แต่เป้าหมายสำหรับทริปนี้ มีไว้เปลี่ยน ไม่ได้มีไว้พุ่งชน เปลี่ยนเป็นถ้ำ... กองลอ
จากรีวิวครั้งก่อนที่เราไปเซบั้งไฟ เมื่อวันอาสาฬหบูชา ปีที่แล้ว ตามลิ้งค์
http://pantip.com/topic/35071762
ทำให้เกิดมีทริปนี้ขึ้น เนื่องด้วย จำนวนคนเยอะกว่ารถ เราจึงจำเป็นต้องหา Connection เพื่อนใน facebook เอาที่มีรถ มีเอกสาร รถถูกต้อง และต้องมีคนขับ อย่างน้อย 2 คนเพราะต้องขับ 700 Km จากกรุงเทพ - นครพนม ไหนยังต้องข้ามฝั่งไปลาวอีก คนเดียวไม่ไหวแน่ ๆ
รถคันที่ 1 เป็น คาริเบียน ( หนึ่ง ดุย โบ )
รถคันที่ 2 เป็น ฟอร์จูนเนอร์ ( แอน เรย์ คุณครู อาร์ แชมป์ )
รถคันที่ 3 เป็น จิ๊บ ( ออม เอก กฤษณ์ ป้าเงาะ )
เราทั้งหมด 12 คน รถ 3 คัน ก็กำลังดี.....
แผนการเดินทาง ท่าแขกลูพ ( ท่าแขก - ยมมะนาด - นากาย - ท่าลาง - หลักซาว - ถ้ำกองลอ - ท่าแขก ) เป็นวงกลม รวม ราว ๆ 450 Km
วันที่ 11 - 14 สิงหาคม 2559
วันแม่...ซึ่งเป็นวันที่รถติดมาก มากที่สุด ทำให้การเดินทางล่าช้าจาก ตั้งเป้าไว้ ถึงนครพนม 10 โมงเช้า กลับกลายเป็น บ่ายโมง
ตามแผนที่ ด้านล่าง อันนี้ป้าเงาะ วางแผนเอง...คนเดียว...( ค่อยไปเสนอแผนขอความเห็นชอบ ทีมงาน ..ทีหลัง...) ว่าไง ว่าตามกัน
** แผนแรก
ไปถ้ำเซบั้งไฟ งวดนี้กะจะ ทะลุถ้ำเตรียม อุปกรณ์ พร้อม ไฟ เรือ แต่เดือนสิงหาคม ขอโทษ หน้าฝน น้ำเยอะ มีผู้เชี่ยวชาญ ทักท้วง
หลายท่าน รวมทั้ง คุณ จอน เจ้าของ http://www.cavelodge.com/
คุณจอน แนะนำว่า เดือนสิงหา ถ้าไปถ้ำเซ ไม่ได้ ก็ให้ไป
** แผนสอง
ถ้ำ กองลอ บางที ถ้ำกองลอ ก็เข้าไม่ได้ ก็ให้ไปถ้ำ ฮืบ Heup ตามแผนที่
แต่คุณจอน และภรรยา กระตือรือร้น ให้เราไป
** แผนสาม
ถ้ำ Heup ให้ได้เพราะสวยมาก ยังไม่ค่อยมีใครรู้จัก หน้าน้ำเข้าได้สบายมาก แต่ถ้าเป็นหน้าแล้งเรือเข้าไปพายไม่ได้
สวยยังไง ตามนี้เลย ไม่เคยไปเหมือนกัน
http://www.explo-laos.com/Caves/Tham_Heup.html
@@@@ แต่ไอ้เส้นทาง ที่เราไปเพิ่งกลับมานี้ไม่เคยรู้เลย ว่ามันเรียก ท่าแขกลูพ Thakhek Loop @@@@@
The Thakhek Loop is a 450km loop around central Laos
1: Thakhek to Nakai (100 Km)
2: Nakai to Ban Konglor (184 km)
3: Ban Konglor to Thakhek (180 km)
วันที่ 30 ก.ค. 59
มีการซัก ซ้อม ความเข้าใจ ก่อนออกทริป ที่ The Season เนื้อโคขุนโพนยางคำ พร้อมแจก เสื้อทีม......สวยมั๊ยล่ะ ...
