ทริปนี้เกิดขึ้นเพราะเห็นช่างภาพชาวญี่ปุ่นมาถ่ายรูปสร้าง profile ที่นี่ ก็เลยอยากรู้ว่าที่นี่มีอะไรถึงดึงดูดช่างภาพชาวญี่ปุ่นที่ลงทุนแบกกล้องฟิล์มและม้วนฟิล์มมาจากญี่ปุ่น และอีกประเด็นก็อยากสัมผัสชุมชนในมุมนักท่องเที่ยวจริงๆ บ้าง อยากสัมผัสวิถีชีวิตของชาวปกาเกอญอนับถือศาสนาคริสต์ที่บ้านห้วยฮี้สักครั้ง บ้านห้วยฮี้มีกลุ่มท่องเที่ยวชุมชนอยู่ การเข้าพักเป็นแบบโฮมสเตย์อย่างแท้จริง คือ พักบ้านเดียวกับชาวบ้าน ไม่สามารถเลือกบ้านเองได้ทางชุมชนจะหมุนเวียนไปแต่ละหลังที่เข้าร่วม และจัดให้เหมาะกับจำนวนของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาพัก และอีกอย่างที่อยากมาที่นี่ก็คือดอยปุย สามารถติดต่อท่องเที่ยวในชุมชนและขึ้นดอยปุยบ้านห้วยฮี้ที่เพจของชุมชนโดยตรง https://www.facebook.com/cbt.huayhee/


หลังจากติดต่อนัดหมายเป็นที่เรียบร้อยก็รอคนที่ชุมชนลงมารับที่ร้านกาแฟคอฟฟี่มอร์นิ่ง ด้วยความที่ไปคนเดียวก็เลยใช้มอเตอร์ไซค์ในการขึ้นไปยังชุมชนบ้านห้วยฮี้ ช่วงแรกทางดีมาก แต่ก็ไม่กว้างสำหรับรถสวนแบบสบายๆ ต้องหลบกันบ้าง สักพักพอเริ่มไต่ขึ้นเรื่อยๆ ทางก็เริ่มเป็นลูกรัง และมีหลายจุดเป็นโคลนแบบดินแดงแฉะๆ ขาขึ้นพูดตรงๆ ว่ากลัวไม่กล้าหยิบมือถือมาถ่ายรูป (เคยมีประสบการณ์มอเตอร์ไซค์ล้มไหลลงเขาที่แม่ฮ่องสอนมาแล้วก็เลยยังเกรงๆ อยู่) ใช้เวลาในการซ้อนมอเตอร์ไซค์ประมาณ 1.5 ชั่วโมง คนขับขี่เก่งมาก พอมาถึงบ้านที่เราได้พักก็เก็บของ นั่งจิบน้ำอุ่นที่ระเบียงหน้าบ้าน

ห้องนอนที่ชุมชนจัดให้สามารถนอนได้เป็นสิบคนแต่มีเรานอนคนเดียว

สักพักก็ออกมาสำรวจบริเวณรอบบ้านที่เราพักสักหน่อย มารู้ว่าเราได้นอนบ้านชิมู เป็นหัวหน้ากลุ่มท่องเที่ยวชุมชนบ้านห้วยฮี้


สักพักมีไกด์หนูน้อยมาพาเที่ยว เดินทั่วรอบๆ หมู่บ้าน มุดเข้าบ้านคนนั้นคนนี้ สนุกกันทั้งไกด์หนูน้อยและเรา


ไกด์หนูน้อยเด็ดฝรั่งมาให้กินแบบจุใจมาก มีต้นกาแฟด้วย

มุดต้นไม้เข้ามาในเขตบ้านน้องมาเลี้ยงปลากัน


เดินขึ้นโบสถ์ประจำหมู่บ้านด้วย ด้านบนก็เป็นมุมชมดอยปุยบ้านห้วยฮี้ที่เราจะไปนอนวันรุ่งขึ้น

