หลังจากปีที่แล้ว พยายามจะเขียนรีวิวตอนไปมาเลเซียกับลูก แต่ไม่เสร็จค่ะ ผ่านมา 1 ปีแล้ว

ทริปนี้เราไปกันที่จังหวัดเพชรบูรณ์ สามีชอบที่นี่ โดยเฉพาะโซนของเขาค้อ เพราะเหมือนแถวบ้านเขาที่วิสคอนซิน และเขาก็มีความฝันมานานแล้ว ว่าอยากจะพาลูกเมียมา Camping กางเต้นท์ ปิ้งย่าง อะไรเทือกนี้

ส่วนตัวดิฉันเอง ไม่เคยไป และตั้งแต่นอนเต้นท์มาสองสามครั้งในชีวิต ไม่เคยมีครั้งไหนสบายเลย 555 แต่ก็อยากไปค่ะ สานฝันให้สามี

เราเลือกช่วงไปเป็นช่วงปลายตุลาคม เพราะปลายฝน ไม่ร้อน และคนยังไม่เยอะเพราะกลัวฝน จริงๆ ถ้าเป็นไปได้ แพทก็แนะนำวันธรรมดาด้วยค่ะ สามีบอกว่า คนเยอะแล้วเสียงดัง แถมถ้าต้องกางเต้นท์ติดๆๆกันมันก็ดูไม่ส่วนตัว บ้านเราชอบเงียบๆ ก็เลยเลือกช่วงนี้ค่ะ

เราออกจากบ้านช่วงที่ลูกกำลังจะนอนกลางวันพอดี ระยะทางดูเหมือนไม่ไกล 390 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาเดินทางนานมากกกก เปิด Google Map ไปค่ะ เป้าหมาย Nong Mae Na, Khao Kho District, Phetchabun อันนี้จะไปถึงที่กางเต้นท์ของเรา ทุ่งแสลงหลวงเนี่ยมันอยู่กลางๆ เชื่อมหลายจังหวัด


เราออกจากบ้าน 10 โมงกว่าๆ ไปถึงเพชรบูรณ์ 5 โมงเย็นค่ะ 8 ชม. ถ้วน พัก 2 รอบ มีลูกไปต้องแวะพักให้เขาเดินเล่น และกินข้าว ไม่งั้นชีวิตจะไม่สงบสุขนะคะ

เรากินข้าวเที่ยงที่สระบุรีค่ะ พยายามไม่ออกนอกเส้นทาง ก็หาร้านที่ไม่ต้องขับออกจากทางหลักเลยไม่ได้ไปตามรอยร้านดังอะไร กินร้านส้มตำคุณเอก อาหารอร่อยดีค่ะ มองร้านเขาจากข้างนอกเหมือนจะเล็ก แต่พอเข้าไปแล้วใหญ่ โล่งค่ะ และก็ไปแวะอีกทีที่โลตัสแถวเพชรบูรณ์เลยค่ะ

อะไรบ้างที่ช่วยให้ลูกนั่งคาร์ซีทอันยาวนานนี้ได้

  1. ออกเดินทางตอนลูกกำลังจะนอนค่ะ เซฟไปได้เกือบๆ 2 ชม.
  2. สตอเบอร์รีอบแห้งค่ะ, แครกเกอร์ (หรือขนมที่ลูกชอบ)
  3. เพลงเด็กต่างๆ
  4. หนังสือนิทาน ของเล่นที่เขาชอบ
  5. อาหารง่ายๆ เผื่อว่าเขาหิวตอนที่เรายังหาร้านกินข้าวไม่ได้ เช่น ไข่ต้ม แครกเกอร์กับบลีชีส นมกล่องเล็ก กล้วยค่ะ เพราะระหว่างทางบางทีก็หาร้านกินข้าวยาก โดยเฉพาะถ้าเราพยายามไม่ออกนอกเส้นทาง

พอไปถึงเพชรบูรณ์ มัน 5 โมงแล้ว เราตัดสินใจตั้งแต่ก่อนจะถึงแล้วค่ะ ว่าคงไม่ขึ้นเขาวันนี้ ถ้าขึ้นไปคงจะมืด ลำบาก กางเต้นท์อีกอะไรอีก ก็เลยหาที่พักแถวๆ ในเมืองนอนไปก่อน ใช้ GOOGLE ก็เจอที่นี่ค่ะ

ที่พักเพชรบูรณ์ โรงแรมแทมมารินด์ เพลส
115 หมู่ 2 สะเดียง เมือง Chang Wat Phetchabun 67000
065 269 2829
https://goo.gl/maps/1D8B2qF38zL2

