: ภาพทั้งหมด สดจากกล้อง

20 จุดเช็คอินของเรา สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ เริ่มต้นที่เชียงใหม่

1. สักการบูชา ขอพร อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา

2. ไปดูชีวิตวัยรุ่นเชียงใหม่ยามค่ำคืนกันจักหน่อย ที่ " ท่าช้าง "

3. จุดนี้ต้องมา นั่นคือ " ห้วยน้ำดัง " เมืองแห่งทะเลหมอก

4. สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย

5. ภูริปาย วิลล่า

6. Little Eden Guesthouse ปางมะผ้า

7. บ้าน จ่าโบ่ (นี่คือเด็ดสุด หมอกแน่นๆ)

8. ถ้ำปลา

9. บ้านรักไทย (ชาสา รักไทย)

10. อ่างเก็บน้ำปางตอง ปางอุ๋ง (บ้านรวมไทย)

11. สะพานซูตองเป้

12. พระธาตุดอยกองมู

13. ปาย ใน ฝัน (ที่พักริมแม่น้ำปาย บรรยากาศสุดฟินน์)

14. ถนนคนเดินปาย

15. เมาเท่นโฟร์ท เรือนแพภูเขาลอยน้ำในเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เชียงใหม่

16. ปลูกผัก เพราะ รักแม่ (โอ้กะจู๋)

17. I berry - นิมมาน

18. ถนนคนเดินท่าแพ /The Good View Village Restaurant

19. ร้าน หลอง ข้าว ลำ (กิ่นอาหารเมืองลำๆเจ้า)

20. ร้าน ข้าวเม่า - ข้าวฟ่าง (ป่าในจินตนาการ)

ปล. ทริปนี้ขาด บ้านสันติชล กับ จุดชมวิวละเลหมอกหยุนไหล ........... คือแบบว่า เสียดายมากๆ

9 มกราคม 2561 วันแรกของการเดินทาง .....

ลากิจ 3 ชม. รีบไปขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง ไฟล์ทบินรอบ 19.00 น.

จุดที่ 1 อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย (ตีนดอย)

ถึงเชียงใหม่ปุ๊บก็ต้องมากราบไหว้สักการบูชา ขอพร อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา


จุดที่ 2 ท่าช้าง คาเฟ่

เสร็จแล้วเหลือเวลาอีกไม่มาก แต่อยากไปแดนซ์นิดนึง เลยไปต่อที่ ท่าช้าง คาเฟ่ แต่ป้าๆคงเลยวัยมาเยอะแล้วเลยแด๊นซ์ไม่ไหวแล้วค่ะ

เข้าไปไม่ถึง 30 นาที ร้านปิดแล้วค่ะ เลยไปกินข้าวขาหมูต่อที่ประตูเมืองเชียงใหม่ อ้อ อ่านไม่ผิดค่ะ ข้าวขาหมูตอนเที่ยงคืน 5555+++ ทานเสร็จดึกๆแบบนี้ ไปถ่ายกับประตูท่าแพได้อีกหลายรูปเลยนะคะ


จุดที่ 3 " ห้วยน้ำดัง "
เช้าวันที่ 10 มกราคม 2561
ออกเดินทางจากเชียงใหม่ 6 โมงเช้า เปิด GPS นำทางไปเลยค่ะ (ไปทางแม่แตง แม่มาลัย) ถึงห้วยน้ำดัง 7 โมงนิดๆค่ะ ผ่านโค้งมาเบาๆพอกรุบกริบ สลึมสลือกันนิดหน่อย แต่พอมาถึงแล้วตาลุกวาว
แบบว่ามันว้าวมากจริงๆนะ นี่มาห้วยน้ำดัง 2 ครั้ง ครั้งแรกไม่เจอทะเลหมอก แต่มาครั้งนี้หมอกมาแบบจัดเต็มเลยค่ะ

เที่ยววันธรรมดาคนจะไม่เยอะดีนะ .........

