วันหยุดทั้งที ทุกคนก็คงอยากจะหาสถานที่ๆเหมาะแก่การสูดอากาศ พักผ่อน

เพื่อคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งสัปดาห์


แต่จะให้ไปเดินห้าง ช้อปปิ้งบ่อยๆก็จะน่าเบื่อไปหน่อย

วันนี้เราเลยจะพาทุกๆคนไปสถานที่นึง ที่ไม่ไกลจากรุงเทพ ก็คืออ

สถานตากอากาศบางปูนั่นเองง


โดยสถานตากอากาศบางปูนั้นตั้งอยู่ที่

กองสถานผักผ่อนกรมพลาธิการทหารบก จังหวัดสมุทรปราการ

จะเปิดทำการตั้งแต่เวลา 6.40 - 18.00 นั่นเองง โทรสอบถามรายละเอียดได้ที่ 02-3239911


ขึ้นชื่อว่าบางปู แต่ที่นี่ไม่มีปูนะ เราจะเจอแต่นก นก และก็นก

ซึ่งนกที่ว่าก็ไม่ใช่นกที่เราเห็นทั่วไปในเมือง แต่นี่คือนกนางนวลเลยนะ

นอกจากมาดูนกนางนวลแล้ว สามารถซื้ออาหารให้นกนางนวล หรือจะถ่ายรูป ชมบรรยากาศพร้อมกับรับลมทะเลก็ย่อมได้ ยิ่งไปกว่านั้นเลยก็คือเข้าฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายนะะะ


ส่วนวิธีการเดินทางมานั้นไม่ยากเลยยย

วิธีที่น่าจะสะดวกที่สุดก็คือ รถส่วนตัววว ก็ขับไปทางเส้นสุขุมวิท และเมื่อเจอ BTS สถานนีสำโรง ให้เลี้ยวซ้ายที่แยกเพื่อเข้าเส้นสมุทรปราการ และขับตามทางไป จะเห็นเมืองโบราณอยู่ทางซ้ายมือ ให้เตรียมตัวมองดูสถานตากอากาศบางปูทางขวามือได้เลย เมื่อเจอแล้วก็เตรียมตัวกลับรถเพื่อเข้าไปยังสถานตากอากาศเลยเมื่อกลับรถแล้วก็ขับเข้ามายังสถานตากอากาศบางปูเลย จะมีที่จอดรถเพียงพอสำหรับผู้คนที่มา

แต่เราไม่ได้ขับรถไป ทางเราเดินทางด้วย BTS ไปลงสถานีสำโรง และต่อรถแท็กซี่ไป

ซึ่งขาไปเราโดนไป 160 บาท ขากลับก็เหมือนเดิมนั่งรถแท็กซี่ไป BTS ขากลับโดนไป 190 บาท


เวลาที่แนะนำ และเหมาะแก่การไปเลยคือตั้งแต่ช่วง 16.00 หรือ 17.00 เป็นต้นไป

เวลานี้จะอากาศไม่ร้อน บรรยากาศดี แนะนำให้อยู่ถึงช่วงพระอาทิตย์กำลังตก เพราะว่าจะถ่ายรูปสวยมากก และไม่ควรอยู่เกิน หรือหลังจากช่วง 19.00 เป็นต้นไป เนื่องจากนกนางนวลกลับรังแล้ว

ซึ่งช่วงที่นกนางนวลจะเยอะก็คือช่วงหน้าหนาว ประมาณเดือน พฤศจิกายน - เมษายนของทุกปี

เป็นช่วงที่นกนางนวลจะอพยพมาที่นี่เป็นหมื่นๆตัว เนื่องจากต้องการจะหนีหนาวจึงมาพักอยู่ที่นี่ ทำให้กลายเป็น 1 ในสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำที่ควรมานั่นเองงง


