EP.5 ของ The Planners - เที่ยวนอกแพลน



ปกติถ้าเราอยากเห็นไร่ชาสวยในเมืองไท

คงหนีไม่พ้นการนั่งเครื่องบิน ลัดฟ้าสู่จังหวัดทางเหนือ

เพื่อให้ได้เห็นในสิ่งที่ต้องการ



แต่ที่นี่!!! เพียงแค่คุณนั่ง MRT แล้วไปต่อกระเช้าไม่ถึง 1 ชม.

คุณจะได้พบเจอไร่ชาแสนสวยใกล้เมืองกรุง ที่



MAO KONG



ติดตาม EP. ที่ผ่านๆมาของเราได้ตาม Link ด้านล่างครับ



EP.0: รวมสถานที่ท่องเที่ยวในไต้หวัน - https://pantip.com/topic/36539261

EP.1: เราพาทุกคนไปเยือน Alishan - https://pantip.com/topic/36544600

EP.2: ท่องเที่ยวทะเลสาบสุริยันจันทรา Sun Moon Lake - https://pantip.com/topic/36559520

EP.3: ทาสแมวพลาดไม่ได้ที่ Hou Tong หมู่บ้านแมว - https://pantip.com/topic/36585722

EP.4: หมู่บ้านเก่า เล่าผ่านภาพที่ Jiu Fen - https://pantip.com/topic/36607956



สามารถติดตามเราสองคนได้ที่ Fan Page

https://web.facebook.com/pg/theplannersbytsst/posts/



เรายังคงอยู่บนแพลน ไต้หวัน 5 วัน 4 คืน กัน

โดยครั้งก่อนๆ เราได้พาทุกคนไปบุกตะลุย

- Alishan

- Sun Moon Lake

- Hou Tong (หมู่บ้านแมว)

- Jiu Fen



กันไปแล้ว ซึ่งครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งที่ที่ไม่ไกลจากไทเป

และเราสองคนรู้สึกว่าน่าไปลุยดู






เรามาเริ่มกันเลยครับ



Mao Kong ขึ้นไป ทำไรบ้าง??



"ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ ท่ามกลางไร่ชา ที่ไม่ไกลจากไทเป"



"ไปนั่งกระเช้า พื้นโปร่งใส วัดใจสำหรับคนไม่กลัวที่สูง"



"ไปกินไอติมชา รสชาติเข้มข้น บนที่สูง"



สำหรับการเดินทางไป Maokong Gondala เพื่อขึ้นไปที่เขาเมาคง



เริ่มด้วยการนั่งรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลจากในตัวเมืองไปลงสุดสายที่ สถานี Taipei Zoo แล้วเดินต่ออีกหน่อย โดยจะมีป้ายบอกตลอดทาง



ใหเราเลือกไปทาง Maokong Gondola ครับ



การนั่ง Maokong Gondola จะมีสถานีทั้งหมด 4 สถานี คือสถานี

1. Taipei Zoo

2. Taipei Zoo South

3. Zhinan Temple

4. Maokong



เลือกลงสถานีไหนก็ได้ คิดตามระยะทางที่ลง

ส่วนเราสองคน เลือกมุ่งตรงสู่ Maokong อย่างไม่แวะเวียนที่อื่นเลย



การเข้าแถวรอขึ้นกระเช้า เมาคง จะแบ่งลายการต่อแถวออกเป็น 2 ทาง

(ตอนแรกผมก็แอบสงสัยครับ ว่าแบ่งทำไม?)



เราก็ตรงดิ่งไปแถวที่ไม่มีคน ซึ่งผิดกับอีกแถวที่คนต่อกันจนล้นเหมือนได้ขึ้นฟรี



พอมาสุดที่หัวแถวจึงได้รู้ ว่าแถวที่เรามาต่อนั้น เป็นการขึ้นกระเช้าแบบทึบนี่เองครับ



เลยเหลือบไปเห็น ป้ายบนพื้นของแถวข้างๆ



เห้ย!!! "Crystal Cabins"



ด้วยความสงสัย เลยเปิดอากู๋เสิร์ชดู จึงพบว่ามันเป็นกระเช้าแบบพื้นใส

ทำให้เราสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ในขณะนั่งกระเช้าได้!!