ทะเลหมอกขาวๆ ดอกไม้สวยๆ
" ฉัน รัก ห้วย น้ำ ดัง "

จุดที่ 4. สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย

นี่ก็แลนด์มาร์คของที่นี่ค่ะ ใครไปใครมาต้องเช็คอินสิ

จุดที่ 5. ภูริปาย วิลล่า



ความโชคดีของจุดนี้คือ ที่ คอฟฟี่ อิน เลิฟ คนเยอะอะคะ เราก็เลยไม่ได้แวะ นึกไปนึกมาเลยนึกถึงรีสอร์ทของคุณภูริ เราก็เลยไปหาเครื่องดื่มเย็นๆ คลายร้อนกัน สำหรับรีสอร์ท ก็คงไม่ต้องพูดอะไรมากเนอะ เพราะดูจากข้างนอก ก็เห็นแล้วว่าสวยหรู ดูแพง ขนาดไหน การออกแบบตกแต่งก็ทันสมัย แถมวิวด้านในก็พาโนรามากว้างสุดๆค่ะ อ้อ สำหรับเครื่องดื่มก็ราคาไม่แพงนะคะ เริ่มต้นที่ 70 บาทก็มี ใครอยากมาสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ ก็ขับรถตั้ง GPS เข้ามาได้ค่ะ

จุดที่ 6. Eden Guest House ปางมะผ้า



จุดนี้เป็นที่พักคืนที่ 2 ในทริปของเรา ถ้าใครตั้งใจมาดูทะเลหมอกบ้านจ่าโบ่ แต่ไม่อยากนอนโฮมสเตย์ในหมู่บ้าน หรือ ท่านใดที่นำรถมาเอง อยากจะแนะนำที่นี่เลยค่ะ .... สวย บรรยากาศดี ราคาถูก แถมที่นอนก็นอนสบายอีก กลุ่มเราแบบว่าชอบและติดใจที่นี่มากค่ะ (1,122 บาท ต่อ 5 คน บ้าน 1 หลัง ไม่รวมอาหารเช้า) ดี๊ย์ดีย์อะ อารมณ์คล้ายๆอยู่บ้านสวน หลังบ้านก็มีแม่น้ำไหลผ่าน มีสะพานให้นั่งเล่น โอ้ยยฟินๆนะ จะบอกให้

จุดที่ 7. บ้าน จ่าโบ่ (นี่คือเด็ดสุด หมอกแน่นๆ)



เราตื่นไปชมทะเลหมอกตอนตี 5 ค่ะ ระยะทางจากรีสอร์ทไปถึงจุดชมวิวบ้านจ่าโบ่ไม่ไกล ประมาณ 8 กิโลได้ แต่ขึ้นเขาลงเขานิดหน่อย ช่วงเช้าๆหมอกหนามากกก ขับรถมองไม่เห็นทางเลยค่ะ ต้องระวังเป็นพิเศษ

จากที่เคยเห็นภาพที่นี่จากเพจคนอื่นว่าสวยแล้ว วันนี้ 11/01/18 สวยหยด งดงามไม่แพ้วันอื่นๆเลยค่ะ สวยมากกก ชอบมากกกก หมอกอลังการแบบเอื้อมถึง

ก๋วยเตี๋ยวชามละ 35 แต่วิวประเมินค่าไม่ได้ ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขา บ้านจ่าโบ่


" ฉัน รัก เขา "



จุดที่ 8. ถ้ำปลา



ถ้ำปลา หรือ อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา – น้ำตกผาเสื่อ บริเวณโดยรอบเป็นลําธารและป่าเขาที่ยังมีความเป็นธรรมชาติอยู่มาก ถ้ำปลามีลักษณะเป็นโพรงปากถ้ำและมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่กว้างประมาณ 2 เมตร ลึก 1.50 เมตร ภายในแอ่งน้ำมีน้ำไหลออกจากถ้ำใต้ภูเขาอยู่ตลอดเวลา น้ำค่อนข้างใสสะอาด เป็นที่อยู่อาศัยของปลาพลวง หรือภาษาเหนือเรียกว่าปลาพุง หรือ ปลามุง ปลาชนิดนี้ชอบอาศัยอยู่ตามน้ำตกและธารน้ำในป่า เป็นปลามีเกล็ดขนาดใหญ่จัดอยู่ในวงศ์ปลาตะเพียน

