ไปพัทยา หาที่กิน ที่ชมวิว นอนชิลๆ P Plus Pattaya

อารมณ์อยากไปเที่ยวพัทยาบังเกิด แต่เที่ยวยังไงดีแบบที่ไม่ต้องเปลืองเงินเยอะ ตัดสินใจเที่ยวแบบง่ายๆใช้ชีวิตตามสไตล์ตัวเอง เน้นพักผ่อนชิลๆ


จึงลองชวนพี่สาวให้ขับรถมาจากราชบุรี แวะรับเราที่ กทม. แล้วไปต่อกันที่พัทยา โดยใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ยิงยาว ใช้เวลาจากกรุงเทพฯประมาณ 2 ชั่วโมง จ่ายค่าผ่านทาง 60 บาท (หลังสงกรานต์ 2561 นี้จะมีการขึ้นค่าผ่านทาง มอเตอร์เวย์)


มาถึงก็บ่ายแล้วจึงตัดสินใจเข้าที่พักกันก่อน ซึ่งที่พักของเราในทริปนี้คือ P Plus Hotel Pattaya อยู่ที่ พัทยากลาง ซอยเฉลิมพระเกียรติ 23


เมื่อมาถึงแล้วสามารถจอดรถไว้หน้าอาคาร หรือลงไปจอดใต้อาคารทางด้านขวามือ แล้วเดินเข้าไปเช็คอินที่ฟร้อนต์จะอยู่ในอาคารที่มีสระว่ายน้ำนั่นเอง


ภายในห้องรับแขกกว้างขวางมาก และมีอากาศถ่ายเทอยู่ตลอด ไม่แออัด และไม่อับชื้นแน่นอน ส่วนด้านหลังห้องรับแขกจะเป็นโซนที่นั่งสำหรับผู้ที่สูบบุหรี่ค่ะ


หลังจากรับคีย์การ์ดและคูปองสำหรับอาหารเช้ามาแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่พาขึ้นไปยังห้องพักค่ะ ที่นี่มีห้องพักมากถึง 270 ห้อง ภายในอาคารทั้งหมด 3 อาคาร ห้องพักจะเป็นประเภทเดียวกันทั้งหมด มีเนื้อที่ใช้สอยที่ค่อนข้างกว้างพอดีกับการใช้งาน ประตูระเบียงและหน้าต่างเป็นกระจกใส เปิดปิดม่านเพื่อรับแสงหรือบังแสงจากภายนอกได้ จึงทำให้ช่วงกลางวันดูสว่างแม้ไม่ต้องเปิดไฟ


เตียงนอนคิงไซส์นุ่นมๆ หมอนและผ้าห่มก็นุ่มนิ่มนอนสบายมาก สิ่งที่ดึงดูดสายตามาเป็นลำดับต้นๆก็ต้องเป็นหงส์คู่ กับกุหลาบ ที่พับๆม้วนๆจากผ้าเช็ดตัวสีเทานั่นเอง


ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตั้งแต่น้ำดื่ม ชา กาแฟ ถ้วยกาแฟ กระติกน้ำร้อน ทีวี ตู้เย็น


มาถึงในห้องน้ำ แบ่งโซนเปียกด้วยที่กั้นกระจก ฝักบัว เครื่องทำน้ำร้อน สบู่ แก้วน้ำ ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัวและผ้าเช็ดผมอีกเซ็ตหนึ่ง ไดร์เป่าผมติดผนัง และอ่างล้างหน้าขนาดกระทัดรัด พร้อมกระจกเงา 6 เหลี่ยม ซึ่งเมื่อดูรวมๆแล้วก็เป็นห้องน้ำที่ดูเก๋ดีไม่น้อย


จากนั้นลงมาที่ Blackjack Café เป็นห้องอาหารของโรงแรม เปิดตั้งแต่เช้ายันค่ำ เกือบลืมไปเลยว่ายังไม่ได้ทานข้าวกลางวันกัน จึงเปิดเมนูดูด่วนๆ จัด Chef Salad และ ยำไก่ย่าง มาทานด้วยกัน รสชาติดีใช้ได้เลยล่ะค่ะ แป๊บเดียวเกลี้ยงจาน




