“โน!!” เสียงตะโกนดังลั่น
ผมหันขวับ เห็นคนกลุ่มใหญ่และขาตั้งกล้อง รู้ทันทีว่าคงไปเข้าเฟรมของใครซักคน เลยรีบย่อตัวแอบหลังกำแพง ท่าทางคล้ายทหารหลบกระสุนในหนัง
ถึงจะเคืองนิดๆ แต่เค้าข้ามน้ำข้ามทะเลมา อาจเป็นโอกาสครั้งเดียวในชีวิตที่จะได้ถ่ายภาพมุมนี้ ยกโทษให้ก็ได้
กะเวลาว่าน่าจะถ่ายกันจนหนำใจ อาเจ๊ก็ค่อยๆ โผล่หัวขึ้นไปดู
“ไม่มีใครอยู่แล้ว” เธอรายงาน
ศัตรูถอยทัพไปแล้ว การเดินทางตามหาบึงน้ำและร้านขายข้าว ตามการชี้เป้าของคุณลุงเจ้าของเกสต์เฮ้าส์ ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง
ตามแสงไฟไปเรื่อย จนเจอบึงใหญ่ เงาเจดีย์สะท้อนน้ำเป็นประกาย มีร้านอาหารน่ากินยั่วน้ำลาย ที่นี่แน่นอน เรานั่งลงที่โต๊ะขันโตกเล็กๆ ที่ผู้จัดงานเตรียมไว้ให้
อาเจ๊กระโดดโลดเต้นไปสำรวจร้านอาหาร ส่วนผมนั่งเฝ้ากล้อง ทำให้เห็นว่าคนที่นี่กินเสร็จ เก็บขยะใส่ถุง เคลียร์โต๊ะสะอาดเอี่ยม ให้คนที่มาทีหลังใช้อย่างสะดวก น่ารักมาก
เรายังอยากกินอะไรอีกเยอะแยะ แต่เริ่มหนาวจนทนไม่ไหว กลับเกสต์เฮ้าส์น่าจะดีกว่า
“เป็นไง ชอบมั๊ย โชคดีที่มาวันนี้” คุณลุงเจ้าของเดินมาทักทาย
“ชอบครับ อิ่มมากด้วย” ถึงผมจะตอบสั้นๆ แต่อันที่จริง แค่วันแรกที่สุโขทัย ก็คุ้มค่ากับการเดินทางแล้ว
*** เราบังเอิญไปช่วงที่เค้าจัดงานกล้วยไม้ + งานพ่อขุนรามคำแหงมหาราช เลยมีของขายครับ ***
แผนการเดินทาง
2 วัน 1 คืน
เสาร์ อาทิตย์
ไฮไลท์ครบ แต่เหนื่อยหน่อย
วันที่ 1
8.00 เดินทางไปสุโขทัย
15.00 วัดตระพังทอง
16.00 - 17.00 วัดพระพายหลวง วัดศรีชุม
17.30 ++ เที่ยวโซนกลางของอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
วันที่ 2
8.00 เดินทางไปอุทยานประวัตศาสตร์ศรีสัชนาลัย
9.00 - 12.00 อุทยานประวัตศาสตร์ศรีสัชนาลัย
13.00 ลองแวะกินข้าวร้านสุโขก็ได้ แต่ข้ามก็ไม่เสียหาย
14.00 เดินทางกลับกรุงเทพ
3 วัน 2 คืน
เสาร์ อาทิตย์ จันทร์
ไฮไลท์ ทำบุญไหว้พระ นั่งดูค้างคาวเป็นล้านๆ ตัวที่ถ้ำเจ้าราม
วันที่ 1
8.00 เดินทางไปสุโขทัย
14.30 วัดตระพังทอง
16.30 - 17.30 วัดพระพายหลวง วัดศรีชุม
17.00 ++ เที่ยวโซนกลางของอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
วันที่ 2
8.00 ไหว้ศาลพระแม่ย่า แล้วแวะพิพิธภัณฑ์สังคโลก
12.00 - 15.00 ตระเวนไหว้พระ วัดกลางดง วัดพิพัฒน์มงคล วัดทุ่งเสลี่ยม
16.00 หาดเจ้าราม
17.30 ถ้ำเจ้าราม
วันที่ 3
8.00 เดินทางไปอุทยานประวัตศาสตร์ศรีสัชนาลัย
9.00 - 12.00 อุทยานประวัตศาสตร์ศรีสัชนาลัย
13.00 ลองแวะกินข้าวร้านสุโขก็ได้ แต่ข้ามก็ไม่เสียหาย
14.00 เดินทางกลับกรุงเทพ
5 วัน 4 คืน
เสาร์ อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ
