อาคาร เดอะ พอร์ทอล เมืองทอง ธานี
นี่ก็ใกล้เทศกาลตรุษจีนแล้วค่ะ คนไทยเชื้อสายจีนหลาย ๆ คนก็เริ่มมีกิจกรรมที่หลากหลายเกี่ยวกับประเพณี วัฒนธรรมต่าง ๆ ของคนจีนที่เรารู้จักกันดี นั่นคือ การไหว้เจ้า การไหว้เจ้าก็จะต้องตระเตรียมข้าวของมากมาย หลากหลาย หลังจากนั้น ก็ต้องจัดการกับของไหว้เจ้าที่เตรียมเอาไว้
แต่อย่ากระนั้นเลยค่ะ ก่อน "ตรุษจีน" ก่อน "ไหว้เจ้า" ก่อน หมูเห็ดเป็ดไก่ ทั้งหลายแหล่ หนีมากินสุกี้ ฮ่องกงกันก่อนดีกว่า
ที่ชั้นสอง สุดทางเดิน
พอดีได้รับชวน กึ่ง ๆ เชิญ ให้มาชิมสุกี้ ฮ่องกง ต้นตำหรับแท้ แบบที่ว่าเชฟแบกหม้อมาจากเกาะฮ่องกง (อันนี้เก๊าย้อเย้นนน) อันนี้ก็พูดเกินไปนิดนึง แต่เป็นสุกี้สูตรต้นตำรับจากฮ่องกงแท้จริง ๆ โดยมีเชฟเป็นชาวฮ่องกง ชื่อ MR.Chow Tai Shing ที่ร้าน ฮ่องกง สุกี้ (Hong Kong Suki) ซึ่งเป็นหนึ่งในร้านอาหารในเครือ Hong Kong Fisherman Group ที่เชื่อถือได้ในด้านคุณภาพ และรสชาติอาหาร เพราะเคยไปชิมมาแล้วที่ห้องอาหาร Fisherman ที่เมืองทองเหมือนกันนี่หละค่ะ เลยตอบรับคำเชิญแบบไม่ยากนัก เพราะจริง ๆ แล้วก็อยากรู้ด้วยว่า "สุกี้ ฮ่องกง" มันต่างกับ สุกี้ที่เรากิน ๆ กันยังไง
ร้าน ฮ่องกง สุกี้ (HONGKONG SUKI) กับการตกแต่งแบบโมเดิร์นไชนิส
นั่งรถตู้มาจากอนุสาวรีย์ชัย ด้วยสนนราคา 30 บาท มาลงที่หน้าอิมแพค หันหน้าเข้าอิมแพค ทางซ้ายมือเราจะได้เห็นกับอาหารหน้าตาแปลก ๆ คล้ายโดมของสนามฟุตบอล นั่นหละค่ะ อาคาร เดอะ พอร์ทอล เมืองทอง ธานี ที่อาคารนี้ มีร้านอาหารหลายร้านนะคะ ทั้งฟาดฟู้ด ทั้งอาหารจีน อาหารญี่ปุ่น ร้าน ฮ่องกง สุกี้ อยู่บนชั้นสองเกือบสุดทางเดินค่ะ
(ซ้าย) รถเข็นเป็ดย่าง พร๊อพถ่ายรูปสุดเก๋ (ขวา) ภาพตกแต่งสาวฮ่องกงภายในร้าน
เดินมาถึงหน้าร้านป้ายหน้าร้านชัดเจนมาก ทั้งชื่อร้าน ทั้งบรรยากาศ การตกแต่งสไตล์โมเดิร์นไซนิส แบบฮ่องกง แถมด้านหน้ายังมีการตกแต่งเป็นร้านขายเป็ดย่าง ไว้ให้ผู้คนที่ผ่านไปมาสามารถไปนั่งเต๊ะท่าถ่ายรูปกันได้อีก เก๋แท้
โต๊ะด้านหน้า ริมทางเดิน นั่งกันสบาย ๆ โปร่ง ๆ
บรรยากาศด้านใน
