เที่ยวสบายๆแบบ อุทัยธานี
ใครที่เคยขับรถไปเที่ยวทางภาคเหนือ หลายคนอาจจะเคยเห็นป้ายบอกทางไปอุทัยธานีอยู่บ่อยๆ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสเลี้ยวเข้ามาเที่ยวกันสักที จริงแล้วการเดินทางมาอุทัยธานีสามารถเดินทางมาได้หลายเส้นทางเพราะมีพื้นที่ติดกับหลายจังหวัด จากกรุงเทพฯ เราสามารถมาทาง ถ.สายเอเซีย หรือว่าจะมาทาง จ.สุพรรณบุรี ก็ได้ อุทัยธานีเป็นเมืองที่สงบ เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรมของผู้คน และความสวยงามของธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ เรียกได้ว่าเป็นอีกเมืองที่มาแล้วได้เพลิดเพลิน และผ่อนคลายไปกับวิถีชีวิตแบบอุทัยธานี สำหรับทริปนี้อดิจะพาไปเที่ยวสบายๆ ในแบบ อุทัยธานี กันครับ
ทริปนี้เริ่มด้วยการไปเที่ยวในเมืองอุทัย จุดเช็คอินแรกที่ห้ามพลาดคือตรอกโรงยา ไปหาของอร่อยๆทานตามมาดูบรรยากาศกันดีกว่าว่าตรอกโรงยาจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง
-เจ้โหนกก๋วยเตี๋ยวไก่
ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ชื่อดังที่ใครมาเที่ยวตรอกโรงยาต้องห้ามพลาด เป็นเจ้าเก่าแก่ที่สืบทอดเคล็ดลับสูตรเด็ดจากรุ่นสู่รุ่นมานานกว่า 30 ปี ชนิดที่เรียกได้ว่าอร่อยแบบไม่ต้องปรุงรสกันเลยทีเดียว ทางร้านจะนำไก่มาตุ๋นกับสมุนไพรจนเข้าเนื้อทานแล้วอร่อยๆมากๆ
-ขนมถ้วยแคะป้าเตียง
ขนมจุ๋ยก้วย คือขนมของคนจีนแคระ ที่นำแป้งข้าวจ้าวสดมาใส่ถ้วยเล็กๆ นึ่งแบบพอดีคำ ซึ่งเรียกกันว่า เวลาทานจะโรยหน้ามาด้วยไชโป๊วหวานสับ ตั้งฉ่าย ผัดกะเทียม ราดซีอิ๊วหวาน ใครมาต้องสั่งไว้ล่วงหน้า ไปเดินเที่ยวแล้วค่อยกลับมา
ขนมถ้วยแคะ ชุดละ 20 บาทเท่านั้น
จากนั้นเราไปเดินเล่นริมน้ำสะแกกรังเพื่อเดินข้ามสะพานไปยังวัดอุโปสถาราม
-วัดอุโปสถาราม
เดิมชื่อ "วัดโบสถ์มโนรมย์" เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อ ปีพุทธศักราช 2324 ตั้งอยู่บนเกาะเทโพ ริมฝั่งแม่น้ำสะแกกรังภายในอุโบสถและวิหารมีภาพจิตรกรรมฝาผนังในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ด้านหลังอุโบสถและวิหาร มีเจดีย์ สามยุคสามสมัย ทั้งสมัยสุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ตั้งอยู่ นอกจากนั้นยังมีมณฑปแปดเหลี่ยมศิลปะผสมไทย จีน อันวิจิตรอ่อนช้อยงดงาม หน้าวัดมีแพโบสถ์น้ำ ครั้งหนึ่งเคยใช้เป็นแพรับเสด็จ รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 เมื่อคราวเสด็จประพาส และเยี่ยมเยือนหัวเมืองฝ่ายเหนือ และใช้เป็นศาสนสถานลอยน้ำสำหรับชาวเรือนแพใช้ในการปฏิบัติศาสนกิจและงานพิธีต่าง ๆ
มณฑปแปดเหลี่ยม เป็นอาคารแปดเหลี่ยม สองชั้น มีบันไดวนอยู่ด้านนอกอาคาร ซุ้มหน้าต่างเป็นวงโค้งแบบอาคารในยุคอาณานิคม ที่มีลักษณะผสมแบบตะวันตก
-ร้านมุมสะแก :
ร้านนี้มีอาหารและกาแฟสดให้เรามานั่งดื่มชิลๆ ชมวิวแม่น้ำสะแกกรัง