ICE Frost dessert café

พักผ่อนอยู่อีกนิดหน่อย ก็ไปต่อของหวานกันที่ร้าน ICE Frost dessert café สาขาพัทยา อยู่ที่ ถนนพัทยาใต้ ติดถนน ระหว่าง ซอยพัทยาใต้ 2 และ ซอยพัทยาใต้ 4 ขับรถมาจากที่พักราว 2 กิโลเมตรก็ถึงแล้ว สามารถจอดรถริมถนนหรือในซอยข้างๆร้านได้เลยค่ะ ภายในร้านเน้นผนัง พื้น และเฟอร์นิเจอร์สีขาว มีประตูและผนังด้านนอกเป็นกระจกใส จึงทำให้ดูปลอดโปร่งและสว่างจากแสงธรรมชาติ มีที่นั่งรองรับประมาณ 35 – 40 ที่นั่ง


เมนูหลักของร้านนี้ก็คือ “บิงซู” สไตล์เกาหลีแท้ๆ มีรสชาติให้เลือกมากมายเลยล่ะ นอกจากนั้นยังมีประเภทโทสต์ เค้ก และเครื่องดื่มอีกหลายรสชาติให้เลือกทานได้ตามใจชอบ


โทสต์ผลไม้รวม โทสต์หรือขนมปังก้อนใหญ่ กรอบนอกนุ่มในหอมเนยมาก เสิร์ฟมากับไอศกรีมรสวานิลลา วิปครีม ผลไม้สดอย่างมะม่วง และกีวี่ ให้น้ำผึ้งแท้มาอีก 1 เหยือกเล็ก อร่อยมาก


ซากุระบิงซู สีชมพูหวานแหวว เป็นน้ำแข็งรสนมสีขาว โรยเกล็ดแป้งสีชมพูเต็มถ้วย ราดด้วยครีมสีขาว ลักษณะคล้ายภูเขาไฟ และมีดอกไม้ที่ทำจากแป้งคล้ายขนมอาลัวแต่นิ่มกว่าและมีกลิ่นหอมโปะมาด้านข้าง ส่วนด้านในนั้นยังมีวุ้นสีชมพูอยู่อีกด้วย


แมงโก้บิงซู เกล็ดน้ำแข็งรสนม โปะด้วยเนื้อมะม่วงน้ำดอกไม้สุก และมีไอศกรีมรสวานิลลาอยู่ด้านบน หอมหวานได้รสมะม่วงเต็มคำ


บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก เค้กชิ้นใหญ่ เนื้อชีสนุ่มละมุนลิ้นไม่เลี่ยน ราสซอสบลูเบอร์รี่มีทั้งความหวานและความเปรี้ยวในตัว จึงทำให้ทานได้เรื่อยๆ


ชานมเย็น รสชาติเข้มข้น หอมหวานมันอร่อย ถูกปากมาก ปกติขอบดื่มชานมเย็นเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว เมนูนี้สำหรับร้านนี้เราให้คะแนนเต็มเลยล่ะ


เลมอนเนด บลูซิตัส รสชาติออกเปรี้ยวอมหวานจาก มะนาว ซิตรัส และไซรัป ตัดความหวานเลี่ยนของเมนูของหวานทั้งหมดได้เป็นอย่างดี


ICE Frost dessert café สาขาพัทยา

ที่อยู่ : ถนน พัทยาใต้ เมืองพัทยา อำเภอ บางละมุง ชลบุรี 20150

เฟซบุ๊ก : ICE Frost dessert café สาขาพัทยา

เบอร์โทรฯ : 084-712-1235




ชมวิวอ่าวพัทยา

หลังจากละเลียดของหวานกันจนอิ่มหนำแล้ว เวลาก็ตกเย็นพอดี จึงมุ่งหน้าไปที่ เขาพระตำหนัก เพื่อชมวิวอ่าวพัทยากันต่อ โดยใช้ถนนพัทยาใต้ วิ่งไปเข้า ถนนพัทยา สาย 3 และต่อด้วยถนนพระตำหนัก ขึ้นไปยังจุดชมวิว สามารถจอดรถได้ตามไหล่ทางตรงทางขึ้น เพราะทางจะเป็น วันเวย์ ไม่มีรถวิ่งสวนอยู่แล้ว หรือขึ้นไปหาที่จอดด้านบนก็ได้เช่นกัน จากทางรถวิ่งขึ้นมาเราเดินมายังจุดชมวิวทางขวามือก่อน จุดนี้จะมองเห็นอ่าวพัทยาทางด้านซ้าย มีเรือหลายขนาดอยู่บริเวณแหลมบาลีฮาย และภายในอ่าว ส่วนทางด้านขวามือ จะมองเห็นวิวตัวเมืองพัทยา หากมองออกไปไกลๆจะได้เห็นทิวเขาด้วย