แผนการเดินทางอืดๆ ของหมีเป็ด ซึ่งขับรถไม่แข็ง และอยากดูทุกอย่าง
วันที่ 1
10.00 เดินทางไปสุโขทัย
16.30 วัดตระพังทอง
17.00 ++ เที่ยวโซนกลางของอุทยานประวัติศาสตร์
วันที่ 2
8.00 ไหว้ศาลพระแม่ย่า แล้วแวะพิพิธภัณฑ์สังคโลก
12.00 - 15.00 ตระเวนไหว้พระ วัดกลางดง วัดพิพัฒน์มงคล วัดทุ่งเสลี่ยม
16.00 หาดเจ้าราม
17.30 ถ้ำเจ้าราม
วันที่ 3
8.00 เดินทางไปอุทยานประวัตศาสตร์ศรีสัชนาลัย
9.00 - 12.00 อุทยานประวัตศาสตร์ศรีสัชนาลัย
13.00 - 14.00 โบราณสถานวัดโคกสิงคาราม, วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ราชวรมหาวิหาร
13.00 แวะกินข้าวร้านสุโข
17.00 ++ เขื่อนสรีดภงค์
วันที่ 4
6.00 ตลาดเช้าวัดตระพังทอง
7.30 - 9.00 เที่ยวโซนกลางของอุทยานประวัติศาสตร์
13.00 วัดช้างล้อม
14.00 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง
15.30 หอพระพุทธสิริมารวิชัย
15.45 ++ วัดพระพายหลวง วัดศรีชุม
วันที่ 5
10.00 เดินทางกลับกรุงเทพ
ปล.
- จากกรุงเทพ ใช้เวลาเดินทางไปสุโขทัยประมาณ 6 ชั่วโมง
- การเที่ยวในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยและบริเวณรอบๆ ใช้จักรยานสะดวกที่สุด
- อุทยานประวัตศาสตร์ศรีสัชนาลัย ปั่นจักรยานสนุก ต้นไม้เยอะ ไม่ร้อนเลย
- วัดพระพายหลวงร้อนแถมไม่มีอะไรให้ดูเท่าไหร่ ข้ามไปวัดศรีชุมเลยก็ได้
- วันเสาร์เป็นวันเดียวที่อุทยานเปิดไฟตอนกลางคืนครับ
สถานที่ท่องเที่ยว
รีวิวสถานที่ท่องเที่ยวที่เราไป (พยายาม) เขียนอย่างรวบรัด สนใจที่ไหนจิ้มดูที่นั่นฮะ
วัดพิพัฒน์มงคล
พิกัด
17.3224796 99.5512927
เวลา
ทุกวัน 5.00 - 19.00
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2526 เมื่อพระครูวรคุณประยุต (ครูบาญาณทิพย์) นั่งปฏิบัติธรรมเจริญวิปัสสนากรรมฐาน แล้วนิมิตว่ามีเทวดาสามองค์อาราธนาให้ท่านสร้างวัดขึ้นมาใหม่ ซึ่งก็แปลกที่ใต้ติดจุดที่ท่านนั่ง มีวัดร้างอายุ 700 ปีอยู่จริงๆ แถมยังขุดพบพระพุทธรูปจำนวนมาก
นี่เป็นวัดที่มีบริเวณกว้างขวาง มีอาคารหลังเล็กๆ ทาสีสดใสหลายหลัง ภายในอาคารตกแต่งอย่างประณีต ผมยังเดินดูไม่ทั่วก็ต้องยกธงขาวให้กับอากาศร้อนตับแลบ ส่วนอาเจ๊ที่ชิ่งไปให้อาหารปลาตั้งแต่ต้น เจอกับคุณป้าขายโตเกียวสูตรแปลก รสชาติจะเป็นยังไง โปรดติดตามในหมวดอาหารจ้า
วัดทุ่งเสลี่ยม
พิกัด
17.3124829 99.5526284
ลวงพ่อศิลา พระพุทธรูปนาคปรก ปางสมาธิ สกัดจากหินทรายสีเทา สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 18-19 ศิลปะลพบุรีที่ได้รับอิทธิพลจากเขมร ถูกค้นพบในถ้ำเจ้าราม และอัญเชิญออกมาประดิษฐานที่วัดทุ่งเสลี่ยม
