M A C A U trip : EPISODE 1
---------------
ทริป รอ เพื่อน
เรามีเวลาจำกัดแค่ประทาน สี่ชั่วโมง
ในการตระเวน 'เกาะมาเก๊า'
เราบินไปถึงสนามบินมาเก๊าในตอนประมาณ 10 โมง เช้า
ก่อนเพื่อนอีกคนซึ่งบินตามมาในช่วงบ่าย
จองตั๊ว 0 บาท ตอนนั้น ข้ามปี ไปกลับ กทม.-มาเก๊า ประมาณ 1500 บาท วินใสๆ
TIME : เราจึงมีเวลาทั้งหมด 4ชม. (10:00-14:00)
ก่อนจะเจอเพื่อนแล้วนั่งเรือข้ามไป HONGKONG
ระยะเวลาทริป: 3 วัน 2 คืน
ทริปนี้เร่งรีบยิ่งกว่าทริปทัวร์สิบนาทีเชะๆขึ้นรถบัส
-------------------------------------------
มีความจำรายละเอียดได้น้อยมากกับทริปนี้
แต่ก็พยายามกลั่นกรองมาจากสมองส่วนเซเรบรัม
มาให้เยอะที่สุด ก็ได้เท่านี้
มีประโยชน์ไหม? ก็ว่าไม่ .. ตามไปทัศนาจรกันเล๊ยยย
#seasonjourney
ติดตามพูดคุยได้ที่ https://www.facebook.com/seasonjourney
MACAU ประกอบด้วย 2 เกาะ คือ เกาะไทปา และ เกาะมาเก๊า
โดยมีสะพานเชื่อมระหว่าง 2 เกาะ ระยะทางประมาณ 5 กม.
ที่เที่ยว
- เกาะไทปา : สถานที่ท่องเที่ยว landmark เช่น Senado square, Ruins of St. Paul's, St. Dominic's church
- เกาะมาเก๊า : casino ฮอตฮิตอย่าง The Venetian
การเดินทาง
- มีรถบัสรับส่งระหว่าง casino และ airport ฟรี, รถบัสสาธารณะ, taxi
เลือกตามแต่สะดวกได้เลย
ส่วนเราสะดวกในส่วนของ 'ฟรี' สม่ำเสมอ
---------------------------------------------
อ่ะตามมา
ผ่านตม.มาเสร็จเราก็เดินดุ่มๆออกจาก airport จากประตูทางออก เลี้ยวขวาเดินไปตามถนน ประมาณ 200 เมตร จะเจอที่จอดรถบัสเยอะแยะมากมายก่ายกอง
กวาดสายตาหาคำว่า Venetian ที่สกรีนข้างรถบัส
หาไ้ม่ยาก
ถามคนขับสักนิดว่าไป Venetian ใช่ไหมค่ะ พอเป็นพิธี
ขึ้นบนรถเลือกทีนั่งได้ตามแต่ใจจะไขว่คว้าเลยห๊ะ
----------------------------------------------
นั่งมาสักพักก็มาถึงที่ Venetian
เดิน survey รอบๆ ๆ ๆ
ให้อารมณ์เหมือน Venetian ที่ Las Vegas
มีบริการร่องเลือที่ไม่ฟรีไปตามแม่น้ำ น้ำอย่างใส
ข้างใน Venetian สวยมาก มีกิจกรรมให้ทำเยอะแยะ ร้านอาหาร แหล่งShopping Casino พร้อม
เราเดินถ่ายรูปวนๆไปที่นี่สักพัก ไม่นาน เพราะเราต้องรีบ งืออออ
ก่อนออกมาหน้าโรงแรม
-------------------------
เราเดินตามถนนไปเรื่อยๆ เพื่อรอรถเมล์ที่จะข้ามไป เกาะมาเก๊า
ระหว่างทางก็เจอ mall ต่างๆ โรงแรมสวยๆ ตลอดทาง
ที่ป้ายรถเมล์มีรายละเอียดบอกอย่างดี
----------------------------------------
เราดูสายที่จะผ่าน Senado square รอไม่นานรถเมล์ก็ดำเนินมาล่ะ
ขึ้นเลยจ๊ะ . . .
-----------------------------
บนรถเมล์สะดวกสบายใช้ได้
นั่งมาไม่นานเราก็ข้ามมาถึงเกาะมาเก๊า
ให้อารมณ์ยุโรป ป้ายต่างๆยังมีภาษาโปรตุเกสร่วมด้วยหมด
----------------------------
อ่ะๆ จีนก็พูดไม่ได้ โปรตุเกสฉันไม่รู้ อ๊อยยยย!