เรามาถึงร้านก็เกือบ ๆ บ่ายสองโมงแล้ว ทางร้านค่อนข้างว่าง เพราะไม่ใช่ช่วง Busy สบายไป เราเลยเลือกที่นั่งกันได้ตามใจฉัน พอได้โต๊ะแล้ว อาหารต่าง ๆ ก็ทยอยลงมา ตามมาด้วยน้อง PR คนชวนและเชฟมาให้ความรู้เกี่ยวกับอาหารที่เราจะได้กินกันวันนี้
บางส่วนตกแต่งด้วยตัวอักษรจีน คำมงคล แต่อย่าถามนะคะ อ่านไม่ออกเหมือนกัน
บางส่วนแต่งเก๋ ๆ ด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ภาษาจีน
ภายในร้านฮ่องกง สุกี้นี่รองรับลูกค้าได้พร้อมกันถึง 116 คนเลยนะคะ
อันนี้เป็ดย่างของปลอม แขวนไว้ที่รถเข็นให้เป็นพร๊อพถ่ายรูปได้
เมนูอาหาร และป้ายโฆษณาที่เรียงรายบริเวณอาคาร เดอะ พอร์ทอล
แต่อันนี้เป็ดจริง หมูแดงจริง แต่เป็นเป็ดย่างและหมูแดงสไตล์ฮ่องกง อ้อ พ่อครัวก็ของจริงนะคะ
พื้นที่ตั้งโชว์ ให้เข้าไปถ่ายรูปได้ เผื่อใครไฝ่ฝันอยากขายเป็ดย่าง
ก่อนอื่นเลย ขอเสิร์ฟกันด้วย ติมซำ และชุดบาบีคิว (หมูกรอบ หมูแดง และเป็ดย่าง) ก่อนเลย
ขนมจีบกุ้ง หน้าไข่กุ้ง
จานนี้ไม่รู้เรียกน้ำย่อย หรือตัดกำลัง เพราะขนมจีบกุ้ง 3 ลูกที่อยู่ในถึงนั่น ลูกมิใช่น้อย แถมอัดแน่นมาด้วยเนื้อกุ้ง เน้นเนื้อกุ้งเป็นชิ้น ๆ หอมเครื่องปรุง เคี้ยวหนุบหนับ แถมได้รสสัมผัสของไข่กุ้งเวลาเคี้ยวในปากอีกด้วย ดีนะคะ น้องบอกมีอย่างอื่นอีก ไม่งั้นกินหมดถึงนี่เลย
กุ้งนึ่งมะนาวพริกสด
จานนี้ให้รสชาติสดชื่นของน้ำแกง พริกกระเทียม น้ำปลามะนาว เรียกว่าเปิดลังถึงออกมานี่หอมฟุ้งกันไปเลย รสเปรี้ยวน้ำ เค็มตามหวานนิด ๆ สดชื่นมากค่ะ กุ้งสด ๆ ยิ่งเพิ่มรสชาติ โดยเฉพาะหมูก้อนที่วางรองกุ้งเป็นหมูปรุงรสอ่อน ๆ พอกินกับน้ำพริกมะนาว ช่วยขับรสชาติของหมูสับได้ดี โดยเฉพาะมันหมูแข็งที่ผสมอยู่ในหมูสับนั่นเคี้ยวกรุบดีจริงค่ะ
ฟองเต้าหู้ห่อกุ้ง
กุ้งอีกแล้ว ร้านนี้เน้นกุ้งเสียจริง ๆ เชฟก็บอกว่า อาหารฮ่องกงเน้นอาหารทะเล และกุ้งก็เป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่นำมาปรุงรสได้อร่อย โดยเฉพาะกุ้งสด ๆ อย่างเมนูนี้ เอากุ้งมาสับปรุงรสห่อด้วยฟองเต้าหู้และนำไปทอดกรอบ ก่อนนำมาเสิร์ฟกับน้ำจิ้มเกี้ยวบ๋วย ที่ช่วยขับรสชาติความหวานหอมของเนื้อกุ้ง ผิวสัมผัสของฟองเต้าหู้ทอดกรอบ ๆ ยิ่งทำให้ ฟองเต้าหู้ห่อกุ้ง จานนี้อร่อยยิ่งขึ้น
