เที่ยวสุพรรณ ย้อนเวลาสู่อดีต สัมผัสวิถีชาวบ้าน นอนค้างที่บ้านเรือนไทยโฮมสเตย์...

ครั้งนี้เราจะพามาสัมผัสวิถีชาวบ้านกันที่ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี และความพิเศษยิ่งกว่านั้นคือ เราได้มีโอกาสร่วมถ่ายทำกับรายการ “ ชื่นใจไทยแลนด์ ” อมรินทร์ทีวี ช่อง 34 รายการท่องเที่ยว ที่พาทุกคนไปสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านกันมาเกือบทั่วประเทศไทย!!! มาดูกันว่าครั้งนี้เราจะพาไปที่ไหนกันบ้าง...

...และการมาที่นี่ครั้งนี้ เปลี่ยนการมาเที่ยวสุพรรณบุรีของเราจริงๆ ที่ปกติก็จะนึกถึง บึงฉวาก ตลาดสามชุก แต่บอกเลยว่าชุมชนท่องเที่ยวเรือนไทยบางแม่หม้ายโฮมสเตย์ จะเป็นอีกที่ที่เรานึกถึงเมื่อมาสุพรรณบุรีเพราะบรรยากาศและประสบการณ์แบบนี้นั้นหาได้ที่นี่ที่เดียว ชื่นกาย ชื่นใจ...กับประสบการณ์ครั้งนี้กันแน่นอน ว่าแล้วตามไปชื่นใจกันเลยยยย....

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

...แวะมาดูมาช็อปกันก่อนที่ กลุ่มผ้าทอบ้านหนองลิง อ.สองพี่น้อง ที่เราสามารถมาดูผ้ามัดย้อม ผ้าทอ งานฝีมือกันได้ที่นี่ แถมตัวผ้ายังเป็นการย้อมสีธรรมชาติอยู่ด้วย ลายผ้าต่าง ๆ ก็เป็นการปักมือ แถมยังมีการน้ำผ้ามาทำเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า น่ารักน่าเสียเงินซื้อกลับไปสุด ๆ ติดต่อทางกลุ่มทอผ้าบ้านหนองลิงก็สามารถโทรไปที่เบอร์นี้ได้เลย 087-091-9084 / 035-838-522

กลุ่มทอผ้าบ้านหนองลิง สินค้า Otop ดับ 4 ดาว! ที่เราสามารถแวะเข้ามาช็อปมาดูการทำสินค้ากันได้ถึงที่..

สีผ้าที่ใช้ในการย้อมก็ยังเป็นสีธรรมชาติ แถมทั้งสีและลายผ้าก็น่ารักมาก ๆ

กระเป๋าก็ราคาไม่แพงด้วยนะ แถมสีและลายก็แนวสุด ๆ ใครสนใจ ติดต่อทางกลุ่มทอผ้าบ้านหนองลิงก็สามารถโทรไปที่เบอร์นี้ได้เลย 087-091-9084 / 035-838-522

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------

...และมาต่อกันที่ ชุมชนท่องเที่ยวเรือนไทยบางแม่หม้ายโฮมสเตย์ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ที่จะพาเรามาย้อนเวลาสู่วิถีชีวิตคนไทยในอดีต และเรียนรู้การใช้ชีวิตของชาวบ้านอย่างแท้จริง และความเท่ของหมู่บ้านนี้ก็คือโฮมสเตย์ที่จะได้มานอนนั้นเป็นบ้านเรือนไทยล้วน ๆ เรียกว่าไม่มีชุมชนไหนที่จะเป็นโฮมสเตย์เรือนไทยทั้งหมดแบบนี้แน่นอน การมานอนค้างที่ชุมชนท่องเที่ยวเรือนไทยบางแม่หม้ายโฮมสเตย์ ไม่ใช่แค่การมานอนค้างและจบไป เพราะเมื่อคุณก้าวมาถึงที่หมู่บ้านนี้ มีกิจกรรมสนุก ๆ และการเรียนรู้ต่าง ๆ รออยู่เพียบ! อย่างการไปดูบ้านเรือนไทยที่อยู่ติดกันถึง 4 หลัง! เนื่องจากเป็นบ้านเรือนไทยสมัยก่อน เวลาปลูกก็ปลูกอยู่ติดกันเป็นครอบครัวใหญ่ ติดกันแบบชนิดที่ว่าเดินเชื่อมถึงกันหมด หลังคาชนกันเลยทีเดียว หรือจะเป็นกิจกรรมการไปดูไม้กวาดใยมะพร้าว ที่เป็นสินค้าสร้างชื่อเสียงให้กับหมู่บ้านนี้ เขาบอกกันว่าไม้กวาดนี้ มีความพิเศษคือรับประกันการใช้กันเป็นสิบปีเลย หรือใครชอบงานฝีมือสวย ๆ งาม ๆ ที่นี่ก็มีกลุ่มจักสานผักตบชวาของชุมชน สามารถมาลองหัดสาน มาเรียน หรือจะถนัดช็อปอย่างเดียวก็ได้ แต่ถ้าสายกินมาถึงสุพรรณบุรีแล้วก็ต้องมาทำขนมสาลี่ ทำกันสด ๆ ร้อน ๆ กินกันตรงนั้นเลย และยังมีขนมไข่นกกระสา ขนมมงคลของที่นี่อีกด้วย หรือถ้าอยากชิลก็มานั่งล่องเรือกันที่แม่น้ำท่าจีน หรือแม่น้ำสุพรรณ ดูวิถีชิวิตชาวบ้านสองฝั่งแม่น้ำ และยังได้มาดูค้างคาวแม่ไก่ นกปากห่าง แต่ถ้าใครยังไม่อิ่มอกอิ่มใจก็มานั่งรถอีแต๋นไปชมวิวตาลร้อยต้น สถานที่ขึ้นชื่อของหมู่บ้านนี้ ไปนั่งปิ้งย่างปิคนิกกันใต้ต้นตาล รับลมเย็น ๆ และวิวทุ่งนา...ชิวไปอีกบอกเลยยยย

