ทริปนี้พวกเราหนีเมืองกรุงไป ทริปไปพาฟอกปอด 3จุดเที่ยว เชียงใหม่ ที่อยากให้ไป

1. รีสอร์ทติดน้ำตกที่สวยติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก Sukantara Cascade Resort&Spa (ขนาดที่ Angelina Jolie ยังเคยพาลูกมาพัก !!! )

2. ฟอกปอด สูดออกซิเจน ที่จุดชมวิว ม่อนแจ่ม

3. เดินสวนพฤกษศาสตร์ ชมพันธุ์ไม้หายาก ที่ Queen Sirikit Botanic Garden

ว่าแล้วไปเริ่มกันเลยค่ะ อย่าเสียเวลา :P



📌1. สุกันทรา แคสเคด รีสอร์ท แอนด์สปา แม่ริม เชียงใหม่

พิกัด: 12/2 ม.8 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ 50180 ห่างจากสนามบินแค่ 1 ชม. นิดๆ ประมาณ 43 กม. พาไป “เติมเต็มชีวิตติดน้ำตก” ที่ สุกันทรา แคสเคดรีสอร์ท แอนด์สปา แม่ริม เชียงใหม่กันค่ะ เป็นทริปที่ประทับและหายเหนื่อยเลยเพราะว่ารีสอร์ทสวยมากกกกก และธรรมชาติสุดๆ

ถ้าคุณกำลังฝันแบบอยากนอนกลางป่า ฟังเสียงน้ำตก เสียงนกร้องสักสองวัน ที่นี่แหละโครตเหมาะเลย

ธรรมชาติขนาดไหนนะหรอ??? ก็เอาเป็นว่า ตื่นมาได้ยินเสียงน้ำตกไหล นกร้อง แดดอ่อนๆ นั่งทานอาหารเช้าดูนกเป็ดน้ำมาลอยเล่นน้ำ และนกยูงเดินผ่านไปผ่านมา ย้ำๆๆๆ ว่าพวกมันเดินมาใกล้จนเราตื่นเต้นแทนพวกมัน 5555+ คือเค้าไม่กลัวคนเลย แบบสามารถเดินเข้าไปหาได้ คล้ายกับเป็น species เดียวกัน

พื้นที่ของรีสอร์ทนั้นติดกับน้ำตกและป่า และนี้ถือจุดขายของที่นี่เลยค่ะเพราะเขาอยู่กับธรรมชาติจริงๆ โดยที่ไม่ได้ไปรุกล้ำและทำลายความสวยงามป่าแถมยังอนุรักษ์ความเป็นไทยล้านนาเอาไว้ เวลาเข้าไปในรีสอร์ทจะได้ฟิลลิ่งเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ ค่ะ

ก็คิดดูละกันว่า ขนาดนกยูงยังมาใกล้ชิดแม้กระทั่งประตูห้องพัก ธรรมชาติขนาดไหนถามใจเธอดู :)

พวกเรานอนห้อง Suite Waterfall Pool Villa 1 bed ค่ะ สวยและกว้างมาก

  • 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น สามารถพักได้สูงสุด 3-4 คน แต่ต้องซื้อเตียงเสริมเพิ่มเอาค่ะ
  • ในห้องมีอ่างอาบน้ำ Jacuzzi ทั้งในห้องอาบน้ำและด้านนอก สามารถนอนแช่ดูวิวน้ำตกไหลผ่าน
  • มีศาลา Pavilion ส่วนตัว
  • มีสวนนั่งเล่นส่วนตัว


ภายในห้องให้ความโทนอบอุ่นและคงความเป็นไทยล้านนาไว้ ใครที่ชอบที่พักแนวนี้บอกเลยว่าต้องมาจัดสักครั้งค่ะ

ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ซึ่งจริงๆ คนสามารถนอนที่ห้องนี้ก็ได้ค่ะ ไม่ต้องเสริมเตียง