ชุดบาบีคิว สไตล์ฮ่องกง (หมูกรอบ หมูแดง เป็ดย่าง)
น้องพีอาร์อธิบายว่า ของทั้งสามสิ่งนี้คนฮ่องกงเรียกว่า บาบีคิว ก็ไม่รู้ทำไม อาจจะเป็นเพราะต้องเอาไปย่าง ไปอบความร้อนเลยรวมเรียกว่า "บาบีคิว" หละมั้ง ทั้งสามอย่างนี้ ถ้าจะถามว่าชอบอะไรที่สุด น่าจะเป็นหมูกรอบ เพราะเป็นหมูกรอบที่หนังกรอบ เนื้อนิ่มจริง ๆ ขนาดตั้งทิ้งไว้เป็นชั่วโมง หนังยังไม่หายกรอบ เป็นความกรอบที่ไม่ใช่ความแข็ง เนื้อหมูก็สุกกำลังดี นุ่มและนิ่มเคี้ยวเพลิน
ส่วนหมูแดงนั้น เป็นการนำหมูเนื้อแดงมาปรุงรส ที่หากทำไม่ดีหรือสุกจเกินไป จะทำให้แข็ง แต่ทางฮ่องกงสุกี้ทำมาได้อย่างสุกกำลังดี กินกับน้ำราดซอสถั่วหรือน้ำจิ้มบาร์บีคิวที่ทำจาก เนยถั่ว กะทิและผสมเต้าเจี้ยว รสชาติกลมกล่อม เพิ่มความเข้มข้นให้กับบาร์บีคิวรวมมิตร จะได้รสชาติที่นุ่มนวลของหมูแดงที่หมักซอสแบบฮ่องกงที่เข้มข้น ถ่ายรสมายังซอสถั่วได้อย่างกลมกลืน
สำหรับเป็ดย่างนั้น เป็นเป็ดย่างสไตล์ฮ่องกงแท้ มีความแห้ง ความหนึบของเนื้อ โดยเฉพาะส่วนที่นำมาเสิร์ฟนี้เป็นส่วนสะโพกและน่อง จึงมีความหนึบในการเคี้ยว หนังมีความกรอบ กรุบ ๆ จิ้มกับซอสถั่วก็จะได้รสชาติเค็ม ๆ มัน ๆ เพิ่มเข้ามา
คะน้าฮ่องกง ราดน้ำมันหอย
จานนี้ถ้ามากินอาหารฮ่องกง แล้วไม่สั่ง ถือว่าผิด คะน้าฮ่องกงต้นอวบ ๆ ผัดมาทั้งต้น ราดด้วยน้ำมันหอย สีสันหน้าตาหน้ากิน ด้วยสีเขียวจัดของใบคะน้า ก้านปอกมาอย่างดี ยิ่งพอเอาเข้าปากยิ่งชอบใจเพราะก้านคะน้ากรอบกรุบ เรียกว่ากัดแล้วดังกร๊อบเลยทีเดียว เนื้อคะน้ากินแกล้มกับซอสน้ำมันหอย ทำให้ดร๊อปรสชาติของน้ำมันหอยที่มีความมันและเค็มลงไปได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าได้ข้าวสวยร้อน ๆ ซักถ้วยนะ มีอิ่มอ่ะตรงนี้
บะหมี่เนื้อตุ๋น
