https://timeline.line.me/post/_dRXhLOh34AsRHi9V6sZ...

เลี้ยวซ้าย ไปเกาะช้างใต้

“บางทีจุดหมายของการเดินทาง อาจไม่ได้อยู่ที่ปลายทาง แต่อยู่ที่ความสุขระหว่างทาง”

ความคิดนี้ปรากฏขึ้นมาหลังจากที่มองริมขอบฟ้าจรดผืนน้ำเพลินๆ บนเรือเฟอร์รี่ลำใหญ่เพื่อกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง เราจึงได้แต่นั่งยิ้มและคิดถึงช่วงเวลาแห่งความสุข สนุกสนานที่ผ่านไปไวราวติดจรวด ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่การมา “เกาะช้าง” ครั้งแรก แต่ความตื่นเต้นไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย ทุกครั้งที่มาเราได้ความทรงจำ ความประทับใจ ความอิ่มเอมใจกลับไปเป็นของที่ระลึก ไม่ว่าจะมาเที่ยวฤดูไหนๆ สามารถไปนอนกินลมชมวิวสวย น้ำทะเลใส หาดทรายขาว และมีกิจกรรรมมากมายให้ทำแบบไม่มีเหงา
การเดินทางมาเยือนเกาะช้างในครั้งนี้พิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะเราทิ้งรถ ทิ้งเมือง ทิ้งเรื่องยุ่ง มุ่ง “เลี้ยวซ้าย” ไปเกาะช้างใต้ ลองเปิดประสบการณ์ใหม่เพื่อไปพักกาย พักใจนอนฟังเสียงคลื่น นั่งฟังเสียงลม ชมป่าชายเลน แทนการไปตื่นเต้นกับแสงสียามค่ำคืน ยิ่งได้นอนพักเฟรนด์สเตย์ สัมผัสวิถีชุมชน ชมพระอาทิตย์ตก กินอาหารทะเลสดๆ เพียงเท่านี้ก็ดีต่อใจมาก ใครจะคิดว่า แค่ “เลี้ยวซ้าย” ทำให้เห็นว่า เกาะช้างมีความงดงามซ่อนอยู่ในพื้นที่เกาะช้างใต้เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ สลับกับสวนผลไม้ สวนมะพร้าว สวนยาง ซึ่งคนที่นี่ช่วยกันรักษาความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติไว้ได้อย่างดีท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของการท่องเที่ยว แต่ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ฉะนั้นเกาะช้างเลี้ยวซ้ายที่เราได้มีโอกาสไปสัมผัส จึงเปรียบเสมือนลมหายใจของเกาะช้างที่ซ่อนความบริสุทธิ์ไว้อย่างแท้จริง

นับเป็นโชคดีของเราที่ตัดสินใจออกเดินทางในครั้งนี้ ทำให้ได้พักผ่อนในสถานที่ซ่อนตัวจากความวุ่นวายใน บ้านไม้หลังน้อยๆ ที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ราคาที่พักหลักร้อย วิวหน้าบ้านหลักล้าน ได้ใช้ชีวิตช้าๆ แบบชิดใกล้ธรรมชาติ มองไปรอบตัวมีเพียงตัวเรา ผืนน้ำ และท้องฟ้า บรรยากาศชวนให้ทิ้งงาน ทิ้งโทรศัพท์มือถือไปสักพักหนึ่ง เพื่อใช้ประสาทสัมผัสดื่มด่ำกับธรรมชาติรอบตัว กลางคืนมีแสงจันทร์ส่องสกาว แสงดาววาบวับ มีแพลงตอนบูมเป็นเพื่อนเล่นก่อนนอน และขับกล่อมด้วยดนตรีธรรมชาติ เสียงหรีดหริ่งเรไรร้องระงม ผสมเสียงฝนกระทบหลังคา ยามเช้ามีเสียงนกนานาชนิดเป็นนาฬิกาปลุก เพียงโผล่มาจากบ้านเงยหน้าขึ้นไปบนฟ้าจะเห็นนกบิน ตัดกับภูเขาที่ยังสมบูรณ์ต้นไม้เขียวขจี เหนือสิ่งอื่นใดคือ ผู้คนที่นี่ล้วนน่ารัก เป็นมิตร ทำให้รู้สึกว่า เรามานอนเล่น "บ้านเพื่อน" จริงๆ

แม้ “เกาะช้างใต้” ไม่มีแสงสีให้ตื่นตาตื่นใจเท่าอีกฟากหนึ่งของเกาะ แต่ทว่าที่นี่กลับมีเสน่ห์ที่เหลือล้นจากธรรมชาติที่ยังคงสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะป่าชายเลนบ้านนาใน หรือ“โครงการฟื้นฟูบูรณะป่าชายเลนบ้านสลักเพชร” ซึ่งเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่สามารถเดินทอดอารมณ์ไปตามสะพานสีแดงสด เพื่อชื่นชมระบบนิเวศป่าชายเลน ตลอดสองข้างทางในระยะทางเดินไปกลับประมาณ 2 กิโลเมตร เราตาตื่นใจไปกับกิ่งก้านรูปร่างแปลกตา ที่มีลักษณะโน้มเอียงเข้าหากันเป็นซุ้มต้นไม้ที่สวยงาม สามารถชมความงามของป่าโกงกาง ความแปลกตาของรากที่โผล่พ้นขึ้นมาจากพื้น มองดีๆ เป็นผลงานศิลปะที่สร้างสรรค์ขึ้นจากธรรมชาติ จุดที่เป็นทุ่งโปรงทองเป็นจุดไฮไลท์ที่ค่อนข้างสวยงาม ฉากหลังเป็นทิวเขาทอดยาวสีแดงของสะพานตัดกับสีเขียวของต้นไม้ทำให้ดูสวยงามสดชื่นไปอีกแบบ ทำให้บริเวณนี้เป็นจุดที่สวยงาม เมื่อไปถึงปลายทางของเส้นทางนี้เป็นจุดพักที่ประทับใจเพราะเป็นวิวอ่าวสลักเพชรเชื่อมกับทะเลนั่งพักชมทัศนียภาพแบบพาโนรามา ณ ป่าชายเลนแห่งนี้จึงได้นั่งเล่นรับลมเย็นสูดอากาศบริสุทธิ์รับออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายแบบเต็มปอด มองเมฆเคลื่อนผ่านยอดไม้เพลินมาก ดังนั้น เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนนี้เป็นเส้นทางที่สมบูรณ์ น่าเดิน มีความงดงามไม่ซ้ำเส้นทางเดินป่าชายเลนที่อื่นๆ เลย



นั่นเป็นเพราะคนที่นี่หวงแหนและดูแล “บ้าน” ของพวกเขาอย่างดีเยี่ยม แล้วเราพร้อมกันหรือยัง ที่จะท่องเที่ยวแบบพอดี ไม่ทำลาย ไม่ทำร้ายธรรมชาติ ลองเปิดใจ เปิดโอกาสกับตัวเองมาเป็นนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มาสัมผัสกับบรรยากาศสบายๆ ณ เกาะช้างใต้ด้วยหัวใจกันดูสักครั้ง

#อพท #DastaTravel #อพทโดนใจ #หมู่เกาะช้าง