หลังนี้คือเรือนไทยของแม่ระเบียบที่เราจะนอนกันคืนนี้...ครั้งแรกกับการนอนเรือนไทย ตื่นตาตื่นใจมากกก ส่วนใหญ่เคยไปเที่ยวบ้านเรือนไทย แต่ก็เป็นบ้านที่เขาจัดโชว์ ไม่ได้ให้เราเข้ามาพักแบบนี้...

ซึ่งบ้านเรือนไทยที่นี่จะเป็นบ้านเรือนไทยโบราณทั้งนั้น ที่เป็นบ้านของแต่ละครอบครัว อาจจะมีการต่อเติมบ้าง แต่สเน่ห์ของความเป็นบ้านเรือนไทยยังคงมีอยู่...

บ้านเรือนไทยที่ติดกันถึงสี่หลัง!!! ไม่เคยคิดว่าจะมีบ้านแบบนี้อยู่ เพราะบ้านเรือนไทยในความคิดก็คืออยู่หลังเดียว เดี่ยว ๆ แต่นี่ติดกันแบบที่เดินเชื่อมบนบ้านถึงกันได้เลย สบายๆ ไม่ต้องคอยขึ้น ๆ ลง ๆ แวะไปอีกบ้าน เพราะบ้านที่ติดกันส่วนใหญ่คือเป็นญาติกันอยู่แล้ว และอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่

แวะมาดูการทำไม้กวาดใยมะพร้าว ที่ทำกันด้ามต่อด้าม และรับประกันการใช้งานกันเป็น 10 ปี

เป็นไม้กวาดชนิดที่ว่าใช้กันยันลูกโตเลยทีเดียว คุ้มค่าและสวยงามมาก...

แวะมาชอป ที่กลุ่มจักสานผักตบชวา ที่เราสามารถมาดู มาหัดลองทำ หรือใครอยากเรียนก็มา ได้มาลงมือทำกันจริง ๆ แต่ถ้าใครไม่ถนัดทำถนัดซื้ออย่างเดียวก็ได้ ถือว่าอุดหนุนกลุ่มของชุมชนด้วย...

กระเป๋าน่ารักมาก ที่สำคัญราคาถูกมากกกกกกกกกกก ใบนี้ใบละ 100.-บาท

มาถึงที่ก็ต้องมาขอดูสูตร เอ๊ย!!! มาลองทำขนมสาลี่เมืองสุพรรณกันหน่อย เข้าใจเลยว่าทำไมถึงอร่อย เพราะต้องใช้แรงอย่างมากในการตีแป้งให้ฟู แถมไม่ใช่ใช้เครื่องตีไฟฟ้าด้วย แรงคนล้วน ๆ จ้า...

การนึ่งก็ยังคงเป็นเตาถ่าน ทำเสร็จก็กินกันตรงนั้น ร้อน ๆ หอม นุ่ม อร่อยยย...

ขนมอีกอย่างที่เราได้ลองทำคือ ขนมไข่นกกระสา ขนมมงคลที่ทำมาจากวุ้น และทองหยอด และใช้ไข่เป็ดเป็นแม่พิมพ์ ที่มาของชื่อขนมไข่นกกระสา เพราะเขาบอกว่านกกระสาเป็นนกที่รักเดียวใจเดียวนั่นเอง เลยนิยมเอามาใช้งานแต่งงาน...