แต่อยู่ๆ วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2520 มีคนร้ายขโมยหลวงพ่อศิลาหายไปอย่างไร้ร่องรอย จน พ.ศ 2539 หลวงพ่อศิลาถูกนำขึ้นประมูลที่อังกฤษ เมื่อติดต่อไป เจ้าของในขณะนั้นยอมส่งหลวงพ่อกลับมาให้ โดยแลกกับเงิน 5 ล้านบาท ซึ่งคนที่จ่ายเงินให้ก็คือ คืออ ธนินท์ เจียรวนนท์ ผู้นี้นี่เองงง
เราแวะไหว้หลวงพ่อ ใช้เวลาสั้นๆ ราว 10 นาที แล้วเดินทางต่อ
วัดกลางดง
พิกัด
17.3268785 99.5172608
ภาพพระอุโบสถและองค์พระเจดีย์สีทองโดดเด่น มีนาข้าวเขียวขจีเป็นฉากหน้า ภูเขาเล็กๆ เป็นฉากหลัง ซึ่งผมเห็นจากที่ไหนซักแห่ง (น่าจะ Lonely Planet) ประทับใจจนต้องไปดูกับตา
“จริงๆ แล้วแกมาทำไมคับ” อาเจ๊ถาม
“มาลอกมุมเค้าครับ” ผมยอมรับ…
ขับรถวนไปวนมา เล็งแล้วเล็งอีก จนแล้วจนรอด ก็ไม่ได้ภาพอย่างเค้าซะที นี่หละ เจตนาไม่บริสุทธิ์ พระท่านลงโทษ
ในวัดยังมีอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ซึ่งประดิษฐานอยู่ในมณฑป พระอุโบสถศิลปะทางเหนือ และองค์พระเจดีย์สีทองโดดศิลปะพม่าสวยแปลกตา
หาดเจ้าราม
พิกัด
17.1736 99.4784677
เวลา
ทุกวัน 9.00 - 19.00
เวิ้งน้ำด้านหนึ่งของห้วยหนองเคาะ ถูกพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีร้านค้าและศาลาให้นั่งเล่น ซึ่งตัวมันเองไม่ค่อยน่าสนใจนักสำหรับพวกเรา
เหตุผลที่แวะเพราะเป็นทางผ่านไปถ้ำเจ้าราม แต่เดินไปเดินมา เห็นคนกินอาหาร แช่เท้าในน้ำ รับลมเย็นๆ เราก็อยากจะกินมั่งงะ
ถ้ำเจ้าราม
พิกัด
17.2033419 99.4657704
เวลา
เวลาชมค้างคาว 17.15 - 18.00
ค่าเข้า
คนละ 20 บาท รถยนต์คันละ 30 บาท
ถ้ำกลางป่าห่างไกล เวลาเย็น และฝูงค้างคาว แค่ฟังก็วังเวง
เราเลยเลือกมาที่นี่ในวันอาทิตย์ หวังว่าจะมีเพื่อนนักท่องเที่ยวอีกซักสามสี่คนก็ยังดี
แต่ผิดคาด เพราะที่นี่เป็นลานปิคนิคของชาวสุโขทัย ผู้คนล้นหลาม เด็กตัวน้อยวิ่งกันเจี๊ยวจ๊าว มีเจ้าหน้าที่อุทยานขายส้มตำและลูกชิ้นปิ้ง กลิ่นหอมจนเราต้องอุดหนุน
“เมื่อวานคนเยอะกว่านี้อีก” เจ้าหน้าที่พูด มือขวาขยับลูกชิ้นบนเตา
รอไม่นาน ค้างคาวก็ทยอยบินออกมาทีละน้อย และเพิ่มมากขึ้น จนกลายเป็นทางยาววสุดลูกหูลูกตา โดยมีเสียงปรบมือและเสียงเชียร์ของเด็กๆ เป็นซาวด์เอฟเฟค
ที่น่ากลัวคือขากลับ เพราะ GPS นำทางเราไปตามถนนที่ไร้แสงไฟและผู้คน ไฟสูงที่สาดออกไป ก็ทำให้เห็นแค่ถนนที่ทอดยาวเข้าไปในความมืด
ขอส่งท้ายด้วยสาระ
นี่คือถ้ำที่สันนิษฐานว่า เกี่ยวข้องกับพ่อขุนรามคำแหงมหาราช โดยเป็นที่พักผ่อน และใช้หลบภัย ว่ากันว่าเป็นถ้ำที่ยาวไปจนถึงจังหวัดลำปาง ภายในมีสระน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งมีพระพุทธรูปโบราณจมอยู่ ซึ่งหลวงพ่อศิลาแห่งวัดทุ่งเสลี่ยม ก็ถูกค้นพบภายในถ้ำแห่งนี้
