เคยใช่มั้ยที่เห็นใครๆขับรถเที่ยวต่างแดน แล้วอยากขับบ้าง แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ตามมาเลยจ้ะ พี่หมอพอจะมีประสบการณ์มาเกือบ10ปี ขับรถเที่ยวมาหลายที่ อยากให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่ยังไม่เคย อยากลองเริ่ม แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงแต่ใจอยากหาสิ่งท้าทายให้ชีวิต……………มือเก่าไม่ต้องอ่านก็ได้นะครับ

เป้าหมายหลักของรีวิวินี้ ยังไม่เน้นรายละเอียดสถานที่เที่ยวนะครับ อันนั้นไปหากันเองได้ไม่ยาก....สิ่งที่อยากรีวิวคืออยากให้มือใหม่ที่ไม่เคยขับรถต่างแดน ได้เริ่มเรียนรู้ ก่อนไปต่อยอดได้เร็วขึ้น...เพราะตอนผมเริ่มหาข้อมูลเมื่อหลายปีก่อน....ยากมาก

การขับรถเที่ยวเองในต่างแดนไม่ยากครับ สิ่งแรกที่ต้องมีก่อนคือ ความกล้า ส่วนอื่นๆก็ กะตังค์...แฮ่ อันนี้ไม่ต้องมาก แต่ขาดไม่ได้

เลือกประเทศออสเตรีย มาแนะนำกันครับ เป็นทางสายRomantic Road ใช้เวลา1สัปดาห์ ย้อนรอยภาพยนต์เรื่อง Sound of musicเมื่อหลายปีก่อน……มีแถมล่องเรือในแม่น้ำดานูปด้วยครับทริปนี้

พร้อมแล้ว เตรียมตัวเดินทางครับ…………เมื่อตั๋วพร้อม พาสปอร์ตพร้อม วีซ่าพร้อม ไปทำใบขับขี่สากลกันก่อนครับ

ภาพ


ใบขับขี่สากล ทำที่สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกจังหวัด 550บาท มีอายุ1ปี นำบัตร ปชช. กับรูปถ่ายเมียน้อย… ไม่ใช่สิ รูปถ่ายตัวเองขนาด1นิ้วไป2รูป

จากนั้นจะไปขับรถใช่มั้ย ขั้นตอนต่อไป หาบ้านเช่า…ไม่ใช่แร่ะ ต้องหารถเช่า ไม่ยากครับ กูเกิ้ลนั่นล่ะ เสิร์ชเข้าไปเลย…แต่ผมใช้ประจำคือ Rentalcar.com ไม่มีเหตุผลอะไรนอกจากความคุ้นเคยและมีคอลเซนเตอร์สำหรับคนไทยให้ติดต่อ เวลามีปัญหา

ขั้นตอนต่อมา…กำหนดเส้นทาง…… คนอื่นเค้าทำอย่างไรกัน ผมไม่ทราบจริงๆครับ แต่วิธีเริ่มของผม…เปิด google map กำหนดเส้นทาง โดยกำหนดเมืองให้พอดีกับจำนวนวัน และเลือกขับรถวนเป็นวงกลมไม่ซ้ำทางเดิมในการกลับมายังที่ตั้งต้น…ก่อนหน้านั้นต้องหาข้อมูลเมืองต่างๆในประเทศนั้น หลายๆเมือง ก่อนที่จะมาเลือกอีกครั้ง ให้เข้ากับวันเวลาและเส้นทางที่เหมาะสม…………ตัวอย่างทริปนี้ ตามรูปครับ




เส้นทางขับรถเป็นวงรอบ กลับไม่ซ้ำทางเดิม เป็นการเที่ยวที่คุ้มกว่าไปกลับเส้นทางเก่า

ไม่พูดพล่ามทำเพลง พอเครื่องลงถึงที่หมาย ผ่านตม.เรียบร้อย ตอนนี้ก็หาเคาท์เตอร์รถเช่าที่ติดต่อไว้ ซึ่งรายละเอียดของสถานที่ติดต่อจะอยู่ในอีเมล์ที่เราได้รับ หลังจากจองออนไลน์แล้ว.......ยื่นเอกสารเรียบร้อยเป็นอันเสร็จ บางที่จะให้เรารับรถจากลานจอดรถในสนามบิน บางที่จะให้เราขึ้นรถตู้ฟรีของบริษัท ไปยังสำนักงานใกล้ๆสนามบิน ส่วนใหญ่นั่งไปไม่เกิน10นาที