รีวิวดี มีแต่คนชม โทรไป ราคาคืนละ 400 บาท 555555 ชอบอะ ถูกด้วย ก็เลยจะนอนที่นี่ ไปดูห้อง ห้องกว้าง สะอาด ใหม่ สมคำล่ำลือ

ส่วนตัวเราคิดว่า ที่พักแถวนี้ถูกอยู่แล้ว มันก็ราคานี้ทั้งนั้น เขาก็ต้องแข่งกันที่คุณภาพ คืนแรกเราก็เลยนอนโรงแรมนี้ และก็ไปกินข้าวที่โลตัสค่ะ มันอยู่แถวที่พักอะแหละ ใครจะซื้ออะไรสำหรับแคมป์ มาซื้อโลตัสนี้นะคะ จะใหญ่สุดแล้วมั้งของจังหวัด (เท่าที่เห็นตอนขับผ่านๆมา)

พอเช้าวันรุ่งขึ้น เราก็ออกเดินทางขึ้นเขาค่ะ ทางก็คดเคี้ยวพอสมควร แวะฟาร์มสตอเบอร์รี่ได้นะคะ ผู้คนใจดี เราแวะกินข้าวเช้าระหว่างทางบนเขานั้นแหละ พอดีสามีอยากจะโกนหัวขึ้นมา และป้าที่ฟาร์มเขาบอกว่าให้มาตัดแยกนี้ เลยกินร้านนี้ค่ะ เปิดเช้ามาก จริงๆถ้าไม่เน้นปิ้งอาหารเอง ขับมากินแถวนี้ก็ได้นะ 555 ไม่ลำบาก

Malee Restaurant
Khao Kho, Khao Kho District, Phetchabun 67270
086 216 3225 https://goo.gl/maps/UnGK3n26MTC2


(หน้าร้านมีวัวแบบนี้ค่ะ)

เราใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ในการขับขึ้นเขามาที่หนองแม่นา


****อย่าลืม!!!! เติมน้ำมันก่อนขึ้นเขาด้วย**** หรือรีเสิร์ชว่ามีปั๊มตรงไหนบ้างบนเขาค้อ เราเห็นมีแต่ปั๊มเจ๊งแล้วอะคะ 555


พอมาถึงจะเห็นป้ายอุทยานทุ่งแสลงหลวง หน้าปากซอยค่ะ จะมีร้านขายทุกสิ่งที่ท่านต้องการ เบอร์โทร 089 858 5813 (แกะมาจากรูป น่าจะใช่นะคะ) สำหรับการปิ้งย่าง มีแม้กระทั่งเตาให้ยืม น้ำขวดใหญ่ ถ่าน น้ำแข็ง ผัก ดังนั้น ก่อนไป โทรไปเช็คร้านนี้ ถ้าเขาเปิด ไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรไปก็ได้ค่ะ ไปเช่าเอา ถ้าไปวันอังคาร ตอนเย็นมีตลาดนัดด้วยนะ

***แนะนำให้ซื้อหมู ไก่ หั่น หมักไปให้เรียบร้อย เพราะหมูไก่ที่ตลาดอาจจะไม่ถูกจริตคนกรุงแบบเรา โดยเฉพาะยามที่เราไม่มีอุปกรณ์ และก็อกน้ำ***

พอเข้าไปถึงจุดกางเต้นท์ แวะที่จุดบริการนักท่องเที่ยว จ่ายเงินค่าที่กางเต้นท์ ใครจะเช่าเต้นท์ เช่าถุงนอน ฟูกรองนอนเขาก็ได้ แต่ส่วนตัวเราชอบเอาเต้นท์ ถุงนอน ผ้าห่ม มาเองมากกว่า เราชอบให้มันหอมๆ อะคะ การนอนเต้นท์ จะสบายขึ้น ถ้าเรามีฟูกรองนอน ซื้อเองก็ได้ หรือจะไปเช่าก็ได้ 20 บาทค่ะ

พอเรากางเต้นท์กันเสร็จ สามีก็ชวนไปปั่นจักรยานค่ะ เช่าเขาเอา จำไม่ได้ราคาเท่าไหร่ น่าจะชั่วโมงละ 100 บาท หรือยังไงเนี่ย แต่อย่าไปเช่าเลยค่ะ เหนื่อยมาก เพราะจักรยานไม่ได้เหมาะกับการขี่ขึ้นเนิน 5555 ปั่นไป 15 นาที เหนื่อย หมดพลังทั้งวันทันที และตอนเราปั่นมันเที่ยงๆด้วย โห ร้อนค่ะ




