เมื่อสาวใต้ตะลอนเมืองเหนือ ทริปนี้เริ่มต้นจากการจองตั๋วหางแดงไว้เมื่อปีที่แล้ว บินตรงสุราษฎร์-เชียงใหม่ คืนแรกเรานอนพักกันที่เชียงใหม่ก่อน แล้วตอนเช้าเราจะขับรถไปแม่ฮ่องสอนกัน

19/11/60 Check out ออกจากที่พักแล้วไปรับรถยนต์ เราเช่ารถกับ ชมคาร์เร้นท์ บริการดีนัดรับ-คืน สะดวก ได้รถมาแล้วก็ออกเดินทางสู่แม่ฮ่องสอน แต่กว่าจะได้ออกจากเชียงใหม่ก็เกือบ 9 โมง เราใช้ ถ.108 ในการเดินทางไปแม่ฮ่องสอน เพราะเราจะแวะสวนสนบ่อแก้วซึ่งอยู่ระหว่างทาง สวนสนมีอะไรน่ะเหรอ ก็มีต้นสนเรียงรายเต็มไปหมด สวยดี วันที่ไปอากาศก็เย็นสบาย อยากได้เสื่อสักผืนหนังสือดีๆสักเล่มนอนอ่าน คงจะฟินน่าดู

ถ่ายรูปเล่นกันจนหนำใจแล้วก็ขับรถไปต่อที่ทุ่งบัวตองดอยแม่เหาะ ดอกบัวตองอาจจะไม่เยอะอลังการเหมือนดอยแม่อูคอ แต่มันเป็นทางผ่านเราก็จะหยุดถ่ายรูปเหมือนเดิมค่ะ สีเหลืองอร่ามตอนแรกคิดว่ามันจะเป็นต้นเล็กๆที่ไหนได้ต้นใหญ่นะเนี่ย ด้วยความที่มาถึงตอนเที่ยงแดดก็จะแรงนิดนึง

หิวแล้วออกเดินทางไปหามื้อเที่ยงกันเถอะ มื้อเที่ยงเราฝากท้องไว้ที่เฮินไต แม่ลาน้อย



ทานมื้อเที่ยงเสร็จก็รีบเดินทางไปแม่ฮ่องสอนกันต่อ ขับรถไปยาวๆ ระหว่างทางเจอเหตุระทึก เราขับรถตามรถบรรทุกแล้วหินก้อนใหญ่ตกลงมาใส่รถบรรทุก คือโชคดีมากที่ไม่โดนรถเรา ตลอดเส้นทางเป็นทางโค้งคดเคี้ยวขึ้นเขาลงเขา มีหินและดินสไลด์ให้เห็นอยู่ตลอดทาง ต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง เราถึงแม่ฮ่องสอนเย็นมากแล้วจึงต้องตัดวัดพระธาตุดอยกองมูออกจากแพลน ยังลังเลว่าจะตัดสะพานซูตองเป้ออกด้วยรึเปล่า แต่ขอตัดแค่ที่เดียวเพราะสะพานซูตองเป้อยู่ไม่ไกลจากทางเข้าปางอุ๋ง เราไปดูสะพานไม้ที่สร้างด้วยความศรัทธากันพร้อมแสงเย็น

ตอนนี้ก็เย็นมากแล้วเราต้องขับรถไปบ้านรวมไทย คืนนี้เราพักที่ นายจิ่ง โฮมสเตย์ คืนละ 600 บาท ติดต่อจองที่พักได้ที่ โทร. 0806779169 , 0835814227 ห้องจะแยกเป็นหลังมีห้องน้ำในตัว ภายในห้องจะมีที่นอนหมอนมุ้งและพัดลมให้ (รูปนี้ถ่ายตอนเช้าอีกวันนึง)

มาถึงแล้วอาการหิวก็มา สั่งหมูกระทะมา 1 ชุด ในราคา 300 บาทก็พอดีอิ่มสำหรับ 2 คน จัดเสิร์ฟกันหน้าห้องเลยค่ะ ทานเสร็จก็อาบน้ำนอนได้ทันที




20/11/60 วันนี้ตื่นแต่เช้ามาใส่บาตรแล้วเดินไปอ่างเก็บน้ำ รอถ่ายรูปกับหมอกเหนือผิวน้ำ ลมหนาวค่อยๆพัดมาสัมผัสผิว อากาศช่วงนี้แค่เย็นๆยังไม่หนาวเลย ยืนเฝ้ารอชมหมอกลอยอ้อยอิ่งบนผิวน้ำ เดินเล่นเก็บภาพ เก็บบรรยากาศรอบตัว อาจเป็นเพราะช่วงที่ไปยังไม่ค่อยหนาว หมอกยังน้อยอยู่ อยากเห็นหมอกมากกว่านี้คงต้องมาใหม่ครั้งหน้า

เราเดินทางไปบ้านรักไทยกันต่อเพื่อจะไปทานมื้อเช้ากัน จุดหมายของเราคือร้านอาหารลีไวน์รักไทย เมนูที่พลาดไม่ได้ก็ต้องเป็น ขาหมู หมั่นโถว ยำใบชา นั่งจิบชาไปเรื่อยๆระหว่างรออาหาร เมื่ออาหารทุกอย่างมาวางบนโต๊ะตรงหน้าก็แอบตกใจนิดหน่อย เยอะไปรึเปล่านะ ดูแล้วน่าจะเยอะไปสำหรับ 2 คน สุดท้ายก็ต้องบอกพนักงานว่า ห่อกลับด้วยค่ะ ทานอิ่มแล้วก็เดินเล่นเดินย่อยกันสักหน่อย ค่อยเดินทางต่อ