บรรยากาศโดยรอบรีสอร์ทมีความเป็นส่วนตัวสูงมากค่ะ ไม่วุ่นวายไม่มีเสียงรบกวนยกเว้น....เสียงน้ำตกที่ดังมาก เพราะเราอยู่ติดกับน้ำเลย ฮ่าๆๆ (ใครอยากปลีกวิเวก ควรลอง ... ต่างชาติมาพักทีเป็นอาทิตย์ ไม่ออกไปไหนเลย)

ที่นี่มีสระว่ายน้ำใหญ่ด้วยนะ ว่ายน้ำในสระแล้วมองวิวน้ำตกมันดีไปไหมมมมม ฟินส์ค่าาา

ส่วนรูปนี้เป็นรูปบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามค่ะ ไม่ใช่ของรีสอร์ทค่ะ แต่เราว่ามันมีเสน่ห์นะ เหมือนอยู่ต่างประเทศเลย บ้านเก่าๆ แต่ยังคงความคลาสสิคไว้ ในสายตาเรา

หลังจากที่ถ่ายรูปบรรยากาศกันเสร็จก็เย็นพอดี พวกเราไม่ได้ออกไปไหนค่ะ ทานอาหารเย็นกันในรีสอร์ทเพราะเห็นว่าขันโตกที่นี่อร่อย เลยขอลองกันสักหน่อยซึ่งมันคุ้มมากกกกค่ะ เพราะเป็นบุฟเฟ่ต์ขันโตกค่ะ กินแบบไม่อั้น 5555+ ท้าให้มาลอง :P

อีกไฮไลท์คือ นกยูงค่ะ ก่อนอาทิตย์จะตกนกยูงจะส่งเสียงร้องเรียกหากันเป็นสัญญาณรวมตัวก่อนพากันบินขึ้นไปนอนบนต้นไม้ใหญ่ หากใครไม่ได้ไปทำกิจกรรมข้างนอกก็จะได้เหล่านกยูงออกมาเดินสวยงามเลยค่ะ


ชอบไส้อั่วที่นี้มากค่ะ ไม่มันเยอะเหมือนเราทานตามร้านทั่วไป และน้ำพริกหนุ่มอร่อยมากกกก

ขันโตก ริมน้ำตก ... ความอร่อย ที่หาไม่ได้จากที่ไหนแล้ว ! (อันนี้คือชอบจริงๆ ถ้ามี 100 ให้ 100 เลย ... รีสอร์ทสวยๆ น่ะ มีเยอะที่เราเคยไป แต่เชื่อมั้ย ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา เราไม่เคยเจอที่ไหนธรรมชาติเท่าที่นี่เลย)

*** ใครอยากทานของหวาน ต่อด้วย "เค้กนาโอมิ" เลย (ของที่นี่ขึ้นชื่อมาก มีแต่คนติดใจ) เค้าบอกถ้าไม่ลอง จะเสียใจ : )))

ตกเย็นมาทุกอย่างก็เริ่มเงียบค่ะ หากใครเหนื่อยอยากพักผ่อนก็แช่น้ำและนอนได้เลย แต่หากใครไม่ชอบนอนเร็ว ที่รีสอร์ทมีหนังแผ่น DVD เอาไปดูที่ห้องได้ค่ะ หากเบื่อหนังไทยในทีวี

บริเวณล็อบบี้จะตกแต่งด้วยของโบราณ แนวไม้ๆ ค่ะ หากใครชอบของเก่าอาจจะนั่งเพลินเลย

หลังจากทานข้าวกันเสร็จพวกเราก็ต่างกลับห้องไปอาบน้ำกัน เพราะเพลียการเดินทางพอสมควร


เช้าอีกวันพวกเราก็ตื่นกันแต่เช้า เพราะอีกกิจกรรมไฮไลท์ของที่นี่คือการเดินป่าชมนกตอนเช้าค่ะ ออกสัก 7.30 am. กำลังดี นกกำลังออกไปหากิน หากเกิน 8โมงไปไม่เห็นค่ะ

ไปเดินป่าดูนก ต้องข้ามสะพานแดงไปอีกฝากของรีสอร์ทค่ะ สามารถไปยืมกล้องดูนกได้ที่ Reception ค่ะไม่คิดตังซึ่งสามารถเดินขึ้นไปทะลุไปถึงน้ำตกแม่สาประมาณ 1 กิโลกว่าๆ

