“ล้ง1919”
มาเรียนรู้ประวัติศาสตร์คร่าวๆกันก่อน
พื้นที่แห่งนี้มีความสำคัญมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ในนาม ท่าเรือ “ฮวย จุ่ง ล้ง” เป็นท่าเรือกลไฟ เพราะ เรือโดยสาร หรือ บรรทุกสินค้าในสมัยนั้นใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิง
โดยชาวจีน เดินทางทางทะเล เข้ามาเพื่อค้าขาย หรือ ย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากที่ประเทศไทย
นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งการค้า และ โกดังเก็บสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ อีกด้วย
อดีตท่าเรือกลไฟ กับ โกดังเก่า ของตระกูล หวั่งหลี
แม้สถานที่จะแปรเปลี่ยนทรุดโทรมตามกาลเวลาไปบ้าง แต่ยังคงอนุรักษ์ความเป็นสถาปัตยกรรมจีนโบราณไว้ ถึงเวลาจะล่วงเลยมา 167 ปี ก็ไม่สูญหายไปจากประวัติศาสตร์
ปัจุจบันถูกฟื้นคืนงานสถาปัตยกรรม และ จิตรกรรม ให้กลับมางดงามอีกครั้ง
ตัวอาคารก่ออิฐถือปูน พื้นสร้างจากไม้ หลังคาสร้างจากกระเบื้อง เป็นหมู่อาคารแบบ ลักษณะอาคาร 3 หลังเชื่อมต่อกัน 3 ด้าน เป็นผังรูปทรงตัว U มีพื้นที่ว่างตรงกลางเป็นลาน
ด้านบนชั้น 2 เป็น ศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว
ร้านอาหารโรงสี ตั้งอยู่บริเวณริมน้ำ บรรยากาศตอนเย็นชิลมาก
งานบูรณะจิตรกรรมที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงพระกรุณาลงฝีพระหัตถ์แต่งแต้ม
ด้านซ้ายเป็นจิตรกรรมที่ถูกฟื้นฟูแล้ว ,ด้านขวามีการทาสีทับตามกาลเวลา ก่อนที่จะมีการลอกสีออกและฟื้นฟูให้เห็นภาพจิตรกรรม
ล้ง 1919 กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ พื้นที่ครีเอทีฟสาธารณะ
แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน สำหรับจัดกิจกรรม นิทรรศการ
-ร้านอาหาร คาเฟ่
-ร้านจำหน่ายสินค้า ศิลปะ งานฝีมือ
-และยังให้คนรุ่นใหม่ ได้มีส่วนรวมในพื้นที่แห่งนี้อีกด้วย
.
ชอบเที่ยวจะพาไปชม เสน่ห์ยุคฟื้นฟูของ ล้ง 1919 กัน
ทางเข้าที่ใครหลายๆคนต้องหยุด ถ่ายภาพ
สามารถไปซื้อธูปมาไหว้ ศาลเจ
ศาลเจ
มุมทางเดินนี้ก็ถ่ายรูปสวยไม่เบาเลย
อีกมุมที่ใครมา ต้องถ่ายคู่กับเด็ก2คนนี้ ถ้าไม่ได้ถ่ายนี้แสดงว่ามาไม่ถึง
แอบถ่ายนางซะหน่อย
สุดท้ายขอลาด้วยภาพนี้ เป็นสถานที่ ที่มีความคลาสสิค อยู่ถ่ายรูปได้ทั้งวันไม่เบื่อ
พิกัด
ตั้งอยู่บนถนนเชียงใหม่ เขตคลองสาน กรุงเทพๆ
เปิดให้บริการตั้งแต่วันนี้ เวลา 8.00-20.00 น.
ใครชอบรีวิว สามารถตามไปกดไลค์ กดฟอลโล่ว
เพจ ชอบเที่ยว เพิ่มเติมได้นะค่ะ
https://www.facebook.com/chobtiew.mn/
Iam Zhat-Zhai
วันพฤหัสที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 16.33 น.