วันเดียวเที่ยวจบ!! กับ 3 แบบ 3 อารมณ์ 3 จุดเช็คอิน
เหมาะสำหรับสายลุย!! สายถึก!! สายเวลาเที่ยวน้อย!! ที่ควรมาอย่างยิ่ง

ด้านหน้าเป็นวิวทะเล ด้านหลังเป็นวิวเขาหินปูน
กับความอยากที่จะไปเห็นพระอาทิตย์ขึ้นทีี
“จุดชมวิวเขาแดง”

สายๆ หน่อยก็ไป “ถ้ำพระยานคร”
อยากสบายก็นั่งเรืออ้อมเขา หรือมีแรงเหลือร่างกายฟิต
เดินข้ามเขาไป 2 ลูก ก็ได้เหมือนกัน แต่!!…
เก็บแรงไว้เดินขึ้นถ้ำอีก 430 เมตร ด้วยนะ ชันเอาเรื่อง!!!

ปิดท้ายที่ “หาดสามพระยา”
หาดเงียบสงบ และพบว่า ไม่มีพ่อค้าแม่ค้ามาคอยกวนใจ
จะมานั่งชิล เดินเล่น หรือจะมากางเต็นท์
ก็อย่าลืมมาชิมแกงส้มใบชะคราม ที่ร้านของอุทยานนะ หรอยแรงนิ

คำแนะนำ!

⚠️ ร้องเท้าที่ใส่เดินขึ้นเขาควรเป็นรองเท้าผ้าใบ เพราะหินขรุขระ ค่อนข้างคม บางจุดอาจลื่นล้มได้ ขนาดใส่รองเท้าดีดีแล้วยังปวดฝ่าเท้ามาก!!

⚠️ เตรียมน้ำดื่ม ยาดม ยาลมให้พร้อม!! เพราะด้านบนไม่มีขายนะจ๊ะ

⚠️ ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรระมัดระวังอย่างยิ่ง

---

"จุดชมวิวเขาแดง"

มาถึงอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดตอนตี 5 กว่าๆ บนท้องฟ้าก่อนรุ่งเช้ายังคงมีดวงดาวให้เห็นอยู่ก่อนที่แสงแรกของวันกำลังจะมาในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

ก่อนขึ้นมาแนะนำควรเช็คเวลาที่พระอาทิตย์จะขึ้นให้ดี จะได้กะเวลาได้แบบไม่ต้องเร่งรีบมากค่ะ

เช้าวันนั้นแอพพยากรณ์อากาศบอกเราว่า พระอาทิตย์จะขึ้นตอน 06.07 น. กว่าจะเข้าห้องน้ำ ทำธุระเสร็จ ก็ได้เดินขึ้นเขาตอน ตี 5 ครึ่งแล้ว เพราะฉะนั้นมีเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั่น

ระยะทาง แค่ 750 เมตร ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ต้องหยุดพักเหนื่อยหลายครั้ง เนื่องจากสภาพทางเดินขึ้นไปเป็นหินขรุขระ บางจุดต้องปืนป่าย และค่อนข้างชัน

(ภาพจากตอนลงจากเขา)

ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง (รีบมากกลัวไม่ทันพระอาทิตย์ขึ้น) เราก็มาถึง "จุดชมวิวเขาแดง" เย้!!!! ลืมที่เหนื่อยไปได้เลยเมื่อเจอวิวที่อยู่ตรงหน้า มองงงง....ไปด้านทิศตะวันออกจะได้เห็นวิวชายฝั่งทะเลอ่าวไทย มองงง...ไปด้านทิศตะวันตกจะเห็นเทือกเขาหินปูนเรียงสลับซับซ้อน

พระอาทิตย์ยังคบแอบอยู่หลังเมฆ ไม่โผล่ออกมา ก็ยังพอมีเวลาใ้ห้เรานั่งพักจิบน้ำให้หายเหนื่อยอยู่บ้าง แต่รอไม่นาน พระอาทิตย์ก็ขึ้นแล้ววววว

ใช้เวลาเก็บความทรงจำบนจุดชมวิวเขาแดงจนพอใจ เราก็ไปต่อกันที่....

