นาขั้นบันได บ้านป่าบงเปียง ตั้งอยู่ในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ มะนาวเคยไปเมื่อสองปีที่แล้ว ตอนต้นข้าวยังเป็นต้นกล้า ไม่เต็มพื้นที่ทำให้สามารถมองเห็นภาพสะท้อนพื้นน้ำของท้องนา แต่ครั้งนี้ มะนาวอยากเห็น สีทองของรวงข้าว

จองตั๋วรถไฟขบวนใหม่ล่วงหน้าหนึ่งเดือนก็ยังไม่ได้ เต็มแล้วค่ะ ได้รถไฟขบวนเก่า ด่วนพิเศษ ขบวนที่ 13

เวลาออกเดินทางจากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ(หัวลำโพง) 19:35 น.ถึงเชียงใหม่ 08:40 น. ราคาตั๋วเตียงล่าง 841 บาท เตียงบน 771 บาท

สองปีแล้วไม่ได้ใช้บริการรถไฟขบวนเก่า เลยยังไม่ชินยังงัยไม่รู้

ตู้เสบียงมีความแปลกตา จากรถไฟขบวนใหม่จริงๆ แต่ก็ยังเป็นจุดศูนย์กลางของลูกค้าหนาแน่น เพราะสามารถสูบบุหรี่ได้ แต่ ไม่มีการจำหน่าย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

รักเลย เก้าอี้แบบนี้

ไม่นานที่นอนของเราก็พร้อม

นอนสบายค่ะ เช้าๆตื่นมามองวิวไปเรื่อยๆ

กาแฟร้อนแก้วนี้ 40 บาท อร่อยเข้มข้น

รักการเดินทางด้วยรถไฟค่ะ เพลินดี ไม่เบื่อ และ ปลอดภัยอีกด้วย เช้าถึงจุดหมายก็พร้อมไปลุยต่อได้เลย

ตรงตามเวลา มะนาวก้าวเดิน ก็มาถึงเชียงใหม่แล้ว ปีนี้ มะนาวมาเที่ยวเชียงใหม่ครั้งนี้ ครั้งที่3แล้ว

ไปต่อกันได้เลยค่ะ บอกรถโดยสารแดงไป ประตูเมืองเชียงใหม่ คนล่ะ 30 บาท

สังเกตป้าย เชียงใหม่-จอมทองค่ะ บอกว่าไปลงท่ารถแม่แจ่ม คนล่ะ 35 บาทใช้เวลาประมาณ1ชั่วโมง

ถึงท่ารถแม่แจ่ม ก็หาซื้ออาหาร ขนม น้ำหวานติดตัวไปด้วยนะค่ะ เพราะที่ นาขั้นบันได บ้านป่าบงเปียงไม่มี ร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น หรือ ร้านอาหารใดๆทั้งสิ้นค่ะ นอกจากอาหารจาก ที่พักที่เค้ามีให้ เช้า-เย็น

ผู้โดยสารหนาแน่นแบ่งๆกันไปค่ะ ค่ารถคนล่ะ 70 บาท ใช้เวลาวิ่งประมาณชั่วโมงค่ะ


บอกรถแม่แจ่มว่า จะลงที่ทางแยกตรงน้ำตกแม่ปานค่ะ

มะนาวได้โทรบอกที่พักแล้วตอนที่อยู่ อ.จอมทอง ว่ารถแม่แจ่มออกมาแล้ว พี่วิชัยเค้าจะได้มารอรับ ราคาพาไป และ พากลับมา 700 บาทค่ะ

มันก็คงต้องหัวสั่นหัวคลอน กันสักครึ่งชั่วโมงอ้ะนะ

มะนาวขอให้พี่วิชัยพาเลยบ้านป่าบงเปียงไปที่ นาขั้นบันได บ้านตีนผา มีหมู่บ้านอยู่กลางหุบเขาของดอยอินทนนท์ ที่นี่เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวเขาชาวปกากญอ

ขนาดเข้าไปถึงเที่ยง หมอกยังเยอะ ฟินดีจัง

คิดถึง แม่กำปอง และ บ้านอีต่องขึ้นมาทันที่เลย

นาสีทอง กำลังโดนเก็บเกี่ยวแล้ว

จุดนี้ ก็สวยงามค่ะ มีทั้งข้าวไร่ ข้าวโพด ฟักทอง ที่ปลูกลดหลั่น กันไปบนภูเขาสูง สลับกันลูกแล้วลูกเล่า เป็นภาพที่สวยงาม กดชัดเตอร์สนุกไปเลย

ท่ายากอีกแล้ว เดี๋ยวก็ตกลงมาเจ็บตัวจนได้

เก็บทุกมุมกลับมาเชยชม

ทักทายชาวบ้าน ยิ้มหวานๆเป็นมิตร รู้สึกสุขใจมากมาย

เมื่อก่อนที่พักบ้านป่าบงเปียงจะมีเพียงหลังเดียว คือ มาฉิโพ แต่ปัจจุบันมีที่พักเพิ่มขึ้นประมาณ 10 กว่าหลัง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นเครือญาติกัน ที่พักที่นี่ทุกหลังไม่มีไฟฟ้าใช้ ใช้เทียนและไฟฉาย ลักษณะของบ้านก็เป็นกระท่อมไม้แบบเรียบง่าย มีที่นอนหมอนมุ้งให้ ราคาเท่ากันด้วยนะค่ะ คนล่ะ 500 บาทมีอาหารเช้า - เย็น

มะนาว จองบ้าน มาฉิโพ หลังตำนานไว้ แต่พี่เค้าขอให้มาพักหลังนี้จะดีงามกว่า เพราะปีนี้ เก็บเกี่ยวข้าวไวค่ะจึงเหลือนาข้าวเหลืองทองแค่ไร่หน้าบ้านหลังนี้

วิวก็สวยอย่างที่พี่เค้าแนะนำจริงๆค่ะ ราคา 500บาทต่อคน มีอาหารเช้า และเย็นให้

มาฉิโพ ป่าบงเปียง https://web.facebook.com/keifkooz?fref=ts

ห้องน้ำมีให้ถึงสองห้อง มีทั้งแบบชักโครก และ แบบยองๆ แล้วแต่ถนัดเลยค่ะ

วิวจากห้องน้ำยังสวยยยยยเลย

ที่อำเถอจองทอง ก่อนขึ้นรถแม่แจ่ม มะนาวจัดอาหารมาเพียบ กลัวหิว

กินมื้อกลางวัน หมูทอด เนื้อย่าง ข้าวเหนียว ชมวิวเพลินๆ คนที่ไม่ได้ค้างก็แวะเข้ามาถ่ายภาพ เดินเล่นที่บ้านป่าบงเปียงได้นะค่ะ มีความใจดีจุง

ท้องอิ่มก็เดินย่อยกันนิด

ฝนอยู่ๆก็ตกลงมาทั้งๆที่แดดแรงๆ แต่เราไม่กลัว เรามีเวลาตั้ง24ช.ม


ทางตันไปต่อไม่ได้ ย้อนขึ้นมาก่อนดีกว่า


พบเจอบ้านพัก มะนาวก็จะเก็บภาพมาฝากไปรอบๆที่เดินผ่านล่ะกันเนอะ หลังนี้ ก็ บ้านมาฉิโพ ค่ะ

ส่วนหลังนี้ติดกับ บ้านมาฉิโพ ชื่อ บ้านเปียงนา

มีเก้าอี้เอนนอนให้ชมวิวหน้าบ้าน น่าสบายจุง

บ้าน น้องน้ำพุ

แถบบ้านพักตรงเนินตรงข้ามบ้านที่มะนาวพัก ก็จะเห็นวิวแบบนี้

บ้านพัก2 หลังอยู่ด้านล่างเป็นบ้านของพี่ศรชัย

บ้าน ม่อนนา

ทุกหลังมองเห็นวิวทุ่งนาแต่จะมองเห็นในวิวต่างกันตามตำแหน่งที่ตั้ง

หลังนี้เลย ที่มะนาวอยากจะมานอน บ้านมาฉิโพ บ้านพักหลังแรกของ ป่าบงเปียง

แต่ถึงไม่ได้นอนที่นี้ ก็เข้าไปเก็บภาพ บรรยากาศของบ้านตำนาน นาขั้นบันได ป่าบงเปียง มาฝากนะค่ะ

