ทุกๆ ครั้งที่เราไปเที่ยวทะเลที่ จ.ชลบุรี ส่วนมากเราจะมุ่งไปที่พัทยาตลอดเลยนะคะ
ซึ่งหากไปในวันหยุด หรือในวันหยุดยาว จะเจอรถติดมากทั้งไปและกลับ
แต่ก็นั่แนหละคะ ไปบ่อยมาก ไปพัทยาจนชินชาซะแล้ว
แต่ทริปนี้เรามีไปทะเลที่ชลบุรีด้วยนะ แต่ใกล้กว่าพัทยามาก
ขับรถแค่ 1 ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้นจาก กทม. ที่สำคัญรถไม่ติดด้วยเพราะเราไปวันอาทิตย์มั้ง อิอิ
ทะเลชลบุรีที่เราหมายถึงนี้ คือบางแสน ซึ่งหลายคนต้องร้องอ๋ออออ ค่ะว่า เป็นที่ฮอตฮิตติดลมบนของคนไทยมาก
และก็ยังมีมุมสงบๆ อีกหลายจุดด้วยกัน เช่นหาดวอนนภา ซึ่งถือว่าเป็นมุมสงบมุมหนึ่งของทะเลบางแสน
และเราก็ได้มาพักที่ Sea Sand Trees (ซี แซนด์ ทรี) ทำเลที่ตั้งอยู่บางแสนล่าง
ราคาดีงาม ห้องน่ารักด้วย ถูกใจมาก นั่นคือ ห้อง Seaview 1300 บาทเท่านั้น !!
หือ...อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ ราคานี้จริงๆ เห็นวิวทะเลเต็มๆ ตาสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกริมทะเลอย่างโรแมนติกในช่วงเย็น
เด็ดแค่ไหนในบางแสนกับที่พักน่ารักแห่งนี้ ไปตามชมกับเราเลยดีกว่า ^^
ปกติ ไปเที่ยวทะเลบางแสน ส่วนมากๆ ใครๆ ก็ไปแบบ One Day กันนะคะ
และก็มีเยอะเหมือนกันที่อยากหาที่พักค้างแรมกันสักคืน แบบชิลๆ
ความคิดของเราก็เป็นแบบนั้นค่ะ ที่ไม่อยากเดินทางเที่ยววันเดียวแล้วกลับเลย
ยังไงก็ถือว่าได้ออกท่องเที่ยวแล้วล่ะน่า ลัลล๊ากันให้นานๆ หน่อย 555
การเดินทางไป Sea Sand Trees แนะนำให้พิมพ์ชื่อที่พักในกูเกิ้ล map เลยค่ะ
นำทางได้สะดวกมาก Sea Sand Trees อยู่บางแสนล่าง หาดวอนภา
แนะนำให้มาเส้นบูรพาวิถี และ เส้นเลี่ยงเมืองก็ได้ค่ะ แล้วตัดเข้าบางแสนผ่านมหาวิทยาลัยบูรพาวิถี
ขับต่อไปเรื่อยๆ จนถึงชายหาดเลยจ้า แปปเดียวถึงหาง่ายมาก
Sea Sand Trees อยู่ตรงข้ามกับชายหาดแบบมีถนนกั้น
สามารถจอดรถได้ตรงถนนได้เลยค่ะ หรือจอดที่ริมๆ สวนสาธารณะก็ได้ติดๆ กับที่พักเหมือนกัน
ทะเลตรงข้ามกับ Sea Sand Trees จะมีกลุ่มเรือประมงมาพักเรือกันบริเวณนี้ค่ะ
สามารถมองเห็นการออกเรือ และวิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวประมงได้อีกด้วย
ว่ากว่าจะได้ปลา จับปูมาได้แต่ละตัวนั้น เค้ามีวิธีการอย่างไรบ้าง
เมื่อจอดรถแล้วก็ลากกระเป๋าข้ามถนนเข้ามายัง Sea Sand Trees กันนะคะ ต้องมองป้ายกันนิดนึง
หน้าที่พักเป็นอาคารพาณิชย์คูหาเดียว 6 ชั้น มีป้ายชื่อกลมๆว่า Sea Sand Trees บอกไว้
เผื่อใครยังมาไม่ถูกทาง เอาเบอร์โทรไปไว้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ค่า
Line: 0956392894 (ค้นหาเบอร์โทรได้เลยค่ะ)
หรือโทร 038-141618, 095-6392894
จุดสังเกตแตกต่างจากที่พักทั่วๆ ไปในบริเวณเดียวกันของ Sea Sand Trees ก็คือเมื่อแหงนมองขึ้นข้างบนระเบียง
ที่พักของที่นี่จะโดดเด่นด้วยกระจกใสตั้งแต่ชั้น 2-6 ซึ่งเป็นห้อง Seaview นั่นแหละค่ะเป็นจุดเด่นที่ได้เปรียบ
ไว้มองทะเลเต็มๆ ตาโดยไม่่มีเสากั้นให้รำคาญใจ
เวลาเช็คอิน เช็คเอาท์ปกติค่ะ นั่นคือ เช็คอิน 14.00 น. และเช็คเอาท์ 12.00 น.