จากนั้นเราขับรถไปต่อเพื่อไปไหว้พระที่วัดสังกัสรัตนคีรี และชมวิวเมืองอุทัยธานีบนเขาสะแกกรัง
-วัดสังกัสรัตนคีรี
ตั้งอยู่เชิงเขาสะแกกรัง สุดถนนท่าช้าง ในเขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี เป็นวัดที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนทั่วไป ในเรื่องประเพณีตักบาตรเทโว ที่จัดขึ้นในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี ถือเป็นประเพณีสำคัญของจังหวัดอุทัยธานี ในวันดังกล่าวจะมีพระสงฆ์กว่า 500 รูป เดินลงมาตามบันได 449 ขั้น จากมณฑปบนยอดเขาสะแกกรังสู่ลานวัดสังกัสรัตนคีรีเบื้องล่าง เพื่อมารับบิณฑบาต
วิวสวยๆของเมืองอุมัยธานีจากเทือกเขาสะแกกรัง
ก่อนเดินทางจากตัวเมืองอุทัย เราก็แวะซื้อขนมของฝากขึ้นชื่อของอุทัยธานี นั่นก็คือขนมปังสังขยา ซึ้งขนมปังที่นี่ไส้เยอะรสชาติอร่อยไม่หวานมาก
เพราะทริปนี้เรามีเป้าหมายที่จะไปเที่ยวที่แก่นมะกรูดกัน เราเดินทางต่อไปที่ อ.ลานสัก เพื่อนอนชิลริมภูเขาที่บ้านภูผา ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขา แถมใกล้ๆยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งของจังหวัดอุทัยธานี นั้นก็คือหุบป่าตาดนั้นเอง
-หุบป่าตาด
ตั้งอยู่ใน ตำบลทุ่งนางาม อำเภอลานสัก อุทัยธานี อยู่ในความดูแลของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสวยงามแปลกตาของทางธรรมชาติ หุบป่าตาด ได้ถูกประกาศจากกรมอุทยานแห่งชาติ ให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ เนื่องจากมีสภาพทางภูมิศาสตร์ที่แปลกตาด้วยพันธุ์ไม้ หายากมากมายหลายชนิด และพืชหายากซึ่งที่มาของชื่อ “หุบป่าตาด” ก็คือ “ต้นตาด” หรือ “ต้นต๋าว” เป็นพืชในตระกูลปาล์มดึกดำบรรพ์ที่หาดูได้ยาก และมักจะขึ้นตามป่าดงดิบที่มีอากาศชื้นและหนาวเย็น
ที่พัก : บ้านภูผา
ที่พักสบายๆริมภูเขา อยู่ไม่ไกลจากหุบป่าตาด บ้านพักมีหลายแบบทั้งแบบมาเ
ตื่นเช้ามาเราขับรถมาเที่ยว
-แก่นมะกรูด
เขาว่าที่นี่หนาวสุดกลางสยาม แถมช่วงปลายปีมีดอกไม้สวยๆ ปีนี้ ไฮไลท์ คือ ดอกทิวลิป หลากสีสัน ถ่ายรูปเสร็จแวะนั่งชิลดื่มกาแฟสดไร่อุ๋ยกื๋อ อากาศที่แก่นมะกรูดเย็นสบาย สดชื่นมากๆ ใครอยากดูไม้ดอกเมืองหนาวสวยๆ แต่ไม่อยากเดินทางไกลไปถึงภาคเหนือ แนะนำมาแก่นมะกรูด จ. อุทัยธานีเลยครับ มีมุมถ่ายรูปสวยๆหลายมุมเลยครับ ใครที่อยากชมดอกไม้สวยๆแบบนี้ต้องไปช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม นะครับ
ใครยังไม่เคยมาเที่ยวอุทัยธานี ลองวางแผนมาเที่ยวชิลๆ สบายๆ ที่อุทัยธานีกันนะครับ
รีวิวแก่นมะกรูด >> https://th.readme.me/p/14422
เพื่อนที่เข้ามาอ่านแล้วชอบฝากเข้ามากดถูกใจเพจผมได้ที่นี่เลยครับ >> ChillWithAdi
แล้วมาเป็นเพื่อนเที่ยวไปกับอดินะครับ
#chillwithadi
#อดิพาชิล
อดิพาชิล
วันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 10.30 น.