เตรียมตัว ออกนอกประเทศ
เราใช้เวลา ในการผ่านด่าน นานมาก เพราะตั้ง 13 คน และ รถ อีก 3 คัน ล่อไปเกือบเย็น คงไม่ได้เที่ยวไหนกันแล้ว
จึงเปลี่ยนแผน พักกันที่ท่าแขกนี่แหละ ไม่ได้ไปกางเต็นท์นอนหน้าถ้ำ อย่างที่ตั้งใจไว้ ทั้ง ๆ ที่เตรียมเต็นท์ กันมาเต็มที่
ยังพอมีเวลาเหลือ เลยขับรถไปที่ถ้ำนกนางแอ่น ก่อน แล้วค่อย กลับ มาเข้าที่พักที่ท่าแขก หลังจากนั้น ก็ออกไปหาอะไรกินที่ food ฝั่งลาวตลาดนัดอาหารนั่นแหละ ทีเด็ด คือ คืนนี้ ......................
......................มีกิจกรรม แดนซ์ ....... ที่.....ต้นตาล ผับ........... โชว์ ลีลา กัน สะเด็ด เผ็ด มันส์ กันเลย
ทั้ง 13 คน บางคนไม่เคยเจอกันเลย
บางคนเจอกันแค่ครั้งเดียว
บางคนเจอแค่สองครั้ง
เขาว่ากันว่า..... การที่คนเราชอบอะไรเหมือน ๆ กัน มักจะมีพลังบางอย่าง ที่ทำให้เราได้มาพบกัน และร่วมเดินทางไปด้วยกัน มันไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ
( เอามาจาก “หมอ ๆ ตะลุยโลก” )
หลังจากเราไปเที่ยวผับมา... ก็มานอนพักที่ โรงแรม สุขสมบูรณ์
บรรยากาศ ตอนเช้า ของเมืองท่าแขก ริมฝั่งโขง
ช่วงนากาย ท่าลาง หลักซาว เรานั่งกันอยู่แต่ในรถ และตื่นเต้นกับการดูวิวสองข้างทางจากที่นั่งของตัวเอง พอมีวิวแปลก ๆ โผล่เข้ามา ในหน้าต่างรถ เราก็หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปที ชี้มือชี้ไม้ให้ดูกันที แม้แต่อยู่ในรถมันก็มีความสุขที่จะได้นั่งดูแต่ก็อดขัดใจลึก ๆ ไม่ได้ เพราะไม่ได้ลงไปเก็บภาพ .......ภาพที่ผ่านเข้ามานั้นแปลกตาดี ที่สำคัญมันเห็นด้วยตาตัวเอง....หนังสือไกด์บุ๊คเล่มไหน ๆ ก็สู้ไม่ได้
ดูเอาแล้วกัน นะต่ะ รูปบางรูป ได้มาจากอินเทอร์เน็ท เพราะเราอยู่แต่ในรถ เพื่อทำเวลา แต่สวยกว่าในรูปอีกค่ะ จริง ๆ ไม่โกหก
ระหว่างทาง บริเวณ เขื่อน น้ำเทิน...
เราจอดพักรถที่บริเวณ เขื่อนน้ำเทิน ทุกคนรีบลงถ่ายรูปให้ได้มากที่สุด.. สวยที่สุด... มาได้แค่ครึ่งทางเอง... เหลือระยะอีกไกล ผ่านตรงนี้ไป ก็จะขึ้นเขาแล้ว คงทำความเร็วไม่ได้ ไม่มีใครในทีม เคยขับเส้นนี้มาก่อน
!!! รถคาริเบี้ยน โดนข่มขืน.... ค่ะ เพราะทุกคน แข่ง กันขึ้นไปถ่ายรูป บนหลังคารถ อย่างเท่ห์...ขึ้นลง ขึ้นลง....ไม่หยุด...ใคร ๆ ก็ชอบรถคันนี้ ...เป็นพระเอก ของทริปนี้ก็ว่าได้
น้องโบ ...ถ่ายรูปคู่ กับเด็ก ๆ น่ารัก ๆ ใส ๆ บริเวณเขื่อนน้ำเทิน
ตรงไหน ของ ลาว แล้วมาโพสต์ในเฟส คนเวียดนาม เข้ามาเม้นต์ ว่า 63 กิโล ก็เข้าเวียดนาม แล้วเป็น "ด่านน้ำพอ" ให้ไปเที่ยวบ้านเค้าเลย...
