เราออกจากบ้าน 9.00 น ตามตาราง ขับรถตาม GPS ไปอย่างสะดวกสบาย ทุ่งนาสองข้างทางเขียวขจี อาเจ๊ยื่นกาแฟมาให้ผมจิบแก้ง่วงเป็นระยะ และในที่สุดก็เลี้ยวเข้าโรงแรมเล็กๆ ขนข้าวของลงอย่างคล่องแคล่ว...

มันควรจะเป็นอย่างนั้น

แต่ความเป็นจริง 9.00 อาเจ๊เพิ่งกลิ้งออกจากที่นอน แล้วเดินงัวเงียลงไปชงกาแฟ ส่วนผมยังนั่งเล่นเกมอย่างเมามัน

เราออกสายกว่าที่ควรประมาณ 1 ชั่วโมง (พวกแกก็สายประจำ) โชคดีที่เป้าหมายของเราคือปราจีนบุรี ใกล้แค่นี้ ทำให้ความย้วยของเราไม่ส่งผลกับทริปซักเท่าไหร่







แผนการเดินทาง

วันที่ 1

8.00 ออกเดินทางไปปราจีนบุรี

11.00 โรงแรม

12.00 โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และกินข้าวที่นี่

15.30 โบราณสถานสระมรกต

16.30 วัดศรีมหาโพธิ์


วันที่ 2

8.00 น้ำตกตะคร้อ

12.00 พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์

14.00 ร้านอาหารบ้านริมน้ำ

15.30 เดินทางกลับกรุงเทพ







สถานที่ท่องเที่ยว

พิพิธภัณฑ์แพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร

พิกัด 14.0543075 101.3957523

เวลาปิดเปิด ทุกวัน 8.30 - 16.00

ค่าเข้าชม ฟรี

อาคารสีเหลืองสถาปัตยกรรมบาโรก (Baroque) อายุกว่า 100 ปี ที่ยังคงสวยงามโดดเด่น

เดิมที่เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ถ้าพระองค์จะเสด็จปราจีนบุรี แต่ทรงเสด็จสวรรคตเสียก่อน ต่อมาจึงใช้เพื่อรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ใช้เป็นสถานพยาบาล และเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์แพทย์แผนไทยอภัยภูเบศรในปัจจุบัน

ก่อนเข้า เราต้องถอดรองเท้าไว้ด้านหน้า ใกล้ๆ นั้น มีโต๊ะวางน้ำดื่มสมุนไพรตั้งอยู่

“เค้าแจกเหรอ” อาเจ๊สงสัย

“ไม่มั้ง” ผมตอบ

เราโดนความสวยงามของอาคารดึงดูดความสนใจ จนไม่ได้คิดเรื่องน้ำต่อ

ไฮไลท์ของที่นี่ คือร้านขายยาโพธิ์เงินโอสถ ซึ่งนอกจากจะขายยาแล้ว ก็มีเครื่องยาแปลกๆ ให้ดู และห้องโถงกลางซึ่งตกแต่งเรียบหรู สาวๆ วนกันมาถ่ายรูปไม่ขาดสาย เดินชั้นหนึ่งทั่วแล้ว

อย่าลืมแวะขึ้นไปดูนิทรรศการที่ชั้นสอง

เราใช้เวลาที่นี่นานมาก (จริงๆ คือมาถึงช้า แถมกินข้าวนาน...) จนไม่ทันได้ดูสวนสมุนไพรก็ต้องไปต่อ กุลีกุจอใส่รองเท้า แล้วจ้ำกลับไปที่รถ

“น้ำสมุนไพรฟรีค่า” เจ้าหน้าที่พูดขึ้น ขณะที่เราพ้นร่มเงาของอาคารออกมาแล้ว




โบราณสถานสระมรกต

พิกัด 13.8632058 101.426488

เวลาปิดเปิด ทุกวัน

ค่าเข้าชม ฟรี

มีรอยพระพุทธบาทคู่สมัยพุทธศตวรรษที่ 14 ขนาดประมาณ 3 คูณ 3 เมตร ซึ่งเก่าแก่ที่สุดในประเทศ ตรงกลางมีกากบาท สันนิษฐานว่าเป็นร่องสำหรับปักฉัตรของกษัตริย์ในสมัยก่อน

หรือถ้ามองที่พระพุทธบาทจำลอง ก็จะเห็นว่ากากบาทนี้มีลักษณะคล้ายสวัสดิกะ

ในบริเวณนี้ยังมีโบราณสถานและสระน้ำเก่าแก่อื่นๆ กระจายอยู่โดยรอบ น่าเสียดายที่ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในสมัยก่อน จึงมีการนำหินและชิ้นส่วนจากเมืองโบราณไปทุบย่อยเพื่อสร้างวัดในพื้นที่ ก็เลยเหลือให้เราเห็นอยู่แค่นี้

