สวัสดีคะ นี่คือทริป 10 วันของเรา เราเริ่มต้นกันที่นี่ ... เชี่ยวหลานนนนนน...
เราเริ่มต้นกันตอนที่ เอ๊ะ โปร ตั๋วเครื่องบินโปร ไปกลับคนละไม่ถึงเจ็ดร้อยยยยยย ว่าไงละ จองเลยจ้ะ เมื่อเราทำการจองตั๋วเครื่องบินแล้ว ก็มาวางทริปเอ้ยยยยย วางไปวางมาเลยวันกลับ 555 ช่างตั๋วมัน กลับรถทัวร์ก็ได้
เอาละค่ะ มาเริ่มกัน เราเริ่มเดินทางกันจากสนามบินดอนเมือง ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงสนามบินสุราษฎ์ธานี
เราก็มาหารถเข้าเมืองกัน โดนด้านหน้าของสนามบินจะมีรถบีสโดยสารเข้าเมือง 100 บาทเองนะ
เราลงเดินจากหน้าปากทางนิดหน่อยก็ถึงที่พักแล้วค่ะ ที่พักที่นี่ไม่แพง เรามากัน 3 คน ใช้ 1 ห้องราคาตกคนละ 257 บาทต่อคืนเอง
เมื่อเราทำการเก็บของเข้าที่พักเรียบร้อยก็ถึงเวลาหาของอร่อยๆทานกัน
ป่ะ ! เราโบกรถสองแถวกัน
ร้าน Lucky Restaurant (ภัตตาคารลัคกี้) เป็นร้านอาหารชื่อดังในตัวเมือง รสชาติอร่อยสุดๆ ฟุ้งด้วยกลิ่นกะปิใต้
เมื่อเราทานกันจนอิ่ม เติมพลังไว้สำหรับการเดินทางในวันพรุ่งนี้ วันนี้ราตรีสวัสดิ์นะคะ
วันนี้เราเริ่มเดินทางด้วยรถตู้ เราโทรนัดให้รถมารับที่โรงแรมไปส่งที่ท่าเรือเชี่ยวหลาน ในราคา 150 บาท
เมื่อเรามาถึงก็แวะมาเช็คอินกับเรือ แล้วทำการลงเรือกันเลย
การล่องเรือในเขื่อนเชี่ยวหลานควรสวมชูชีพด้วยนะคะ เพราะน้ำที่นี่ลึกมากๆ ด้วยความห่วงใย จุ๊ฟๆ
เราล่องเรือกันไปเรื่อยๆ คือมีความตื่นเต้นตั้งแต่ลงเรือมา เจอน้ำที่ใส โคตรใสอะไรแบบนี้ เหมือนกับน้ำทะเลเลย สีเขียวมรกต สวยสุดๆ อีกทั้งมีภูเขาสูงตระหงง่านสวยงามด้วยต้นไม้ แสงแดดที่สาดส่องลงมา โอ้ยยยยยยยยยยยยย ฟินสุดๆไปเลย
เรือของเราก็พาเรามาแวะถ่ายรูปกับเขาสามเกลอ
แวะพักชมปลาตะเพียนหางแดง แล้วเดินทางต่อสู่จุดหมายต่อไปกัน
เราขั้นมาบนแพสายชล แล้วมาพายเรือคายักเล่นกันก่อน
มาค่ะ ต่อมาขึ้นมาทานอาหารบนแพกัน คืออาหารดีมาก เยอะมาก อร่อยมากกกกกกกก
แล้วเราก็ล่องเรือต่อมากันที่ ถ้ำปะการัง จอดเรือกันก่อนแล้วเดินเท้ากันต่อ
ก่อนอื่นต้องซื้อน้ำเย็นๆ เพราะทางข้างหน้าจะเป็นยังไง ใครเล่าจะไปรู้ๆๆๆ
ป่ะเริ่มเดินกันเลย
เห็นแบบนี้ทางเดินที่นี่โอเคอยู่นะคะ ดินบ้าง หินบ้าง เดินขึ้นบ้าง ลงบ้าน ขรุขระเป็นระยะ เรียบๆก็พอมีให้มีเหงื่อซิกๆกันนิดหน่อย
ตอนนี้เราเดินผ่านเห็นเค้าดุอะไรกันนะ อ้อ ค่าง ค่างอยู่บนยอดไม้ และระหว่างทางเราจะได้ยินเสียงธรรมชาติเสียงสัตว์อยู่เป็นระยะๆ แลัวก็เจอผีเสื้อเยอะแยะเลยค่ะ
I am butterfly ><
เราเดินกันต่อมาเรื่อยๆก็ถึงแล้ว จุดที่เราะมานั่งแพต่อไปที่ถ้ำปะการัง
