ทริปแม่ฮ่องสอนครั้งสุดท้ายของปี 2560 ออกเดินทาง 10-12 ธันวาคม 2560 ตั้งใจจะไปเดินงาน "เปิดเมิงไต" และไปซ้ำดอยปุย บ้านห้วยฮี้ อีกสักครั้ง หนาวนี้...ที่แม่ฮ่องสอนรอบนี้ก็เลยมีแต่ที่เที่ยวในเมือง วัดวา และอื่นๆ ที่ใครๆ ไม่สนใจ เราใช้บริการของสมบัติทัวร์เดินทางจากกรุงเทพฯตรงสู่แม่ฮ่องสอน ใช้เวลาเดินทาง 16 ชั่วโมง ขาไปเราได้รถ ม.1(ข) เที่ยวอื่นเต็มหมด แต่ก็ถือว่าดี เป็นรถชั้นเดียว นั่งหลังก็ไม่เมา
มาถึงแม่ฮ่องสอนก็เริ่มออกเดินซนไปที่วัดจองคำ
เดินมาถ่ายรูปหนองจองคำ
มื้อแรกของการมาถึงแม่ฮ่องสอนต้องอาหารพื้นเมืองร้านป้าศรีบัว มื้อนี้เรากินฮังเลกับจิ้นลุง
เดินต่อมาที่ Coffee Morning มานั่งจิบกาแฟ และคืนนี้เราก็พักที่นี่ด้วย
รอบนี้เราได้ห้องเบอร์ 1 อยู่ด้านล่างเลย ห้องใหญ่มาก สบาย แต่ยังไงเราก็ชอบห้องเบอร์ 2 มากอยู่ดี
ถึงเวลาออกซนแล้ว เราออกมาเช่ามอเตอร์ไซค์ที่ร้าน JD ค่าเช่าช่วงฤดูท่องเที่ยวแบบนี้วันละ 250 บาท มัดจำ 1,000 บาท จุดแรกที่เราแวะไปคือเฮ็ดก้อเหลียว มาซื้อกาแฟห้วยห้อม ที่นี่เป็นจุดขายสินค้าของ อบจ.แม่ฮ่องสอน มีของดีของเด่นมาจากทุกชุมชน จากนั้นก็แว้นซ์ไปวัดห้วยผา ที่นี่สวย และสงบ ตอนเราไปไม่เจอใครเลย ชอบมาก
ออกจากวัดมาในเส้นทางหมู่บ้าน จะผ่านทุ่งนาที่เกี่ยวไปหมดแล้ว แต่หน้านาต้องสวยมากแน่ๆ ออกพรรษาเราจะแวะมาชมนาข้าวที่นี่อีกครั้ง
จากนั้นก็ย้อนกลับเข้าเมืองมาที่อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ฮ่องสอน ที่นี่มองเห็นพระธาตุดอยกองมูด้วย ที่นี่เงียบสงบดี มีคนมานั่งตกปลากันหลายจุด
ย้อนกลับเข้ามาที่ตัวเมืองมากินก๋วยเตี๋ยวข้าง kbank ชามนี้ 20 บาท น้ำดื่มฟรี
พออิ่มก็ออกซนกันต่อไปที่อ่างเก็บน้ำห้วยโป่งอ่อน ทางเข้าอยู่ตรงข้ามภูโคลน รอบนี้อาจเที่ยวแปลกๆ หน่อย ที่นี่ลมเย็นสบายมากๆ
แว้นซ์ต่อมาที่บ้านแม่สะงา ปกติจุดนี้จะเป็นนาข้าวสวยๆ ตอนนี้เกี่ยวไปหมดแล้วก็ถ่ายมุมมองอื่นแทน
จุดต่อไปที่แวะในเส้นทางนี้ก็เป็นสะพานไม้ไผ่ซูตองเป้ สะพานอธิษฐานสำเร็จ รอบนี้คนเยอะมาก ทุกคนสนุกสนาน เราก็สนุกด้วย
เดินขึ้นมาถึงสวนธรรมภูสมะ ถ่ายซูตองเป้ในมุมสูง ถ้าเป็นช่วงต้นข้าวเขียวๆ ก็จะสวยกว่านี้ แต่ถ้าเป็นช่วงข้าวออกรวงสีเหลืองทองก็ยิ่งยิ่งสวยมาก
ขี่ย้อนกลับเข้าเมืองมาที่วัดหัวเวียง กราบพระเจ้าพาราละแข่ง กระจกสะท้อนเกินความสามารถของกล้องมือถือจะถ่ายได้สวย
เดินรอบวัดเพื่อถ่ายจุดอื่นๆ ด้วย วัดหัวเวียงก็สวย สงบ แต่ถ้าช่วงตลาดยังไม่วายก็จะคนเยอะหน่อย วัดใกล้ตลาดสายหยุด
ถึงเวลาขึ้นวัดพระธาตุดอยกองมูไปรอชมอาทิตย์ตก รอบนี้เราขึ้นมาด้านบนและโชคดีที่ได้เข้าอุโบสถด้วย
ด้านหลังอุโบสถเป็นจุดชมอาทิตย์ตกที่สวยในฤดูหนาว ฤดูอื่นๆ จะเป็นจุดอื่น