ตอนรับรถ ก็จะมีการตรวจเช็คสภาพกันว่ามีรอยขีดข่วนเดิมตรงไหนบ้าง เวลาคืนรถจะได้ไม่ต้องมานั่งเถียงกันว่ารอยเก่ารอยใหม่ แนะนำให้ซื้อประกันเพิ่มแบบ all include ไปเลยนะครับ ขับได้สบายใจไม่ต้องกลัวเฉี่ยวชน

รับรถแล้ว ขับในยุโรป ต้องซ้อมและท่องจำไว้ในใจกันเล็กน้อยนะครับ ลองเข้าเกียร์ ถอยเข้าถอยออกในบริเวณออฟฟิสให้คุ้นมือก่อนออกเดินทาง และท่องไว้ เลนขวา....เลนขวา เลี้ยวซ้ายแล้วต้องเข้าเลนขวา ไม่งั้นเผลอเข้าผิดเลนได้ง่ายมากครับ

ได้เวลาเริ่มเดินทางขับรถท่องไปบนเส้นทาง Romantic Road ตามรอยสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ THE SOUND OF MUSIC ในอดีต(รายละเอียด หาในอากู๋นะครับ)

วันแรกของการเดินทาง มาถึงบ่ายแก่ๆ กว่าจะเรียบร้อยขับรถเข้าที่พักก็ค่ำแล้ว กรุงเวียนนา ขับรถยากพอสมควร ดังนั้นผมเลือกที่พักชานๆเมือง แล้วออกเที่ยวชมเมืองยามค่ำคืนด้วยการนั่งรถไฟฟ้า ขึ้นรถไฟฟ้า ไม่ยากครับ สามารถซื้อตั๋วที่สถานีหรือบนรถได้เลย

เวียนนา เป็นเมืองหลวงอีกเมืองที่น่าเดินเล่น มีความขลังของวิหาร และอาคารเก่าๆ คนขี่จักรยานเดินทางกันพอสมควร แม้ไม่มากเท่า อัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์

วันที่2ของการเดินทางตามแผนที่ เราจะแวะ MELK ระยะทาง 80กม.จากกรุงเวียนนา เมืองทางผ่านเล็กๆที่คิดว่าไม่มีอะไร กลับกลายเป็เมืองที่สวยที่สุดเมืองหนึ่งในทริปนี้ โบสถ์เหนือหน้าผาที่ตระหง่านและเมืองเก่าด้านล่างที่ตั้งคู่กันมา.......เป็นหนึ่งในมรดกโลกที่งดงามยิ่ง......นี่เป็นสเน่ห์อีกอย่างนึงของการขับรถเที่ยวเอง คือการได้เจอสถานที่ที่ซ่อนอยู่ แบบที่บริษัททัวร์ไม่พาไป

จากที่นี่ ผมสังเกตุว่ามีแม่น้ำดานู้ปไหลผ่านเมือง จึงเพิ่มแผนการเที่ยวด้วยการล่องเรือชมแม่น้ำดานู้ปอันโด่งดัง จึงเสิร์ชหา Danube Cruise จึงพบว่ามีเรือวิ่งผ่านจากเมือง SPITZ ล่องแม่น้ำดานู้ปมาจอดที่MELK พอดี จึงเสิร์ชจนพบว่า สองเมืองนี้ห่างกัน20กม. เรือแล่นหนึ่งชม.พอดี เลยจองตั๋วเรือวันรุ่งขึ้น พร้อมติดต่อแท็กซี่ในเมืองเอาไว้ ให้มารับตอนเช้าเพื่อไปส่งที่เมืองท่า SPITZ เพื่อล่องสองฝั่งดานู้ปกลับมายังMELK แล้วค่อยเดินทางต่อ (ซึ่งตอนเช้าผมเดินทางไปให้ถึงเร็วหน่อย ทำให้มีเวลาเดินชมเมืองท่าที่เล็กแต่มีสเน่ห์อย่าง SPITZ

เมื่อล่องกลับมาถึงMELKก็จะเห็นโบสถ์ตั้งตระหง่านอยู่ริมผา ลงเรือแล้วเดินทางกันต่อ......