เราลงป้ายรถเมล์หน้า Senado Square
ข้ามถนนก็ถึงแล้วจ้า
---------------------------------------------
แช๊ะ! สักรูป
Senado Square
ที่มีมนุษย์หลากหลายอายุ แอคท่าต่างๆถ่ายรูปที่นี่เป็นจำนวนมาก
ทั้งคู่รัก ครอบครัว มาเดี่ยว มาคู่ มากลุ่ม
------------------------------------------
เหมือนเป็นสถานที่ landmark ที่ทุกคนต้องมา
ระหว่างทางมีของขายตลอด
ทั้งผลไม้ ร้านกาแฟ ร้านเครื่องสำอาง มาร์คราคาไม่แพง หาซื้อได้ที่นี่เลย
ทางเดินระหว่างไปซากประตูโบสถ์
ระหว่างทางตามซอกซอยจะมีของขาย คล้ายๆตลอดนัด เกือบทุกซอย
ให้ความรู้สึกไปอีกแบบ
เราเดินๆๆมาสักพัก ก็ถึง Ruins of St.Paul's
--------------------------------------------
โบสถ์เซนต์ปอลถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1580 จากนั้นอีก 15 ปีถัดมาก็ถูกไฟไหม้
อีก 6 ปีถัดจากนั้นก็ถูกไฟไหม้อีกรอบ และได้มีการซ่อมบำรุงอยู่หลายปีจึงกลับมามีสภาพเกือบสมบูรณ์ และในปี 1835 ได้เกิดพายุไต้ฝุ่นขึ้นที่มาเก๊า จึงทำให้โบสถ์แห่งนี้ถูกไฟไหม้อีกเป็นครั้งที่ 3 จึงหลงเหลือเพียงกำแพงทางเข้าโบสถ์ด้านหน้าเท่านั้น
สุดท้ายในปี 1991 ก็ได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง จนเห็นกำแพงโบสถ์ที่สวยงามในปัจจุบัน
------------------------------------
เรานั่งพักที่ข้างบนพอให้กล้ามน่องไม่ตึงเกินไปกว่านี้
--------------------------------------
ข้างบนบรรยากาศดีมาก มีนักท่องเที่ยวมานั่งพักผ่อนถ่ายรูปที่นี่เยอะเลยทีเดียว
-----------------------------------
Ruins of St.Paul's
ค่าเข้าชม: ฟรี
เวลาเปิด-ปิด: 24 ชั่วโมง
การเดินทาง: ขึ้นรถบัสสาย 3, 3X, 4, 6A, 8A, 18A, 19, 26A, 33, N1A ไปลงแถวบริเวณจตุรัสเซนาโด จากนั้นเดินตามป้าย Ruins of St. Paul's ไปเรื่อยๆก็จะถึงซากโบส์
นั่งสักพักเราใกล้เที่ยง น้ำย่อยเริ่มทำงาน เราเดินลงมาหาอะไรทานแถวๆนั้น
--------------------------------------------
รอบๆ Ruins of St. Paul's มีของกินขายเยอะ
-------------------------------
เราจัดลูกชิ้น กับ น้ำปั่น ร้านนี้ไป อร่อยใช้ได้เลย
อิ่มล่ะ เราก็ออกเดินทอดน่องต่อ ก่อนที่หนังตาจะหย่อน ไปพร้อมกับอากาศเย็นๆที่นี่
----------------------------------------------
เราเดินย้อนกลับไปทางเดิมเพื่อหา landmark ถัดไป
-------------------------------
ระหว่างทางก็มีผู้คนแออัดเป็นช่วงๆ ใครอยากได้เครื่องสำอาง ของฝาก มาร์ค หาซื้อได้ที่นี่เลย
เดินมาไม่นานเราก็มาถึง St. Dominic's Church
----------------------------
โบสถ์เซนต์ดอมินิก St. Dominic’s Church
--------------------------
ถูกสร้างขึ้นในปี 1587 โดยบาทหลวงชาวสเปนทั้ง 3 คน ที่เดินทางเผยแพร่ศาสนามาจากเม็กซิโก มีสถาปัตยกรรมแบบบาร็อคในยุคศตวรรษที่ 17 มีการผสมผสานระหว่างสไตล์โปรตุเกสและสเปน ที่ยังคงความสวยงาม
บรรยากาศภายในสวยงามมาก
--------------------------------
สามารถเดินขึ้นไปชั้นบนของโบสถ์ได้นะ
----------------------------------------
มีนักเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมเรื่อยๆ
---------------------------------
รูปนี้ให้อารมณ์เหมือนภาพถ่ายติดวิญญาณ ฉันชอบ...