นอนนอกห้องนอนก็ได้น่า อากาศเย็นๆ สบาย

ในห้องนอนชอบมากตรง หน้าต่าง

อยากมีหน้าต่างแบบนี้ ที่บ้านเราทุกวัน

มาฉิโพ แปลว่า ชาวนา เป็นที่พักแห่งแรกของที่บ้านป่าบงเปียง บ้านพักมาฉิโพบริเวณนี้ มีทั้งหมด 3 หลัง เรียงกัน เป็นทั้งของพี่วิชัยและของน้องชาย ซ้ายสุดคือ บ้านมาฉิโพ หลังกลางของน้องชาย และอีกหลังก็เช่นกัน แต่พี่วิชัยบอกว่าที่พักทุกหลังในของที่นี่คือญาติกันหมด เบอร์โทรติดต่อพี่วิชัย 081 020 1691

เดินตามเค้าลงไปหามุมเก็บภาพยามเย็นต่อ

หันกลับมามอง จะเห็นบ้านพักเรียงแถวหน้ากระดาน มองมาที่วิวนาขั้นบันไดทุกหลัง

อยากจะลงไปหาพี่ๆชาวนาแต่ไปไม่ไหว ขาเริ่มสั่นแล้วจิ

อ้าว!!กลับกันแล้วหร่อ

และแล้วมะนาวก็โดดเดียวอยู่กลางทุ่งนาขั้นบันได ป่าบงเปียง (เห็นมะนาวมิค่ะ 5555)

คุณมะนัยอยู่ที่บ้านพัก พยายามหามะนาวจนเจอ เก่งมาก แต่ มะนาวก็ยังไม่กลับง่ายๆ

แสงสวยมาก แต่เริ่มมืดขึ้นเรื่อยๆ พยายามตัดใจจากภาพข้างหน้า ตระกายกลับบ้านพักเถอะ

กลับมาถึงก็เสื้อผ้าเละ และ หิวมาก ดินเนอร์ของเรามาพร้อมหลอดไฟใส่ถ่าน

เลี้ยงดีมากมาย อาหารอร่อย และให้มาเยอะมากค่ะ

นอนดูดาวจนง่วงก็เข้ามุ่งนอน หลับสบายผ้าห้มมากมายให้ไว้ ที่นี้ เสียงนาฬิกาปลุกเป็นพี่ไก่ ตอนตี5

หุยยย มีหมอกด้วย ดีใจสุดๆค่ะ

หมองเบาๆบางๆ เพลินตา มะนาวเก็บเป็นวีดีโอมาฝากเยอะเลยค่ะ

ถ่ายรูปเยอะแล้ว ลงไปเล่นที่คันนา ดีกว่า

เซลฟี่ กับท้องทุ่งนาสีทอง สบายใจ คันๆนิด ตัวคุ่นกัดก็ไม่สน


สายแล้ว กลับมาดื่มกาแฟ กินข้าวเช้าได้แล้วมั่งงง

เลี้ยงดีอีกแล้ว จะขาดทุนไหมนี้ พี่วิชัยยยย พอถามแบบนี้กับพี่วิชัย พี่เค้าบอกว่า ที่นี้ไม่มีอะไรขาย ต้องกินข้าวเยอะๆ น่ารัก ใจดี เป็นห่วงพวกคนเมืองเช่นเราจริงๆ ขอบคุณมากคร่า

ระหว่างกิน ยังวิ่งมาถ่ายภาพต่อ ก็พระอาทิตย์ฉายแสงเป็นทางยาวทาบลงมากลางนาขั้นบันได

หมอกเจอกับแสงพระอาทิตย์ยามเช้า ไหลขึ้นไปตามแสง สวยมากกกกก

พอจะกลับก็เจอแสงสวยอีก มะนาวก็จะอดใจไม่ถ่ายรูปอีกได้ยังงัยคร่า ครั้งนี้เป็นครั้งที่2 แต่ก็ประทับใจ ถึงข้าวจะถูกเกี่ยวไปเกือบหมดแล้ว แต่ ก็ยังทิ้งความมีเสน่ห์แห่งท้องทุ่งนาขั้นบันได ไว้ให้ชื่นใจ