หน้าที่พักมีจักรยานให้ลูกค้าที่เข้าพักที่ Sea Sand Trees นำไปปั่นชมวิวกันฟรีๆ ด้วยนะเออ
ใครมาเป็นแบบคู่หนุ่มสาว คู่รักนี่จัดเล้ยยย โรแมนติกแน่
บริเวณล็อบบี้ ก็มีจุดเช็คอิน และมุมถ่ายรูปเก๋ๆ หลายมุมด้วยนะคะ
ทำมาอย่างดี เพื่อคนชอบเช็คอินโดยเฉพาะ ต้องไม่พลาดๆ กันค่ะ มี WiFi Free ให้อีกด้วย
เมื่อเราเช็คอินเรียบร้อยด้วยการยืนยันตัวตนจากบัตรประชาชนใบเดียว พนักงานจะพาไปยังห้องพักค่ะ
โดยถือโอกาสนี้พาไปทัวร์ห้อง Type อื่นๆ ของ Sea Sand Trees กันด้วยดีกว่า
ก่อนจะขึ้นไปยังห้องพัก ด้านล่างจะมีที่ล็อคเกอร์เก็บรองเท้าพร้อมกุญแจ ในล็อคเกอร์ก็จะมีรองเท้าสลิปเปอร์เปลี่ยนให้เข้าไปในยังห้องพักนะคะ
เปิดมาก่อนเลยห้องแรกที่ชั้น 4 Seaveiw จ้าาาา พอเห็นชุดเครื่องนอนแล้วยิ้มเลย
หวานอะไรเบอร์นี้ บอกเลยว่า ลวดลายแบบนี้ สาวๆ ชอบค่ะ อิอิ
ภายในห้อง Seaview ขนาดห้องพักไม่เล็กและไม่กว้างมาก ในสายตาเราคือกำลังพอดี
ไม่อึดอัดนะคะ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วนเหมือนที่พักทั่วไป
แต่จุดเด่นนี่เลยค่ะ อย่างที่บอกว่า ริมระเบียงห้องพักประเภท Seaview นี่เด็ดมากกกก
กระจกใสบานใหญ่เปิดทะลุมามองให้เห็นวิวทะเลได้สะใจมากกกก
แต่ก็ว่านะ มาทะเลทั้งที ฟ้าไม่เปิดเลย วันทั้งวันนี้ มองไม่เห็นพระอาทิตย์มาทักทายกันเลยค่ะ 555
ทั้งที่ตั้งใจมากว่า เออ มาทะเลอยากได้ภาพช่วงเวลา SunSet งามหน่อยทริปนี้ ก็แป๊กอีก
แต่ไม่เป็นไรนะ หากเทียบกับบรรยากาศที่ได้ ลมทะเลเย็นๆ ปะทะหน้า ก็ชิลแล้วจ้า
มาส่องกันต่อที่ห้องน้ำภายในตัวของห้องพัก Sea Sand Trees
ห้องไม่เล็กไม่กว้างมากเช่นกันค่ะ แต่ไม่มีม่านกั้น โซนแห้งโซนเปียก เวลาอาบน้ำทีกระจายในห้องน้ำได้เหมือนกันจ้า
มาาดูต่อห้อง Type อื่นๆ กันบ้าง ห้องนี้เป็น Superior ที่จะเห็นวิวเมืองนะคะ
เพราะอยู่ด้านตรงข้ามกับ ห้อง Seaview
ระเบียงหลังห้องพักมีทางเดินบันไดเชื่อมถึงกันด้วย และมีจัดมุมต้นไม้เล็กๆ
ให้สำหรับคนที่ต้องการไปนั่งเล่นภายนอกค่ะ
ส่วนภายในก็นั่งเล่นบนเตียงนี่แหละ สาวๆ ก็โพสท่าวนไปจ๊ะ
ไปเที่ยวที่ไหนๆ สักครั้ง กลับไปก็จะได้รูปโปรไฟล์ใหม่ๆ เยอะเลย ใครเป็นเหมือนกันบ้าง ??