วัดตระพังทอง
พิกัด
17.0176093 99.7090676
วัดสวยกลาง “ตระพัง” หรือสระน้ำ สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 1826 สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ประดิษฐานรอบพระพุทธบาทจำลองแบบลังกา ซึ่งสร้างขึ้นในปีพ.ศ. 1902 ในสมัยของพระมหาธรรมราชาลิไท
ทั้งต้นไม้ เงาสะท้อนในสระ ท้องฟ้าตอนเย็น และไหนจะสะพานไม้ ที่มีโคมไฟสีเหลืองนั่นอีก องค์ประกอบครบขนาดนี้ ถ่ายรูปยังไงก็สวย
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
พิกัด
17.0181947 99.7040948
เวลา
ทุกวัน 6.00 - 21.00
ค่าเข้า
คนละ 20 บาท
ปั่นจักรยานเข้า เพิ่มอีกคันละ 10 บาท
อื่นๆ
อุทยานเปิดไฟสวยงามเฉพาะวันเสาร์
ผมนั่งดูพระอาทิตย์ค่อยๆ เคลื่อนต่ำลง พร้อมกับท้องฟ้าที่เปลี่ยนเป็นสีม่วง-แดง สดเหมือนใครทาสีไว้ และเมื่อความมืดเข้าปกคลุม แสงไฟของอุทยานที่ส่องกระทบโบราณสถานก็สว่างขึ้น สร้างบรรยากาศให้ลึกลับและเรืองรองไปพร้อมกัน
หมีเป็ดอาสาพาเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย มรดกโลกของไทยที่สวยไม่แพ้ที่ไหนๆ
ผมขอแบ่งที่นี่แบ่งเป็น 5 โซน (ตามไกด์บุคของฝรั่ง) คือโซนกลาง เหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก แต่ละโซนต้องซื้อบัตรเข้าชมแยกกัน แต่บางแห่งก็เข้าฟรี
โซนกลาง
วัดสำคัญๆ รวมทั้งวิวพระอาทิตย์ตกสวยๆ นั้นอยู่ที่นี่ เป็นภาคบังคับที่ต้องดูให้ครบ มาเที่ยววันเสาร์ จะได้ชมแสงสีตอนกลางคืนด้วย
วัดมหาธาตุ
วัดศรีสวาย
วัดตระพังเงิน
วัดสระศรี
วัดชนะสงคราม
พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
มาสุโขทัยคราวนี้ ทำให้ได้รู้ว่าจริงๆ แล้ว พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ไม่ได้ทรงเก่งแค่การปกครองและวิชาการ แต่พระองค์ยังทรงเป็นนักรบที่เก่งมากอีกด้วย มาเมืองของท่านก็ต้องไหว้ท่านซักนิด
โซนเหนือ
ที่เด่นที่สุดคือวัดศรีชุม ควรแวะไปอย่างมาก
วัดพระพายหลวง และหอพระพุทธสิริมารวิชัย อยู่ติดกัน ถ้าไม่ใช่ตอนเช้าหรือหลังสี่โมงเย็น ที่นี่ร้อนยังกะเตาปิ้งย่าง ข้ามได้ ไม่เสียหาย
วัดศรีชุม
วัดพระพายหลวง
หอพระพุทธสิริมารวิชัย
จิตรกรรมผาผนังของที่นี่สวยทีเดียว ด้านหนึ่งเป็นเรื่องราวของรัตนโกสินทร์ และพระราชกรณีย์กิจของในหลวงรัชกาลที่ 9 อีกด้านเป็นเรื่องราวในสมัยสุโขทัย
โซนตะวันออก
วัดช้างล้อม เงียบๆ ไร้ผู้คน สวยดีครับ
โซนตะวันตก
วัดสะพานหิน ซึ่งตั้งบนเนินเขาเตี้ยๆ
“ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่วัดสะพานหิน สวยมาก” คุณลุงเจ้าของเกสต์เฮ้าท์ให้ข้อมูล
แล้วผมกับอาเจ๊ไปมั๊ย... ไม่ได้ไป เพราะตื่นไม่ไหวฮะ โถ่
โซนใต้
ไม่มีอะไรน่าสนใจครับ
