หลังจาก Ep2 ที่เราได้ขึ้นไปชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า
เราลงมาจากภูทอกและแว๊น! ต่อไปอีกสถานที่หนึ่งที่เราไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือน เชียงคาน
คือ..." แก้งคุดคู้ "
แก่งคุดคู้ เป็นแก่งขนาดใหญ่ แห่งหนึ่งของไทย ที่เกิดจากการทอดตัว ของ แนวหิน ลงใน แม่น้ำโขง ประกอบด้วย หินก้อนใหญ่ ๆ เป็นจำนวนมากจากการที่หินเหล่านี้อยู่ใต้น้ำเป็นเวลานาน ทำให้หินเหล่านี้มีสีสันสวยงาม ตัวแก่งกว้างใหญ่เกือบจรด สองฝั่งแม่น้ำโขง
แก่งคุดคู้ตั้งอยู่บนถนนสายเดียวกันกับภูทอกซึ่งห่างจาก ตัวอำเภอเชียงคานประมาณ 3 กิโลเมตร
การได้มาที่นี่ทำให้ฉันสัมผัสถึงวิถีชีวิตที่ยังอยู่อย่างเรียบง่าย
ชีวิตที่อยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง
เราแว๊นตามทางป้ายมาเรื่อยๆ จนมาถึง
เนื่องจากยังเช้าตรู่อยู่ร้านหลายร้านยังไม่เปิดให้บริการเลย วิวจากด้านบนของแก่งคุดคู้ ทำให้เรามองเห็นภาพกว้างๆทั้งหมดของแก่ง รวมทั้งอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำโขงด้วย
มีบันไดให้เราเดินลงเพื่อไปชมแก่งใกล้ๆ นักท่องเที่ยวช่วงเช้าวันนี้มีไม่มากนัก กับหมอกที่กำลังลงอย่างเป็นใจในตอนเช้า มันโคตรฟินเลย
หมอกที่กำลังลง คล้ายๆเป็นทะเลหมอกในบางช่วง
ในช่วงที่เรามาอยู่ในช่วงปลายเดือนธันวาคมระดับน้ำโขงลดตัวลง
จนเห็นเกาะแก่งและหาดทรายสีขาวขนาดใหญ่
แก่งเหล่านี้แม้จะเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางในลำน้ำโขงมาแต่โบราณ แต่ก็เป็นบริเวณที่มีปลาเข้ามาอยู่อาศัยอย่างชุกชุม
เรื่องเล่าความเป็นมาของ "แก่งคุดคู้" คือ
มีพรานป่าคนหนึ่งชื่อ “จึ่งขึ่งดั้งแดง” รูปร่างสูงใหญ่ล่ำสัน มีฝีมือในการล่าสัตว์ วันหนึ่งนายพรานผู้นี้ตามล่าควายเงินมาจากหลวงพระบาง (ที่เรียกควายเงินเพราะมูลของควายตัวนี้เป็นเงิน) พอมาถึงริมน้ำโขงเห็นควายเงินพักกินน้ำ นายพรานจึงดักซุ่มยิง พอดีชาวบ้านแล่นเรือผ่านมา ควายเงินตกใจตื่นเตลิดขึ้นไปบนเขาลูกหนึ่ง (ต่อมาเขาลูกนี้ได้ชื่อว่า"ภูควายเงิน") นายพรานเลยยิงไปถูกเขาอีกลูกจนพังทลายไปซีกหนึ่ง กลายเป็นหน้าผาสูงชัน ที่ชาวบ้านเรียกว่า “ภูผาแบ่น”
นายพรานโกรธคนที่แล่นเรือผ่านซึ่งเป็นต้นเหตุให้ควายเงินหนีไป จึงกลั่นแกล้งด้วยการขนหินมาขวางกั้นลำโขงไม่ให้เดินเรือได้ นายพรานทำการเกือบจะสำเร็จ ก็พอดีมีสามเณรรูปหนึ่งมาเห็นเข้า เณรนั้นออกอุบายหลอกให้นายพรานใช้ไม้เฮียะ (ไม้ใผ่ชนิดหนึ่ง) ผ่าซีกหาบหินแทน ไม้เฮียะผ่าแล้วจะเป็นสันคมกริบ เมื่อนายพรานใช้หาบหิน ไม้นั้นก็บาดคอนอนตายคุดคู้อยู่ที่ริมโขงนั้นเอง แก่งหินนั้นจึงเรียกว่า “แก่งคุดคู้”
เราโชคดีเรามาในช่วงที่น้ำลด ทำให้เห็นเกาะแก่งน้อยใหญ่ต่างๆ โดยมีภูเขาลูกยักษ์ที่ชื่อ
“ภูควายเงิน” ตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง มีหมอกปกคลุมเป็นระยะ
เราเฝ้ามองเรือลำหนึ่งซึ่งค่อยๆออกเดินทางจากแก่งไป ซึ่งก็ไม่รู้ว่าไปไหนเหมือนกัน อาจะไปหาปลา หรือข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำโขง แต่ไม่รู้สิว่าไม่จะเป็นที่ไหนที่เค้าจะไป แต่การเฝ้ามองวิถีชีวิตอย่างพิจารณาแบบนี้มันทำให้เรานึกได้ว่า ชีวิตมันก็แค่นี้ มันต้องการแค่ความเรียบง่าย กับสิ่งที่เรามี แค่ที่เรามี มันก็พอ ...
เรารอดูจนพระอาทิตย์ขึ้น เป็น vanila sky เลย
พอเดินกลับขึ้นไปด้านบนเริ่มมีนักท่องเที่ยวมามากขึ้น มีพ่อค้าแม่ค้าเริ่มมาเปิดร้านแล้ว มีทั้งอาหาร ซึ่งมีทั้งปลา กุ้ง หอย ที่ต่างก็มีชื่อแม่น้ำโขงห้อยท้าย ไปจนถึงส้มตำ ไก่ย่าง ลาบ น้ำตก ฯลฯ สามารถนั่งรับประมานอาหารที่ริมแม่น้ำโขงแบบใกล้ๆเลย
ใครอยากปล่อยปลาทำบุญก็มีน้า
การเดินทางไปแก่งคุดคู้ สามารถเหมารถสกายแล๊ป หรือ เช่ารถมอเตอไซต์
แบบเราจากแหล่งที่พักในเชียงคานก็ได้จ้า
เราแนะนำให้ไปในช่วงเช้าจะสวยงามมากขึ้รไปอีกหลายเท่า หมอกที่กำลังลงมันโคตรจะดีเลย
และรอเฝ้าชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือสันเขาแห่งนี้มันจะดีมากเลย
ใครมีโอกาสมาเชียงคาน จังหวัดเลย อย่าลืมแวะไปชมกันนะค่ะ
ติดตามพูดคุยกับเราได้ที่ http://www.facebook.com/goalongtime
seasonjourney
วันพุธที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.46 น.