จุดที่ 9. บ้านรักไทย (ชาสา รักไทย)



คืนนี้เราพักที่ ชาสา รักไทยค่ะ ถึงบ้านรักไทยราวๆบ่าย 2 แบบหิวโซ รีบเข้าร้านลีไวน์รักไทยเลยค่ะ
มื้อนี้เราสั่งอาหารเป็นเซ็ท ราคาประมาณพันกว่าบาท หน้าตาอาหารเป็นยังงัยมาดูกัน

แต่เอ๊ะ ก่อนไป มีร้านกาแฟ ... ขอซักชอตก่อนนะ

จากอาหารทั้งหมด 9 อย่าง ไม่ชอบ 2 อย่าง คือ ตุ๋นไก่ดำยาจีน กับ ปลาสามรส ที่เหลือ อร่อยมากๆค่ะ โดยเฉาะก้านเห็ดกับแกงจืดหมูก้อน สำหรับเครื่องดื่ม ทางร้านจะมีชาร้อนเซิร์ฟฟรีค่ะ ชาหอมหมื่นลี้นี่ หอมสุดยอดอะ หอมจริงจัง

ชาสารักไทย รีสอร์ท เดิมไม่คิดว่าจะสวยและใหม่แบบนี้นะคะ ตอนแรกคิดว่าจะเก่ากว่านี้ แต่พอไปเจอละ ห้องพักใหม่เกือบทุกหลัง (เป็นเพราะเค้าเพิ่งจะรีโนเวทด้วยมั้ง) วิวก็สวย เห็นอ่างเก็บน้ำเต็มๆ แถมลมก็โกรกอีกอะ ตอนกลางคืนได้ฟิลหนาวสุดๆค่ะ ชอบบเลย


ด้านข้างของรีสอร์ท คือ ลีไวน์ รักไทย ที่หลายๆคนใฝ่ฝันจะมาพักซักครั้ง (เราก็อยากมา แต่จองห้องไม่ทันค่ะ เต็มจนถึงสิ้นปีเลย) แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ถึงจะไม่ได้เข้าพักแต่รีสอร์ทเค้าก็อนุญาตให้เยี่ยมชมได้ แต่ห้ามเข้าไปรบกวนเขตลูกค้านะคะ ห้ามเสียงดังด้วย ที่สำคัญมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คือ ควรทายากันแมลงสัตว์กัดต่อยนะคะ ... นี่เราโดนตัว " คุ่น " กัดมาค่ะ ตั้ง 20 เม็ดแหน่ะ คันมากกก และเค้าบอกว่าต้องไปหาหมอด้วย การรักษาประมาณ 2-3 เดือนถึงจะหายค่ะ ใครจะไปลั่นล๊ากลางแปลงชาเขียว ระวังด้วยนะคะ

จุดที่ 10. อ่างเก็บน้ำปางตอง ปางอุ๋ง (บ้านรวมไทย)



สวัสดีปางอุ๋ง ... ผ่านมาแล้วหลายปี แต่เธอก็ยังสวยงามเหมือนเดิมนะ มาครั้งนี้เจอนางพญาเสือโคร่งด้วยแหล่ะ

หลังจากไปเที่ยวปางอุ๋งเสร็จ เราก็ขับรถกลับเข้ามาที่บ้านรักไทยอีกครั้ง เพื่อทานอาหารเช้าและก็เช็คเอ้าท์เดินทางต่อไปที่สะพานซูตองเป้ค่ะ
อาหารเช้าอร่อยค่ะ ผัดก้านเห็ดอร่อยอีกแล้ว ผัดผักรวมก็อร่อย ไข่เจียวก็อร่อย อร่อยทุกอย่างเลย