มาถึงก็จะเจอกับทางเข้าสะพานสุขตา และเมื่อเดินไปยังสะพานก็จะเจอกับจุดชมนกนางนวลลล



เดินไปเรื่อยๆก็จะเจอกับนกนางนวล 2 ข้างทางเลยย และเมื่อเดินไปสุดก็จะเจอกับศาสาสุขใจ สามารถเข้าไปนั่งพักผ่อน และรับประทานอาหารได้ ซึ่งจะมีทั้งส่วนของห้องแอร์และส่วนธรรมดา รับลมธรรมชาติ


ถ้าไม่อยากเดินก็สามารถจ้างรถตุ๊กตุ๊กจากทางเข้าข้างหน้าเพื่อไปส่งข้างในได้เช่นกันน


สองข้างทางนอกจากจะมีนกนางนวลแล้วก็จะมีป่าชายเลน น้ำน้อยจนทำให้เราเห็นถึงเลนเลยแหละะ


เดินเข้าไปเรื่อยๆนกนางนวลก็เริ่มเยอะ ในใจเราก็คิด เราไม่เคยเจอเจอนกนางนวลเยอะขนาดนี้มาก่อนเลย


ระหว่างทางเจ้านกนางนวลก็มายืนต้อนรับผู้คนที่มาเยี่ยมชม



เราสามารถซื้ออาหารให้นกนางนวลได้นะะ นกนางนวลจะทานเป็นกากหมู ซึ่งมีตั้งแต่ราคา 10 บาท ยัน 50 บาทเลยแหละะ หลังจากเราให้อาหารนกนางนวลแล้ว เราจะสามารถล้างมือได้นะ ที่นี่จะมีถังน้ำพร้อมสบู่พร้อมบริการ ไม่ต้องทนมือเหม็นจากกลิ่นของกากหมูยันกลับบ้าน


บางคนก็ให้อาหารนกนางนวลด้วยการวางไว้ และให้เจ้านกนางนวลมาคาบไปเอง


บางคนก็ยื่นให้นกนางนวลโฉบมาคาบไปป ซึ่งการถือให้นกมาคาบนั้นถือว่าต้องใช้ความกล้าระดับนึงเลยเพราะเราจะไม่รู้เลยว่ามันจะมาตอนไหน มากันทีมาเป็นฝูง รอลุ้นกันเลยทีเดียว แต่เมื่อเริ่มชินแล้วก็จะเริ่มไม่น่ากลัวว ถ้าสนใจเราก็แนะนำให้ลองนะ เป็นประสบการณ์ใหม่ของชีวิตเลยแหละะ


บางคนก็โยนให้นกนางนวลที่เกาะอยู่ตามขอบสะพานน หรือจะโปรยเพื่อให้เจ้านกนางนวลมาทานก็ย่อมได้


เมื่อพระอาทิตย์เริ่มจะตก คนก็เริ่มจะเยอะ เนื่องจากที่นี่เป็นจุดที่ถ่ายรูปตอนพระอาทิตย์ตกได้สวยมากกก รวมถึงเป็นช่วงที่บรรยากาศและอากาศเย็นสบายย


เมื่อพระอาทิตย์ตก บรรยากาศก็เริ่มโรแมนติก นกนางนวลก็เริ่มจะกลับรัง ทุกคนต่างก็เตรียมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกก่อนที่จะเดินทางกลับบบ


การที่เราเหนื่อยๆ เบื่อๆกับการใช้ชีวิต ลองหาเวลาสัก 2 3 ชั่วโมง เดินทางมายังที่แห่งนี้

มาดื่มด่ำกับบรรยากาศ นั่งชมวิว ดูนกโบยบิน พักผ่อน เตรียมพร้อมสู้กับวันต่อไป

ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่ใช่น้อยเลยนะ ลองมาดูแล้วจะไม่ผิดหวังง


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และติดตามเราได้ทาง Facebook Fanpage ด้านล่างนี้เลยย

Little Baby Journey: https://www.facebook.com/Littlebabyjourney/

ฝากกด LIKE กด SHARE และติดตามเรากันด้วยนะะ

วันนี้ขาลาไปก่อน แล้วเรามาพบกันใหม่ในการเดินทางครั้งหน้านี้

Littlebabyjourney

 วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 14.13 น.

ความคิดเห็น