พอร้อนก็เลยออกไปขับรถเล่นบริเวณเขาค้อ เขาบอกว่ามีน้ำตกไกล้ๆ เราก็คิดว่าแบบเล่นน้ำได้ พอไปถึง โห ลงไปคงตายแน่เลย เหมือนเอาไว้ชมวิวเฉยๆ



หลังจากนั้นก็กลับมาที่แคมป์ค่ะ แวะบอกเจ้าหน้าที่ว่าอยากออกไปส่องสัตว์กลางคืน จำไม่ได้ว่าราคาเท่าไหร่ น่าจะ 600 บาท สำหรับการนั่งรถกระบะออกไปประมาณ 40 นาที ถ้ามีคนอื่นมาหารก็ได้นะคะ อาจจะบอกเขาไว้เลย

หลังจากนั้นเราก็กลับมาก่อไฟกันทำกับข้าวกัน


ไปซื้อแอลกอฮอลก้อนมาจากแมคโครค่ะ ก้อนใหญ่ ไฟแรงมาก จริงไม่ต้องมีฟืนก็ได้นะคะ 555 ถ้าใครมีฝีมือในการก่อไฟก็ไม่จำเป็นต้องมีค่ะ


มีแตงโมจากตลาดลูกละ 20 ข้าวสวยกระป๋องเอามาอุ่นก็อร่อยดีค่ะ หมูฝอยนี่โอเค กินง่ายมาก ไข่ดาวไม่แนะนำค่ะ จริงๆอะไรที่ต้องใช้อุปกรณ์พวกกระทะกับหม้อ ไม่แนะนำให้ทำกินเลยค่ะ ล้างลำบาก ควรเอาอะไรที่แบบ วางลงไปปิ้งได้เลยมาดีกว่า เช่น หมู ไก่ หมักมาแล้ว วางย่างได้เลยเป็นต้น

อ่านนิทานก่อนนอนอย่างทุรักทุเล

อ้อ อย่าลืมมาถึงแคมป์แล้วรีบทา ฉีด แปะ ยากันยุงไว้เลยนะคะ ทั้งพ่อแม่ลูก จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องยุง ทาซะตั้งแต่ตอนยังไม่มืด และทาอีกเรื่อยๆ ค่ะ

ประมาณทุ่มกว่าๆ เราก็ไปส่องสัตว์กัน เอาลูกใส่เป้อุ้ม แต่ลูกหลับค่ะ 555555555 ข้อเสียของเด็กนอนเร็ว ก็เจอกวางอยู่สี่ห้าตัว ก่อนมาเจ้าหน้าที่ก็บอกแล้วว่าจะไม่ค่อยเห็นอะไร เพราะหญ้าสูง ฝนตก ถ้าหน้าร้อนจะเห็นเยอะกว่านี้ค่ะ





ตอนเช้าเราก็ไปกันอีกค่ะ 5555 ไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ให้เจ้าหน้าที่เขาพาไป ราคาเท่าเดิม ออกกันตั้งแต่ตีห้าครึ่ง ซึ่งไม่เป็นปัญหาเพราะว่าลูกตื่นเช้าอยู่แล้ว



ทางเละมาก เพราะว่าฝนตกเมื่อวันก่อน อันนี้แพทไม่แน่ใจว่าถ้าเรามีรถกะบะมาเอง เราก็ไม่ต้องจ้างก็ได้หรือป่าวนะคะ ถ้ายังไงก็ลองไปถามดู



พอพระอาทิตย์ขึ้น หมอกก็เริ่มจางไปค่ะ




ตัวช่วยที่ทำให้ผ่านโคลนตมมาได้


อันนี้ระหว่างลงกลับมาที่แคมป์ค่ะ หมอกก็ยังเยอะอยู่





พ่อจับตั๊กแตนมาให้ แต่ลูกกลัว 555



หลังจากลงมาจากการดูพระอาทิตย์ เราก็มากินซีเรียลกับนมและก็กล้วยเป็นอาหารเช้าค่ะ โอเคเลย ระดับความง่าย และน้ำแข็งในถังโฟมก็ไม่ละลายเท่าไหร่ ใช้ได้ดี