คือพูดถึง 1 กม. กว่าๆ มันดูสั้นนะ แต่ทางขึ้นเขา มันก็ทำให้เหนื่อยได้เหมือนกัน : ) ตอนแรกๆ ว่าจะไปให้ถึงแหละ แต่ ... แต่เจอยุงป่าเข้าไป (ด้วยความไม่เคยเดินป่า เราเลยไม่ได้เตรียมพร้อมอะไร ใส่ขาสั้นเดินลุยเลยไง) ขาลายกันเลยทีเดียว รีบเดินกลับแทบไม่ทัน 555+

ทริปนี้มีแม่ที่พร้อมคนเดียว นางบอกว่า นางปวดเข่า แต่เดินได้ไม่รอใครเลย ... เรื่องเที่ยวไว้ใจแม่ได้ 555

เดินไปได้ไม่ถึงไหนก็ต้องถอยทัพกลับกันค่ะ เพราะยุงมันเยอะแล้วพวกเราใส่ขาสั่นกัน ยกเว้นคุณแม่ที่พร้อมสุด >.< เราเลยต้องถอยทัพไปกินข้าวกัน ... ความจริงไม่ต้องไปไหนไกลก็มีความสุขได้นะ วิวที่พักเนี่ยแหละ สุดยอดที่สุดแล้ว

บรรยากาศตอนกินข้าวเช้า ... มัวแต่ตื่นเต้น ถ่ายรูปเพลิน คือแบบยังไม่ชิน กับธรรมชาติขนาดนี้ แบบที่มีนกยูง นกเป็ดน้ำ เดินไปมาเวลากินข้าว แบบที่มีน้ำตกผ่ากลางรีสอร์ท คือมันฟินส์อย่างบอกไม่ถูก !!!


อีกกิจกรรมที่แนะนำให้ทำเมื่อมาที่นี่คือ สปาค่ะ ชิดา สปา เพราะเขาได้รับเลือกให้เป็นสปาที่มีมาตรฐานสูงในระดับโกลด์อวอร์ดจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

นานๆ ทำสปามานวดทีรู้สึกผ่อนคลายได้ดีมากค่ะ โดยเฉพาะหัวไหล่ บ่า Office syndrome ตามประสามนุษย์เงินเดือน

ชอบบรรยากาศที่สปานะ มันทำให้รีแล็กซ์มากแค่นั่งรอ ยังไม่ได้นวดก็รู้สึกดีละ เย็นสบายร่มรื่นดี

รีวิวรีสอร์ทก็จบเท่านี้ เยอะไปเด๊่ยวเบื่อกันเนอะ สรุปว่าเป็นการพักผ่อนที่ประทับกับตัวรีสอร์ทมากค่ะ เป็นอีก 1 ที่ชอบกับบรรยากาศของรีสอร์ทแบบสุดๆ ไปมาหลายที่ต้องยอมรับว่าที่นี่ธรรมชาติสุดๆ ใกล้ชิดมากๆ จนคุณแม่ต้องเดินไปถามว่ามีส่วนลดอีกไหมค่ะ จะชวนแก็งค์คุณแม่ๆ มาใหม่ 5555+

แนะนำว่ามาลองสักครั้งค่ะ แล้วจะติดใจเหมือนกับพวกเรา :)

สุกันทรา แคสเคด รีสอร์ท แอนด์สปา แม่ริม เชียงใหม่

2/2ม.8 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ 50180

สำรองห้องพัก และจัดเลี้ยง โทร : 081-8811444, 081-8816570

เว็บ http://www.sukantara.com


📌2. ไปฟอกปอด สูดออกซิเจน ที่จุดชมวิว ม่อนแจ่ม แจ่มจริงนะเออ

22/8 หมู่ 7 ตแม่แรม อ. แม่ริม เชียงใหม่ 50180

ห่างจาก Sukantara Cascade Resort ขับรถมาแค่ 40 นาที ประมาณ 16.5 กม. แต่ถนนนะหรอ งูเรียกพี่ค่าา มันโค้งเยอะจริงๆ ใครจะขับรถไปก็ระวังกันด้วยน้าาา