สองชามนี้เป็นแบบ a la carte ค่ะ เราเลือกมาสองเมนู จากหลาย ๆ เมนู เพราะถ้ามากกว่านี้ เดี๋ยวจะไม่มีท้องไว้ชิมสุกี้ ฮ่องกงแน่นอน ชามนี้คือ บะหมี่เนื้อตุ๋น และ บะหมี่ทะเล ที่ประทับใจที่สุด เห็นจะเป็นน้ำซุปของบะหมี่ทั้งสองชามนี้หละค่ะ เรียกได้ว่า แทบไม่ต้องปรุงเลยทีเดียว ยิ่งถ้าใครชอบกินอาหารจีนอยู่แล้ว รสชาตินี่ได้เลย ไม่ต้องปรุง ต่างกันแค่ว่า บะหมี่เนื้อตุ้นนั้น น้ำซุปจะซึมซับความหวานของเนื้อตุ๋นเอาไว้ เวลาซดจะได้ทั้งความหอมของน้ำซุป และรสชาติ ความหอมของเนื้อตุ๋น ตัวเนื้อนั่นมีความนุ่มเปื่อย แต่ก็มีรสสัมผัสหนึบ ๆ ของเนื้อตุ๋นชิ้นหนา ๆ เต็มปากเต็มคำ
บะหมี่ทะเล
คุณสมบัติที่ดีของน้ำซุปของก๋วยเตี๋ยวทั้งสองชามนี้คือ สามารถซึมซับรสชาติของวัตถุดิบหลักที่นำมาปรุงได้เป็นอย่างดี อย่างบะหมี่ทะเลชามนี้ น้ำซุปก็ให้รสชาติของความหวาน หอม ความสดชื่นของอาหารทะเล ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง ปลากระพง หรือปลาหมึกสด ๆ เนื้อเด้ง ๆ ที่เข้ากันได้ดีกับกวางตุ้งสีสวย ๆ หวานกรอบในชาม ติอย่างเดียว เส้นบะหมี่ที่ค่อนข้างเล็ก และนิ่มไปสักหน่อย แต่ถ้าใครชอบกินเส้นนิ่ม ๆ นี่ก็เหมาะเลยนะคะ ส่วนตัวชอบกินเส้นเหนียว ๆ
คราวนี้มาถึงไฮไลท์กันเลยดีกว่า นั่นคือ สุกี้ ฮ่องกง และสุกี้ฮ่องกงนั้น ต่างกับสุกี้ที่เราเคยกินอย่างไร ???
คนฮ่องกงเรียกสุกี้ ว่า ต๋าปิ้นโหล่ว หรือ ฟ๊อหวอะ น้ำซุปที่ใช้จะมีหลากหลายมาก น้ำข้น น้ำใส สารพัด ซึ่งเชฟบอกว่า ต่างกันที่น้ำซุป และวัตถุดิบที่ใช้ในนำมาปรุง หรือกินคู่กันกับน้ำซุป ซึ่งที่ร้านฮ่องกง สุกี้ แห่งนี้ มีน้ำซุปให้เลือกถึง 4 ชนิด มีความหอมอร่อยและมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายอาทิ น้ำซุปยาจีน และน้ำซุปเสฉวน และน้ำซุปไข่เยี่ยวม้ารากผักชี และน้ำซุปต้มยำ โดยเชฟเล่าว่า ขั้นตอนการทำน้ำซุปที่มีความพิถีพิถันเป็นอย่างมาก ทั้ง 4 ตัวนี้ มีน้ำซุปเบสหลักจากน้ำซุปหมูและน้ำซุปไก่ ที่มีส่วนผสมหลักคือขาหมูแฮมยูนนานและสะโพกหมู เคี่ยวนาน 8 ชั่วโมง แล้วจึงมาปรุงด้วยส่วนผสมอื่น ๆ ตามประเภทของน้ำซุป อะว่ามาขนาดนี้แล้วมาดูกัน
อ้อ ลืมบอกไป เวลามาที่ร้าน ทางร้านจะเสิร์ฟน้ำซุปสองช่อง นั่นหมายความว่า ไม่ว่าคุณจะสั่งอะไร (เครื่องสสุกี้) กี่อย่าง ก็จะได้น้ำซุปสองช่องเสมอ ไม่เกี่ยงราคา หม้อแรกนี้คือ น้ำซุปเสฉวน และน้ำซุปยาจีน
น้ำซุปเสฉวน