จุดที่ 11. สะพานซูตองเป้



“สะพานซูตองเป้ (Zutongpae Bridge)” เป็นสะพานไม้ไผ่ ตั้งอยู่ที่บ้านกุงไม้สัก อำเภอเมืองฯ จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีความกว้าง 2 เมตร ยาวประมาณ 500 เมตร คำว่า “ซูตองเป้” เป็นภาษาไทยใหญ่ มีความหมายว่า “ความสำเร็จ” ซึ่งมีความเชื่อกันว่า หากได้มายืนอยู่กลางสะพานแล้วอธิษฐานขอความความสำเร็จใดๆ ก็จะพบกับความสมหวัง นับว่าเป็นสะพานไม้ไผ่ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย

ปล. ขอค้าง จุดที่ 12-20 ไว้แป่บนึงนะคะ เดี๋ยวมาต่อ

จุดที่ 12. พระธาตุดอยกองมู



วัดพระธาตุดอยกองมู เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาช้านาน ตั้งอยู่บนดอยกองมู ทางทิศตะวันตกของ ตัวเมืองแม่ฮ่องสอนเพียง 3 ก.ม.เดินทางโดยแยกจากทางหลวงสาย 108 ตรงบริเวณ อนุสาวรีย์พระยาสิงหนาทราชาขึ้นไปทางซ้ายมือ เป็นทางลาดยางขึ้นภูเขาไปอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร ก็จะถึงบริเวณวัดพระธาตุดอยกองมูเดิมมีชื่อเรียกว่า วัดปลายดอยประกอบ ด้วยพระธาตุเจดีย์ที่สวยงาม 2 องค์ พระเจดีย์องค์ใหญ่สร้างโดย จองต่องสู่ เมื่อ พ.ศ. 2403 เป็นที่บรรจุพระธาตุของ พระโมคคัลลานะ เถระ ซึ่งนำมา จากประเทศพม่า ส่วนพระธาตุเจดีย์องค์เล็กสร้างเมื่อ พ.ศ. 2417 โดย พระยาสิงหนาทราชา เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอน คนแรก จากวัดพระธาตุ ดอยกองมูนี้สามารถมองเห็นภูมิประเทศและสภาพตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้อย่างชัดเจน และสวยงามมากวัดนี้มี งานเทศกาลประจำปีหลายงาน เช่น ในวันปีใหม่ วันสงกรานต์ โดยเฉพาะในวันออกพรรษาจะมีการตักบาตรดาวดึงส์

จุดที่ 13. ปาย ใน ฝัน (ที่พักริมแม่น้ำปาย บรรยากาศสุดฟิน)



(( ด้านหลังติดภูเขา ด้านหน้าติดแม่น้ำ ข้ามสะพานก็เจอถนนคนเดิน ))
คืนนี้เราเลือกแบบกระโจมค่ะ บุ๊คส์ไป 2 กระโจม 1,580 + เอกตร้า 250 บาท หาร 5 คน คนละ 366 บาท รวมอาหารเช้า (ห้องน้ำรวม) การบริการดีมากค่ะ ทั้งคุณลุงที่เป็นพนักงานและคุณป้าและคุณพี่ที่เป็นเจ้าของ ให้การต้อนรับแบบกันเอง ที่พักวิวก็ดี อาหารเช้าก็อร่อยค่ะ เอาไปเลย 5 ดาว

ที่พักของเราถึงแม้จะเป็นกระโจมแต่จะบอกว่าอุ่นมากกกกกกกกกกก ผ้าปูนุ่ม สะอาด ลมจากข้างนอกเข้ามาไม่ได้เลยค่ะ แต่มีข้อเสียก็คือ กระโจมข้างๆถ้าใครนอนกรน ก็คือได้ยินเสียงกันหมดเลยล่ะ ที่จริง เราเคยมาพักที่นี่เมื่อ 5 ปีที่แล้วค่ะ แต่นอนแบบบ้านดิน ห้องพักน่ารักค่ะ แต่จะไม่ได้บรรยากาศริมน้ำ ครั้งนี้ เราเลยเลือกนอนแบบกระโจมเลย ชิลล์จริงๆ อันนี้แนะนำ ... หน้ากระโจมก็มีโต๊ะญี่ปุ่นให้นั่งกินดื่ม สนทนากันก่อนนอนอีก .. ชอบสุดๆ ถ้ามาปาย ลองมาใช้ชีวิตแบบนี้ซักครั้งนะคะ