ม่อนแจ่มเป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาหากมาเที่ยวแถวแม่ริม เพราะเป็นจุดชมวิวเป็น Panoramic view เลยค่ะ สวยจริงๆ บรรยากาศดี ข้างบนก็มีร้านอาหารและกาแฟของโครงการหลวงให้บริการด้วย พวกเราก็ฝากท้องข้าวเที่ยงกันที่นี่ ราคาไม่แพงรสชาติก็อร่อยดีค่ะ

นอกจากวิวจะสวยแล้ว ก็มีจุดให้ถ่ายรูปอีกเพียบ :P

เสร็จจากม่อนแจ่มพวกเราก็ปักหมุดไปที่ Queen Sirikit Botanic Garden ซึ่งไม่ไกลจากที่นี่เหมือนกันค่ะ ขับไปอีก 8.5 กิโล ใช้เวลาไม่เกิน 20 นาทีก็ถึง


📌3. สวนพฤกษศาสตร์ ชมพันธุ์ไม้หายาก ที่ Queen Sirikit Botanic Garden

ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 40 เด็ก 20 รถยนต์ 100 บาท
เปิด 8.30 น. – 16.30 น.
Map: https://goo.gl/maps/A8UKwu82Tfr

สวนพฤกษศาสตร์ไม่ไกลจากม่อนแจ่งเท่าไรค่ะ หากขับลงมาก็ใช้เวลาแค่ 20 นาทีโดยประมาณค่ะ แต่ทางก็จะเป็นงูหน่อยๆ นะ ไม่ต่างจากตอนขึ้นไปม่อนแจ่งเท่าไร เตรียมใจไว้เลยจ้า

ที่นี่มีหลายจุดให้ไปถ่ายรูปเก็บไว้ จุดแรก Conppy Walk เดินชมวิวป่าไม้สีเขียวบนสะพานเหล็ก ถ้ามาเดินแบบลมเย็นๆ มันก็จะคูลมาก แบบถ่ายรูปแนวๆ บน Conopy Walkway เส้นทางชมวิวลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ที่ทอดยาวท่ามกลางวิวหุบเขาและต้นไม้



ยังไม่พอเท่านั้น ... ใครชอบถ่ายรูปแนวๆ หรือถ่าย portrait ขอให้ขับรถขึ้นไปอีกนิด ไปจอดตรงสวนพฤกษศาสตร์ รับรองว่าวิวเด็ดมาก มีทั้งกระบอกเพชร กล้วยไม้ ต้นไม้แปลกๆ ทรงสวยๆ มีเพียบ !!!













จบแล้วค่ะ ทริปเชียงใหม่แบบสบายๆ ไปฟอกปอด ใช้เวลากับธรรมชาติ รู้สึกเหมือนได้เติมพลังให้ชีวิตไปอีกหลายปี :) ใครยังมีแรงจะเที่ยว เที่ยวเถอะค่ะอย่ามัวแต่หาเงินจนไม่ได้หาเวลาไปพักผ่อน เพราะเมื่อเรามีเงินแต่ไม่ได้เติมความสุขให้ตัวเองเลย เดี๋ยวร่างกายเราเขาจะไม่ไหวเอานะ สุดท้ายก็ต้องหาเงินเพื่อรักษาตัวเองในโรงพยาบาล มันไม่คุ้มเลยและเดี๋ยวเราก็จะมานั่งเสียดายว่าไม่ได้ใช้ชีวิตให้มันคุ้มค่ากว่านี้
พักสมอง พักใจ พักสายตา หาเวลาเติมพลังชีวิตกันค่ะ :)
See you again next trip :)



ติดตามรีวิวอื่นๆได้ที่ https://th.readme.me/id/ReviewPapai

ฝากเพจด้วยนะคะให้กำลังใจคนเขียนนิดนึง ; p https://www.facebook.com/ReviewPapai/
แล้วพบกันใหม่ : )

ReviewPapai

 วันพฤหัสที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 17.44 น.

ความคิดเห็น