กระทู้นี้ต้องมีหมอก
ปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ ไปฟินๆกันที่
ภู ทั บ เ บิ ก
ภูทับเบิก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเพชรบูรณ์ สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร ที่นี่อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง อพยพมาอาศัยอยู่ที่บ้านทับเบิก เราเดินทางมาถึงที่นี่ประมาณ 9 โมงเช้านิดๆ หาที่จอดรถเรียบร้อยแล้วก็เดินสำรวจพื้นที่ไปก่อน (ช่วงฤดูการท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวจะเยอะมาก ที่จอดรถก็จะหายากมากเช่นกัน) ดูจากสภาพพื้นดินแล้วก่อนหน้านี้ฝนน่าจะตกทุกวัน เพราะพื้นแฉะและเป็นโคลนมาก แบบเดินแล้วติดรองเท้ากันเลย

เราเดินมาสำรวจด้านบนก่อน ข้างบนนี้จะเป็นจุดกางเต็นท์ของวิสาหกิจชุมชน คนมากางเต็นท์บนนี้เยอะมากเลย

สำรวจพื้นที่จนพอใจสักพักล่ะ ก็ได้เวลาไปตามหา "ไร่ริมผา" อ่านรีวิวมาพอสมควร เขาว่าที่นี่วิวดีมาก เราจะไปกางเต็นท์กันที่นั่น

ระหว่างเดินลงไปที่ไร่ริมผาสภาพอากาศก็จะเป็นอย่างที่เห็นในรูปเลยค่ะ หมอกฟุ้งมากๆ สภาพอากาศขาวโพนไปหมด อุณหภูมิก็ไม่ต้องพูดถึง อยู่ที่ประมาณ 16 องศา ไม่อยากจะคิดว่าอุณหภูมิคืนนี้จะอยู่ที่เท่าไร



ค่อยๆก้าวมาจนหาจุดที่เหมาะสมสุดๆแล้วที่เราจะกางเต็นท์ (ต้องค่อยๆก้าวเพราะพื้นลื่นมาก) ที่นี่สามารถเลือกที่กางเต็นท์เองได้เลยนะคะ เรากางไปก่อนได้เลยโดยไม่ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ เพราะช่วงมืดๆเจ้าหน้าที่ของไร่จะเดินมาเก็บค่าเช่าที่ ที่เต็นท์เราเองค่ะ ราคาก็ 80 บาทถ้วน

จับจองที่กางเต็นท์เสร็จแล้ว ช่วงนี้ฝนเท่ลงมาเกือบทุกวันพื้นที่กางเต็นท์ก็อย่างที่เห็นค่ะ เรียกได้ว่า เละ!! เวลาเดินต้องระวังมากไม่งั้นก็จะลื่นตูดเปื้อนโคลนแน่นอน

มีที่นอนแน่ๆแล้วก็ออกเดินเที่ยวรอบๆซะหน่อย แน่นอนต้องมาดูไร่กระหล่ำปลีสัญลักษณ์ของภูทับเบิก

มันใหญ่มาก

เพราะฝนเพิ่งตกไปทำให้มองไม่เห็นวิวกว้างเท่าที่ควร ก็ฤดูของเขาอะเน๊อะ

เขาว่ากันว่ามาถึงที่นี่ต้องถ่ายรูปโอ่งแดงที่ไร่กะหล่ำปลี ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน อะถ่ายก็ถ่าย

ข้างบนภูทับเบิกก็จะมีของขายประมาณนี้ ผลไม้ แครอท มันต้ม มันปิ้ง ข้าวโพดปิ้ง บอกเลยว่ากินตอนอากาศเย็นสุดๆนี่มันฟินจริงๆ