ห้องพักแต่ละห้องเค้าตกแต่งไม่ซ้ำกันจริงๆ ห้องนี้ก็แบบเรียลๆ กันหน่อยนะคะ
แต่เตียงนอนก็นุ่มมากก นอนมาแล้วสบาย ยังมีงีบต่อตอนหลังอาหารเช้าอีกด้วย 555
ห้องน้ำจะเหมือนกันหมดค่ะ ต่างจากลวดลายของกระเบื้องเท่านั้นในแต่ล่ะห้อง
ห้อง Garden และ Superior มีให้เลือก ทั้งแบบเตียงคู่ และเตียงเดี่ยว
มาเป็นสไตล์นี้ก็ยังหวานซ๊าาา
และห้องพักที่ถูกพูดถึงมากที่สุดของ Sea Sand Trees ที่ชั้น 6 คือห้อง Seview Suite
ซึ่งเป็นห้อง Type สูงสุดของ Sea Sand Trees ที่ได้มุมสวยที่สุด
และวิวสวยที่สุดของที่นี่ และเป็นราคาประทับใจที่สุดอีกด้วยนะคะ นั่นคือราคาในโปรโมชั่นตอนนี้ 1800 บาท
ไปดูกันค่ะว่า ทำไมห้องนี้ถึงเป็นที่สุดของ Sea Sand Trees
ทั้งชั้นพื้นที่ ชั้น 6 เป็นของห้องนี้ทั้งหมดค่ะ ทำให้รู้สึกได้เลยว่ากว้างมาก
แบ่งพื้นที่เป็นห้องนั่งเล่น และห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำ ห้องน้ำแบบ Open Air ให้ด้วย
ก้าวเข้ามาด้านในจะเป็นส่วนของห้องนอน ลวดลายชุดเครื่องนอนเก๋ๆ ยังครองใจสาวๆ เช่นเดิม
และที่สุดของวิวที่ดีที่สุดของ Sea Sand Trees คือระเบียงห้องชั้น 6 ที่กว้างมากกกกกก
ทั้งกว้างและได้มุมดีแบบสุดๆ ที่จะมองเห็นทะเล เห็นพระอาทิตย์ตกด้วยกันอย่างโรแมนติกบนี้
Sea Sand Trees ที่นี่บอกได้เลยค่ะว่า เหมาะกับการมาพักผ่อนและใช้เวลาด้วยกันภายในห้องพักมากกว่าจริงๆ 555
นี่คือเรามานั่งรอดูพระอาทิตย์ตกรินมทะเลนะเนี่ยวันนี้
แต่ ทั้งวันก็มองไม่เห็นพระอาทิตย์ โชคร้ายไปหน่อย 555 เพราะปีนี้ฝนฟ้า อากาศแปรปรวนมาก ปริมาณน้ำฝนมากจริงๆ ด้วย
ที่ทำได้คือ มองทะเลนิ่งๆ ก็สบายใจแล้ว
สมกับที่มีคนบอกว่า "ทะเล เยียวยาทุกสิ่ง" จริงๆค่ะ
ไหนๆ ก็มองไม่เห็นพระอาทิตย์ตกยามเย็นแล้ว ก็ขอโฟกัสเรื่องกินเลยดีกว่านะเรา ด้วยการจิ้มๆ ในมือถือ ค้นหาของอร่อยตามรีวิวกันเหอะ
จริงๆ ตามชายหาดวอนสภา ใกล้ๆ Sea Sand Trees มีร้านอาหาร Seafood เยอะมากเลยนะคะ
ชนิดที่ว่า เดินไปแค่ 100-200 เมตรก็เจอล่ะ แต่ก็ไม่ได้มีแค่ Seafood อย่างเดียวซะที่ไหน
เดินไปแค่ 50 เมตรเลี้ยวขวาก็เจอร้านปิ้งย่าง ร้านสเต๊กอีกเพียบ
ไว้ใจได้เรื่องกิน เรื่องร้านอาหารต่างๆ ติดกับ Sea Sand Trees หากินง่ายมากค่ะในจุดนี้
แต่เรากลับอยากชับรถเล่นด้วยค่ะ ค้นหาในกูเกิ้ล ดูจากแผนที่อยู่มุมแหลมๆ สวยๆ โน่นลองไปดู !!
