สามร้อยยอด
ล่องเรือ-ปีนเขา-เข้าถ้ำ
สามร้อยยอด ถ้าพูดถึงชื่อนี้ อดิว่าหลายคนน่าจะต้องรู้จักและคุ้นหูกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นอำเภอหนึ่ง ของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่เวลาอดิวางแผนไปเที่ยวทางใต้ทีไร ถ้าไม่แวะพักที่หัวหิน ก็ปราณบุรี หรือไม่ก็จะขับยิงยาวเลยไปตัวเมืองประจวบ ทับสะแก หาดบ้านกรูดไปเลย ทำให้สามร้อยยอดเป็นสถานที่ที่หลายๆคนรู้จัก และอาจจะเคยขับรถผ่านเวลาลงใต้ แต่ยังไม่เคยลองแวะเที่ยวสักที
สำหรับทริปนี้อดิได้เล็งที่พักที่อยู่ในลิสต์เที่ยวของอดิว่าจะต้องมาเที่ยวให้ได้ พอดีโฮมสเตย์แห่งนี้ ตั้งอยู่ในบริเวณสามร้อยยอด พอดีเลยครับ ทำให้ทริปนี้เลยปักหมุดกันว่าเราจะมาชิลกันที่ สามร้อยยอด อดิเลยลองหาข้อมูลที่เที่ยวขอบอกว่าที่เที่ยวเยอะมากๆ จนแบบมา 2 วันยังไงก็เที่ยวไม่หมดแน่
เริ่มต้นทริป เราเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ เราไปตรงกับช่วงวันหยุดสงกรานต์เลยทำให้การเดินทางค่อนข้างใช้เวลามากกว่าปกติ เราไปถึงที่สามร้อยยอดประมาณบ่ายโมง เลยขอแวะไปเที่ยวสถานที่เที่ยวที่เป็น Unseen Thailand ก่อนเข้าที่พัก สถานที่แรกเราแวะกันที่ ถ้ำพระยานคร ก่อนเข้าไปจอดรถจะมีจุดเก็บเงินบำรุงวัด 20 บาท จากนั้นก็เข้าไปหาที่จอดกันได้ตามสบาน หาที่ร่มๆไว่หน่อยก็ดีนะครับ เพราะว่าเราใช้เวลาเที่ยวนานพอสมควร ประมาณ 2 - 3 ชม. แล้วแต่สภาพร่างกายของผู้ร่วมทริป ก่อนเข้าก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมอุทยานคนละ 40 บาท จ่ายแล้วเก็บบัตรไว้ให้ดีนะครับเพราะสามารถเที่ยวได้ทุกจุดในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดภายในวันเดียวกัน
ซื้อตั๋วเข้าอุทยานเรียบร้อยเตรียมไปเที่ยวถ้ำพระยานครกัน
ถ้ำพระยานคร
เป็นถ้ำขนาดใหญ่ บนเพดานถ้ำมีปล่องให้แสงสว่างลอดเข้ามาได้ จุดเด่นของถ้ำแห่งนี้ คือ “พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์” เป็นพลับพลาแบบจตุรมุข สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 คราวเสด็จประพาสเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2433 เป็นฝีพระหัตถ์ของพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าขจรจรัสวงศ์ ทรงสร้างขึ้นในกรุงเทพฯ แล้วส่งมาประกอบทีหลังโดยให้พระยาชลยุทธโยธินเป็นนายงานก่อสร้าง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จมายกช่อฟ้าด้วยพระองค์เอง ที่กำแพงหินด้านขวามีพระปรมาภิไธยย่อในรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7 เป็นตัวหนังสือใหญ่สีขาวสะดุดตา พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์นับเป็นจุดเด่นของถ้ำพระยานคร และเป็นตราประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในปัจจุบัน
การเดินทางไปยังถ้ำพระยานคร
วิธีที่ 1 : เดินตลอดทาง
สามารถเดินตามเส้นทาง จากจุดจำหน่ายตั๋ว ไปตามไหล่เขาโดยจะต้องขึ้นเขา 2 ลูก ทางนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่เร่งรีบมีเวลาเยอะและมีสุขภาพแข็งแรงหน่อยนะครับ