ฮิ ฮิ ไม่กล้า ไปค่ะ ..... พอขับมาได้อีกสักระยะ ก็จะถึงแยก เลี้ยวขวา ไปเวียดนาม เลี้ยวซ้ายขึ้นเขา ไปถ้ำกองลอ ซึ่งวกกลับท่าแขก...
ตรงนี้ได้ หลายภาพ สวยด้วย แต่รูป ยังไม่ออกจากกล้อง รอหน่อย นะค่ะ
แต่ต้องเป็นรถที่วิ่งได้ ในสภาพแบบนั้นได้ น่าสน ถ้าใครมีรถ แนะนำทางนี้ นะ แล้วมาบอกกัน บ้าง ว่าเป็นยังไง
จากทางแยก หลักซาว เราเลี้ยวขวา มาทางขึ้นเขาตลอด ค่ะ สองข้างทางบางช่วงเป็น น้ำตก บ่อน้ำ หน้าผาหินปูนสวยงาม มาก เราเปิดกระจกรถ ไม่ร้อน ลมเย็น ตลอดทาง สดชื่นมาก บางช่วงมีหินหล่น มาบนถนนด้วย ต้องระวัง จนมาถึงจุดชมวิว เดาเอาว่า เป็นบ้านนาหิน นะ แต่ฝรั่งเรียก จุดชมวิวท่าแขก ลูพ มัน้ำตกด้วย เราแวะถ่ายรูปตรงนี้ มีรถบัส ไปเวียดนาม เป็นระยะด้วย มองเห็น แล้วเป็นรถนอนด้วย เส้นทางนี้คงเป็นเส้นหลักไปเวียดนามผ่านทางด่าน น้ำพอ แน่ ๆ
9
หลังจาก..ถ่ายรูป...จุดชมวิว......จนหน่ำใจ เราก็ขับลงเขา ลงไป ด้านล่าง ข้ามสะพานเหล็ก...ข้ามแม่น้ำ เพื่อไปหมู่บ้าน กองลอ ซึ่งทางเข้า สวยกว่าวังเวียง อีก ณ ชั่วเวลานั้น นะ
เราไปถึง หมู่บ้านกองลอ มืดค่ำ แล้ว เข้าพักที่ Enjoy Boy โฮมสเตย์ ริมน้ำ กลางคืนถ่ายไม่เห็น เลยมาถ่าย ตอนเช้า บรรยาศ สุดฟินที่สุดเลย
อาหารมื้อ ค่ำ ของ เรา......พร้อมกับสาธิต การจุดเตาแก๊ส ซึ่งนำไปเอง
พักผ่อน สมอง กันหน่อย .....
ฝนตกตลอดคืน ก็เป็นห่วงว่า จะเข้าถ้ำได้หรือเปล่า เพราะกระแสน้ำในถ้ำแรงมาก แต่โชคดี เข้าได้ มันก็ยังน่ากลัวอยู่ดี และอันตรายอยู่ไม่น้อย
ทั้งนี้ต้องใส่เสื้อชูชีพ
August 14, 2016
Early morning
Kong lor cave laos
ค่าเรือ
นั่ง 1 คน 110,000
นั่ง 2 คน 120,000
นั่ง 3 คน 130,000
ไฟฉายฟรี
ปากถ้ำอีกด้าน หนึ่งสวยงามมาก
หลังจากที่เราผจญภัยในถ้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกมาหาอะไรกิน ตามมีตามเกิด แล้วแต่ร้านค้าจะมีอะไรขาย พอให้อิ่มทอง
บางคนสั่ง เฟอร์ (ก๋วยเตี๋ยวลาว ) เขียนไม่ถูก เหมือนกัน น้ำยังไม่เดือด เส้นแข็งมาก ก็ต้องกิน ส่วนข้าวเหนียว เค้ายกกระติปข้าวเหนียวให้เรากินเลย เราก็ซื้อเนื้อย่างเป็นไม้กินกับข้าวเหนียว
มีข้าวปุ้น ขนมจีน ด้วย เผ็ดเล็กน้อย
เนื่องจากจะไม่แวะพักที่ไหนแล้วเพราะต้องรีบขับไปถึงด่านเร็วที่สุด และส่งน้องอีก 2 คนขึ้นรถทัวร์ ตอน หกโมงเย็น ไม่งั้นตกรถ
