สวัสดีค่ะ วันนี้เรามากันที่ดอยอินทนนท์ อ. จอมทอง จ.เชียงใหม่ เพื่อที่จะไปเดินเที่ยวที่กิ่วแม่ปานกัน เรามาทำความรู้จักกับดอยอิทนนท์กันคร่าวๆนะคะ

ดอยอินทนนท์ เป็นจุดสิ้นสุดของทางหลวงหมายเลข 1009 ยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศ ความสูง 2,565 เมตรจากระดับน้ำทะเล สภาพภูมิประเทศและสภาพป่าที่หลากหลาย ทั้งป่าดงดิบ ป่าสน ป่าเบญจพรรณ และอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี ในฤดูหนาวจะมีหมอกปกคลุมเกือบทั้งวันและบางครั้งน้ำค้างกลายเป็นน้ำค้างแข็ง หรือ แม่คะนิ้ง

วันนี้เราพักที่นี่ค่ะ Touch Star Resort รีสอร์ทน้ำแร่ธรรมชาติที่ดอยอินทนนท์ ที่นี่ห่างจากด่านทางเข้าดอยอินทนนท์เพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้น และยังห่างจากจุดที่สูงที่สุดในประเทศไทย 39 กิโลเมตรเอง เรามาพักที่นี่ได้บรรยากาศโอบล้อมไปด้วยขุนเขาที่แสนผ่อนคลายเหมาะแก่การมาพักผ่อนอย่างยิ่งแล้วแถมยังได้อาบน้ำแร่ทั้งในบ่อน้ำแร่รวม ทั้งที่ห้องพักแบบส่วนตัวๆก็มี



บ่อแช่น้ำแร่แบบรวมเอาไวัสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนได้เลยนะ

จานบนคือน้ำพริกอ่อง และจานล่างคือลาบคั่ว ใครมาที่นี่สองจานนี้ไม่ควรพลาดเลยนะคะ เด็ดมากๆ

คืนนี้เราก็นอนที่นี่ เช้ามาเราไปต่อกันที่กิ่วแม่ปานเนอะ

เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์

ทางเข้ากิ่วแม่ปานอยู่กิโลเมตรที่ 42 ด้านซ้ายมือ ระยะทางเดิน 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 2 ชั่วโมง ราคาจะคิดเป็นไกค์ 1 คนต่อกลุ่มนะ การเดินทางจะเป็นการสัมผัสธรรมชาติ ระหว่างทางเดินจะพบป่าดิบเขา ผ่านเข้าสู่ทุ่งหญ้า หลังจากนั้นทางเดินจะเลาะริมผามีไอหมอกปลิวผ่าน จะพบดอกกุหลาบพันปีจะบานเต็มต้นในช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ด้านล่างจะเป็นทัศนียภาพของอำเภอแม่แจ่ม และทางซ้ายมือจะเป็นพระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ

พี่ไกค์ของเราอยู่ด้านหน้าค่ะ ชื่อพี่ล่า ถ้ามีคนถามว่า ทำไมมาเดินแค่นี้ต้องมีไกค์ สำหรับเรานะ การมีไกค์คือนอกจากมีคนนำทาง มีคนคอยดูแล ให้ความรู้ สงสัยอะไรถามได้เลยไม่ต้องพึ่งกูเกิล แถมได้เรียนรู้วิถีชีวิตจากชาวเขาโดยตรงด้วยนะ อ่อแล้วอีกอย่างเป็นการช่วยชาวเขาให้มีรายได้ ดีกว่าที่เขาจะไปทำงานผิดกฏหมายเนอะ

เรามาถิ่งที่นี่อากาศประมาณ 14 องศา กำลังเย็นสบายเลย พอมาถึงเราก็ลงทะเบียนทำความรู้จักกับพี่ไกค์แล้วเริ่มเดินเลยค่ะ

