ทุ่งโปรงทอง ปากน้ำประแส * ระยอง *

ระยอง ไม่ได้มีแต่ "ทะเล"

แต่ยังมีทั้งสถานที่ท่องเที่ยว ธรรมชาติ และชุมชน
ที่สวยงาม น่าสนใจ ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน

บ้านประแส อำเภอแกลง จ.ระยอง
มีชุมชมริมน้ำเก่าแก่ นับร้อยปี ที่ยังคงรักษาเสน่ห์ของชุมขนไว้ได้อย่างครบถ้วน

ชุมชนริมน้ำบ้านประแส

มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่เป็น unseen มาแรง อย่าง

" ทุ่งโปรงทอง "

พิกัดเที่ยวที่สวยงามน่าประทับใจ จนอยากบอกไว้เลยว่า
ใครมาเยือน จังหวัดระยอง ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

โลเคชั่น #ทุ่งโปรงทอง ปากน้ำประแส ที่เราตั้งไว้ใน Google Maps

เหมือนไม่น่าจะไปยาก! แต่ว่า...ยากค่ะ เพราะถนนที่อากู๋พาเข้าไป
ยิ่งขับ ยิ่งแคบลงเรื่อยๆ เหมือนจะวนเข้าบ้านใครซักคนซะงั้น

เพื่อความสบายใจ เราก็เลยหันไปหาคุณลุงรถพ่วงใจดี

ที่ยิ้มขำๆ ขับตามหลังเรามา ( น่าจะรู้แน่นอนว่าอีสองคนนี้หลง 555 )
ให้ช่วยพาไปหาที่จอดรถ แล้ว...ช่วยพาเราเที่ยว แบบนี้...น่าจะสบายใจสุด

ความจริงก็เป็นไปตามแผนที่วางไว้แต่แรก

เพราะ รถพ่วง คือซิกเนเจอร์ ของบ้านประแส

ที่เราตั้งใจไว้แต่แรกอยู่แล้วว่า ถ้าเข้าไปถึงลานจอดรถได้
ก็จะจ้างรถพ่วง วิ่งพาเที่ยวตามจุดต่างๆ

เพียงแต่...เราไม่สามารถไปถึงลานจอดรถด้วยตัวเองได้...ก็เท่านั้นเอง ^_^
งานนี้เลยต้องฝากทริปบ้านประแสไว้กับ ไกด์ท้องถิ่นไปยาวๆเลย

ตกลงราคาค่าจ้างเหมาจ่าย คุณลุงคิด 200 บาท สำหรับ 2 คน

จากลานจอดรถใกล้กับเรือรบหลวงประแส คุณลุงพาเรามาที่ ทุ่งโปรงทอง เป็นที่แรก
ที่นี่ ห้ามขับรถส่วนตัวเข้ามา เพราะถนนแคบมาก

แต่จะมีรถพ่วง ที่คุณลุงคุณป้า ชาวบ้านประแส ขับรถรับส่งจากลานจอดรถ
มาที่ ท่าเทียบเรือบ้านแสมผู้ จุดเริ่มของทางเดิน
เข้าไปยัง ทุ่งโปรงทอง คิดแค่คนละ 5 บาทเท่านั้น

บริเวณสะพานไม้ จะมีเรือรับจ้างจอดให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่
สามารถนั่งเรือล่องแม่น้ำประแส ชมวิวป่าชายเลน ออกไปจนถึงปากแม่น้ำ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง

ถึงแม้ป่าชายเลยที่อุดมสมบูรณ์ สูงลิบทอดยาวเป็นอุโมงค์
มีแสงแดดสาดรอดลงมา จะสวยงาม ราวกับป่าไผ่เมืองญี่ปุ่น
แต่ตัวสะพานไม้ ก็ทรุดโทรมผ่านการใช้งานมาหนัก ค่อยๆเดินกันไปค่ะ

เราเดินไปตาม สะพานไม้ศึกษาธรรมชาติ ที่ทอดยาวผ่านความสมบูรณ์ของป่าชายเลน
สองข้างทางเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด ปกคลุมร่มรื่นตลอดทาง
ประมาณเกือบ 300 เมตร ก็ทะลุออกมาเจอแสงแดดที่แผดจ้า

ณ " ทุ่งโปรงทอง "

ทุ่งโปรงทอง จะสวยที่สุด
ในเวลาใบสีเหลือง สีเขียวอ่อน สะท้อนแสงแดด

ยังไม่เที่ยง คนยังไม่เยอะ

แดดร้อนมาก...และไม่มีที่ให้หลบแดดเลย

แต่ความสวยงามตรงหน้า ก็ทำให้เราลืมความร้อนไปได้

ต้นโปรงที่ขึ้นหนาทึบ เบียดเสียด สีเขียวอ่อน ทองอร่าม สะท้อนแดดตรงหน้า
แน่นขนัด ปกคลุมไปรอบทิศ วิว 360 องศา