ตอนไปถึงผมกับอาเจ๊พุ่งพรวดไปรอยพระพุทธบาท ไม่ได้สนใจโบราณสถานรอบๆ เลย จนกระทั่งกลับมาถึงบ้านก็พบว่า มันมีอะไรให้ดูมากกว่านั้น เช่น สระมรกต และอาคารศรีมโหสถ ถ้าคุณไปเที่ยวลองดูรอบๆ ซักนิดนะครับ อย่าพลาดอย่างเรา




วัดศรีมหาโพธิ์

พิกัด 13.870735 101.4054521

เวลาปิดเปิด ทุกวัน

ค่าเข้าชม ฟรี

ผมเลี้ยวรถเข้าที่จอดอย่างฝุ่นตลบ ไม่ใช่เพราะความแรง แต่เป็นเพราะตรงนั้นเป็นดินลูกรัง...

ต้นโพธิ์ต้นแรกในประเทศไทย อายุกว่า 2000 ปี เชื่อกันว่าถูกปลูกขึ้นจากหน่อของต้นพระศรีมหาโพธิ์จากพุทธคยา แผ่กิ่งก้านสาขาไปทั่ว รอบๆ มีระเบียงและที่นั่ง ซึ่งตอนนั้นมีชาวพุทธนุ่งขาวห่มขาวกลุ่มใหญ่ กำลังเตรียมนั่งสมาธิในตอนเย็น

เราข้ามมาอีกฝั่ง แล้วก็ต้องแปลกใจ เพราะพระอุโบสถของที่นี่สวยมากๆ

ไม่ใช่แค่นั้น ภายในวัดยังมีอีกหลายอย่างให้ดู เช่น ศิวะลึงค์ยุคนครวัด อายุกว่า 1000 ปี พระคันธารราช และรูปจำลองพระรูปสำคัญๆ ของเมืองไทย อยู่ตรงไหนไม่แน่ใจ เพราะผมเพิ่งรู้ข้อมูลตอนกลับถึงบ้าน อีกแล้วครับ...




น้ำตกตะคร้อ

พิกัด 14.181849 101.592679

เวลาปิดเปิด ทุกวัน

ค่าเข้าชม คนละ 40 บาท

เจ้าหมาพันธ์ทางเตี้ยม่อต้อ เดินตามเราแจ คงติดใจกินกล้วยทอดที่อาเจ๊ให้เมื่อกี้ บางครั้งมันก็วิ่งแซงไป แล้วหันมามองเหมือนจะบอกว่า ตามมาสิ

เดินตรงไปไม่กี่ร้อยเมตรก็เห็นสระน้ำตื้นๆ ขนาดใหญ่ มีนักท่องเที่ยวคู่หนึ่ง นอนแช่น้ำใสสะอาดอย่างสบายใจ แมลงปอสีแดงเกาะอยู่บนก้อนหิน และผีเสื้อสีเหลืองสดกินน้ำในแอ่งเล็กๆ ส่วนเจ้าหมาเดินวนเวียนอยู่ไม่นานก็วิ่งกลับไปตามทาง

เรานั่งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของธรรมชาติ ไม่มีเสียงจอแจของนักท่องเที่ยวรบกวน สูดอากาศบริสุทธิ์จนเต็มปอด ก่อนจะลุกขึ้น เตรียมเดินทางไปจุดหมายต่อไป

ปล. บางช่วงของเส้นทางไปน้ำตกมีหลุ่มบ่อลึกพอดู ถ้าหล่นลงไป ช่วงล่างเจ็บหนักแน่นอน ขับรถด้วยความระมัดระวังนะฮะ




พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์

พิกัด 14.0694604 101.4257812

เวลาปิดเปิด ทุกวัน 9.00 - 17.00

ค่าเข้าชม คนละ 80 บาท

พิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ซะกลางทุ่ง ภายในแบ่งออกเป็นอาคารเล็กๆ หลายหลัง ซึ่งจัดแสดงสิ่งของต่างกัน และมีตะเกียงกว่า 10,000 ชิ้น ห้อยอยู่เต็มเพดาน บางจุดมีพนักงงานสาวน่ารัก สาธิตการทำงานของตะเกียงแต่ละแบบให้ดูเป็นความรู้

อย่างหนึ่งที่ทำให้ผมชอบเที่ยวพิพิธภัณฑ์ก็คือ มันมีมุมถ่ายรูปมากมายมหาศาล เหมือนกับการซื้อตั๋วเข้ามาถ่ายรูปแบบบุฟเฟ่ต์ ไม่จำกัดเวลา และระหว่างที่ผมกำลังเล็งมุมเด็ดอยู่นั้นเอง ก็มีเสียงดังขึ้นจากด้านหลัง