10:30 น.ก็บอกให้พี่วิชัยมารับที่บ้านพัก ฝนตกๆหยุดๆ พี่วิชัยเลยมาส่งที่ หน่วยจัดการต้นน้ำแม่กลาง เพราะมีศาลาบังแดดบังฝนได้ระหว่างรอรถแม่แจ่มผ่านมา สามารถโบกรถลงมาที่ จอมทองได้เลยนะค่ะ ประหยัดไป70บาท

รออยู่นานเพราะ มะนาวไม่แน่ใจว่ารถจะผ่านมาเวลาไหน พอรถแม่แจ่มมา(12:30น.) โบกเลยสิค่ะ มะนาวจึงขอเบอร์คุณลุงคนขับรถมาฝากเพื่อนๆ เวลาจะกลับจะได้นัดจองเวลากันได้ค่ะ

มาถึงอำเภอจอมทอง รถเชียงใหม่-จอมทองก็มารอรับกลับเชียงใหม่ทันที่


สำหรับการท่องเที่ยวนาขั้นบันไดป่าบงเปียง แบ่งเป็น 3 ช่วง

1.ช่วงการดำนา คือ ในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. ซึ่งต้นข้าวยังเป็นต้นกล้า ไม่เต็มพื้นที่ทำให้สามารถมองเห็นท้องฟ้าสะท้อนพื้นน้ำของท้องนา

2.ช่วงเดือนก.ย. – ต้น ต.ค. จะเห็นข้าวเขียวขจีเต็มท้องทุ่ง

3. ช่วงปลายเดือนต.ค ต้นข้าวจะเป็นสีทอง

มะนาวนำภาพเมื่อสองปีที่แล้ว ที่มา บ้านป่าบงเปียงครั้งแรกมาฝากให้ชมด้วยค่ะ

มันก็สวยไปอีกแบบ เนอะค่ะ มะนาวก้าวเดินจะกลับไปอีกแน่นอนค่ะ อยากจะไปช่วงนาเขียวเต็มท้องทุ่งนา ไปไม่ยาก ราคาไม่แพง ความสุขล้นใจ ไปเที่ยว นาขั้นบันได บ้านป่าบงเปียงกันน่าค่ะ

ค่าใช้จ่าย

-ค่ารถไฟตู้นอนห้องแอร์ ขบวนเก่า เตียงล่าง 841 บาทไปและกลับ 1,682 บาท

-ค่ารถโดยสารแดงจาถสถานีรถไฟเชียงใหม่ไปกำแพงเมืองเชียงใหม่ 30 บาทไป-กลับ 60 บาท

-ค่ารถเชียงใหม่-จอมทอง 35บาทไป-กลับ 70 บาท

-ค่ารถจากจอมทองไปแม่แจ่ม ลงที่ทางแยกน้ำตกแม่ปาน 70บาทไป-กลับ 140 บาท

-ค่ารถ 4WD ของพี่วิชัย มารับและออกมาส่ง เข้า-ออกป่าบงเปียง 700บาท หารกับคุณมะนัยจ่ายคนล่ะ 350บาท

-ค่าบ้านพัก มาฉิโพ 500บาทพร้อมอาหารเช้า-เย็น

-มะนาวจ่ายเพิ่มค่ารถที่ให้พี่วิชัยพาเลยเข้าไปที่ บ้านตีนผา 300บาทหารคนล่ะครึ่งกับคุณมะนัย 150บาท

=รวมค่าใช่จ่าย 2,952 บาท

สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณมากๆค่ะที่ติดตามอ่าน มะนาวก้าวเดิน

ขอฝากเพจบ้านๆเหมือนเพื่อนสนิทไว้ด้วยนะค่ะ >>>> https://web.facebook.com/manowjourney/

และ ขอฝากผลงานรีวิวทั้งหมด 26 ทริปไว้อ่านเล่น >>> https://th.readme.me/id/ManOvv

แล้วพบกันใหม่ ทริปหน้าคร่า...








มะนาวก้าวเดิน

 วันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 20.33 น.

ความคิดเห็น