ระหว่างทางทนไม่ไหว ต้องลงหาที่เข้าห้องน้ำข้างทางก่อน เราก็เลือกตรงที่มีเสาหลัก กิโลของลาว แล้วรีบวิ่งไปถ่ายรูป ตอนวิ่งไปถ่ายมันส์ มากค่ะ ต้องทำแข่งกับเวลา วิ่งแบบ 4x100 เลย ผลัดกันวิ่ง ผลัดกันถ่าย แบบไม่ต้องห่วงสวย เพราะเดี๋ยวรถ เจ้แอน (ฟอร์จูนเนอร์ ) จะไล่หลังเราตามมาทัน... มันเลยได้ภาพมา แบบนี้ อย่างน้อยก็ได้ ป้ายท่าแขก สมใจทุกคน ทุกคนหัวเราะ เมื่อเห็นรถ เจ้แอน ตามทัน......ตาสบตากัน แล้วก็หัวเราะกันท้องแข็งเลย
เวลาบ่ายแก่ ๆ
ตอน กลับสู่ไทยด่านนครพนม – กรุงเทพ
เราขับรถมาทางแยกใกล้ ๆ ด่านนครพนม เห็นแม่น้ำโขงน้ำเต็มตลิ่งแล้วไม่เคยเห็นเยอะแบบนี้มาก่อน
ก่อนเข้าด่านเราแวะซื้อของฝากที่ฝั่งลาว จะมีร้านขายของชำใหญ่ อยู่ร้านหนึ่งเข้าไปจอดแวะเข้าห้องน้ำ ซื้อของฝาก บางท่านซื้อเป็นเหล้าขาว เบียร์ลาว ที่นั่นถูกมาก เลือกซื้อตามอัธยาศัย แต่ป้าเงาะ ไม่ซื้อค่ะไม่มีกำลังแรงแบก เพราะต้องไปลงที่บางนาขึ้น BTS มาลงที่หมอชิต แล้วต่อรถตู้เข้าทำงานเลย คงแบกไม่ไหว
จากนั้นเราก็ไปด่านลาวเพื่อทำพิธีการผ่านใช้เวลานานอีกเช่นเคย เสียเท่าไหร่ ไม่ได้จดจำค่ะ เท่าไหร่ก็เท่านั้น ตาม ๆ เขาไป แต่ที่ชัวร์ที่ต้องตรวจสอบ คือ มีการประทับตรา วันที่ออกเรียบร้อยอันนี้สำคัญมาก
จากนั้นก็ผ่านด่านไทย ปรากฏว่ารถ เจ้แอน (ฟอร์จูนเนอร์) ยังไม่ได้ ประทับตราออก ก็ขับต่อไปแล้วเลยต้องโทรแจ้งให้กลับรถมาประทับตราออกก่อน...ไม่งั้นเดี๋ยวมีปัญหาตอนที่จะเข้าลาวอีกครั้ง แน่นอน.....เป็นประสบการณ์นะค่ะ ทุกคนต้องช่วยกันแนะนำ
พอข้ามด่านมานครพนมแล้ว ทุกคนต่างก็มีหนทางของตัวเอง แยกย้าย กันกับ รถทัวร์ บ้าง แวะเยี่ยมหรือหาคนรู้จัก จังหวัดใกล้ ๆ ส่วนป้าเงาะ ก็ตาม น้องหนึ่งหาอะไรกินมื้อเย็นที่ ร้าน ห.นาฬิกา ก่อนเป็นร้านตกแต่งเก๋ๆชิค ๆ ริมน้ำโขง นับเป็นวิวดี สบาย ๆ ถ่ายรูป อัพ เฟส กันตลอด.... พอกินอิ่ม..ก็ขึ้นรถ ตะบึ้ง กลับเข้ากรุงเทพฯ มาเจอกับสังคมเมืองที่แสนจะ Unhappy เวลาที่เรามีความสุขมันช่างน้อยนิดเหลือเกิน แต่เวลาที่เราไม่มีความสุข มันนานแสนนาน และเราก็ต้องทน กับมันด้วย..
ได้แต่ฝันว่า ทริปต่อไปจะต้องมันส์ ขึ้นเรื่อย ๆ ต้องไม่น้อยไปกว่าทริปนี้ ๆ ประสบความสำเร็จกว่า ทริป เซบั้งไฟ ปีที่แล้วว่าดีแล้วนะ ทริปนี้ดีกว่าเยอะเลย.....
Susu Wattananakorn
วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2568 เวลา 14.17 น.