เดินรอบเล็กรอบหมู่บ้านห้วยฮี้แล้วไกด์หนูน้อยก็ไปนอนกลางวัน ก่อนแยกกันก็เซลฟี่กันสักนิด


จากนั้นออกมาเดินรอบใหญ่ขึ้น ถนนกลางหมู่บ้านที่ขึ้นมาจากเมืองไปที่หมู่บ้านห้วยตองก๊อ


จากริมถนนถ่ายลงไปที่บริเวณบ้าน


เดินต่อไปที่ทางขึ้นดอยปุยเส้นทางนี้ประมาณ 4 กิโลเมตรกว่าๆ เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่สวยแต่เราไม่ได้ไป เวลาไม่เอื้ออำนวย


ถึงเวลาต้องกลับมาอาบน้ำแล้ว บอกเลยต้องรีบอาบก่อนแดดหมด น้ำธรรมชาติเย็นมาก อากาศก็เย็นจนหนาว มื้อเย็นที่บ้านโฮมสเตย์จัดให้ เยอะมาก แถมมะละกอให้อีก 1 ลูกแต่กินไม่ไหวแล้ว กับข้าวอร่อยดีทุกอย่างออแกนิกหมดเพราะปลูกเอง ไข่ก็ได้มาจากไก่ที่เลี้ยงไว้ ข้าวก็ปลูกเอง


พอแดดหมดอากาศก็หนาวขึ้นเรื่อยๆ ไฟฟ้าที่นี่ได้จากโซล่าเซลล์ ถ้าแดดดีก็จะสามารถดูทีวีได้ ถ้าแดดไม่ดีไม่เกิน 2 ทุ่มไฟจะตัดแล้ว ที่ตัวหมู่บ้านไม่มีสัญญาณมือถือทุกค่าย บ้านพ่อหลวงบ้านต่อเสาเองจะใช้ได้


รุ่งขึ้นตื่นมาท่ามกลางอากาศหนาวมาก วันนี้จะขึ้นดอยปุยบ้านห้วยฮี้ ชิมูบอกขึ้นตอนบ่ายจะได้ไปดูอาทิตย์ตกพอดี ช่วงเช้าจนถึงเที่ยงก็นอนเล่นริมระเบียงบ้านไปจนเที่ยง มื้อเที่ยงก็จัดอาหารมาให้เยอะเกินสำหรับกินคนเดียว


แยกกระเป๋าเอาแต่อุปกรณ์กันหนาวขึ้นไป เราไม่มีเต็นท์มาให้ทางชุมชนจัดเตรียมไว้ให้ ถึงเวลาก็ซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปจุดขึ้นที่ห่างจากตัวหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร จุดนี้เดินใกล้หน่อยประมาณ 2 ก.ม. กว่าๆ ระยะทางแค่นี้กับทางชันขึ้นเขาเล่นเอาเหนื่อยมาก 40 นาทีที่พักแล้วพักอีก ทางเดินก็ประมาณนี้


ไกด์ชุมชน 2 คนที่จะดูแลพาขึ้นยอดดอยปุย พาเที่ยวชมรอบๆ ดอยปุย ทำอาหาร หาน้ำ หาฟืน และเป็นลูกหาบด้วย


มาถึงจุดพักแรมแล้ว ตรงนี้มีศาลาที่สร้างไว้ มีห้องน้ำ จุดสำหรับจุดไฟ 2 จุด ชิมูบอกว่ามีคนแอบขึ้นมาเองแล้วจุดไฟที่ศาลา จนไฟไหม้ไม้ฐานศาลาไปด้วย อย่าจุดไฟที่ศาลาเลยถ้าไหม้อาจไหม้ป่าด้วยนะ ติดต่อชุมชนให้ไกด์ท้องถิ่นมาดูแลจัดหาสิ่งต่างๆ ให้เราเถอะ