จุดที่ 14. ถนนคนเดินปาย



มาที่นี่ต้องห้ามพลาด

1 " ห ม่ า ล่ า " ทานร้านไหนก็ได้ อร่อยเหมือนกัน เผ็ดน้อย เผ็ดมาก ก็ตามสั่งเลย
2 " ข้าว ปุก งาดำ " จี่ร้อนๆ ราดนมข้นเยอะๆ เดินไปกินไป มีความสุข
3 " อะโวคาโด ราดนมข้น หรือ น้ำผึ้ง " อันนี้ก็คือที่สุดอะ ใครทานอะโวคาโดไม่เป็น ต้องมาลองกินแบบเบสิคอย่างงี้ก่อนก็ได้ค่ะ แต่ส่วนตัวชอบอะโวคาโดอยู่แล้ว เลยทานไม่ยาก



จุดที่ 15. เมาเท่นโฟร์ท เรือนแพภูเขาลอยน้ำในเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เชียงใหม่



เช้าวันที่ 13 มกราคม 2561 เราเช็คเอ้าท์ออกจากปายในฝันประมาณ 10 โมงเช้า แล้วมุ่งหน้าต่อไปที่เขื่อนแม่งัด ตั้ง GPS ว่าเขื่อนแม่งัดเลยค่ะ เพราะเดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะมารับเราไปขึ้นเรือที่ท่าเรือ

คืนนี้เรานอนกันที่ Mountain Float เราบุ๊คส์ห้องที่ราคา 7,820 บาท (รวมเตียงเสริม) ราคานี้รวมอาหารว่าง อาหารเย็น 1 มื้อ อาหารเช้า 1 มื้อ เรือรับส่ง รววมเครื่องเล่นทุกอย่างแล้ว



รอบเรือรับส่ง ขาเข้า มี 3 ค่ะ รอบแรกคือรอบ 13.30 น. แล้วก็ 15.00 , 16.00 , 18.00 น. เรารีบออกจากปาย เพื่อให้ทันเรือรอบแรกค่ะ แต่ก่อนถึงควรโทรแจ้งพนักงานนนะคะ เค้าจะได้จัดเจ้าหน้าที่และเตรียมเรือไว้ให้ค่ะ
เรื่อที่มารับ รับเฉพาะกลุ่มเราค่ะ นี่เป็นส่วนตัวมากๆ

ที่พักของเราเป็นบ้าน 1 หลัง มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องใหญ่จะมีอ่างจากุชชี่ด้วย

ช่วงบ่าย 3 พนักงานจะนำอาหารว่างมาเสิร์ฟนะคะ เป็นก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ กับข้าวเกรียบจิ้มน้ำพริกเผา กับวุ้นเย็นๆคนละถ้วย .. อ้อ จะบอกว่าที่นี่อาหารอร่อยมากกกกกกกค่ะ จริงๆ ผัดผักเฉยๆยังอร่อยเลย



อิ่มแล้วก็ได้เวลาถ่ายรูปวนไปค่ะ หรือใครอยากเล่นอะไรก็เล่นได้เลย มีทั้งพายคายัค ปั่นเป็ด ปั่นจักรยานน้ำ มวยทะเล เล่นห่วงยาง หรือนั่งดริ้งค์ชิลล์ๆกับเพื่อนก็ได้ค่ะ แต่ใครง่วงนี่ ห้ามหลับนะคะ เสียดายเวลาอะ 5555



อาหารเย็นจะนำมาเสิร์ฟเวลา 6 โมงเย็นนะคะ เป็นอาหารไทย 5 อย่าง (อร่อยทุกอย่าง บอกเลย)

บรรยากาศยามเช้า และอาหารเช้าของที่นี่ค่ะ

สำหรับขากลับ เรากลับเรือรอบสุดท้ายค่ะ 11.00 น. (รอบเรือจะมีรอบ 09.00 น.,10.00 น. และรอบ 11.00 น.)

