“เมื่อไหร่จะถึงเนี๊ยะ” ผมเริ่มบ่น เพราะโดนสภาพอากาศแย่ๆ และความร้อนของกรุงเทพเล่นงาน น้ำที่กินตุนเอาไว้ตะกี้กลายเป็นเหงื่อไหลย้อย แถมที่เหลือก็ไหลลงกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ปวดฉี่อีกต่างหาก!!

เราเดินผ่านคนงานกลุ่มหนึ่งนั่งกินข้าวใต้ร่มไม้สบายอารมณ์ ผ่านบ้านพักท่านฑูตรัฐเซีย อยากตะโกนข้ามกำแพงไปว่าฝากสวัสดีปูตินด้วยค๊าบ!! บ้านคนแถวนี้หลายหลังไม่ธรรมดา ต้นไม้ใหญ่โต บางหลังมีประติมากรรมประดับด้วย แอบดูบ้านคนอื่นเพลินๆ ถึงที่หมายแบบไม่รู้ตัว

เสียค่าเข้าคนละ 50 บาท แล้วสำรวจบ้าน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้ตามอัธยาศัย

จุดแรกที่เจอคือศาลาไทย สร้างขึ้นเพื่อใช้ในงานสำคัญๆ เช่นทำบุญ ไหว้ครูโขน และรับรองแขก


ถัดมาคือบริเวณที่เรียกว่าสวนเขมร

ลองทักทายเจ้า "วงแหวน" ปลาแก่ที่เหลืออยู่เพียงตัวเดียวในสระ ถ้าโชคดี มันจะว่ายตามคุณด้วยนะ


ชั้นล่าง เป็นบริเวณที่ท่านเจ้าของบ้านใช้เวลาในชีวิตประจำวันและเขียนหนังสือ มีรูปถ่ายเก่าๆ ธงชาติไทยแบบเก่า


ส่วนชั้นบนมีเรือน 5 หลัง จุดเด่นคือเรือนรับรองหลังกลาง เก็บของโบราณไว้หลายชิ้น

ทางซ้ายมีเตียง เชื่อว่าเป็นที่ประทับของรัชกาลที่ 2 เวลาพระองค์ทรงพระอักษร ทางขวามีตู้เก็บหัวโขนในสมัยรัชกาลที่ 4 - 5 และตู้เครื่องถมทองสมัยรัชกาลที่ 3

งาช้างแกะสลักที่หอหนังสือ

เรือนรอบๆ เช่นหอหนังสือและเรือนนอนมีข้าวของเก่าๆ โดยจัดวางเหมือนกับเมื่อครั้ง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ยังมีชีวิตอยู่

ที่นี่ไม่มีอะไรหวือหวาให้ดูนัก และเครื่องย้อนเวลาก็ดูเหมือนจะไม่ทำงาน ด้วยเหตุผลบางอย่าง


เดินต่อไปที่สวนด้านใน มีสุสานเล็กๆ ของสัตว์เลี้ยง แต่ละหลุ่มมีป้ายชื่อด้วย

“มีมอมไหม” อาเจ๊ถาม

“มอมไหน” ผมไม่รู้จัก

มอมเป็นหนังสืออ่านนอกเวลาสมัยอาเจ๊ยังสาว งานเขียนอีกชิ้นของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ว่าด้วยเรื่องของความผูกพันธ์ของหมาตัวหนึ่งกับเจ้านายของมัน


บ่อบัวหลังบ้าน


ถัดจากสุสาน มีสระว่ายน้ำเก่า และลานกว้างหลังบ้าน ซึ่งกำลังจัดโต๊ะกันวุ่นวายเพราะกำลังจะมีงานแต่งงาน ตรงมุมสวน มีศาลาเล็กๆ ตั้งอยู่ เสียงดนตรีไทยลอยมาจากตรงนั้น ทุกอย่างคลิ๊ก ในวินาทีนั้นผมก็โดนส่งย้อนอดีต กลับไปเมื่อครั้งที่ท่านเจ้าของบ้านยังมีชีวิตอยู่


ปล.

ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนักการเมือง ผู้บริหาร และนักเขียนที่สร้างผลงานสำคัญๆ หลายชิ้น เช่น มอม สี่แผ่นดิน กาเหว่าที่บางเพลง และไผ่แดง ท่านได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก ใน 4 สาขา ได้แก่ การศึกษา วัฒนธรรม สังคมศาสตร์ และสื่อสารมวลชน



สรุป

มาเที่ยวที่นี่เดี่ยวๆ ส่วนตัวผมว่าไม่น่าสนใจนัก แต่ถ้าแวะมาหาอะไรกินแถวซอยสวนพลู แล้วห้อยที่นี่ด้วยก็เข้าท่า หรือแวะร้านอาหารอิตาเลียน Il Bolognese (อิล โบโลเยเซ่) ซึ่งอยู่ตรงข้ามประตูบ้าน คุณจะได้กินอาหารชั้นดี ที่จะทำให้กลายเป็นวันพิเศษไปเลย (แต่ไม่เป็นมิตรกับเงินในกระเป๋า)

ชอบ

+ พอจะพาเรากลับสู่อดีตได้บ้าง

+ ไม่ไกลแหล่งของกินเท่าไหร่

ไม่ชอบ

- มีของให้ดูน้อยไปหน่อย

- เรือนชั้นบนอากาศร้อน



ข้อมูล

พิกัด 13.7202583 100.5335592

เวลา เสาร์ - อาทิตย์ 10.00 - 17.00

ราคา 50 บาท

อื่นๆ

เบอร์โทร 02 286 8185 ที่นี่รับจัดงานแต่งด้วยจ้า

ถ้าคุณขับรถไป อาจต้องเสียเงินจอดที่ Parking Space Sathon



https://www.facebook.com/bearducktravel

ความคิดเห็น