การเที่ยวรอบๆ ให้ได้อารมณ์ แน่นนอนครับ ปั่นจักรยาน!! ซึ่งหาเช่าได้ง่ายและไม่แพง
เวลาที่เหมาะคือช่วงเช้า 6.00 - 9.30 และช่วงเย็นหลัง 16.30 เป็นต้นไป ระหว่างนั้นร้อนมาก นอนตีพุงที่โรงแรม หรือหาอะไรกินสบายๆ ดีฝ่า
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง
พิกัด
17.0183037 99.7072732
เวลา
9.00 - 16.00
ค่าเข้า
คนละ 30 บาท
อื่นๆ
ต้องฝากกระเป๋า
พิพิธภัณฑ์มาตรฐาน นิ่งๆ ไม่มีอะไรวิ๊งวั๊งเร้าใจ แถมไม่ติดโผไฮไลท์ของหมีเป็ด แต่ถ้าคุณมีเวลา ขอให้แทรกที่นี่เข้าไปก่อนจะเริ่มเที่ยวอุทยานประวัติศาตร์สุโขทัย หรืออย่างน้อยก็เข้าไปเดินเล่นหลบแดด เพราะมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่จะช่วยให้เที่ยวสนุกขึ้น
ศาลพระแม่ย่า
พิกัด
17.005253 99.8256624
เวลา
ทุกวัน 5.30 – 19.30
ศาลสวยงามประดิษฐานเทวรูปพระแม่ย่า ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวสุโขทัย
เรื่องราวของท่าน ปรากฏอยู่ในศิลาจารึกหลักที่ 1
“ เบื้องหัวนอนเมืองสุโขทัยนี้ มีกุฎีพิหารปู่ครูอยู่ มีสรีดภงส มีป่าพร้าว ป่าลาง มีป่าม่วง ป่าขาม มีน้ำโคก มีพระขพุงผี เทวดาในเขาอันนั้น เป็นใหญ่กว่าทุกผีในเมืองนี้ ขุนผู้ใดถือเมืองสุโขทัยนี้แล้ ไหว้ดีพลีถูก เมืองนี้เที่ยง เมืองนี้ดี ผิไหว้บ่ถูก ผีในเขาอันบ่คุ้ม บ่เกรง เมืองนี้หาย ”
ช่วงต้นรัตนโกสินทร์ ได้มีการออกค้นหาสิ่งของดังกล่าว และพบเทวรูปสตรีองค์หนึ่งบนภูเขา น่าจะเป็นพระขพุงผีตามบันทึก จึงอัญเชิญมาประดิษฐานในเมืองใหม่
และด้วยความที่เชื่อกันว่า “พระขพุงผี” คือ “พระนางเสือง” พระราชชนนีของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช เราจึงเรียกท่านว่าพระแม่ย่านั่นเอง
แต่ยิ่งผมค้นข้อมูลไปเรื่อย ก็พบข้อโต้แย้งว่า พระขพุงผีอาจไม่ใช่พระนางเสืองอย่างที่เข้าใจ ซึ่งที่สุดแล้วท่านจะเป็นใคร ก็คงเป็นปริศนาต่อไป
พิพิธภัณฑ์สังคโลก
พิกัด
17.0125131 99.8354647
เวลา
ทุกวัน 8.00 - 17.00
ค่าเข้า
ผู้ใหญ่ คนละ 50 บาท
เด็ก คนละ 20 บาท
พิพิธภัณฑ์สองชั้น ชั้นแรกจัดแสดงเครื่องสังคโลกทั้งของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน มีของหลายชิ้นที่ออกแบบน่ารัก และหลายชิ้นก็น่าสงสัย ว่าจะใช้งานอีท่าไหน ชั้นสองเล็กมากแต่ก็สวยกว่า ใช้เวลาไม่เกิน 40 นาที ก็เดินทั่วครับ
อ่างเก็บน้ำสรีดภงส์
พิกัด
17.0034333 99.6772559
“ถ้าอยากดูพระอาทิตย์ตกสวยๆ ก็มีที่วัดมหาธาตุ แล้วก็สรีดภงส์” คุณลุงเจ้าของเกสต์เฮ้าส์แนะนำ
“ถ้าไปไม่ถูก เดี๋ยวผมพาไปได้” แกพูดต่อ คงเพราะเห็นว่าเรานิ่งไป
ที่นิ่งไม่ใช่อะไรฮะ คือไอ้สองตัวนี้วันๆ ทำงานที่บ้าน ไม่ได้คุยกะใคร สมองส่วนสื่อสารฝ่อ...