รออะไรล่ะครับ



ไปต่อแถวใหม่สิเห้ย!!!

(สั่งเจ้าหมู แต่นางไม่ได้ยินหรอก รอนางเดินไปไกลๆก่อน เดี๋ยวนางหันมาตบเอา = = แฟนป๋มโหดคับ)



ซึ่งป้ายประกาศจะมีบอกไว้ชัดเจนสำหรับจำนวนคนที่จะขึ้นกระเช้าแต่ละประเภทครับ



เข้าใจว่าที่แบบ ใส ขึ้นได้น้อยคนกว่า คงเกี่ยวกับเรื่องการรับน้ำหนักของตัวพื้น



Tip: สำหรับคนที่มาเที่ยวกับเพื่อนจำนวนไม่มาก ไม่ต้องกังวลว่าแถวจะช้านะครับ บางครั้งเจ้าหน้าที่จะมาเรียกจำนวนคนที่ขาดแต่ละกระเช้าเช่น กรุ๊ปหน้าสุดเขามากัน 3 คน ขาดอีก 2 คน แต่กรุ๊ปถัดมา มากัน 4 คน เขาก็จะมาหาในแถวว่ามีใครมาเป็นคู่ไหม? สนใจไปร่วมกับคนอื่นรึเปล่า สบายใจได้



การรอคอยกระเช้าก็ไม่ได้นับว่านานมากครับ



แต่กระเช้าทึบ กับใส จะมาสลับกันเรื่อยๆ



ทาดาาาาาาาาาาาาาาา



ในที่สุดเราสองคนก็ได้ขึ้นกระเช้าใสแล้ว

ตอนเริ่มมันก็ดูไม่มีอะไรน่ากลัว หรือหวิวๆนะครับ



แต่พอนั่งไปสักพัก มันสูงขึ้นเรื่อยๆเนี่ย

ใจก็สั่นๆเหมือนกัน = =



บรรยากาศระหว่างนั่งกระเช้า



วิวโดยรอบส่วนมากก็จะเป็นป่าครับ อาจจะมองเห็นวิวเมืองไกลๆ แต่ไม่ชัดเจนมากมานัก



ระหว่างที่เราโดยสารกระเช้า เราสามารถถ่ายรูปเล่น บ้าบอ เต้นแร้งเต้นกา หรือแม้แต่จะตะโดนทักทายกระเช้าที่สวนทางกัน (แต่คนต้องทักทายเป็นภาษาจีนนะ = = เจ้าหมูลองตะโกนไปแล้วว่า สวัสดีค่าาาาาา กระเช้าที่สวนไปทำหน้างงๆกันทั้งตระกูล)



แต่เขาก็จะมีข้อห้ามเขียนไว้นะครับ เช่น

ห้ามยืนพิงทางด้านประตู เป็นต้น



เมื่อนั่งมาได้สักพัก เราก็มาลงตรงสถานีสุดทางคือ 'Maokong' กัน



สิ่งแรกที่เดินออกจากสถานีแล้วมองไปเห็นทางซ้ายมือเลยคือ!!!!



