ตลาดวาคีฟ หรือ ซุค วาคีฟ ( Souq Waqif) ถนนคนเดินและตลาดวัฒนธรรมดั้งเดิมของโดฮาและชาวอาหรับทีหลายคนบอกว่าเดินรอบเดียวไม่พอ

ทริปนี้เกิดขึ้นช่วงปลายเดือนเมษายน ปี 2552 โดยผู้เขียนได้รับหมายจากทางบริษัทให้ไปเซอร์วิชลูกค้าที่อยู่ไกล้ๆกับเมืองโดฮา

ทริปนี้เป็นการเดินทางไปทำงาน ดังนั้นจึงไม่ได้ทำการบ้านสำหรับการท่องเที่ยว ทำให้ก่อนเดินทางไปนั้นแทบจะไม่มีข้อมูลอะไร รู้แต่เพียงคร่าวๆว่าประเทศนี้เคยจัดการเอเซี่ยนเกมส์ครั้งที่ 15 เมื่อปี 2549 (2006 ) ที่ผ่านมา และก็ทราบนิดหน่อยว่าประเทศนี้เป็นสิงห์ทะทรายที่ค่อนข้างร่ำรวย

แต่เดินทางไปถึงถิ่นข้อมูลต่างๆก็เริ่มหลั่งไหลเข้ามา ซึ่งบ้างก็มาจากการบอกเล่าปากต่อปากและบางส่วนก็ได้จากแผ่นพับที่บริษัททัวร์ได้ฝากไว้ที่เคาน์เตอร์ของโรงแรม

อย่างที่เกริ่นไว้ตั้งแต่แรกว่าทริปนี้เป็นการเดินทางไปทำงานและมีเวลาไม่มากที่จะออกไปตะลอนๆที่ไหนไกลๆ เวลาที่พอจะใช้ชีวิตได้บ้างก็เป็นช่วงระหว่างรอลูกค้ามารับไปทำงานกับช่วงเวลาแหลังเสร็จงานระหว่างที่รอเที่ยวบินกลับ

ด้วยเวลาที่จำกัดทริปนี้จึงมีโอกาสไปเยี่ยมชมแลนด์มาร์คที่สำคัญสองสามแห่งด้วยกัน คือ ตลาดวาคีฟ (ไปก่อนเดินทางไปพบลูกค้า) พิพิธภัณฑ์ศิลปะอิสลาม และก็เมืองใหม่ของกาตาร์ ซึ่งเป็นวันที่ก่อนจะเดินทางกลับ

สิ่งที่สร้างความประจับใจมากในทริปนี้คือถนนคนเดินที่ตลาดวาคีฟ ซึ่งเป็นตลาดเก่าของชาวพื้นเมืองที่ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของชาวอาหรับท้องถิ่นเอาไว้อย่างแน่นหนา ส่วนบรรยากาศในตลาดก็มีความหลากหลายของสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ให้กับชาวพื่นเมืองได้ค่อนข้างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเทศ เสื้อผ้า ของกินของใช้ พรม งานศิลปะ วัตถุโบราญ ร้านอาหารแบบต่างๆที่อยู่ในกลุ่มอาหรับด้วยกัน เช่นตุรกี เลบานอน โมร๊อคโค รวมถึงบางประเทศจากยุโรปเช่นอิตาลี


กองทัพเดินด้วยท้อง หลังเช็คอินที่โรงแรมเรียบร้อย ก็ออกมาหาอะไรหม่ำที่ตลาดวาคีฟ และด้วยความอยากรู้อยากเห็นและสัมผัสชีวิตคนท้องถิ่นแบบถึงเนื้อถึงตัว จึงเลือกลงที่ร้านอาหารโมร๊อคโคและสั่งอูฐตุ๋นซึ่งเป็นเมนูยอดนิยมของคนท้องถิ่นมาชิม ... ปรากฏว่าได้แค่ลองจริง กลิ่นได้แค่ค่ำสองคำ ที่เหลือทิ้งเกือบหมด


ตำรวจขี่ม้า ดูแลความปลอดภัยบริเวณรอบๆตลาด .... เป็นอะไรที่เท่ห์และเก๋ไก๋ มาก




ร้านกาแฟและร้านอาหารต่างๆ ซึ่งยังคงไว้ซึ่งสถาปัตยกรรมและวัฒธรรรมเดิมของชาวอาหรับ (ตอนบ่ายๆอากาศจะร้อนมาก ยังไม่มีคนมา ต้องรอหลังตะวันตกดิน)


อีกมุมหนึ่งของร้านอาหาร



ไหนๆก็เลยเถิดมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ต้องมีการเก็บหลักฐานไว้เล่าให้ลูกหลานฟังกันหน่อย


เมื่อตะวันหรี่ไฟลง แดดร่มลมตก ก็เริ่มมีการคนออกมาเคลื่อนไหว
ร้านขายของและงานศิลปะโบราญ ให้ความรู้สึกเหมือนไปตลาดนัดจตุจักร



มันคือ อัลไร.... หวังว่าคงไม่ต้องอธิบาย

ร้านขายพรม ที่เด่นที่สุดในย่านนี้

ชิลๆสบายๆ จิบน้ำชาฟังเพลงอาหรับไปเรื่อยๆ อยากซื้อก็เร่เข้ามา



อยากลองขี่อูฐก็เร่เข้ามา






ข้ายขายเสื้อผ้า ที่บางคนบอกว่าให้ความรู้สึกเหมือนตลาดพาหุรัด



ร้อยแปดถั่วและเครื่องเทศ




เมื่อแดดร่มลมตก ถนนคนเดินเริ่มมีการเคลื่อนไหว (ตอนกลางวันอากาศร้อนมาก คนจะจับจ่ายใช้สอยกันอยู่ในตลาด ถนนคนเดินจะมีคน)



หลังพระอาทิตย์ยอมหรี่แสง หลังตะวันตกดิน ผู้คนก็ออกมาตามนัด


อีกหนึ่งสเหน์และสีสันของตลาดวาคีฟ => พนักงานขนของ ที่สวมเสื้อกั๊กติดหมายเลขคล้ายวินมอเตอร์ไซค์ แต่ใช้รถเข็นล้อเดียวเป็นพาหนะ สำหรับให้บริการขนของคนที่เข้ามาซื้อสินค้าแบบติดตามระยะประชิด



มันคืออัลไร? .... มันคือตู้เอทีเอ็ม (ATM) เก่าผสมใหม่ ผสมผสานเข้ากันแบบเนียนตา

ต้องยอมรับว่าตลาดแห่งนี้มีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะมาก และคงบรรยายไม่หมด ท่านใดสนใจเพิ่มเติมก็ดูได้จากคลิปดังต่อไปนี้

คลิกเพื่อรับชมคลิป !!





ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม
พี่เสือ .
https://tigerwalkertrip.blogspot.com


ทำงานไปเที่ยวไป

 วันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 14.30 น.

ความคิดเห็น