ออกเดินทางจากกรุงเทพ ไปอุทัยธานีใช้เวลาสามชั่วโมงกว่าๆ

  • จุดหมายแรกของเรา คือ วัดท่าซุง เป็นวัดที่มีชื่อเสียงและงดงามของเมืองอุทัยธานี จะพลาดได้ไง

โชคดีที่เรามาถึงก่อนเที่ยงจึงได้เข้าไปชมมหาวิหารแก้ว เพราะจะปิดให้บริการช่วง 12.00 ถึง 14.00

ข้างในวิหารแก้วสวยมากๆเลยค่ะ


  • จากนั้นก็ไปวัดสังกัสรัตนคีรี อยู่บนยอดเขาสะแกกรัง หรือเรียกกันว่า วัดสะแกกรัง

สามารถขับรถขึ้นไปบนเขาได้ หรือจะเดินขึ้นเขาก็ได้ เลือกกันตามลำบากเลย บนเขาจะมีจุดให้ชมวิว มองเห็นแม่น้ำและทุ่งนา สวยงามตามที่เห็นเลย

  • คืนนี้เราพักที่บ้านสวนจันทิตา เป็นบ้านไม้มีอยู่ 4 หลัง ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ ราคา 2500 บาทต่อคืน

ที่พักเงียบสงบมาก สามารถดูข้อมูล เพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/bansuanchantita


ทางที่พักมีมุมนั่งเล่น และมีโอวัลติน , กาแฟให้บริการฟรี

มีโปสการ์ดที่ทางที่พักทำเองไว้จำหน่ายด้วย

เราอุดหนุนโปสการ์ดของที่พัก เพื่อบันทึกเรื่องราวการเดินทางในครั้งนี้

หลังจากที่นั่งพักให้หายเหนื่อยแล้ว เราก็ออกมาเดินเล่นตลาดโรงยา ซึ่งเป็นถนนคนเดิน แต่วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ ร้านส่วนใหญ่จึงปิด ที่นี่เปิดวันเสาร์เพียงวันเดียวเท่านั้น มาผิดวันสินะ คงต้องกลับมาใหม่


เย็นนี้เราไปกินอาหารที่ร้านป้าสำราญ ตามคำแนะนำของที่พัก ร้านนี้อยู่ริมแม่น้ำ บรรยากาศดี และราคาอาหารไม่แพงด้วย



หลังจากที่กินอิ่มแล้วก็เดินทางกลับเข้าที่พัก บรรยากาศที่พักตอนกลางคืนเงียบสงบมาก


ตื่นมาแต่เช้า รีบออกเดินทางไปตลาดเช้า เดินข้ามสะพานข้างวัดอุโบสถาราม วิวริมน้ำสวยงามดีจัง


มาตลาดทั้งที พี่สาวเราก็ต้องได้อะไรติดมือกลับมาบ้างสินะ


เดินเล่นตลาดเช้าเสร็จแล้วเราก็ไปหาที่นั่งกินกาแฟกันที่ ร้านกอบ 2


กลับไปถึงที่พัก ทางที่พักจัดอาหารเช้าให้เราเป็นข้าวมันไก่ และขนมใส่ไส้ นั่งกินอิ่มแล้วเราก็เตรียมเก็บของออกจากที่พัก พี่สาวเราชอบดอกชบาบอกว่าสีสวยดี ทางที่พักใจดี เลยมอบต้นไม้มาให้เราไว้ปลูกด้วย

  • ระหว่างทางกลับเราแวะถ่ายภาพวิวที่วัดม่วง จังหวัด อ่างทอง

ขับรถเลยป้ายทางเข้าวัดม่วงมา 200 เมตร จะเห็นร้านกาแฟอยู่ซ้ายมือ ชื่อร้านมะขาม ร้านนี้วิวดี๊ดีอ่ะ นั่งพักชมวิวทุ่งนาก่อนกลับเมืองกรุง

ปิดทริปอุทัยธานีสองวันหนึ่งคืน ฉลองวันคล้ายวันเกิดให้พี่สาวที่น่ารักคนนี้ แล้วพบกันใหม่นะ อุ ทั ย ธ า นี


Little Princess

 วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 11.59 น.

ความคิดเห็น