เที่ยวคนเดียวครั้งแรกแสมสาร 0ne day trip 650 บาท ประทับใจไม่มีวันลืม กลับมาก็คิดถึง

รีวิวนี้สำหรับคนที่อยากเที่ยวคนเดียว และ บุคคลที่ชอบเที่ยวทุกเพศทุกวัย
ค่ารถตู้ไป-กลับ200 บาท ลง กม.6 สัตหีบ
นั่งวินไป-กลับ100 บาท
ค่าเรือไป-กลับ 300 บาท
ค่าเดินทาง รวม 600 บาท
ก่อนจะไปอ่านรีวิวมาทำความเข้าใจกันก่อน นะ
เกาะแสมสาร อยู่ในเขต อ. สัตหีบ จ.ชลบุรี เป็น 1 ใน 9 เกาะ ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพฯ อยู่ในความดูแลของกองทัพเรือ เกาะแสมสารเปิดให้เป็นแหล่งเรียนรู้ และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ตามแนวทางพระราชดำริของสมเด็จพระเทพฯ
เกาะสแมสารจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวไม่เกิน 500 คนต่อวัน เพราะกลัวจะดูแลไม่ทั่วถึง
ไม่มีการจองล่วงหน้า (ตั๊วเรือ)
ไม่อนุญาตให้ค้างคืนบนเกาะแสมสาร
บนเกาะแห้ามนำแอลกอฮอล์ข้ามไปเกาะแสมสาร
สมสารมีอาหารและเครื่องดื่มขาย สามารถนำไปเองก็ได้แต่ต้องทิ้งขยะให้เป็นที่
ห้ามใส่บิกินิบนเกาะ
ห้ามนำหิน ปะการัง สัตว์น้ำ หรือสิ่งใดๆ ในทะเลขึ้นมาบนฝั่ง หากกระทำจะมีความผิด
ค่าใช้จ่ายบนเกาะ
-ดำน้ำ 50 บาท/คน/รอบ(1ชม.)
-พายเรือคายัค 60 บาท/ชม.
-นั่งเรือท้องกระจกชมปะการัง 60บาท/คน/รอบ(15 นาที)
-เสื่อ 20 บาท
-เตียงผ้าใบ 20 บาท
การเดินทางครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ของวัย22ปีย่างเข้า23 การเปลี่ยนแปลงของชีวิตจากวัยเรียนสู่วัยทำงานตามลำดับขั้นของชีวิตที่ต้องเปลี่ยนไป จากความเครียดของการสัมภาษณ์งานไม่ผ่าน นำพาให้ฉันอยากพาตัวเองออกไปพบโลกใหม่ ความไม่จำเจในแต่ละวันของการรองาน ซึ่งฉันไม่คิดว่าฉันจะไปคนเดียว ออกปากชวนเพื่อนคนแล้วคนเล่า จนตัดสินใจว่าเราลองไปคนเดียวดูไหม ซึ่ง การฝ่าด่านแม่เพื่อไปเที่ยวคนเดียวนั้นมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับฉัน เอาวะ ! ไม่รู้หนทางข้างหน้าจะเป็นยังไงแต่ก็ตัดสินใจไปแล้ว ถ้าไม่ลองออกไปก็ไม่รู้ใช่ไหม
เช้าวันนี้ตื่นตี 5 อาบน้ำเตรียมตัวไปขึ้นรถตู้ ซึ่งที่ที่จะไปนั้นคือ เกาะ แสมสาร สัตหีบ ชลบุรี มันอาจจะลำบากหน่อยสำหรับผู้หญิงคนเดียว ไม่รู้ทาง ไม่รู้ต้องลงตรงไหน ต้องต่อรถยังไง ให้ไปถึงท่าเรือ ฉันนั่งรถตู้ไปด้วยความกังวลในใจน้อยๆ ว่า กม.6 สัตหีบ ลงตรงไหน ฉันเลยตัดสินใจถามพี่คนขับรถตู้ และ ฉันก็มาถึง กิโลเมตรที่6 จนได้ ฉันบอกพี่วินว่าไปท่าเรือข้ามไปเกาะแสมสาร พี่วินทำหน้าอึ้งนิดๆ พร้อมกับบอกว่า เก่งนะเนี่ยมาคนเดียว แฮ่ๆ (คิดในใจหนูก็กลัวอยู่เหมือนกัน)
นั่งวินไปไกลพอสมควรกว่าจะถึงพิพิธพันธ์คือจุดจำหน่ายตั๋วเรือ จนพี่วินถามว่านั่งจนเมื่อยแล้วมั้งเนี่ย ฮ่าๆ จนมาถึงพิพิธพันธ์แล้ววเย้ได้รอบ 10.00 น. ตั๋วราคาไปกลับ 300 บาท
พี่คนรับจองบัตรซึ่งน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่พูดดีมากๆ ประทับใจตั้งแต่ซื้อบัตรเลย
“วันนี้คลื่นลมแรง เพราะพายุเข้า เดินทางระวังด้วยนะคะ น้องสามารถเดินไปรอที่ท่าเรือได้เลยนะคะ ก่อนขึ้นเรือ 15 นาทีน้องต้องไปเตรียมตัวที่ท่าเรือเลยนะคะ”
วันธรรมดาคนไม่เยอะเราไปรอขึ้นเรือตรงท่าเรือ วันนี้คลื่นลมแรงมากจริงๆ แต่เรายังเห็นฝูงปลาอยู่ใต้สะพาน เราอยากถ่ายกับปลา ด้วยความตื่นเต้นและไม่กลัวอันตรายเราเดินลงไปถ่ายปลาใต้สะพานพร้อมมีพี่ทหารเรือยืนเฝ้าใกล้ๆและบอกว่าระวังด้วยนะครับพร้อมยิ้มให้ ประทับใจอีกแล้ว ยืนเฝ้าจนถ่ายเสร็จเลยย
ได้เวลาขึ้นเรือ ช่วงที่ขึ้นเรือก็มีพี่ทหารคอยพยุงทุกคนและบอกให้สวเสื้อชูชีพ น่ารักมากๆ ห่วงความปลอดภัยพวกเราสุดๆ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ถึงเกาะ แสมสารใกล้มากๆ หลังจากขึ้นฝั่งก็ฟังบรรยาย กฎ กติกา และ กิจกรรมจากเจ้าหน้าที่ ไม่นาน ก็แยกย้ายไปลงชื่อดำน้ำ ไปคนเดียวใครว่าเหงาละ ไม่เลย พี่ทหารพูดด้วยทุกคน มีแซวบ้าง ก็เขินกันไป ก่อนจะไปดำน้ำเราต้องเรียนรู้การใช้อุปกรณ์ดำน้ำจากพี่ทหาร พี่ทหารจะสอนเราลอยตัวในน้ำและใช้ท่อหายใจ สอนทีละคนเพราะต้องทำได้ทุกคน ห้ามขาเหยียบพื้นเพราะเม่นทะเลจะทิ่มเอา และขาเราจะไปโดนแนวปะการังเสียหาย แบ่งกลุ่มเป็น2กลุ่มนั่งเรือยางไปดำน้ำฝั่งหาดเทียนเพราะวันนี้คลื่นลมแรงดำน้ำฝั่งหาดลูกลมไม่ได้ ด้วยความที่เราไม่รู้ว่าอุปกรณ์ใส่ยังไง ต้องรวบผมด้วย ผมเราสั้นรวบผมยาก พี่ทหารก็ใส่อุปกรณ์ให้ รวบผมให้ เรารู้สึกอบอุ่นจริงๆ ด้วยความที่เราไปคนเดียว ทุกคนจะพูดกับเรา ถามเราตลอด เรานั่งเรือยางไปดำน้ำกับครอบครัวใหญ่ครอบครัวหนึ่ง ซึ่งแม่ได้แฟนเป็นชาวต่างชาติ ทุกคนพูดอังกฤษหมดเลย แต่เราสนทนาพอได้ และมีน้องพูดไทยได้ ซึ่งมันสนุกมาก และเป็นมิตรภาพที่ไม่มีวันลืม ในครอบครัวนั้นมีคุณน้าผู้ชายที่ไม่ได้ลงดำน้ำ เค้าอาสาถ่ายถาพให้เราโดยใช้กล้องของเราเองเนี่ยแหละ คุณน้าใจดีมาก เราดำน้ำดูปะการังและหมู่ปลามากมายเวียนไหว้รอบตัวเราซึ่งในเวลานั้นเรารู้สึกเป็นพวกเดียวกันกับเจ้าฝูงปลา เรามีความสุขจนลืมความทุกข์ความกังวลบนโลกที่มีในขณะนั้น ภาพที่เราเห็นมันคือโลกใต้น้ำที่เราได้สัมผัสด้วยตัวเราเอง