เนื่องจากต้องขับรถนานหลายชั่วโมงเราจึงแพลนกันว่า จะเริ่มเก็บของและก็ขับรถกลับตอนบ่ายๆ
ระหว่างนั่งเล่นช่วงเช้านี้ เจอทากด้วยค่ะ ดิฉันจะเป็นลม มันเกาะรองเท้าลูกอยู่ ดังนั้นการใส่รองเท้าผ้าใบ+ถุงเท้า กางเกงขายาว จึงจำเป็นมากในการมาแคมป์ 55555




สำหรับใครที่อยากอยู่มากกว่า 1 คืน แนะนำให้จองบ้านพักด้วยค่ะ คืนแรก นอนเต้นท์ คืนที่ 2 นอนบ้านพัก จะได้อาบน้ำอย่างสบายใจ และส่วนตัวเราคิดว่า คืนเดียวนี่ก็พอแล้วนะ กับประสบการณ์การนอนเต้นท์ ลูกก็ชอบค่ะ เขารู้สึกเหมือนบ้านหลังเล็ก



เอาละ มาถึงสิ่งที่เราแนะนำให้เตรียมไปสำหรับกางเต้นท์

  1. ผ้ายางพลาสติกปูพื้น(สีฟ้าๆ) สำหรับปูพื้น 1 แผ่น ปูได้กว้างกว่าเต้นท์นะคะ เอาไว้นั่งเล่นก็ได้ และอีกแผ่นสำหรับขึงเป็นหลังคา กรณีฝนตก เต้นท์เอาไม่อยู่
  2. ถังน้ำ/กะละมัง สำหรับใส่น้ำที่เอาไว้ใช้ล้างมือ
  3. ของเล่นพวกว่าว เปลยวน ก็น่าสนใจค่ะ
  4. ไฟฉายหลายอันให้ครบคน ไม่งั้นจะไปไหนกลางคืนต้องไปพร้อมกัน
  5. โคมไฟ สำหรับส่องสว่างบริเวณเต้นท์ตัวเอง ส่วนตัวคิดไม่ถึง ไม่ได้เอาไป ก็เอาไฟฉายมาห้อยๆ เอาค่ะ
  6. หมอน! พบว่ามันจำเป็นยังไงไม่รู้ มันนอนไม่สบาย เวลาไม่มีหมอน
  7. ผ้าปู ผ้าห่ม ฟูก เอาไปให้นอนแล้วสบาย
  8. จาน ช้อน ถ้วย แก้วแบบใช้แล้วทิ้ง เพราะเอาจริงๆ เรามักจะทำอะไรกินแค่มื้อสองมื้อเท่านั้นค่ะ อย่าเตรียมของทำกินไปเยอะ! เพราะมันจะกินไม่หมด
  9. เสื้อผ้า เราแนะนำให้เอาทั้งกางเกงขาสั้น ขายาวแบบไม่ร้อน เสื้อแขนสั้น แขนยาว ฮูดดี้ ถุงเท้า รองเท้าผ้าใบ รองเท้าเตะ คือ เตรียมไปพร้อมกับทุกอากาศปรับเปลี่ยนถอดเข้าออกได้ ถ้ากะจะอาบน้ำนี่ เราว่ามันเย็นมากเลยนะคะ ควรเอาหม้อไปต้มน้ำค่ะ 5555
  10. ยาผู้ใหญ่ แก้ปวดหัว ยาแก้ท้องเสีย ยาเบสิคของเด็กแบบที่ชะลอไม่ให้เราต้องรีบไปโรงพยาบาล เช่น พวกลดไข้ เบตาดีน น้ำเกลือล้างแผล ที่ปิดแผล
  11. อาหารง่ายๆ แนะนำพวกซีเรียล นม กล้วย แอปเปิ้ล มาม่า ขนมปัง เอาอะไรที่ปิ้งแล้วกินได้เลยพวก ข้าวโพด มันหวาน จะฟินมากค่ะ ที่นั่นไม่มีข้าวโพดขายเลยค่ะ ถ้าเราไม่ออกไปเที่ยวไหน อยู่ที่เต้นท์ทั้งวัน เราก็จะกินเป็นส่วนใหญ่ค่ะ มันทำได้อย่างเดียว 5555
  12. อุปกรณ์ป้องกันทาก เผื่อเจอ! ยิ่งตอนหน้าฝนๆ นี่ตัวดีเลย
  13. สเปรย์กันยุงเด็ก ครีมทากันยุง ครีมทาหลังโดนยุงและแมลงกัด
  14. หนังสือนิทานลูก

    จบแล้วค่ะ นี่เขียนมาเป็นอาทิตย์นะเนี่ย กว่าจะจบ

Panida Thepros Carroll

 วันพฤหัสที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 17.46 น.

ความคิดเห็น