งามจับตาจับใจ สมกับที่ชาวบ้านขนานนามว่า " ทุ่งโปรงทอง " จริงๆ

ถ่ายรูปจบ เดินกลับมาทางสะพานไม้เส้นทางเดิม ที่คุณลุงจอดรถรออยู่
แวะเติมพลังเล็กน้อย กับสูตรพิเศษทอดมันประแส

แล้วก็ไปต่อกัน ที่ วัดตะเคียนงาม
ที่มี ต้นตะเคียน อายุราวๆ 500 ปี อยู่ 2 ต้น
ทั้งคู่ชาวบ้านเรียกเป็น ต้นเจ้าแม่ กับ เจ้าพ่อ
วัดโดยรอบได้ประมาณ 7.40 เมตร ซึ่งชาวบ้านที่นี่นับถือว่าศักดิ์สิทธิ์มาก

ตามป้ายประวัติ ที่ท่านเจ้าอาวาสบันทึกไว้ เล่าว่า
สมัยโบราณ ต้นตะเคียนสองต้นนี้ เหมือนเป็นสัญญลักษณ์
ให้ชาวประมง ใช้เป็นจุดสังเกตุ เพื่อให้นำเรือกลับเข้าฝั่ง อย่างปลอดภัย

ไปอีกไ่กลนัก คือ ศาลสมเด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่ชุมชนประแส เป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองระยอง
ที่ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำประแส
ภายในศาลประดิษฐานรูปหล่อเท่าองค์จริงของ
พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพร เขตรอุดมศักดิ์
พระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย

ทีนี่จะ เปิดให้เข้ากราบสักการะ กันตั้งแต่ 7.00 - 18.00 น.

คุณลุงลัดเลาะพาเข้าถนนชุมชน ที่เราหลงขับวนเข้ามาตั้งแต่ครั้งแรก
นั่นคือที่ตั้งของ ชุมชนบ้านเก่าริมน้ำประแส

ป้ายเด่นสุดพอๆกป้ายชุมชม หรือป้าย ร้านเจ๊หน่องแซ่บเว่อร์
แต่แซ่บจริงมั้ย รอบนี้ยังไม่ได้ชิมค่ะ เดี๋ยวๆๆ รอรอบหน้าเถอะจะไปทดสอบมาเล่ากัน

ชุมชนริมน้ำประแส เป็นชุมชมเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยอยุธยา
มีท่าเรือประมงขนาดใหญ่ ชาวบ้านทำประมงพื้นบ้าน เลี้ยงปลาเก๋า ปลาในกระชง และเริ่มพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน บ้านไม้เก่าแก่ที่เรียงรายอายุนับ 100 ปี ปรับเปลี่ยนเป็นโฮมเสตย์ ให้นักท่องเที่ยว ได้เข้ามากินมานอน สัมผัสวิถีชาวบ้านปากน้ำประแส

เสียดายรอบนี้ โฮมสเตย์ในหมู่บ้าน ถูกจองเต็มหมด
แต่โอกาสหน้าเราจะกลับมาอีกแน่นอนค่ะ

แล้วรถพ่วงวิ่งนิ่มๆ ของคุณลุง ก็พาเราข้าม " สะพานประแสสิน " ที่ทอดยาว
แล่นไปจอดกลางสะพาน ถ่ายรูป ชมวิว แม่น้ำประแส ที่สวยงาม

แล้วก็ถึงจุดสุดท้าย ของพิกัดท่องเที่ยว บ้านประแสของเรา

เรือรบหลวงประแส ที่ ชายหาดดำ

เรือรบหลวงปลดระวาง ที่ชาวบ้านขอจากทางการ
มาไว้เป็นเกียรติประวัติ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชุมชม
ที่นี่...เราสามารถเดินขึ้นไปบนเรือรบ เพื่อชมรายละเอียดของตัวเรือได้เลย

ปิดทริปโดยไกด์ผู้ใจดี คุณลุงก็พาเราไปส่งที่รถ
ที่ลานจอดรถใกล้กับเรือรบ และ วงเวียนประแส
ให้เราได้เก็บภาพวงเวียนดอกดาวเรือง ที่ชาวประแสร่วมกันปลูกเป็นที่ระลึก
เพื่อในหลวงรัชกาลที่ ๙ ผู้เป็นแรงบันดาลใจแห่งวิถีชุมชน วิถีพอเพียง

บ้านประแส...ยังมีอีกหลายสิ่ง ที่พลาดไป
รอบหน้า ถ้าของโฮมสเตย์ที่นี่ได้ เราคงได้กลับมาอีกครั้ง
และเราคงบอกเล่าเรื่องราวของชุมชนประแส ได้สนุกยิ่งกว่านี้

ไว้รอพบกันรอบหน้านะคะ คุณลุง ^_^