เรือนอาหารทะเลวังมุข
เราขับออกมาจาก Sea Sand Trees ประมาณ 6.5 กิโลเมตร เรือนอาหารทะเลวังมุข
ใกล้ๆ กับเขาสามมุขที่เป็นจุดชมวิวของบางแสน มีลิงซนๆ เยอะด้วย
แต่เวลานี้เราไม่ได้กะไปทักทายลิงค่ะ เพราะฝนตกปรอยๆ ด้วย
เราจึงขอมาโฟกัสเรื่องกินจริงๆ จังๆ ซะแล้ว 555
ทางเดินเข้าไปร้านอาหารวังมุข จะต้องผ่านร้านขายของที่ระลึกค่ะ มาแถวอ่างศิลา ก็คงหนีไม่พ้นครกหินสิ 555
เพราะครกอ่างศิลาดังมากก มีครกจิ๋วน่ารักๆ ด้วย
แผงข้างๆ เป็นอาหารทะเลแห้ง ปลาแห้งขนมของฝากต่างๆ
มาถึงร้านแล้วคนเยอะเหมือนกันค่ะวันนี้ รีบเปิดเมนูกัน
สโลแกนเรือนอาหารทะเลวังมุข คือ "อาหารทะเลสดๆ รสชาวบ้าน"
เพราะฉะนั้น มื้อนี้เราจึงมาลองกันว่า ใช่มั้ย !
เมนูอาหาร แต่ละรายการมีราคากำกับไว้ค่ะ ยกเว้น พวกทะเลเผา จะมีราคาตามน้ำหนัก และในช่วงนั้นด้วย
มาแล้ว อาหารที่เราสั่งมา ขอเน้นแบบเมนูที่เราชอบ และเน้นความแซ่บๆ กันนะคะ
ต้มยำกุ้งทะเลน้ำใส พริกขี้หนูสดอีก ใส่หม้อไฟร้อนๆ มาซดน้ำอร่อยมาก
เราสั่งข้าวผัดทะเลมา 2 จานค่ะ จริงๆ สั่งมาจานเดียวน่ะ แต่ยังไม่อิ่มจึงเพิมอีกจาน แต่พอมาจริงๆ
ก็กินไม่หมดค่ะ สำหรับสองสาว กินกันขนาดนี้ 555
มาแล้วเมนูที่ขอรีเควสเอง
กุ้งแช่บ๊วยเผาค่ะ ที่นี่จะแจ้งราคาว่า เป็นกิโลละ 800 บาท
เราสังมาแค่ครึ่งโลในราคา 400 บาทพร้อมย่างมาหอมๆ กุ้งตัวสดใหญ่อยู่นะ
มาทะเลต้องจัดทะเลให้ครบๆ ค่ะ มีอีกๆ ปลาหมึกย่าง ได้มาอย่างเร็วรี่
ปลาหมึกไข่ด้วยนะคะ แต่ร้านเค้าไม่เอาก้างปลาหมึกใสๆ ออก เวลากินยังต้องตามแงะก้างออกจากปากเอง 555
แต่บอกได้เลยค่ะว่า น้ำจิ้มที่นี่ แซ่บมากกกก เราชอบ
และขอยกเป็นพระเอก นางเอกของ Dinner มื้อนี้ของเราต้องเมนูนี้เลยค่ะ
เนื้อปูผัดกระเทียม พริกขี้หนูสด
ปูมาเป็นก้อนๆ เลยจ้าาาาาาาาา
เห็นแล้วจะกรี๊ดคือชอบมาก เมนูนี้ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ เนื้อหวานสดๆ ไม่เละด้วย ด้านความสด ของซีฟู้ดที่นี่ เราว่าโอเคนะคะ
ราคาก็อยู่่ในระดับมาตรฐาน หมดนี้มีน้ำแข็ง น้ำเปล่า ทิชชู่ที่นี่ยังต้องจ่ายเพิ่มอีก มีงงนะคะร้านนี้ 555
และผลไม้มะม่วงน้ำปลาหวานอีกจานเล็ก มื้อนี้จ่ายไป 1488 บาทค่ะ
เมื่ออิ่มๆ ขับรถกลับมายัง Sea Sand Trees ที่พักคืนนี้กันค่า
ฝนหยุดไปแล้วยังเหลือร่องรอยความเปียกไว้อยู่ จึงพากันไปเดินเล่นริมชายหาดวอนภา
ในช่วงกลางคื ให้อาหารนย่อยไปในตัวนะคะ
เจอบรรยกาศรอบข้าง ทะเลกลางคืน และนักท่องเที่ยวอีกหลายกลุ่ม
ที่ยังมาชิลริมทะเล นั่งทานข้าว นั่งคุยกันอยู่ มีให้เห็นตลอดทาง