น้ำซุปเสฉวนนี้จัดว่าเป็นซุปใสประเภทหนึ่ง เป็นอาหารทางจีนตอนใต้ ซึ่งจะมีความเผ็ดร้อนเป็นมาตรฐาน เพราะความที่อยู่ในพื้นที่หนาวเย็น แต่ความเผ็ดร้อนดังกล่าวไม่ได้ถึงกับเผ็ดมาก สำหรับคนที่ไม่กินเผ็ด หรือไม่นิยมความเผ็ดมากก็ถือว่ากินได้ไม่ลำบากเลยทีเดียว ต่างกับน้ำซุปหมาล่า ที่เผ็ดโดด เผ็ดจนชา แต่สำหรับน้ำซุปเสฉวนนี้ มีความหวาน หอม ของเครื่องยาจีนที่ทางเชฟรังสรรค์ออกมาได้อย่างลงตัว และไม่ว่าคุณจะเอาอะไรลงไปลวก ไปต้มก็ดูเหมือนว่า อาหารชนิดนั้นจะซึมซับเอาความหอมหวานของน้ำซุปเข้าไปเพิ่มรสชาติอย่างกลมกล่อมที่สุด นอกจากนี้ น้ำซุปเสฉวนยังมีสรรพคุณในการรักษาโรคหวัด และบำรุงกำลังอีกด้วย
ส่วนผสมหลักของน้ำซุปเสฉวน ได้แก่ ฮัวเจียว, พริกเสฉวน, พริกเซี่ยงไฮ้,
ชะโก, ต้นหอม, ขิงแก่ และสมุนไพรจีนบำรุงกำลังอื่น ๆ
น้ำซุปเครื่องยาจีน
อันนีคนไทยคงค่อนข้างคุ้น แต่มักจะมาในรูปของต้มจืด หรือตุ๋นเสียเป็นส่วนมาก ส่วนผสมหลักของซุปเครื่องยาจีนนี้ ได้แก่ เก๋ากี้ ฮวยซัว และ ตังเซียม จึงทำให้น้ำซุปนี้มีรสหวาน สามารกซึมซับเข้าสู้เนื้อของอาหารได้ง่าย ทำให้เพิ่มรสชาติและความหวานหอม เหมาะอย่างมากกับการนำไปลวกผัก เพิ่มเพิ่มรสหวานอร่อย ซดร้อน ๆ คล่องคอเป็นอย่างมาก มีสรรพคุณบำรุงกำลัง และช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี
ส่วนผสมหลักของซุปเครื่องยาจีน ได้แก่ ตังเซียม เก๋ากี้ และ ฮวยซัว
น้ำซุปถัดมานี้ คุ้นหน้าคุ้นตาคนไทยเป็นอย่างดี นั่นคือ ซุปต้มยำ ที่มีส่วนผสมเข้มขนของ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และความเผ็ดร้อนของพริกชี้ฟ้า ให้รสชาติเปรี้ยว เค็ม หวาน แบบไทย ๆ เครื่องต้มยำเป็นเครื่องสด ดังนั่นหมดห่วงว่า จะได้รสชาติแกน ๆ แบบเครื่องต้มยำสำเร็จรูป เหมาะแก่การลวกอาหารประเภทอาหารทะเล เพราะจะยิ่งเพิ่มรสชาติของอาหารทะเลต่าง ๆ และยังหอมกรุ่นกลิ่นเครื่องต้มยำอีกด้วย
น้ำซุปต้มยำ
น้ำซุปไข่เยี่ยวม้า รากผักชี