“ขอถ่ายรูปหน่อยค่า” เจ้าหน้าที่สาวยิ้มหวาน เมื่อเห็นว่าเราตั้งท่าเรียบร้อย เธอก็กดชัตเตอร์

“ขอเอาไปแชร์ในเพจนะคะ”

เราสองคนพยักหน้าเออออไปแบบงงๆ

กลับมาถึงบ้าน อาเจ๊เข้าไปดูในเพจของพิพิธภัณฑ์ ก็มีรูปเราสองคนอยู่จริงๆ ด้วยอ๊ะ!!







ร้านอาหาร

ครัวอภัยภูเบศรเดย์สปา

พิกัด อยู่ในอาคารสปา ฝั่งซ้ายของโรงพยาบาล (คนละฝั่งกับพิพิธภัณฑ์แพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร)

เวลา ทุกวัน 08.30 - 17.00

ราคาต่อคน ประมาณ 50 - 200 บาท

ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ใช้วัตถุดิบสดใหม่ที่หาได้ในท้องถิ่น มีอาหารให้เลือกกินตามธาตุ มีอาหารแปลกๆ ที่เราไม่เคยเห็น ปรุงมาอย่างกลมกล่อม มีเอกลักษณ์ และราคาไม่แพง ผมกับอาเจ๊อิ่มจุกไม่ต้องกินข้าวเย็น




ร้านอาหารบ้านริมน้ำ

พิกัด 14.0531098 101.3995808

เวลา ทุกวัน 10.00 - 22.00

ราคาต่อคน ประมาณ 200 - 350 บาท

ร้านริมน้ำ บรรยากาศสบายๆ บริการน่ารักเป็นกันเอง อาหารอร่อยทุกจานที่สั่ง แต่พระเอกต้องยกให้ปลากระพงทอดน้ำปลา ที่เค้าใช้ปลาตัวโต ทอดมาอย่างนุ่ม ละมุนลิ้น ในราคาแค่ 260 บาท







ที่พัก

บ้านไม้ชายคลอง รีสอร์ท

พิกัด 14.0649021 101.3551077

เวลา ทุกวัน 10.00 - 22.00

ราคาต่อคืน 400 - 700 บาท

โรงแรมตั้งอยู่ริมคลอง ห่างจากตัวเมืองเล็กน้อย ห้องพักเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง ตกแต่งเรียบๆ มีทีวี มีน้ำอุ่นและ wifi ให้ใช้ เราเลือกห้องที่ถูกที่สุด คืนละ 400 บาท สงสัยจริงๆ ว่าเอากำไรมาจากไหน

+ เตียงแข็งกำลังดี หลับสบาย แต่ขนาดเกือบเล็กเกินไปสำหรับสองคน

+ แอร์เย็นสบาย และเงียบดี

+ น้ำอุ่น และ wifi ให้ใช้ แต่

+ ถูกมาก คุ้มค่า

- ไม่มีตู้เย็น (ห้องที่ราคาสูงขึ้น อาจมีตู้เย็น)

- ทางเข้าแอบอยู่ตีนสะพาน สังเกตุยาก

- อยู่ติดถนน มีเสียงรถวิ่งผ่านตลอดเวลา







ค่าใช้จ่าย

แก๊สรถยนต์ ทั้งทริป 700 บาท

ที่พัก บ้านไม้ชายคลอง รีสอร์ท 400 บาท

ค่าเข้าน้ำตกตะคร้อ คนละ 40 บาท

ค่าอาหาร คนละ 500 - 800 บาท

ทั้งหมดเราจ่ายไป 2780 บาท

จะประหยัดกว่านี้ ถ้าไม่กินขนมและกาแฟตามปั๊ม







สรุป

อาจมีคนสงสัย ว่าไปทำไมปราจีนบุรี

ผมก็ไม่รู้ คืออันที่จริงก็จัดทริปขึ้นมามั่วๆ แล้วก็ลองไปดู

ซึ่งก็ตามคาดครับ เงียบๆ ไม่หวือหวา แต่เพราะความธรรมดาของมัน ทำให้นักท่องเที่ยวน้อย อาหารและที่พักถูก ได้บรรยากาศของสถานที่ท่องเที่ยวเต็มที่ ทำให้นี่ทริปที่ไม่มีอะไรตื่นเต้น แต่มีความสุขมากกก (และอิ่มมากกกกก)

หมีเป็ด

 วันศุกร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 20.17 น.

ความคิดเห็น