถมตื่นสายก็ไม่ต้องกลัวด้วย



อาหารที่เราสั่งกันมาก็จะเป็น American Breakfast นั่นเอง แค่โทรไปแจ้งพนักงานพนักงานก็จะเตรียมมาให้ แถมเอามาให้ถึงที่ด้วย



ต่อเนื่องกันกับอาหารกันต่อ เนื่องจากวันท้ายๆตื่นกันไม่ไหว เลยมีการสั่งอาหารมากินในห้องด้วย เซทนี้ก็เหมาะกับการมาเหนือสุดๆ ชุดขันโตกนั่นเอง




ส่วนคนที่ฟิตตื่นเช้า แนะนำให้ไปในห้องอาหารได้เลย บอกได้เลยไลน์อาหารนี่เยอะสุดๆ (เพิ่งไปสิงคโปร์มา อาหารนี่มีแต่ไส้กรอก และ ไข่) อันนี้ถือว่าเติมเต็ม ความสุขช่วงที่หายไปตอนไปสิงคโปร์มากๆ



อันนี้เป็นโซนทีเด็ดเลย สั่งเชฟทำได้หมดเลยพวกไข่ แพนเค้ก วาเฟฟิล



บอกได้เลยว่า อาหารเย็นก็ไม่พลาด เพราะ Buffet 250 บาท เท่านั้น ที่ห้องอาหาร Eat at Rincome กินไม่อั้น ทั้งอาหารไทย ของหวาน เครื่องดื่ม อิ่มแน่นอน อิ่มเสร็จขึ้นห้องไปนอนได้เลย คุ้มไม่รู้จะคุ้มยังไง



หลังจากของคาว เรามาต่อกันด้วยของหวาน และ ผลไม้ล้างปากกันหน่อยดีกว่า


ตบท้ายแบบสุดๆด้วยผลไม้นั่นเองงงงง


ขอจบการรีวิว โรงแรม U nimman chiangmai และ สายการบิน Bangkok Air ไว้เท่านี้ก่อนนะครับ รีวิวหน้าจะพาไปตะลุยคาเฟ่ และร้านกิน ในเชียงใหม่กัน ขอบคุณครับ



ความคิดเห็น