น้ำซุปตัวนี้ มีความใสเป็นอย่างมาก ได้รสหวานจากไชเท้า (หัวผักกาด) และความหอมจากไข่เยี่ยวม้ากับรากผักชี ซุปชนิดนี้ เราไม่ค่อยได้เห็นในประเทศไทย เรียกว่า ไม่เคยเห็นเลยดีกว่า เพราะเขาเอาไข่เยี่ยวม้าผ่าซีกและใส่ลงไปต้มในน้ำซุปเลย จึงให้รสชาติของความหวานหอม เหมาะกับการลวกผัก และเนื้อต่าง ๆ ที่เราต้องการคงรสชาติหลักของเนื้อชนิดนั่นไว้ เพียงแค่เสริมด้วยความหวานจากน้ำซุปเท่านั้น
ชุดสุกี้ยากี้ : Sukiyaki Sets - ชุดทะเลรวม /Seafood Platter ราคา 599 บาท ชุดนี้มีทั้ง เนื้อปลาเก๋าดำ, เนื้อปลากระพง, ปลาแซลมอน, ปลาหมึกสไลด์, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ (ชุดนี้รับประทานได้ 3-4 ท่าน) แค่าปลาเก๋าอย่างเดียวก็โลละ 700 กว่าบาทละ กินกันเห้อ
เนื้อปลาแซลมอนของที่นี่เขาหั่นชิ้นหนาเรียกว่าเคี้ยวแล้วเต็มคำ ได้ความหวานจากความสดของเนื้อปลาอย่างเต็มปาก เต็มคำ บวกกับปลาหมึกชิ้นโต ๆ บั้งมาอย่างสวยงาม เคียงคู่หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวใหญ่ ๆ สด ๆ ยิ่งถ้าลวกกับน้ำซุปเสฉวนด้วยแล้ว มันจะยิ่งฉ่ำเข้าเนื้อเข้าไปอีก
นอกจากเนื้อปลาแซลมอนแล้ว เนื้อปลาเก๋าดำ และเนื้อปลากระพง ก็ไม่ยอมแพ้ใคร ชิ้นใหญ่ ๆ สด ๆ โดยเฉพาะปลาเก๋าบอกเลยว่าเนื้อมันเด้งดึ๊งดั๊ง อร่อยสมราคาจริง ๆ
ลูกชิ้นฮ่องกง 4 สไตล์ : “Hong Kong Style” Meat Ball (4 Kind) ราคา 165 บาท
จานนี้เรียกว่าเป็นซิกเนเจอร์ก็คงไม่ผิด ประกอบไปด้วย ลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปลากราย ลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นปลาหมึก เชฟเลือกใช้ปลาหมึกกระดอง นำมานวดจนเหนียวไม่ผสมแป้ง ผสมเองไม่มีกลิ่นคาว เพื่อทำลูกชิ้นปลาหมึก ส่วนลูกชิ้นกุ้งนั้น เลือกใช้เนื้อกุ้งทะเล เพื่อไม่ให้มีความคาว และได้ลูกชิ้นเนื้อแน่น สำหรับลูกชิ้นหมู นั้น เชฟใช้เนื้อหมูล้วน ๆ ไม่ผสมแป้ง ตีจนเนียนนุ่ม และแน่นด้วยเนื้อหมู และลูกชิ้นปลากราย นั้นดูจะแปลกสักหน่อยสำหรับการกินชาบู หรือสุกี้ แต่เชฟก็เลือกใช้เนื้อปลากรายอย่างดี ให้ออกมาเป็นเมนูที่ใช้กับสุกี้ฮ่องกงได้อย่างเอร็ดอร่อย โดยเฉพาะเมื่อกินกับน้ำจิ้มสุกี้สูตรขิง หรือสูตรไทยยิ่งขับรถชาติให้อร่อยล้ำ
ซ้ายบน - ลูกชิ้นกุ้ง, ขวาบน - ลูกชิ้นปลากราย, ซ้ายล่าง - ลูกชิ้นปลาหมึก และขวาล่างลูกชิ้นหมู