จากนั้นเดินเข้ามายังอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพร "องค์บิดาของทหารเรือไทย" ทางด้านนี้จะมีลานกว้างๆ และมีที่นั่ง จึงมีนักท่องเที่ยวเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย จากจุดนี้ฝั่งขวาจะมองเห็นวิวอ่าวพัทยาได้มุมกว้างกว่า และหากมาช่วงหน้าร้อนจะได้เห็นดอกลีลาวดีสีส้มบานสะพรั่งเต็มต้นแบบนี้ สวยดีนะคะ


หลังหกโมง ทางฝั่งซ้ายจะมองเห็นพระอาทิตย์ค่อยๆลอยต่ำลงเรื่อยๆ แสงจ้าเริ่มน้อยลงจนสามารถมองไปยังดวงอาทิตย์ได้ หากใครมีเวลามากกว่านี้สามารถลงไปเดินเล่นชายหาด บริเวณหาดพัทยาใต้ได้ไม่ไกลจากจุดนี้เลยค่ะ




Pattaya Walking Street

เมื่อลงมาข้างล่างแล้วก็ค่ำพอดี จึงชวนกันไปเดินเล่นที่ Pattaya Walking Street ต่ออีกสักหน่อย ไม่เคยมาเลยอยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง โดยเข้าไปจอดรถไว้ที่วัดชัยมงคล มีค่าจอด 20 บาท แต่ลานกว้างจอดได้หลายคัน ไม่ต้องวนหาที่จอดนาน สบายใจได้ และเดินไปยังวอร์คกิ้งสตรีทใกล้ๆ


Pattaya Walking Street เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยามราตรี เป็น Night Live ขนานแท้ เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มีคนไทยเดินกันประปราย


มีร้านอาหารซีฟู้ดหลายร้าน ที่จะเน้นโชว์กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ๆหลายไซส์ไว้ด้านหน้า เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว


มีคาเฟ่หลากหลายสไตล์ และผับ บาร์ อีกเต็มไปหมด


หากใครไม่ชอบเที่ยวแนวนี้ก็สามารถแวะเข้ามาเดินดูเดินเล่นกันได้ มีจุดถ่ายรูปเก๋ๆอยู่หลายจุดเลยทีเดียว


กลับเข้าที่พักได้มาเห็นแสงสีของ P Plus Hotel ต่ออีก สวยเหมือนกันนะเนี่ย


เข้ามาจัดมื้อค่ำกันใน Blackjack Café ห้องอาหารของโรงกันอีกมื้อ ได้ทานข้าวกันเต็มมื้อ มีทั้งต้มยำกุ้งน้ำข้น ผัดผักรวม ผัดพริกหวานหมู อิ่มแน่นกันเลยทีเดียวเชียว




วันต่อมา

ลงมาทานอาหารเช้ากันตั้งแต่เช้า เจอกับทัวร์จีนพอดี ถ้าใครมาพักแล้วต้องการมื้ออาหารที่ค่อนข้างเงียบ สบายๆ แนะนำให้ลงมาหลัง 8 โมงแล้วนะคะ แต่ก็ยังดีที่ห้องอาหารมีขนาดกว้าง จึงดูไม่แออัดเลยแม้แต่น้อย ไลน์อาหารจะจัดวางไว้บนโต๊ะ 3 โต๊ะ ซึ่งเป็นบุฟเฟ่ต์ที่มีให้เลือกทานหลายเมนูมาก


นั่งพักกันอยู่พักใหญ่แล้วก็เข้ามาดูที่ Plus Sport Club กันต่อ ห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยเครื่องออกกำลังกายหลายสิบชิ้น ใครถนัดออกกำลังกายกับเครื่องเล่นประเภทไหนก็เลือกได้


เมื่อเดินเข้ามาด้านในอีกหน่อยจะพบทางเข้าห้องน้ำ แยกชาย หญิง ชัดเจน และเมื่อเข้าไปด้านในห้องน้ำแล้วจะพบกับ ห้องซาวน่า และสตรีมมิ่ง


ออกมานั่งเล่นกันบริเวณสระว่ายน้ำต่ออีกพักหนึ่ง จะมีเก้าอี้อาบแดดวางอยู่ริมสระหลายตัวมาก เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มานอนอาบแดดกันชิลๆบริเวณนี้ได้โดยไม่ต้องไปชายหาดเลย น้ำในสระใสดูสะอาดมาก