วันนี้เราจะไปปาย เรามาถึงปายบ่ายๆก็หาที่พักสำหรับคืนนี้ก่อนเลย ที่พักของเราคือ ปอ อา ยอ คืนละ 600 บาท จัดการเก็บของเข้าที่พักเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไป Romance another story in Pai สถานที่ที่ทำให้เราอยากมาปาย มาหาคำตอบ เราตามรอยมาจากภาพยนตร์เรื่อง 1448 รักเราของใคร ที่นี่เป็นฟาร์ม มีร้านกาแฟ ที่พัก บรรยากาศสงบในทุ่งหญ้ากว้างๆ มาถึงก็เข้าร้านกาแฟก่อนหาของหวานทานให้ชื่นใจ เมนูที่สั่งคือ ชาเขียวเย็น สตรอเบอร์รี่สมูทตี้ และ Japanese cheesecake ชีสเค้กอร่อยมาก หอมชีสเค้กละลายในปากฟินที่สุดสำหรับคนชอบชีสเค้กไม่ควรพลาด เมื่อจัดการของหวานจนเกลี้ยงก็ขอเข้าไปชมฟาร์ม โรงเลี้ยงสัตว์ จะเปิดให้ลูกค้าร้านกาแฟและคนที่มาพักเข้าชมฟรี ก่อนเข้าก็ต้องไปเปลี่ยนรองเท้าบูทให้เรียบร้อยก่อน สามารถเข้าไปถ่ายรูปและให้อาหารสัตว์ได้หากมีพนักงานให้อาหารอยู่ ถ้าใครชอบความสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่านก็แนะนำให้มาค่ะ

สถานที่ต่อไป วัดพระธาตุแม่เย็น เป็นสถานที่ยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่ไปรอชมพระอาทิตย์ตก บันไดทางขึ้นก็หลายขั้นอยู่นะ ระหว่างเดินขึ้นไปหยุดพักหลายครั้งแล้วทำเนียนยืนชมวิวไปเรื่อยๆ จนเดินไปถึงข้างบน วันนี้ลมแรง ครึ้มฝนด้วย ขออย่าให้ฝนตกเลย เต็มอิ่มกับบรรยากาศก็ได้เวลาลงไปเดินเล่นที่ถนนคนเดินปาย ไปหาอะไรกินอีกแล้ว เดินซื้ออะไรกินง่ายๆแล้วกลับไปนอนเก็บแรงไว้เที่ยวต่อพรุ่งนี้


21/11/60 ตื่นเช้ากว่าเวลางานก็เวลาเที่ยวนี่แหระ ตื่นเช้าเพราะจะไปรอชมทะเลหมอก ที่จุดชมทะเลหมอกหยุนไหล เราขับรถไปเองได้แค่หมู่บ้านสันติชลจอดรถไว้แล้วไปกับรถชาวบ้าน ค่ารถ 300 บาทเป็นราคาเหมาไปกลับ ถ้าไม่เหมาก็รอนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นแล้วหารค่ารถกันก็ได้ เมื่อถึงต้องจ่ายค่าธรรมเนียมบำรุงสถานที่คนละ 20 บาท วันนี้หมอกหนาฟุ้ง ขาวไปทั่วทั้งบริเวณ ไม่จับตัวลอยต่ำเลย ถ่ายรูปเล่นรอเผื่อจะเห็นหมอกไหล แต่สุดท้ายวันนี้ไม่ได้เห็นหมอกไหล

งั้นก็กลับลงมาหมู่บ้านสันติชล สิ่งแรกที่ทำเมื่อมาถึงพุ่งไปเล่นชิงช้า เราเป็นคนกลัวความสูงที่ชอบนั่งชิงช้า ตอนแรกที่ชิงช้ากำลังหมุนขึ้นไปก็ไม่รู้สึกอะไร แต่พออยู่ตำแหน่งสูงสุดเสียวไส้ ปิดตาปี๋ทุกครั้ง แต่สนุกนะ ชอบ ให้เป็นที่สุดของวันนี้เลย คุ้มค่ากับเงิน 25 บาทที่จ่ายไป

จากนั้นเราก็ออกเดินทางกันต่อวันนี้เราต้องกลับเชียงใหม่ เราจะแวะเรื่อยๆ จุกแรกที่ผ่านคือ Coffee in love ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของปายก็ว่าได้ สิ่งที่ทำคือถ่ายรูปแล้วไปสั่งเค้กและชาเขียวเย็น อีกอย่างที่ต้องทำคือเขียนโปสการ์ดส่งให้ตัวเอง เราจะเขียนโปสการ์ดทุกครั้งที่เดินทางท่องเที่ยวเพื่อบันทึกความสุขในเวลานั้นแล้วเก็บไว้เป็นความทรงจำ


ต่อไป ปายแคนย่อนหรือกองแลนปาย สถานที่ยอดฮิตอีกที่ มันก็สวยดีนะแต่เราไม่กล้าเดินเข้าไป


สถานที่สุดท้ายสำหรับทริปนี้ สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย นักท่องเที่ยวจับจองทุกพื้นที่ในการถ่ายรูปเราได้แค่มองอยู่ห่างๆ สิ้นสุดสำหรับทริปนี้ หากมีโอกาสจะมาแม่ฮ่องสอนอีกน๊าาาาาาาาาาาา

ก่อนจะจัดทริปนี้ก็อ่านรีวิวหาข้อมูลอยู่สักพัก ทั้งเรื่องการเดินทาง ที่พัก อาหารการกิน สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เราก็แค่อยากแชร์ประสบการณ์การเดินทางเผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้าง

มีความสุขทุกครั้งที่ได้ออกเดินทางท่องเที่ยว ... Lady2Go ขอบคุณที่มาด้วยกัน

LADY2GO

 วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 14.31 น.

ความคิดเห็น