เนื้อสามชั้นวากิ ออสเตรเลีย ส่วนท้อง - 299 บาท
จานนี้ต้องบอกออกตัวไว้ก่อนเลยว่า ของโปรด เป็นคนรักเนื้อค่ะ ชอบกินเนื้อ เห็นเมนูเลยต้องขอเพิ่มกันเลย เห็นชั้นไขมันที่แทรกในตัวเนื้อมั้ยค่ะ นั่นหละค่ะ มันหมายถึงความอร่อยนุ่มลิ้น ความหวานของเนื้อ แถมไม่บางจนติดจานเหมือนบางร้าน มีความหนา มีความมัน เรื่องอ้วนเหรอค่ะ อย่าได้แคร์
เนื้อโคขุนสไลด์ Beef Rib Eye ราคา 110 บาท
ใช่ค่ะ 110 บาท ไม่แพงนะคะ สำหรับเนื้อโคขุนสไลด์ชิ้นใหญ่ ๆ แบบคีบแล้วไม่ขาด เพราะมีความหนาบางกำลังดี แค่จุ่มในซุปร้อน ๆ แกว่ง ๆ 2-3 ทีก็กินได้แล้ว ยิ่งได้นำ้จิ้มสุกี้แซบ ๆ แบบที่ฮ่องกง สุกี้ด้วยแล้ว สู้ไม่ถอย
เนื้อหมัก Marinated Beef ราคา 120 บาท
เนื้อนุ่ม ๆ หมักน้ำมันงา โรยงาขาวนิด ๆ จุ่มในน้ำเดือดจัด ไม่ต้องนาน เอาแค่มีเดี่ยม จิ้มน้ำจิ้มสุกี้ แค่นี้ก็แสนสุขแล้ว พลาดไม่ได้เลยเมนูนี้
ชุดผัก Vegetable Plater ราคา 199 บาท
คุยเรื่องเนื้อกันมาเยอะแล้ว มาเบรคกันด้วยชุดผักกันบ้างดีกว่า ชุดนี้ราคาไม่แพงค่ะ 199 บาทเท่านั้น เห็นแบบนี้ ไม่น้อยนะคะ ข้างล่างมีวุ้นเส้นให้อีกด้วย ผักทุกชนิดที่เอามาจัดชุด ล้วนแล้วแต่เหมาะกับการกินกับสุกี้ฮ่องกง และน้ำซุปสี่อย่างนี้เป็นอย่างยิ่งค่ะ ผักสด ๆ ลวกในน้ำร้อน มันทั้งกรอบทั้งหวานค่ะ
ว
ชุดสุกี้ฮ่องกงที่มาชิมกันวันนี้
ขวา คือ น้ำจิ้ม ส่วนซ้ายคือคนทำน้ำจิ้ม : เชฟเชาไท้ชิง หรือเชฟจ้าว Executiv่e Chinese Chef
อ้อ เกือบลืม ส่วนประกอบสำคัญของสุกี้ น้ำจิ้มค่ะ จะรุ่งหรือจะล่วงก็ขึ้นอยู่กับน้ำจิ้มเหมือนกันนะคะ ที่ร้านมีให้เลือก 2 แบบ นั่นคือ น้ำจิ้มสูตรฮ่องกง หรือ ที่เรียกว่า ซอสฮ่องกงแบบโฮมเมด (ซ้ายบน) มีกลิ่นหอมรสอมหวานนิด ๆ ซึ่งนับเป็นทีเด็ดเพราะทางร้านพิถีพิถันทำเองทุกขั้นตอน และน้ำจิ้มสุกี้แบบไทย (ซ้ายล่าง) ที่ใช้ซอสศรีราชาแท้ ๆ มาเป็นวัตถุดิบหลัก จึงได้ทั้งรสชาติ เผ็ด เปรี้ยว หวาน ครบรส
น้ำเดือดแล้ว กินกันเถอะ
กว่าจะสิ้นสุดสงครามบนโต๊ะอาหาร ตัวแทบแตก แต่ยังไม่หมด เรายังมีของหวาน
พุดดิ้งมะม่วง Chilled mango Pudding – ราคา80 บาท