แต่อันที่จริง สนใจมากจนหางกระดิก
สรีดภงส์ที่ว่านี้ เดิมทีเป็นคันดินสูง 1 - 2 เมตร ทำหน้าทีเบียงกระแสน้ำลงสู่คูเมืองสุโขทัย และเชื่อว่ามันคือ “สรีดภงส์” ตามชื่อที่ปรากฏอยู่ในศิลาจารึกหลักที่ 1 ปัจจุบันกรมชลประทานสร้างเป็นเขื่อนดินสูงเพื่อเก็บกักน้ำ
วันที่เราไปท้องฟ้าสวยพอตัว แต่ไม่ได้ถึงขนาดต้องมา
ตอนนั้นเอง ก็มีรถกระบะคันหนึ่งขึ้นมาจอดตรงสันเขื่อน มีผู้ชายท่าทางคุ้นๆ พาฝรั่งสองคนมาด้วย
“เฮ้ยย นั้นคุณลุ๊งง พาแขกมาเที่ยวจริงๆ ด้วยอ๊ะ”
อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
พิกัด
17.4258757 99.7885941
เวลา
8.00 - 17.00
ค่าเข้า
คนละ 20 บาท
ปั่นจักรยานเข้า เพิ่มอีกคันละ 10 บาท
“พ่อฮะ ผมปั่นจักรยานอีกรอบได้มั๊ยฮะ” อาเจ๊ถามอย่างอารมณ์ดี
ถึงจะครบรอบแล้วแต่แรงแกยังเหลือ อากาศไม่ร้อนอย่างที่คิด เพราะต้นไม้ใหญ่ปกคลุมไปทั่ว นอกจากบังแดด กิ่งก้านของพวกมันก็ทำให้ศรีสัชนาลัย มีบรรยากาศลึกลับกว่าอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
(และอาจถึงขั้นน่ากลัว ถ้ามาตอนเย็น...)
วิธีการเที่ยวก็แสนง่าย เช่าจักรยาน จ่ายค่าเข้า แล้วปั่นไปตามทางได้เลยจ้า
วัดนางพญา
วัดสวนแก้วอุทยานใหญ่
วัดหลักเมือง
วัดเจดีย์เจ็ดแถว
วัดช้างล้อม
วัดสวนแก้วอุทยานน้อย
วัดเขาพนมเพลิง
เป็นวัดที่อยู่บนเขาเตี้ยๆ พอให้หัวใจสูบฉีด มีทางเดินเชื่อมกับวัดเขาสุวรรณคิรี
วัดเขาสุวรรณคิรี
เดินต่อจากวัดเขาพนมเพลิง
วัดโคกสิงคาราม
พิกัด
17.4302664 99.7972539
เป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่โดดๆ ท่ามกลางต้นไม้สูงใหญ่ ห่างจากศรีสัชนาลัยประมาณ 1.5 กิโลเมตร รอบๆ ไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่ผมว่าวัดนี้สวยดี เลยถ่ายรูปมาฝากจ้า
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ราชวรมหาวิหาร
พิกัด
17.4290769 99.81114
ค่าเข้า
ชาวไทย ฟรี
วัดขนาดใหญ่ อายุกว่า 800 ปี สร้างขึ้นในสมัยที่ขอมยังเป็นเจ้าถิ่นในแถบนี้ เคยใช้เป็นที่สรงน้ำมูรธาภิเษก (น้ำศักดิ์สิทธิ์) สำหรับพระเจ้าแผ่นดินใหม่ที่จะขึ้นครองราชในสมัยโบราณ
ที่นี่มีมุมถ่ายรูปสวยหลายจุด แต่ปัญหาคือมันไม่มีร่มเงา แถมแดดตอนกลางวันก็ไม่ปราณีกับผมเลย
"แกว่าเราน่าจะแยกเรื่องกินกับที่พักออกไปอีกโพสมะ" ผมถามอาเจ๊
"ก็น่าจะดีนะ อันนี้มันยาวเกิ๊น จะได้มีเรื่องโพสสองทีด้วย" เธอตอบ
ดังนั้น รีวิวอาหาร ที่พัก และค่าใช้จ่าย เลยต้องเด้งไปอยู่ตอน 2 ด้วยประการฉะนี้
ตอนที่ 2 ฮะ https://th.readme.me/p/14959
หมีเป็ด
วันพุธที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 15.21 น.