อ า ห า ร ร ร ร ร ร ร

(หิวสินะ)



เราสองคนก็ไม่รอช้า ไปหาอะไรกินบนภูเขากัน



ร้านแรกที่เราแวะเลย

จากที่ผมลองอ่านป้ายดูพบว่าเป็น



"ลูกชิ้นปลาหมึก"



โดยวิธีการคือนำไปย่างครับ



ส่วนเนื้อที่เห็นกำลังย่างอยู่นี้คือ เนื้อแพะ



จริงๆแล้วในประเทศจีน และไต้หวัน นิยมการกินเนื้อแพะกันมากนะครับ

แต่สำหรับคนไทยที่ไม่สามารถรับกลิ่นสาบของเนื้อชนิดนี้ได้ น่าจะพอคลายความกังวลลงได้บ้าง เนื่องจากเวลาเขาขาย ระหว่างย่างเขาจะมีการโรยเครื่องเทศลงไปเพื่อกลบกลิ่นสาบครับ



อร่อยเหาะเลยขอบอก



อันนี้เราไม่ได้ลองกันนะ

แต่เห็นน่ารักดี



ดูเหมือนเป็นขนมสอดไส้นะ



(ใครรู้ฝากชี้แจงนะแจร้ะ)



อากาศร้อนๆงี้เลยดับกระหายกันหน่อยด้วย



น้ำแตงโมปั่น



ต่อด้วย



เกี๊ยว จ้าาาาาาาาาา



เกี๊ยวที่ไม่มีหมูอยู่เลยจ้าาาาา มีแต่แป้งกับผักล้วนๆ

ซึ่งเจ้าหมูบ่นว่าไม่อยู่ท้องเอาซะเลย TT



ก่อนจะมาปิดท้ายด้วยไฮไลท์ของเรากัน

(ชอบเป็นการส่วนตัวทั้งคู่ เอิ๊กๆๆๆๆ)



ไอติมรสชา



ถ้าเดินจากสถานี เมื่อกี้เราไปหาอะไรกินกันทางซ้ายมือ

แต่ร้านขายไอติมนี้ไม่ต้องเลี้ยวเลยครับ เดินออกจากสถานีแล้วตรงดิ่งมานิดเดียว ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือเลย



ไอติมที่เราเลือกกินกันเป็นรสทูโทน เพราะเขาจะมีไอติม ชา 2 สี

เป็นชาสีเขียว กับชาสีน้ำตาล

แปะแครกเกอร์แมวเมี๋ยวเข้าไป เข้ากันแบบฟินสุดๆเลยครับ



หลังจากหาของกินกันจนอิ่มหนำ เราก็ได้เวลาออกเดินเล่นกันแล้ว

บรรยากาศของเมาคง

มีร้านค้า ร้านอาหารค่อนข้างเยอะครับ



เพราะถ้าเกิดใครขึ้นมาบนภูเขาลูกนี้ช่วงเย็น

จะสามารถเลือกร้านอาหารที่มุมที่ตนชอบ นั่งเสพบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินที่แสนโรแมนติก พร้อมดื่มด่ำกับอาหารที่ทางร้านมีไว้ ที่สำหรับวิวจากเมาคง

สามารถมองเห็นตึก Taipei 101 อีกด้วย



ซึ่งพอพ้นเขตที่เป็นร้านอาหารและร้านขายของมา

เราก็เข้าสู่โซนธรรมชาติอย่างแท้จริง



บนภูเขาเมาคง ถือเป็นแหล่งปลูกชาที่มีชื่อของไต้หวัน

แต่เราอาจจะไม่ได้เห็นไร่ชาเป็นขั้นบันไดเหมือนทางภาคเหนือของบ้านเรา แต่ก็ถือว่าเป็นธรรมชาติมากๆครับ



จากการสอบถาม ชาวบ้าน บนเมาคง



เขาบอกว่า สามารถเข้าไปถ่ายรูปเล่นได้ แต่ขออย่างเดียว ห้ามเด็ดใบชา



รู้งี้ก็ไม่รอช้าสิครับ



ลุยยยยย



**** ดอกไว้ 36 ล้านดอก ****



ข้อควรระวังครับ

ที่เจ้าหมีนำรูปนี้มาลง เพื่อเตือนใจเพื่อนๆ ที่อยากเข้าไปถ่ายในไร่ชาบนเมาคง ให้ดูให้ดีในแต่ละสถานที่ที่เราจะเข้าไปถ่ายครับ



ตอนผมบุกป่าฝ่าไร่ชาเข้าไปถ่าย ยอมรับครับ ไม่ได้ดูอิโหน่อิเหน่อะไร ก็ย่ำไปเรื่อย อ๊ะตรงนี้ไม่สวย ก็กระโดดตุบลงไปขั้นถัดไป จนหันมาอีกที ถึงเพิ่งได้รู้ว่าเราไปอยู่ใกล้กับหลุมที่เขาฝังศพมากๆ ><!!!