ร้านขายปลาหมึกริมหาดข้างทางด้วย ส่งกลิ่นหอมมาแต่ไกลถึงกับต้องเดินไปดูแหน่ะ อิอิ
ตัดฉับกลับมาที่ Sea Sand Trees ในช่วงเช้าเลยนะคะ อาหารเช้าตอนเช็คอินพนักงานจะถามว่าจะรับอาหารตอนกี่โมง
เราแจ้งว่าตอน 9 โมง ที่นี่ พนักงานจะยกมาเสริฟให้ถึงห้องพักเลยค่า สะดวกมาก
ตื่นมาก็กินต่อเลย ไม่ต้องอาบน้ำแต่งตัวเพื่อลงไปกินข้างนอก
นอนเล่นกันต่อจนถึงเวลาตอนเช็คเอาท์เลยค่ะที่นี่ อิอิ
วันนี้ทั้งวันก็ยังไม่เห็นดวงอาทิตย์โผล่มาเลย
ก็เลยตัดสินใจเดินทางกันต่อค่า เดี่ยวมีโอกาสคงได้กลับมาเยือนช่วงเวลาฟ้าสวยๆ
ที่ Sea Sand Trees กันบ้างนะคะ
สำหรับใครสนใจห้องพัก ห้องไหนนั้น เราแนะนำให้จองที่พักล่วงหน้าดีกว่าค่ะ
จะได้ไม่พลาด แนะนำห้อง Seaview ชั้นสูงๆ ไว้ก่อนเลย สำหรับคนที่ต้องการมาพักผ่อนจริงๆ
ที่นี่ตอบโจทย์ได้แน่นอนค่ะ
Sea Sand Trees
Line: 0956392894 (ค้นหาเบอร์โทรได้เลยค่ะ)
หรือโทร 038-141618, 095-6392894
Relax ริมทะเลกันก่อนกลับกรุงนะ
ไม่สิ เมื่อยังไม่หมดวันเรายังไม่เดินทางกลับกันง่ายๆ มีไปกันต่อค่ะ
ที่ ศาลเจ้านาจา[NACHA SA THAI CHUE SHRINE] ใกล้ทะเลบางแสน
เปิดให้เข้าชมทุกวัน จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-17.00 น. เสาร์เปิดถึง 18.00 น. อาทิตย์เปิดถึง 20.00 น.
ช่วงที่เรามาถึงฟ้าหม่นจริงๆ อันนี้ยอมรับ 555 สำหรับคนชอบถ่ายรูปที่นี่เหมาะเป็นที่ลองเลนส์ไวด์มากค่ะ
และมาช่วงเวลาฟ้าแจ่มๆ หรือทไวไลท์จะสวยมาก
สระน้ำบริเวณตรงกลาง สวยจริงๆ สีสันฉูดฉาดดี มีบันไดขึ้นไปยังข้างบนศาลเจ้าด้วย
แต่สาวๆ ที่มาต้องแต่งภายสุภาพ งดนุ่งสั้นนะคะ วันนั้นจึงไม่ได้ขึ้นไปชมข้างบนกัน
และตามล่าหาลายแทงของอร่อย ปิดท้ายสำหรับวันพักผ่อนนี้ซะหน่อย
ชี้เป้าร้านก๋วยเตี๋ยวแซบๆ บางแสน เจอที่ ร้านก๋วยเตี๋ญวหน้ามน
กับสโลแกนคำฮิตติดปากที่บอกว่า "ไม่แวะ เหมือนไม่ได้มาบางแสน"
ทีเด็ดของร้านก๋วยเตี๋ยวหน้ามน คือลูกเงาะ นี่เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน ลูกเงาะคือหมูสับผสมวุ้นเส้นค่ะ
อร่อยด้วย เราชอบอ่ะ ติดใจๆ วันนี้สั่ง ต้มยำหมูนุ่ม+ไข่+ลูกเงาะ ซึ่งเป็นเมนูแนะนำของทางร้านด้วย 50.-
และสั่งต้มยำแบบรวมทุกอย่าง จัมโบ้ 100.- กินกันจนจุกไปเล้ย
สำหรับก๋วยเตี๋ยวหน้ามนที่อร่อยตามชื่อเสียงเค้าจริงๆ ค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ
Rinsa yoyolive
RinSa YoyoLive
วันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 16.40 น.