บนเส้นทางตามแผนที่ 80km. จะถึงเมืองเล็กๆอีกเมืองที่สร้างความประหลาดใจให้ผมอีกเมือง......STYER เมืองเล็กๆที่คนไทนน้อยคนจะรู้จัก เป็นเมืองเก่าที่คลาสสิคมาก มีถนนหลักแค่สองสายแต่อาคารบ้านเรือนน่าเดินชมมาก มีแม่น้ำสองสายมาบรรจบกันในเมือง.....เมืองนี้ผมจอดรถแล้วลืมกดจ่ายเงิน กลับมาเจอใบสั่ง ต้องไปจ่ายค่าปรับที่ไปรษณีย์ 800บาทไทย.....เจ็บใจแบบขำๆครับ

เดินชมเมืองสองชั่วโมงก็ออกเดินทางไปพักที่เมืองLINZ ตามแผนที่ด้านบน ขึ้นไปทางเหนือกแค่40KM.

ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง พอดีไ้เวลาเช็คอิน แล้วเดินเที่ยวในเมืองจนค่ำ นี่ก็เป็นเมืองเล็กๆที่น่าเดิน เมืองจะถูกแบ่งเป็นสองโซน เมืองเก่ากับเมืองใหม่.....ซึ่งแน่นอน ผมจะเดินเที่ยวเมืองเก่า สวยดีครับ คนกับรถรางไฟฟ้าเดินหลบๆหลีกๆกันไป ตื่นตาตื่นใจดี

วันรุ่งขึ้นเที่ยวในLINZ อีกครึ่งวันก่อนขับรถยาวไปเมืองดังอย่างSALZBURG 130KM.ถึงไปช่วงบ่ายๆ ด้วยเป็นเมืองใหญ่ ทำให้ขับรถยาก หาที่พักไม่เจอ วนหลงอยู่นาน ก็สนุกดีครับ...การหลงทางเป็นสิ่งที่มีทุกทริป ไม่ต้องตกใจ ถ้าgps พาไปไม่ถูก ปากเรานี่ล่ะครับ ถามไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอ เมืองดังอย่างซาลบูร์ก คงไม่ต้องอธิบายมากนะครับ หาข้อมูลไม่ยาก เอาภาพมาฝากกันเล็กน้อยๆพอเป็นไอเดีย

ผมใช้เวลาในซาลบูร์กสองวันเพราะเป็นเมืองใหญ่มีมรดกโลก รายละเอียดเยอะ..........

วันต่อมาจึงออกเดินทางต่อไปยังอีกหนึ่งมรดกโลกของออสเตรีย ระหว่างทางยังแวะทะเลสาบสวยๆอย่างmondseและGmunden..........ก่อนจะถึงมรดกโลกที่โด่งดัง นั่นคือHallstatt โดยพักที่นี่เพื่อถ่ายรูปสวยๆให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะแสงไฟยามค่ำ ซึ่งเราจะไม่ค่อยมีโอกาสถ่าย ถ้ามากับบริษัททัวร์

วันถัดมาออกเดินทางเข้าสู่GRAZ อีกหนึ่งคืน ก่อนวนกลับสู่เวียนนาอีกครั้งเพื่อเก็บตก....

เป็นการถ่ายทอดประสบการณ์อย่างย่อนะครับ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคนที่ต้องการเริ่มขับรถท่องเที่ยวต่างแดนด้วยตนเอง........รสชาตแต่งต่างกับการเที่ยวกับทัวร์โดยสิ้นเชิง ได้มีโอกาสทักทายพูดคุยกับชาวบ้าน ได้เจอปันหาได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าสารพัด... สนุกดีครับ

ขอบคุณที่ติดตามพี่หมอไม่ง้อทัวร์...ติชมได้ทุกกรณีนะครับ...แล้วจะมาพบกันใหม่ ตามเวลาที่ผมมีครับ...งานคลินิกยุ่งมากทุกวัน.........ขอบคุณอีกครั้งครับ

นพ.อนิรุธ สาราลักษณ์

ขับรถกับพี่หมอไม่ง้อทัวร์

 วันพฤหัสที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 12.38 น.

ความคิดเห็น