หลังอาทิตย์ตกเราก็เดินลงมาที่ป้ายที่ทางวัดทำไว้สำหรับถ่ายรูป จุดนี้จะสวยช่วงฤดูฝนและร้อน
ใกล้ๆ กันจะเป็นศาลาพระพุทธมหาจักรพรรดิ์มิ่งมงคล
เดินลงมาที่ตัวพระธาตุดอยกองมูเพื่อรอช่วงที่พระธาตุเปิดไฟ ระหว่างรอก็ถ่ายตัวเมืองแม่ฮ่องสอนและหนองจองคำกันไปก่อน (ขออภัยมือสั่นหนักมาก)
พระธาตุเปิดไฟแล้ว และฟ้าก็เริ่มสีน้ำเงินเข้มเรื่อยๆ สวยมาก
พอลงจากพระธาตุดอยกองมูก็เอามอเตอร์ไซค์มาจอดที่พักก่อนที่จะเดินไปชมงาน "เปิดเมิงไต" วันสุดท้ายกัน (10 ธันวาคม 2560)
แวะชิมอาหารไตทั้งชิมฟรีและเสียเงินจนอิ่มตัวจะแตก อร่อยทุกอย่างจริงๆ บางอย่างก็คุ้นเคยชอบกินทุกครั้งที่แวะมาแม่ฮ่องสอน บางอย่างก็ได้กินครั้งแรก
ก่อนเข้านอนก็ถ่ายหน้าบ้านกันสักหน่อย เราชอบมาพักที่นี่จะไปไหนก็ง่าย หาของกินง่าย ใกล้โรงพยาบาล ตรงข้ามเทศบาล และที่ชอบที่นี่เพราะกลิ่นกาแฟพร้อมทั้งมิตรภาพในการเดินทางหลายครั้งก็ได้รู้จักกันที่นี่ด้วย
รุ่งเช้าเราตื่นมาเพื่อเดินขึ้นชมทะเลหมอกบนพระธาตุดอยกองมู เดินออกกำลังขึ้นไปทำให้ร่างกายปรับตัวจนชินอากาศหนาวได้สบาย เดินขึ้นไปถึงก็จะเจอภาพแบบนี้
องค์พระธาตุดอยกองมูในสายหมอกสวยๆ แบบนี้มีทั้งปลายฤดูฝนและฤดูหนาวนะ ฤดูร้อนก็มีแต่อาจแสบตานิดหน่อย
หมอกรอบนี้ไม่หนามากนัก เพราะลมแรง หนาวสำหรับคนที่นั่งรถขึ้นมา แต่เราเดินขึ้นกำลังพอดีด้วยเสื้อยืด
ฟ้าไม่เปิดไม่เห็นอาทิตย์ขึ้นแน่ๆ ก็เลยออกเดินรอบพระธาตุ มาเจอน้อง อากาศหนาวๆ แวะกอดน้องได้ น้องรอพี่ๆ ไปกอดอยู่
ก่อนเดินลงจากวัดพระธาตุดอยกองมูก็นั่งดูหมอกชมเมืองกับน้องกันก่อน มาคนเดียวใช่ว่าจะเหงา น้องให้ความร่วมมือดีมาก
พอลงจากดอยก็รอไกด์ชุมชนบ้านห้วยฮี้มารับขึ้นดอยปุย ตามรีวิว : ตะบึ๊ดอยปุยแม่ฮ่องสอน
พอลงจากดอยปุยก็เหลือเวลาให้ซนรอบๆ เมืองอีกนิดหน่อย ก็เดินมากราบหลวงพ่อโต วัดจองกลาง
เดินต่อมาที่วัดจองคำ ในวันฟ้าใสแบบนี้ ถ่ายอะไรก็สวยสดไปหมด
ออกเดินรอบหนองจองคำครบ 3 รอบก็เตรียมตัวกลับบ้านได้
ระหว่างทางเดินไปสถานีขนส่งแม่ฮ่องสอนก็จะเจอต้นไม้ต้นนี้ สวยดี เราชอบต้นนี้มาก
ขากลับเราใช้บริการสมบัติทัวร์อีกครั้ง รอบนี้ได้รถ ม.1(พ) แต่รถดันเป็นชั้นครึ่ง รถจะเหวี่ยงมากกว่ารถชั้นเดียว เลือกรถได้ตามชอบนะ เขานำ vip แบบ 3 แถวมาให้บริการเส้นทางนี้แล้วด้วย (ขากลับนั่งหน้าสุดเลยไม่ได้ถ่ายรูป)
ติดตามทริปเดินทางอื่นๆ ได้ที่
เพจ : ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว
IG : prapat / ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว
ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว
วันศุกร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 00.15 น.