ระหว่างรอเวลาเพื่อลุ้นให้ฟ้าเปิดจะได้ไปดูอาทิตย์ตกเราก็เดินย้อนทางเดิมเพื่อมาหามุมถ่ายรูปเล่น


และแล้วฟ้าก็ไม่เป็นใจปิดสนิทเลย ครึ้มมากๆ ระหว่างรอมื้อเย็นง่ายๆ ที่หนุ่มๆ เตรียมให้ก็เดินหามุมถ่ายรูปต่อ


เริ่มหนาวมากจนต้องมานั่งจิบชารอบกองไฟ


มื้อเย็นง่ายๆ แต่อร่อยก็มาในรูปใบตองที่ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ


กินอิ่มแปรงฟันแล้วมุดเข้าเต็นท์นอนทันที หนาวมากจริงๆ ถุงนอนเอาไม่อยู่ ส่วนไกด์ท้องถิ่นเขานอนรอบกองไฟนั่นแหละ เขาบอกอุ่นกว่าเข้าไปนอนในกระท่อมที่เก็บของ

รุ่งขึ้นเราตื่น 5:30 ตั้งใจจะขึ้นยอดดอยปุย ไปรอชมอาทิตย์ขึ้น เริ่มเดินขึ้นกันตอน 6 โมงนิดๆ ระหว่างทางลมหนาวพัดแรงตลอดทาง พอถึงด้านบนชิมูบอกอาจไม่เห็นอาทิตย์ขึ้น ฟ้าปิด หมอกฟุ้งมากๆ ถ้าได้ลมแรงๆ ช่วยอาจได้ลุ้น แค่นี้ก็หนาวกันจะแย่แล้ว มีลมแรงมาอีกคงไม่ไหว ถึงฟ้าไม่เปิดก็ได้บรรยากาศท่ามกลางไอหมอก สวยไปอีกแบบ

ก่อนเดินลงก็เหมือนกับฟ้าจะเปิด แต่ก็ไม่เปิด ไม่เป็นไรเดี๋ยวมาใหม่ก็ได้


ลงมาถึงก็ได้ห่อข้าวมาอีก 1 ห่อ ห่อใหญ่อัดแน่นอิ่มยันบ่ายจริงๆ

หนุ่มๆ ลงครัวกัน มืออาชีพกันมาก ไม่นานก็ได้กินมื้อเช้าท่ามกลางอากาศหนาวมาก ผิงไฟไปด้วยถึงช่วยได้เยอะ


วันที่เราขึ้นไปนอนมีกลุ่มพี่ๆ มาจากใต้ขึ้นมาด้วยพอดี คุยกันไม่มาก เราคุยไม่เก่ง ฟังๆ แล้วก็อิจฉาพี่เขานะรวมกลุ่มขับรถเที่ยวมาเรื่อยๆ ค่ำไหนนอนนั่นตามแผนบ้างนอกแผนบ้าง ส่วนเราก็ต๊อกต๋อยเที่ยวต่อไป พอเดินลงมาถึงด้านล่างเราก็อุดหนุนเสื้อทอมือยอมสีธรรมชาติมาด้วยอีกตัว ผ้านุ่ม ใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี (ใส่ตัวนี้กลับกรุงเทพฯ ด้วย เที่ยวจนเสื้อหมดอีกตามเคย)


จบทริปนอนโฮมสเตย์และท่องเที่ยวชุมชนที่บ้านห้วยฮี้ 3 วัน 2 คืนที่ประทับใจความเป็นธรรมชาติ ได้ชิมอาหารพื้นถิ่น ได้เดินพูดคุยกับชาวบ้าน ได้มาอยู่แบบไร้สัญญาณมือถือ 3 วันที่นี่ อยากใช้มือถือต้องปีนขึ้นบนยอดอยปุยบ้านห้วยฮี้


ติดตามทริปเดินทางอื่นๆ ได้ที่

เพจ : ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว

IG : prapat / ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว


ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว

 วันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 00.28 น.

ความคิดเห็น