วิธีที่ 2 : เรือ+เดิน
ใครที่มีเวลาไม่เยอะสามารถทุนเวลาด้วยการนั่งเรือเพื่อข้ามจาหาดบางปู ไปส่งบริเวณหาดแหลมศาลา และสามารถเดินไปขึ้นเข้าลูกที่ 2 ราคาเรือ (ไป-กลับ) ลำละ 400 บาท นั่งลำละ 6 คน
อดิเลือกวิธีที่ 2 นะครับ ขอบอกเลยว่าคิดถูกมากๆ เพราะแค่ขึ้นเขาลูกเดียวก็เหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกัน แต่ถ้าใครอยากเดินเล่นชมวิวธรรมชาติ มีเวลาหน่อยก็เลือกทางแรกได้นะครับ
เตรียมตัวเดินไปลงหาดบางปูไปลงเรือกันดีกว่า
ลงเรือใส่ชูชีะเรียบร้อยออกเดินทางกันเลย
ใช้เวลาแค่ 5 นาที เรือก็พาเรามาขึ้นที่หาด ตรงนี้ต้องเตรียมตั๋วเข้าอุทยานให้ จนท.ตรวจด้วยนะครับ
ตรงขึ้นไปถ้ำมีค่างแว่นถิ่นใต้มาคอยต้อนรับ
ต้องเดินเท้าขึ้นไประยะทาง 430 ม.
ทางเดินก็จะประมาณนี้นะครับ ได้เหงื่อพอตัวเลย
ระหว่างทางมีจุดแวะพักเหนื่อย ชมวิวกันสักหน่อยค่อนเดินต่อ
หายเหนื่อยแล้วเดินต่อกันดีกว่า
ถ้าเจอป้ายนี้อีกรอบก็ใกล้ถึงละครับ จากนี้จะเป็นทางเดินลงไปยังถ้ำอีกไม่ไกล
มีแสงสว่างจากช่องหิน
เข้ามาถึงด้านไหนแล้วสวย คุ้มค่าเหนื่อยมากๆ
"พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์” เป็นพลับพลาแบบจตุรมุข สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 คราวเสด็จประพาสเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2433 เป็นฝีพระหัตถ์ของพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าขจรจรัสวงศ์ ทรงสร้างขึ้นในกรุงเทพฯ แล้วส่งมาประกอบทีหลัง โดยให้พระยาชลยุทธโยธินเป็นนายงานก่อสร้าง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จมายกช่อฟ้าด้วยพระองค์เอง
พระปรมาภิไธยย่อในรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7
หินจระเข้
แสงส่องมาบริเวณช่อง บริเวณนั้นจะมีต้นไม้เขียวชูต้นสูงแย่งกันรับแสงแดด หลังจากเดินเล่นภายในถ้ำสักพักเราก็เดินทางกลับโดยย้อนไปทางเดิม ใช้เวลาไม่นานเท่าตอนขึ้นมา แต่ก็ต้องระมัดระวังเวลาเดิน เพราะหินบางจุดจะลื่นอยู่เหมือนกัน
บริเวณที่ทำการอุทยานมีจุดให้กางเต็นท์ด้วยครับ หาดตรงนี้น้ำใส่น่าเล่นมากๆ
เรือมาแล้วกลับกันดีกว่าครับ
พร้อมแล้วออกเดินทางกลับกันดีกว่าครับ
ข้อแนะนำในการมาเที่ยวชมถ้ำพระยานคร
-ทาครีมกันแดดมาด้วยนะครับเพราะมีช่วงที่ต้องโดนแดดเวลาขึ้นลงเรือ
-ใครที่จะลงเรือแนะนำให้ใส่ขาสั้นเพราะต้องเดินลุยลงทะเลช่วงขึ้นลงเรือ
-พกน้ำดื่ม ผ้าเย็น ยาดมไปด้วยก็ดีนะครับเผื่อฉุกเฉินระหว่างเดินขึ้นเขา
-ใส่รองเท้าผ้าใบ รองเท้าแตะไม่แนะนำนะครับ เพราะว่าต้องเดินขึ้นเขา
หลังจากเที่ยวถ้ำพระยานครเสร็จเราก็เดินทางไปที่พักของเราทริปนี้ ลุงชาโฮมสเตย์ กันดี
ลุงชาโฮมสเตย์
ที่พักของลุงชาบรรยากาศดีมากๆครับ ตั้งอยู่ริมทุ่งสามร้อยยอดเลยครับ ที่นี่ห้องพักจะมีแค่ 3 ห้องเท่านั้น โดยราคาห้องพักจะรวมอาหาร 2 มื้อ (เช้า-เย็น) ไว้ให้ด้วยนะครับ
เลี้ยวเข้าซอยสามร้อยยอด 10 มาแล้วจะเจอทางเข้ารีสอร์ทขับไปประมาณ 2 กม.