---

"ถ้ำพระยานคร" เป็นที่ตั้งของ "พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์"
สร้างในสมัย รัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จประพาสเมื่อปี 2433

วิธีการเดินทางไปถ้ำพระยานครมี 2 แบบ คือ!!
1) เดินข้ามเขา 1 ลูก ระยะทางประมาณ ครึ่งกิโล เพื่อไปยังหาดแหลมศาลา จากนั้นเดินเท้าขึ้นลูกที่ 2 ไปอีก 430 เมตร
2) เหมาเรือชาวบ้านไป ราคาไปกลับ 400฿ นั่งได้ไม่เกิน 6 คน เรือจะขับอ้อมเขาไปส่งเรายังหาดแหลมศาลา แล้วเดินเท้าขึ้นเขาไปอีก 430 เมตร

เราเลือกวิธีนั่งเรือไปค่ะ เรือจะมารับเราตามคิว ขึ้นเรือแล้ว สวมชูชีพให้เรียบร้อย เรือกันแล่นอ้อมเขาไปยังหาดแหลมศาลา

ไม่พูดพร่ำทำเพลง เรามาเดินขึ้นเขากันเลย เริ่มแรกเป็นทางเรียบๆ ง่ายๆ เป็นอุโมงค์ต้นไม้ แล้วทางก็เริ่มชันขึ้น และมีหินขรุขระจำนวนมากตลอดเส้นทาง ระยะ 430 เมตร เป็นระยะที่สั้นกว่าจุดชมวิวเขาแดง แต่ก็เหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกัน

ใช้เวลาประมาณครึ่งชัวโมงเราก็มาถึงทางเข้าถ้ำพระยานครค่ะ บรรยากาศภายในถ้ำเย็นสบายมากกก แตกต่างกับทางที่เราเดินขึ้นมา

"สะพานมรณะ" ชื่อน่ากลัวมาก เรียกอย่างนี้ก็เพราะเมื่อก่อนสัตว์ป่าจะใช้เป็นทางเดินข้ามไปมา ตัวไหนที่ตกลงมารับรองว่าไม่เหลือชีวิตค่ะ!

ถ้ำแห่งนี้ถูกค้นพบโดยเจ้าพระยานคร จากเมืองนครศรีธรรมราช ใช้ชายหาดแห่งนี้เป็นที่หลบพายุขณะกำลังแล่นเรือผ่านเขาสามร้อยยอด

และนอกจากรัชกาลที่ 5 เสด็จมาที่นี่แล้ว รัชกาลที่ 7 และ รัชกาลที่ 9 ก็เคยเสร็จมาที่นี่ด้วยเช่นกันค่ะ "พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์" เป็นจุดเด่นของถ้ำพระยานคร และเป็นตราประจำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ในปัจจุบัน

---

"แกงส้มกุ้งใบชะคราม ที่หาดสามพระยา" ปิดท้ายทริปก่อนเดินทางกลับ กทม. เราเลือกแวะมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ผักผ่อนและทานอาการกันที่นี่ค่ะ

คุณชาคริตครับ! วัตถุดิบขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือ "ชะคราม" พืชที่พบได้ตามชายฝั่งทะเล ใบมีรสชาติเค็ม เพราะดินเค็ม เพิ่งเคยกินแกงส้มใบชะครามครั้งแรก หน้าตาคล้ายๆ ใบชะอมอยู่นะ รสชาติเด็ด!! แต่อาจไม่เท่าแกงส้มใต้ แต่ก็แซ่บอยู่นะ

หาดสามพระยาตั้งอยู่ในเขตอุทยานเขาสามร้อยยอด ไม่มีพ่อค้ามาค้ามาตั้งร้านขายอาหารเลย ผู้คนไม่พลุกพล่าน จึงทำให้ชายหาดแห่งนี้ดูสงบ และบรรยากาศดีมากค่ะ

ใครกำลังหาที่เที่ยวใกล้ๆ แบบขับรถไปได้ไม่ไกลมาก สามร้อยยอดก็เป็นทางเลือกที่ดี ที่ใครอยากจะเที่ยวทั้งภูเขาและทะเลไปพร้อมๆ กัน ลุยยยยค่ะ ^^

---

ขอบคุณหรับการติดตามค่ะ ^^
ใครที่ชอบการเดินทางลุยๆ แบบนี้ ติดตามกันได้ที่!!!! วันศุกร์ขึ้นเขาวันเสาร์ลงห้วย