จุดที่ 16. ปลูกผัก เพราะ รักแม่ (โอ้กะจู๋)



มื้อนี้ ดีต่อใจและกาย



หลังจากที่เราเชคเอ้าท์และนั่งเรือออกมาจากเมาเท่นโฟล์ทแล้ว เราก็มุ่งหน้ามาทานมื้อเที่ยงที่โอ้กะจู๋เลยค่ะ มาถึงประมาณเที่ยงครึ่ง โอ้ โห คนเต็มร้านเลยค่ะ คิวยาวมากกก แต่ดีหน่อยที่เร็ว เพราะร้านกว้าง มีพื้นที่รองรับลูกค้าเยอะดีค่ะ เรามาทานกันที่สาขาแรกตรงสันกำแพง เพราะว่าอยากมาชมสวนผักด้วย ใครที่ชอบทานผัก มาที่นี่จะชอบมากนะคะ เพราะมีผักสดๆ หลายหลากชนิดให้เลือกทาน และสามารถเลือกน้ำสลัดเองได้ด้วยค่ะ



สำหรับเมนูในดวงใจ สลัดน้ำญี่ปุ่น , สะพานโค้ง, สปาเกตตี้



จุดที่ 17. I berry - นิมมาน



ร้านไอศกรีม ไอเบอร์รี่ (Iberry) ของคุณโน๊ต อุดม เป็นร้านไอติมชื่อดังร้านหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ในซอยนิมมานเหมินท์ 17
วันที่ไป วัยรุ่นแถวนิมมานก็ยังเยอะเหมือนเดิมค่ะ แต่ที่นั่งก็ร่มรื่นดีเช่นเคย

จุดที่ 18. ถนนคนเดินท่าแพ /The Good View Village Restaurant



ก่อนจะถึงจุดนี้ เราไปเช็คอินที่พักคืนสุดท้ายกันก่อนที่ Time in Chiangmai อยู่ใกล้ๆกับวัดโลกโมฬี ราคาต่อคืน รวมอาหารเช้า 1,122 บาทต่อ 4 คน รวมอาหารเช้า ... ห้องดีงามค่ะ พักชั้น 5 ไม่มีลิฟต์ แต่ในห้อกว้าง สะอาด มี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น

ถนนคนเดินท่าแพ
ปกติคนก็เยอะอยู่แล้ว ยิ่งช่วงนี้คือช่วงไฮซีซั่น คนก็ยิ่งจะเย๊อะขึ้นไปอีก ใครจะไปนี่เตรียมใจไว้เลยค่ะ ว่าอย่าหงุดหงิด ทำใจให้สบายยยยย เดินดูของไปเรื่อยๆ เจอของกินอร่อยๆก็แวะซื้อแล้วเดินกินไปได้เลยค่ะ วิถีท่าแพสตรีท อ้อ วันที่ไป มีการแสดงไฟด้วยค่ะ ใครอยากชม ก็ข้ามถนนมาอีกฝั่งได้นะคะ



หลังจากเดินเล่นซื้อของที่ถนนคนเดินกันจนเมื่อยแล้ว เราก็ไปทานอาหารค่ำต่อกันที่ The Good View Village Restaurant (สาขา 2) ร้านกว้างขวางมากกกกกกกก อารมณ์คล้ายๆสวนอาหารวังปลา มีบ่อน้ำและก็ประดับด้วยไฟ กลางคืนพาครอบครัวหรือนัดเพื่อนพบปะสังสรรค์ก็โอเคค่ะเพราะถึงแม้จะมีดนตรีสด แต่ก็ไม่เสียงดังมาก ที่สำคัญบรรยากาศดีเว่อร์



ปล. ขอแจมภาพจาก Ip 6 นะคะ

จุดที่ 19. ร้าน หลอง ข้าว ลำ (กิ่นอาหารเมืองลำๆเจ้า)




วันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2561 วันสุดท้ายของทริปนี้ .... วันนี้เรามีบินกลับไฟล์ทรอบ 21.40 น. กว่าจะถึงเวลายังมีเวลาลั่นล๊าอีกครึ่งวัน .. มื้อเที่ยงเพื่อนมารับไปต๊ะต่อนยอนทานอาหารเมืองค่ะ ร้านชื่อว่า หลอง ข้าว ลำ (หลองข้าว แปลว่า ยุ้งข้าว) เป็นร้านอาหารเมืองสูตรอาหารมากกว่า 100 ปี
เป็นร้านที่มีชื่อเสียงเป็นหน้าเป็นตาของคนเชียงใหม่ ร้านอยู่ลึกลับซับซ้อนและถนนจะแคบหน่อย แต่พอไปถึงแล้วจะว้าวในความเป็นล้านนาแต้ๆ ทั้งสถาปัตยกรรมอาคารสถานที่สวยงดงาม บริเวณร้านร่มรื่น มีเพลงล้านนาคลอให้ฟังเบาๆ มีแม่ครัวเป็นคุณยายคนเดียว เพื่อนที่พาไปบอกว่า ร้านนี้จะใช้แม่ครัวคนเดียว อาหารอาจจะช้าหน่อย แต่รับรองว่าลำแต้ๆเจ้า สำหรับการเดินทาง ก็ตั้ง GPS มานะคะ ร้านอยู่แถวเวียงกุมกาม ตั้งพิกัดมาเส้นเชียงใหม่-ลำพูนสายเก่า ( ......มาเชียงใหม่อีก อย่าได้พลาดเชียว เราเตือนแล้วนะ )

เมนูชื่นชอบ , แอ้บปลา , ผัดเชียงดา , น้ำพริกปลาย่าง , แกงผักหวานปลาแห้ง


จุดที่ 20. ร้าน ข้าวเม่า - ข้าวฟ่าง (ป่าในจินตนาการ)

จุดสุดท้ายของทริปนี้ ... มื้อเย็นเรามาต่อกันที่ร้านนี้ค่ะ ข้าวเม่า ข้าวฟ่าง ... เดิม ได้ยินชื่อนี้มานานกว่า 7 ปีละคะ แต่มาเที่ยวเชียงใหม่ทีไรก็ไม่ได้แวะซะที มื้อนี้มีเวลาพอดีก็แวะเข้าไปซักหน่อย

บรรยากาศภายในร้าน จริงๆเหมือนจูราสสิค พาร์คเลยค่ะ มันเป็นเหมือนปาดิบชื้น มีน้ำตก มีดอกไม้ มีพรรณไม้เยอะแยะเลย แถมมีบ่อน้ำลึกขนาดใหญ่อยู่ด้านในด้วย ... พื้นที่โต๊ะอาหารก็จัดแบบให้นั่งในป่าที่รายล้อมด้วยพรรณไม้ มีไฟส่องให้ความสว่างทุกโต๊ะ อากาศเย็นสบาย (อ้อ ถ้าใครกลัวยุงก็จะมีห้องแอร์ไว้รับรองด้วยนะคะ) รวมๆร้านนี้ คือดีอะ ชอบบบบบบบบบ ใครชอบดอกไม้แนะนำให้เลี้ยวรถเข้ามาให้ไวเลยค่ะ



ปิดทริปสุดท้ายท้ายสุดแบบสวยๆ ด้วยของหวานเจ้าประจำ .."ข้าวต้มมัด" ของบางกอกแอร์เชียค่ะ อร่อยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
ทริปนี้มีความสุข มีความฟินตัวแตกกลับบ้านจริงๆ

สุดท้าย ขอบคุณสำหรับการรับชมกระทู้นี้จนจบนะคะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการเดินทางของท่านในทริปต่อไปค่ะ .............. สวัสดี


Whatdayistoday Playplern

 วันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 15.46 น.

ความคิดเห็น