มาถึงแล้วครับที่พักของเรา
ที่นี่มีห้องพักแค่ 3 หลังเท่านั้น
ภายในห้องพักไม่มีแอร์นะครับ มีพัดลม แล้วก็มุ้งให้กันยุง
ศาลานั่งรับลมเย็นๆ ชมวิวสวยๆ
ระหว่างรอก็มาถ่อเรือเล่นกันซะหน่อย อยากเอาเรื่องเหมือนกันนะครับ
ปลานิลสดๆ จากทุ่งสามร้อยยอด วัตถุดิบสำหรับมื้อเย็นของเรา
อาหารมื้อเย็นของเราจากปลาสดๆที่พี่แก้มเจ้าของหามาจากในทุ่ง ปรุงแบบง่ายๆแต่รสชาติอร่อยเลย
พระอาทิตย์ตกยามเย็นวิวสวยมากๆครับ
ตื่นเช้ามาจิบกาแฟก่อนออกไปล่องเรือชมวิวทุ่งสามร้อยยอดกัน
พี่แก้มถ่อเรือออกพาเราไปชมทุ่งสามร้อยยอดด้วยตัวเองเลยครับ
วิวสวยๆของบึงบัวสามร้อยยอด
ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 2 ชม. หลังจากนั้นเราก็เช็คเอาท์ออกไปเที่ยวที่สามร้อยยอดกันต่อ
ลุงชา โฮมสเตย์
สามร้อยยอด อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
โทร : 083-317 5319
Facebook : Lungcha Homestay
ค่าใช้จ่าย
ห้องละ 1,200 บาท/คืน รวมอาหาร 2 มื้อ (เช้า-เย็น)
นั่งเรือชมธรรมชาติ : ลำละ 800 บาท เรานั่ง 6 คน ตกคนละ 150 บาท
การเดินทาง
ทางรถยนต์
ใช้ถนนจากปราณบุรี-สามร้อยยอด เข้าซอยสามร้อยยอด 10 จากนั้นขับไปตามทางประมาณ 2 กม. จะเจอป้ายลุงชาโฮมสเตย์ ให้เลี้ยวซ้าย เข้าไปประมาณ 2 กม. ช่วงแรกจะเป็นถนนลาดยาง แล้วก็จะเจอทางลูกรังนิดหน่อย ขับระมัดระวัง ผมขับรถเก๋งมาเข้าได้สบายครับ พอไปถึงแล้วฟินเว่อ
รถประจำทาง
ใครอยากมาแต่ไม่มีรถก็มาได้นะครับ แค่นั่งรถตู้หรือรถทัวร์มาลงที่โลตัสปราณบุรี แล้วนัดให้พี่แก้มมารับได้ครับ พี่แก้มคิดเที่ยวละ 500 บาท
อ่านรีวิวเต็ม ลุงชา โฮมสเตย์ >> https://th.readme.me/p/16334
หลังจากเช็คเอาท์เสร็จเรียบร้อยโปรแกรมวันนี้ของเราคือ ขึ้นไปชมวิวสวยๆ ที่ จุดชมวิวเขาแดง แต่ก่อนถึงจุดชมวิวเขาแดง ใครที่อยากล่องเรือชมวิวคลองเขาแดง ชมวิถีชีวิตของชาวบ้าน ก็สามารถแวะเที่ยวตรงนี้ก่อนได้นะครับ
คลองเขาแดง
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวภายในอำเภอกุยบุรี ซึ่งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสธรรมชาติของป่าชายเลน พันธุ์พืช สัตว์นานาชนิด วิถีชีวิตของผู้คนในพื้นที่ ตลอดถึงการพักผ่อนหย่อนใจกับสองฝั่งคลอง นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือโดยลงเรือที่ท่าน้ำหน้าวัดเขาแดง ล่องไปตามลำคลอง ประมาณ 3-4 กม. ใช้เวลาเดินทางไป-กลับ ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง มีนกนานาชนิดให้ชม เวลาที่ เหมาะแก่การล่องเรือคือประมาณ 16.30 - 17.00 น. เพราะอากาศไม่ร้อนและ สามารถ ชมพระอาทิตย์ตกได้อย่าง สวยงาม ราคาเรือลำละ 400 บาท นั่ง ได้ 6 คน