พร้อมเเล้ว หายเหนื่อยแล้วก็ลงแพกันเลย เราล่องไปเพียงนิดเดียวก็ถึงแล้ววววว
เราเดินขึ้นกันอีกนิดหน่อย ก็ได้เข้าถ้ำแล้วค่ะ
เข้าไปชมภายในถ้ำปะการังกัน ภายในถ้ำมืดมากๆมีเพียงแสงไฟจากไกค์และโทรศัพท์ของเราเท่านั้น
เมื่อเข้าไปเดินถ้ำเสร็จเราก็เดินทางออกจากจากเชี่ยวหลานโดยเรือลำเดิม ในวันนี้แพ็กเกจของเราทั้งหมดตั้งแต่ขึ้นเรือมา 1300 บาทต่อคนนะคะ และเราก็โทรให้พี่รถตู้มารับ กลับที่พัก ราคารถ 150 บาทเช่นเดิม เมื่อเรากลับไปพักผ่อนเย็นนี้เรามาเดินเที่ยวกันที่ตลาดศาลเจ้า มาหาของอร่อยๆทานกันค่ะ
เราเริ่มต้นกันที่ผัดไทยที่แสนจะหอมกลิ่นน้ำตาลมะพร้าว
ตามด้วยยยยยยยยย ...
ด้วยยยยยยยยยย ...
และฝันดีด้วยยยย ...
เมื่อเราตื่นเช้ามาก็ลุยกันต่อที่ร้านติ่มซำเลย ><
ข้อมูลเพิ่มเติม
เขาสก หรือ เขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) จังหวัดสุราฎร์ธานี ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก ลักษณะเป็นภูเขาหินปูน ยอดแหลม แนวหน้าผาสูงชัน กลางสายน้ำของเขื่อนเชียวหลาน บรรยากาศสวยงามจนได้รับสมญานามว่า กุ้ยหลินเมืองไทย ภาพภูเขารายล้อมเขื่อน นอนแพพายเรือคายัคและกิจกรรมต่างๆ สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ซึ่งในแต่ละฤดูก็มีความสวยงามที่แตกต่างกันไป
ถ้ำปะการัง ตั้งอยู่ในเขื่อนรัชชประภา เป็นถ้ำที่อยู่ทางด้านใน มีลักษณะแบบเดียวกันกับถ้ำน้ำลอดหรือถ้ำทะลุ เป็นถ้ำที่มีน้ำไหลผ่านตลอดทั้งปี ภายในถ้ำมืดสนิท มีหินงอก หินย้อย ซึ่งสาเหตุที่เรียกว่าถ้ำปะการัง ก็เพราะว่าภายในถ้ำจะมีหินงอกหินย้อยแตกหน่อเล็ก ๆ คล้ายกับปะการังในทะเล ราวกับอยู่ในท้องทะเล จากการสำรวจในเบื้องต้น หินย้อยรูปประหลาด ซึ่งจากคำบอกเล่าของชาวบ้าน ก็ได้ความว่าถ้ำแห่งนี้เคยอยู่ใต้ท้องทะลมาก่อน หินงอกหินย้อยต่าง ๆ ภายในถ้ำ จึงกลายเป็นเหมือนกับปะการัง และยังได้พบฟอสซิลสัตว์ทะเลเซลล์เดียวอายุประมาณ 250 – 400 ล้านปี ในหินปูน ซึ่งคาดว่าเคยเป็นทะเลดึกดำบรรพ์ของโลก สภาพภายในถ้ำสมบูรณ์และสะอาดมาก ๆ ไม่ค่อยมีกลิ่นมูลค้างคาวหรือกลิ่นอับเหมือนกับถ้ำทั่ว ๆ ไป
ทริปของเรายังไม่จบแค่นี้นะคะ นี่แค่ 3 วัน 2 คืน เดี๋ยวเราจะเดินทางต่อหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จไปที่ หาดใหญ่ จ.สงขลา กันพักฟื้นกัน 1 คืน เช้าๆไปเดินตลาดกิมหยง แล้วนั่งรถไปต่อกันทที่เกาะหลีเป๊ะ !
ตามรีวิวอันนี้เลยค่ะ ไปกันเถิดหนาออเจ้า...
ME' Art X Traveller.
วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 00.32 น.