เราเดินผ่านป่าดิบชื้น มีมอสขึ้นเกาะที่ต้นไม้มากมาย เขียวชอุ่มชื่นใจแล้วก็มาสะดุดตากับดอกไม้ป่าดอกนี้

ช่วงตรงนี้จะเป็นทุ่งหญ้า มองเห็นวิวกว้างไกล แต่แอบร้อนนิดๆแล้วเนอะ

เรามาถึงจุดที่ 9 เป็นจุดยอดฮิตที่ใครๆก็มาโพสท่าถ่ายรูปตรงนี้

อ่อ ถ้าใครเหนื่อยพอมาถึงจุดนี้ก็สามารถเดินกลับไปทางเดิมได้เลยนะคะ แต่ถ้าใครคิดว่าไหนๆก็มาแล้วอยากให้ไปต่อค่ะ เพราะทางเดินไปต่อไม่เหนื่อยเลย ชิวมากๆ


นี่คือต้นกุหลาบพันปี ส่วนดอกนะหรอ อยู่โน้นนนนนน ค่ะ พี่ล่าบอกว่าตอนนี้ออกอยู่ต้นเดียว ต้องมาปีหน้าถึงจะออกเยอะกว่านี้

ส่วนดอกใกล้ๆเรา แอ่ แฮ่ !

พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ

หลังจากนั้นเราก็ลงเขามาเรื่อยๆ จะข้ามสะพานไม้ทั้งหมด 5 สะพานก่อนที่จะมาถึงยังจุดเริ่มต้นของเรา จะถามว่าการเดินครั้งนี้เหนื่อยไหม บอกเลยว่า เหนื่อย แต่เหนื่อยเป็นช่วงๆ บางช่วงก็ชิวมากๆ อยากให้มาเดินกันนะคะ แล้วต้องเดินให้ครบด้วย (ถ้าไหวนะ) เพราะเราจะได้สัมผัสกับความสวยงามที่หลากหลายของธรรมชาติในช่วงเวลาเพียง 2 ชั่วโมง

ในทริปนี้เราขอขอบคุณพี่ล่า มากๆนะคะที่คอยดูแลเราเป็นอย่างดี

เสร็จจากตรงนี้แล้วเราจะไปที่ผาช่อกันต่อ ไปค่ะ

ผาช่อ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแม่วาง มีกำแพงและเสาหิน ขนาดใหญ่ลวดลายแปลกตา มีขนาดสูงใหญ่ราว 30 เมตร เป็นบริเวณกว้างนับร้อยเมตร นับเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติเกิดจากการกัดเซาะ จนทำให้แผ่นดินที่เชื่อกันว่าเมื่อหลายร้อยปีพันปีก่อนบริเวณนี้เคยเป็นทางเดินของแม่น้ำปิง จนกระทั่งแม่น้ำปิงได้เปลี่ยนสายย้ายทิศไหลผ่านไปที่อื่น เนินเขาสูงตะกอนแม่น้ำปิงก่อตัวทับถมกันเป็นชั้นๆ ผ่านกลายเวลาและถูกกัดเซาะจนกลายเป็นหน้าผาและเสาดินที่มีรูปร่าง แปลกตา

ผาช่อเข้าได้หลายทางมากๆ มากจนเรางง 555 ถ้าหากใครผ่านมาทางนี้อย่าลืมมาชมประติมากรรมทางธรรมชาตินี้นะคะ

หลังจากนี้เราก็ขี่รถเข้าไปเมืองเชียงใหม่เพื่อกลับบ้าน

แต่ก่อนกลับอย่าลืมของกินอร่อยๆที่นี่นะคะ มื้อนี้ก่อนกลับขอหมาล่าและข้าวซอย อร่อยสุดๆ แล้วพบกันใหม่ ขอบคุณสำหรับการรับชมนะคะ สวัสดีค่ะ


ME' Art X Traveller.

 วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 20.08 น.

ความคิดเห็น