ผม ยกมือไหว้แทบทิ้งกล้อง

(แต่หลังจากนั้นไม่ได้เจออะไรน่ากลัวนะครับ อาจจะเพราะเรายกมือไหว้ขอโทษแล้ว)



เพราะงั้นเพื่อนๆระวังกันน้าาาาา

ไม่ไปรบกวนเขาดีกว่าเนอะ ^^"



ถ้าหากเพื่อนๆเจอไร่ชาตรงไหนสวยๆ

ก็ลองดูดีๆนะครับ ถ้าเขาไม่มีป้ายห้ามอะไรก็ลงไปถ่ายได้



แต่อย่าลืมนะ ห้ามเด็ดใบชาเขานะครับ^^



อากาศช่างสดชื่น เหมาะแก่การสูดเข้าให้เต็มปอดมั่กๆ



ส....สะ.......สูดเยอะไปมั้ยเจ้าหมู = =

(นึกว่าโฆษณายาสระผม)



เจ้าหมูบอกว่ามาทั้งที จะจัดเป็นที่ระทึก เอ๊ย ระลึก!!



รูปคู่สักนิด



การเดินทางของเราจากสถานีเมาคงไปตามไร่ชาต่างๆก็



............. Teen ทีมลวนๆเหลย



เดินกันไปตามถนนทีเขามีนี่แหละครับ เจอตรงไหนก็ถ่ายตรงนั้น

(แต่จริงๆจำได้ว่าเขามีรถบัสนะ แต่เราไม่ได้นั่งกัน แหะๆ)



ระหว่างทางเดินกลับเราก็มาเจอเจ้าถิ่นตัวอ้วนนี่เข้าให้



แล้ว ทาสแมว อย่างเจ้าหมู มีรึจะพลาด หึหึหึ



จัดไปหนึ่งดอก เคลิ้มจ่ะ เจ้าอ้วนเอ้ย



จนในที่สุดจากจุดที่สังเกตได้ง่าย เจ้าหมูก็หันมาบอกผมว่า



หมู: "ตัว เค้ารู้ละ ว่าน้องชื่ออะไร"

หมี: "หืม? รู้ได้ไงอ่ะ"

หมู: "นี่ไงดูจากลักษณะมันสิ่ น้องต้องชื่อ สาหร่ายแปะ แน่ๆ"

หมี: "....................................."



จ่ะ ยอมใจในสกิลการตั้งชื่อของนาง = =



ขากลับ การต่อแถวขึ้นกระเช้าใสไม่ยาวเหมือนขามาครับ

อาจเป็นเพราะเราสองคนกลับช่วงบ่ายต้นๆ (เพราะมีแพลนไป Tamsui กันต่อก็เป็นได้)



เลยได้มีโอกาสถ่ายรูป เต็มๆกับพื้นกระเช้าซะหน่อย



กับกระทู้นี้

เราสองคนขอลากันไปด้วยท่าโพสหลับไปกับธรรมชาติของผม



แล้วครั้งหน้า เราจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวที่

TAMSUI เมืองท่าเรือแสนโรแมนติกกัน



ที่นั่นจะมีอะไรอยู่

รอติดตามกันนะครับ^^



ขอบคุณครับ//ค่ะ



#theplanners

#เที่ยวนอกแพลน

TurkTS

 วันจันทร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 11.56 น.

ความคิดเห็น