ขนมสาลี่อุ่น ๆ จากเตา และขนมไข่นกกระสาสด ๆ ใหม่ ๆ เลยจ้า....

กิจกรรมของที่นี่ยังไม่หมด มานั่งเรือล่องแม่น้ำท่าจีนหรือแม่น้ำสุพรรณกันต่อ ระยะทางล่องเรือประมาณ 2 กิโลเมตร ระหว่างทางก็จะเจอวิถีชีวิตของชาวบ้านกับสายน้ำ ทั้งเจอคนมาจับปลา เด็ก ๆ มาโดดน้ำเล่นกัน แถมยังมีค้างคาวแม่ไก่ และนกปากห่างมาอาศัยอยู่ด้วย

เส้นทางการล่องเรือของเรามาจบกันที่วัดบางเลน หรืออีกชื่อว่า วัดเกาะแก้ววงเดือน

ข้างในวัดมีมณฑป ซึ่งมีรูปหล่อของหลวงพ่อไข่ หลวงพ่อทองหยด และของใช้โบราณต่าง ๆ ให้เข้ามาชม

กิจกรรมลุย ๆ และสนุกสนานมาก ๆ อีกอย่างของที่นี่คือ การนั่งรถอีแต๋นชมวิวตาลร้อยต้น ใครจะนั่งรถอีแต๋นตอนชมวิวเย็น หรืออยากจะปั่นจักรยานชมบรรยากาศที่นี่ตอนเช้าอีกด้วยก็ได้...

มานั่งรถเล่น เดินถ่ายรูปเล่นก็เพลิน วิวทุ่งนา ทุ่งข้าว พอหมดฤดูเกี่ยวข้าวก็จะเปลี่ยนจากทุ่งข้าวเป็นนาน้ำ สะท้อนวิวตาลร้อยต้น กับสายน้ำในทุ่งนา สวยไปอีก...

พรอบ หมวกกางเกง เตรียมมาให้พร้อม....

มาปิ้งกุ้งกินกันริมนาก็ฟิน ใครจะซื้อกุ้งมา หรือจะให้ที่บ้านพักเตรียมไว้ให้ก็ได้นะ แต่แจ้งล่วงหน้าด้วยเน้อ

กินกุ้งเผาสด ๆ กับตาลลอยแก้วใต้ต้นตาล รับลมเย็น ๆ บนรถอีแต๋น ประสบการณ์ใหม่ ไฉไลสุด ๆ

อาหารการกินที่โฮมสเตย์จัดเต็มมาก ๆ ที่ชุมชนนี้ขึ้นชื่อเรื่องการเลี้ยงปลาสลิด ถ้าเราโชคดีอาจจะได้ไปดูการเลี้ยง การจับปลา แต่ถ้าโชคดีมากกว่านั้นคือเราจะได้กินปลาสลิดทอดสด ๆ เมนูอาหารเราสามารถคุยกับทางที่พักได้เลยด้วยว่าอยากทานอะไร หรือไม่ทานอะไร พ่อ ๆ แม่ ๆ เจ้าของบ้านใจดีมากแจ้งกันไว้ก่อนจะได้กินอาหารอร่อย ๆ กันเต็มที่แบบเรานะ

นั่งกินกันในสวนหน้าบ้านนี่แหละ สบาย ๆ สไตล์โฮมสเตย์

ลุยกิจกรรมมาหนัก ๆ เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวบอกเจ้าของบ้านโทรตามหมอนวดมานวดกันที่บ้านได้เลย...คอสละ 2 ชั่วโมง 300 บาท อยากบอกว่าใครชอบนวดแบบหนักๆ จับเส้นแบบเน้นๆ นี่ควรลอง!!!

จบแล้วกับการเปิดประสบการณ์นอนโฮมสเตย์เรือนไทยครั้งแรกของเรา แต่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายแน่นอน เพราะถ้ามีโอกาสก็จะกลับไปอีก และขอบคุณทีมงานชื่นใจไทยแลนด์ และพ่อๆ แม่ๆ ที่โฮมสเตย์ พาเราไปชื่นใจกับบรรยากาศวิถีชาวบ้านกันที่ ชุมชนท่องเที่ยวเรือนไทยบางแม่หม้ายโฮมสเตย์ ใครสนใจอยากตามรอยมาที่นี่

ติดต่อทางชุมชนได้เลย ที่เบอร์ 089-981-5046, 081-198-7401 บอกเลยว่ามาแล้วจะประทับใจไปกับความน่ารักของที่นี่แน่นอน...