ตัวนี้ใช้มะม่วงน้ำดอกไม้ ทั้งลูกนำไปปั่นจนเนื้อเนียน ผสมเจลาตินแล้วนำไปต้มใส่แบบพิมพ์แล้วราดด้วยนมสดเติมวิปครีมและเชอรี่ ทำให้ได้รสชาติกลมกล่อมไม่หวานมาก แถมสีสวยอีกต่างหาก เป็นของหวานสไตล์ฮ่องกงแท้ ๆ ที่ไม่ควรพลาด
พุดดิ้งถั่วแดง Chilled Coconut Milk with Red Bean Pudding – ราคา 80 บาท
ถ้วยนี้จะด้อยไปหน่อยตรงที่ผิวสัมผัสเวลากินมันเนียนเกินไป เลยไม่ได้รสสัมผัสของถั่วแดง ต้องกินตัวถั่วแดงที่เป็นท๊อปปิ้งราดมาด้านบนไปพร้อม ๆ กันถึงจะเหมาะ
ไก๊ ต่าน ไจ๋ (วาฟเฟิลฮ่องกง) – Hong Kong Style Egg Waffle ราคา 40 บาท
ตัวนี้กรอบนอก นุ่มใน เหมาะมากถ้าเอามากินกับไอศครีมวนิลา แต่ ณ เพลานี้ เห็นทีจะไม่ไหวแล้ว ทำให้คิดถึงคำคมของใครไม่รู้ที่บอกว่า
"จุดจบของสาย แ......ก คือ ตัวแตกและตายไป"
ไม่ค่ะ เราไม่ยอมตาย โลกนี้ยังมีอะไรอีกมากมาย โดยเฉพาะอาหารอร่อย ๆ ยิ่งประเทศไทยด้วยแล้ว กินกันให้ตายไปข้างนึง ............
และนี่คือทั้งหมดที่เราไปชิมมาค่ะ รีวิวก็ตามนั้นเลย แต่ก็อย่างที่บอกนะคะ เรืองของกินนี่ขึ้นอยู่กับรสนิยมและความชอบ แต่อยากให้ลองไปชิมกันดูค่ะ จัดว่าเป็นทางเลือกอีกอย่างหนึ่งโดยเฉพาะเมื่อต้องแวะไปแถว ๆ เมืองทองธานี หรือไปดูคอนเสิร์ตต่าง ๆ ที่นั่น ถึงร้านจะดูหรู แต่ราคาไม่แพงค่ะ จับต้องได้ ไปชิมกันแล้ว ก็ลองมารีวิวแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะคะ วันนี้ต้องไปแล้ว ไปกินอย่างอื่นต่อ ......
ขอบคุณที่รับชมค่ะ
ร้านอาหาร “ฮ่องกง สุกี้” สาขาเดอะ พอร์ทอล (อิมแพ็ค เมืองทองธานี)
ที่อยู่: ชั้น 2 อาคารเดอะ พอร์ทอล ไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์ (ติดกับอิมแพ็ค อารีน่า)
จำนวนที่นั่ง: สามารถรองรับลูกค้าได้สูงสุด 116 ท่าน
เวลาทำการ: เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11.00 – 20.00 น.
โทรศัพท์: 02-040-8176
อีเมล: [email protected]
เว็บไซต์:www.hkfisherman.com
เฟซบุ๊ก: Hong Kong Fisherman
อินสตาแกรม: Hong Kong Fisherman
สายลม ที่ผ่านมา
วันพฤหัสที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 19.37 น.