P Plus Hotel Pattaya

ที่อยู่ : 373/63 หมู่ 9 พัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 20150

เบอร์โทรฯ : 038-411-543 / 038-411648-49

เฟซบุ๊ก : P Plus Hotel Pattaya

เว็บไซต์ : P Plus Hotel Pattaya




Loaf Bakery & Café

หลังจากเช็คเอ๊าท์ช่วงสายๆใกล้เที่ยง ได้เวลาเดินทางกลับ แต่ก่อนกลับได้แวะมาที่ Loaf Bakery & Cafe, Pattaya เพื่อทานอาหารกลางวันกันก่อน


Loaf Bakery & Café เป็นคาเฟ่ลูกผสมระหว่างอิตาเลี่ยนและญี่ปุ่น ที่ดูลงตัวเป็นอย่างดี มีเมนูทั้ง คาว หวาน ซึ่งมีทั้งหมด 2 สาขาด้วยกัน แต่วันนี้ขอพามาที่สาขาใน โครงการ Welcome Town พัทยากลาง เมื่อเข้ามาถึงที่ร้าน จะพบกับป้ายร้านสีขาวบนผลังไม้สีน้ำตาล และมองเห็นโลโก้ของร้านที่เป็นเหมือนหน้ายิ้ม ให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างเป็นกันเอง


Loaf Bakery & Café เป็นร้านที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ดูโปร่งและกว้างขวาง สามารถรองรับได้มากกว่า 100 ที่นั่ง ซึ่งมีที่นั่งให้เลือกทั้งภายในร้าน มีทั้งแบบโซฟา และเก้าอี้ไม้ เลือกได้ทั้งที่นั่งได้เฉพาะ 2 คน, 4 คน และสำหรับมาเป็นกลุ่ม และยังมีหลังร้านแบบโอเพ่นแอร์ ให้อารมณ์เหมือนนั่งอยู่ในสวนหลังบ้าน


มาดูเมนูของที่ร้านกันค่ะ พิซซ่า พาสต้า เครื่องดื่ม ขนมปัง ของหวาน และเบเกอรี่ มีให้เลือกหลายเมนู แค่ 1 ประเภทก็จำแนกออกมาให้เลือกอีกหลายหน้าหลายรสชาติแล้วล่ะค่ะ


เดินมาดูฝั่งเบเกอรี่กันบ้าง เฉพาะในตู้นี้มีทั้งแบบญี่ปุ่นและแบบฝรั่ง ที่ดูหน้าตาชวนรับประทานไปหมดทุกเมนู ทั้งสีสันและรูปทรง แทบอดใจไม่ไหว อยากชิมทุกเมนูนี่เลยล่ะค่ะ


ถัดมาจากตู้ จะเป็นเมนูขนมปัง ที่ชวนน้ำลายไหลทุกเมนูอีกเช่นกัน ครัวซอง บราวนี่ มัฟฟิ่น มินิบัน ฯลฯ และอื่นๆอีกมากมาย


มาชมเมนูตัวอย่างที่ได้ลองทานไปกันนะคะ บอกได้คำเดียวว่า “อร่อยทุกอย่าง” จริงๆจากใจเลยค่ะ เต็มโต๊ะเลยดูสิ ^^ MED Salad, สปาเก็ตตี้หมึกผัดไข่เค็ม, พิซซ่าหน้ากะเพราไข่ดาว, ฮอกไกโด เมเปิ้ล โทสต์, เค้กมันม่วง, พายฟักทอง, มัทฉะครีมโรล, ชามะนาวเย็น, มัทฉะลาเล้


การเดินทาง : ขับรถมาที่ โครงการ Welcome Town พัทยากลาง เข้ามาประมาณ 100 เมตร จะพบร้านอยู่ทางซ้าย มีที่จอดรถสะดวกสบาย

เฟซบุ๊ก : Loaf Bakery & Café

เบอร์โทร : 096 696 8665

เวลาให้บริการ : 10.00 – 21.00 น.




แล้วก็เดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯโดยใช้เส้นทางเดิม คือ มอเตอร์เวย์ ยิงยาวมาถึงศรีนครินทร์ แล้ววิ่งถนนพระราม 9 ไม่ต้องขึ้นทางด่วน ประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว




ติดตามบันทึกการเดินทางต่อๆไปได้ที่ :

GowithAmp

https://facebook.com/GowithAmp

http://gowithampth.com

GowithAmp

 วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 19.30 น.

ความคิดเห็น