--------------------------------
ดูเวลาต้องถึงเวลากลับไปฝั่ง เกาะไทปา แล้ว
-------------------------------
แต่! เราก็ยังไม่วายเดินเก็บรูปต่อไปตามตลอดทาง
ระหว่างทาง
------------
คุณตามีความพักเหนื่อย
--------------------------
เดินเรื่อยๆๆ
-------------
เดินมาเรื่อยๆเราก็เจอ
-----------------------
INSTITUTO PARA OS ASSUNTOS CIVICOS E MUNOCOPAIS
สำนักงานเทศบาลมาเก๊า เขียนเป็นภาษาโปรตุเกส ซึ่งมีความคล้ายภาษาสเปนที่เราพอรู้งูๆปลาๆ
มาเก๊า คือ เมืองแรก ๆ ที่ถูกครอบครองโดยชาติโปรตุเกส ซึ่งพากันมาตั้งรกรากอยู่ในมาเก๊านับตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ก่อนจะถูกส่งคืนยังจีนเมื่อปี ค.ศ. 1999 ไม่นานนี่เอง
------------------------------------------
ทำให้ปัจจุบันนี้มาเก๊ากลายเป็นเขตปกครองพิเศษร่วมกับฮ่องกง ภายใต้การปกครองในลักษณะหนึ่งประเทศสองระบบ ตามแนวคิดของอดีตผู้นำจีนอย่างเติ้งเสี่ยวผิง
แม้ว่าวันนี้มาเก๊าจะไม่เป็นอาณานิคมของโปรตุเกสแล้ว
แต่ภาษาราชการและภาษาที่ยังคงมีอิทธิพลต่อชาวมาเก๊าก็ยังคงเป็นภาษาโปรตุเกสอยู่นั่นเอง
รวมทั้งสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ป้ายตามถนนหนทางด้วย
----------------------------------------
นั่งรถเมล์เพื่อกลับไป Venetian ผ่านสะพานเส้นเดิมที่เชื่อมระหว่างสองเกาะ
--------------------------------------
ไม่นานก็ถึง Venetian
หลังแผ่นกั้นนั่น คือ casino ถูกกฎหมายในประเทศเค้า คนครึ๊กครึ้นพอสมควรเลย
--------------------------------------
เราเดินเล่นรอเพื่อนในนั้น
หันไปเจอทาร์ตไข่ สิ่งที่ไม่ควรพลาดเวลามาเยือนมาเก๊า
อร่อยมากกกกกกก.. เสนอราคา 10 MOP/1 piece
ไม่นานเพื่อนเราก็มาถึง Venetian
เรานั่งรถบัส 'ฟรี' อีกแล้ว ของ Venetian ทางฝั่ง West lobby ที่จะรับส่งระหว่าง Venetian กับท่าเรือ Macau Taipa Ferry Terminal
เราจัดแจงซื้อตั๊วแล้วเข้ามาใน gate นั่งรอพนักงานเรียกก่อนเรือจะมาที่ Pier
ได้พักกล้ามน่องไม่นานก็ขึ้นเรือไปเมาเรือต่อกันเลย อ๊อยยยยย!
การเดินทางครั้งนี้แทบไม่มีเวลาชิวๆคุยกับตัวเองเลย แต่! ได้อารมณ์ไปอีกแบบ
-----------------------------------------
ราคาตั๊ว: MACAU - HONGKONG
Economy Class HKD153
Super Class HKD315
ระยะเวลาเดินทาง: 50-60 นาที
เราไม่ต้องคิดมากเลือก Economy สิจ๊ะ แต่ขากลับมีเรื่องที่ทำให้เราต้องอัพความไฮ! หรา! ต้องนั่ง Super class ที่ราคาแพงกว่าเท่าตัว งืมๆ .. น้ำตาจิไหล
------------------------------------------
TRICK
- รถ Public Bus ขึ้นด้านหน้าลงด้านหลัง แลกเงินให้พอดีเพราะไม่มีทอนเน้อ
- รถ Hotel Bus ทุกคัน ไม่เสียค่าใช้จ่าย แนะนำให้เดินทางด้วยรถนี้เป็นหลัก ด้วยความ ฟรี
- Internet มาเก๊านั้นเล็กมาก และซิมที่ใช้ได้ทั้งมาเก๊าและฮ่องกงก็มี แต่ไอดทนต่อ Wifi สาธารณะ เอาดีกว่า Wifi ฟรี เยอะมากๆ
- ทาร์ตไข่ ควรลอง!
- เรือFerry มีความทำให้เรามึนได้เหมือนกันนะ ใครเมาเรือพกยาแก้เมาติดไปด้วยเน้อ
------------------------------------
ติดตามต่อได้ใน EPISODE 2 : MACAU&HONGKONG 'ทริปวิ่งเที่ยว' น้าค้า
ติดตามพูดคุยกันได้ที่ https://www.facebook.com/goalongtime
seasonjourney
วันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 16.17 น.