งานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง วันสงกรานต์ล้านนาในภาคเหนือ เริ่มในวันที่ 13 เมษายน เรียกว่า "วันสังขานต์ล่อง" วันนี้ถือเป็นวันสิ้นสุดศักราชเก่าของชาวภาคเหนือ ในช่วงปีใหม่เมือง ชาวเหนือจะทำความสะอาดบ้านเรือน มีการทำบุญตักบาตร ก่อเจดีย์ทราย ขนทรายเข้าวัด ตานตุง 12 นักษัตริย์ ไม้ค้ำสะหลี (สะหลี หมายถึง ต้นโพธิ์) วันที่ 13 นี้ เชียงใหม่มีการแห่พระพุทธรูปสำคัญประจำเมืองทุกปี คือ ขบวนแห่และสรงน้ำ "พระพุทธสิหิงค์" ที่ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ตั้งอยู่ในบริเวณคูเมืองเชียงใหม่ค่ะ ปี 2563 เชียงใหม่งดจัดงานเนื่องจากสถานการณ์โรคระบวด โควิท 19 นำภาพเก่ามาฝากกันค่ะ
วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ตั้งอยู่ในบริเวณคูเมืองเชียงใหม่ เป็นประดิษฐานพระสิงห์ (พระพุทธสิหิงค์) พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา เป็นพระพุทธรูปศิลปเชียงแสน รู้จักกันในชื่อ "เชียงแสนสิงห์หนึ่ง" ค่ะ วัดพระสิงห์ เดิมทีมีชื่อเรียกว่า วัดลีเชียง ถือเป็นพระอารามหลวงมาแต่โบราณกาล สร้างขึ้นในปี พ.ศ.1888 โดยพระเจ้าผายู เจ้าผู้ครองเมืองเชียงใหม่ในอดีตกาล
ในปีใหม่เมืองของทุกปี เชียงใหม่จะจัดงานสรงน้ำสรงน้ำ "พระพุทธสิหิงค์"
ในวัดจะมีการตานตุง 12 นักษัตริย์ ตุง คือ ธงแขวนแบบหนึ่งเป็นศิลปะทางล้านนา ตุง 12 ราศี หรือตุง 12 นักษัตร ชาวล้านนาเรียกว่าตุงปี๋ใหม่เมือง ใช้ถวายเป็นพุทธบูชาพร้อมกับเจดีย์ทราย
ตามคติล้านนา คนเกิดปีมะโรงต้องมาไหว้พระสิงห์ให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต
มีสินค้าพื้นเมืองจำหน่ายมากมาย
รถบุษบกใช้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์เพื่อลงประดิษฐานบนรถ แห่รอบเมืองเชียงใหม่ จากพระวิหารลายคำ มีวิจิตรงดงามมากค่ะ
คำว่า บุษบก (บุดสะบก) หมายถึง เรือนยอดแบบหนึ่งมีขนาดต่าง ๆ กัน เป็นอย่างเรือนโกง เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ในพระราชพิธี หรือประดิษฐานปูชนียวัตถุเช่นพระพุทธรูปเป็นต้น
ขบวนนางรำทำพิธีรำถวายอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ขึ้นรถบุษบก
นำดอกไม้ใส่เป็นพุทธบูชา รถบุษบก
ความงดงามวิจิตรของรถบุษบก ศิลปกรรมแบบล้านนา
อัญเชิญ พระพุทธสิหิงค์ออกจากพระวิหารลายคำ ประดิษฐานบนรถบุษบกศรีเชียงใหม่ ให้ประชาชนได้กราบสักการะบูชาในเทศกาลป๋าเวทีปี๋ใหม่เมือง
"พระพุทธสิหิงค์" เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา เป็นพระพุทธรูปโบราณหล่อด้วยสำริดหุ้มทอง ปางสมาธิ สูง 79 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 63 เซนติเมตร เป็นศิลปะแบบลังกาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน
ตามตำนานเล่าสืบต่อกันถึงความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์พระพุทธสิหิงค์ว่า "การสร้างได้ประกอบขึ้นด้วยแรงอธิษฐาน 3 ประการคือ 1)คำอธิษฐานของพระอรหันต์ผู้ร่วมพิธี 2)แรงอธิษฐานของพระเจ้ากรุงลังกาผู้สร้าง 3)อานุภาพแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การที่พระพุทธสิหิงค์เสด็จประทับอยู่ที่ใด พระพุทธศาสนาย่อมรุ่งเรืองดังดวงประทีปเสมือนหนึ่งพระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์อยู่
เคลื่อนรถบุษบกเไปยังประตูท่าแพ เพื่อให้ประชาชนและ
ประชาชนรอสักการะ สรงน้ำพระพุทธสิหิงค์หนาแน่นมากค่ะ
สวัสดีวันสงกรานต์ขอให้ทุกท่านร่มเย็นเป็นสุข ดังสายน้ำที่ถวายเป็นพุทธบูชานี้ อยู่ดีกินหวานนะเจ้า^^
ฝากติดตามเพจท่องเที่ยวเล็กๆด้วยนะเจ้า ไปแอ่วกัน Fun Trip
ไปแอ่วกัน Fun Trip
วันเสาร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 09.39 น.