เราเห็นปะการังแปลกๆ เห็นปลาการ์ตูน เห็นแม่นทะเล เห็นหอยมุกเปิดอ้าอยู่คือใหญ่มากๆ เราอยากอยู่ใต้น้ำจนไม่อยากเงยหน้าขึ้นมาเลย พี่ทหารบอกว่าจับมือกันเดี๋ยวจะพาไปตรงน้ำตื้นที่สามารถเห็นปะการังและปลานีโม่ชัดๆ เราแทบไม่ต้องว่ายน้ำเพราะพี่ทหารดึงมือไป และเราก็จำมืออีกคนดึงมือมากับเราเช่นกัน มันเป็นความประทับใจที่ไม่มีวันลืมเลย แถวนั้นจะมีทั้งเม่นทะเลและแมงกะพรุนซึ่งมันอันตรายแต่พี่ทหารมีวิธีจับมันออก เขาเก่งมากๆ หลังจากเราดำน้ำเสร็จ จะมีรถรับส่งไปหาดลู่ลม หาดทรายขาวสวยมาก สามารถพายเรือคยักย์ได้นะ ขากลับเรากลับเรือรอบบ่าย3เราเอาเบอร์พี่วินไว้โทรให้เค้ามารับไปส่งที่ท่ารถ หรือจะโบกรถคนที่ไปเที่ยวเหมือนกันกลับก็ได้นะ หรือไม่ก็จะมีรถสองแถวสีฟ้ามาจอดรอรับ
พี่วินมาส่งเราที่ศาลารอรถตู้พร้อมกับบอกว่า นั่งรถดีๆนะ การไปเที่ยวคนเดียวครั้งนี้ เราได้ทั้งประสบการณ์ที่ไม่เคยได้รับ ได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น ได้กล้าเสี่ยง กล้าทำในสิ่งที่เราไม่คิดว่าจะทำได้ ได้รู้จักผู้คนแปลกหน้า ได้พูดคุยได้รับรอยยิ้มและมิตรภาพจากพวกเค้า ซึ่งมันจะมีรีวิวต่อไปอีกแน่นอน สัญญา

Apatsara Koaram

 วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 13.58 น.

ความคิดเห็น