หลังจากแวะไหว้พระที่วัดคลองเขาแดงเสร็จแล้วเราขับไปต่อเพือไปจุดชมวิวเขาแดง
จุดชมวิวเขาแดง
อยู่บนยอดเขาหนึ่งของเขาแดง สำหรับเวลาที่เหมาะแก่การขึ้นชมวิวคือตอนเช้ามืดประมาณ 5.30 น. เพราะสามารถชม พระอาทิตย์ขึ้น เหนือขอบทะเลบ้านเขาแดงและทัศนียภาพรอบๆได้ดี ระยะทางเดินประมาณ 500 เมตร ใช้เวลา เดินทางประมาณ 30 นาที ตลอดจน ระหว่างทางถ้าโชคดีอาจจะเจอค่างแว่นถิ่นใต้ที่จะออกมาหาอาหารกันด้วยก็ได้
ทางเข้าจุดชมวิวเขาแดงจะถึงก่อนที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด
ถึงแล้วจอดรถเตรียมตัวปีนเขากันครับ
ทางขึ้นก็จะมีโขดหินให้เดินเลาะขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ที่นี่จะลมเย็นกว่าตอนที่เราไปถ้ำพระยานคร
ให้สังเกตุทางไปจะมีลูศรคอยบอกทางอยู่ครับ
ระหว่างทางเราก็เจอกับฝูงค่างแว่นถิ่นใต้กำลังมาหาอาหารกินกันเลยแวะพักแล้วก็ถ่ายรูปไปด้วย
เจ้าถิ่นมาคอยต้อนรับนักท่องเที่ยว
บริเวณนี้มีต้นตระบองเพชรขึ้นอยู่เยอะเลยครับ
และแล้วเราก็มาถึงจุดหมายของเราครับจุดชมวิวเขาแดง
ขึ้นมาสูงขนาดนี้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกซะหน่อย
ขึ้นมาเนินหินอีกฝากก็เห็นวิวสวยมากๆครับ
เดินลัดเขามาอีกฝากก็จะเจอกับวิวของวัดคลองเขาแดงและคลองเขาแดง
วิวจากมุมสูงสวยมากๆเลยครับ ขึ้นมาแล้วหายเหนื่อยเลย
หลังจากชมวิวเขาแดงเสร็จเราก็มาแวะที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดกัน
ด้านหลังที่ทำการอุทยานจะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนให้เราได้เดินชมธรรมชาติกัน
หลังจากที่อดิได้แวะเข้ามาเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดแล้ว บอกเลยครับว่าเราพลาดอะไรดีไปมานานมาก เพราะที่นี่มีธรรมชาติที่งดงาม มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้เราได้มาเที่ยวชมกัน แถมได้มาชมวิถีชีวิตของผู้คนที่เรียบง่าย ทำให้การท่องเที่ยวของเราทริปนี้ เราได้มาสัมผัสกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง ใครอยากจัดทริปแบบชิลๆ แอดเวนเจอร์หน่อยๆ อดิแนะนำให้ลองมาเที่ยวสามร้อยยอดดูนะครับ รับรองว่ามาแล้วจะต้องหลงรักที่นี่แน่นอน แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้านะครับ
เพื่อนที่เข้ามาอ่านแล้วชอบฝากเข้ามากดถูกใจเพจผมได้ที่นี่เลยครับ >> ChillWithAdi : อดิพาชิล
แล้วมาเป็นเพื่อนเที่ยวแบบชิลๆ ไปกับอดินะครับ
อดิพาชิล
วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 10.45 น.