หิวแล้วก็ซื้อสิ รออะไร

เดินมาเรื่อยๆจนถึงที่จอดรถ โปรแกรมต่อไปก็คือเราจะไปขึ้นภูแผงม้า ภูแผงม้าจะอยู่เลยทางเข้าภูทับเบิกไปนิดนึ่ง เป็นจุดชมวิว พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก และช่วงที่มีฝนตกหรือฤดูหนาวจุดนี้เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่งในเขตอำเภอหล่มเก่า ส่วนช่วงกลางวัน อาจจะได้เห็นภาพเมฆ หมอกที่วิ่งผ่านไปผ่านมา ที่นี่เมื่อใครที่ขึ้นมาแล้วต้องใช้เวลาอยู่นาน ในการซึมซับบรรยากาศของสายหมอก ที่ลอยผ่านเข้ามาปะทะร่างกาย

ภูแผงม้าอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,775 เมตร จะมองเห็นหมู่บ้านน้ำเพียงดิน มองเห็นจุดชมวิวภูทับเบิก มองเห็นพื้นที่อำเภอหล่มเก่า มองเห็นเส้นทางคดเคี้ยววิวแสนสวยของถนนที่เป็นเส้นทางรถยนต์ระยะทางจากถนนขึ้นเขามายังจุดชมวิวจะเพียง 300 เมตรผ่านด่านตรวจของอุทยานแห่งชาติภูหินร่อง กล้า ต้องเสียค่าธรรมเนียม ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท

เราจอดรถไว้ริมถนนแล้วเดินขึ้นมาสักพักก็ถึงแล้วภูแผงม้า แต่ด้วยฝนตกไปและกำลังจะตกอีกรอบ เราก็เลยมองไม่เห็นวิวอะไรเลย เพราะหมอกสีขาวมาปกคลุมลอยทั่วฟ้า ทั่วอากาศไปหมดเลย แอบเสียดาย เลยต้องก้มหน้าก้มตาเดินกับแคมป์แบบเศร้าๆกันไป

กลับมาอยู่ที่หน้าเต็นท์เพราะฝนเริ่มตกลงมาปรอยๆอีกแล้ว นอนเล่นโทรศัพท์ในเต็นท์รอเวลาออกไปกินข้าวเย็นละกัน

ตกลงมาสักพักก็หยุดลง

เขาว่ากันว่าฟ้าหลังฝนงดงามเสมอ มันจริงนะ

ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ท้องก็เริ่มร้องแล้วเช่นกัน ไปหาอะไรกินดีกว่า

อากาศหนาวๆแบบนี้ต้องหมูกระทะ ปิ้งย่างจะเยียวยาทุกสิ่ง เป็นการกินหมูกระทะที่วิวดีที่สุดในชีวิตตอนนี้เลย

.

.

.

.

กินอิ่มแล้วก็กลับเต็นท์เตรียมเสื้อผ้าไปอาบน้ำ ที่ไร่ริมผาก็มีบริการห้องอาบน้ำสำหรับคนที่มากางเต็นท์นะคะ

เช้าแล้ว เรานี่กระเด้งตัวเปิดเต็นท์แบบไม่มีงัวเงีย แตกต่างกับตอนตื่นไปทำงานจริงๆ ตอนเปิดเต็นท์ออกมายังไม่เจออะไร ไม่มีหมอก ไม่มีฝนเช่นกัน เอานะเดี๋ยวคงมา เลยรีบล้างหน้าแปรงฟัน (ที่หน้าเต็นท์นั่นแหระ) แล้วก็มานั่งรอหมอก

นั่งรอไปสักพัก พระอาทิตย์ก็ออกมาทักทาย อ รุ ณ ส วั ส ดิ์ แสงเช้า แสงแรก งดงาม

เวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ หมอกเริ่มไหลมาแบบนิดๆหน่อยๆ วันนี้จะมากันเยอะมั้ยน้อ? ลุ้นกันจริงๆ ไม่ใช่แค่เราเป็นกันทุกเต็นท์เลยค่ะ


มองหมอกกำลังเคลื่อนตัวมาเรื่อยๆ จนลืมไปเลยว่านั่งตรงนี้มานานแค่ไหนแล้ว ลุ้นอย่างเดียวคือหมอกต้องมา ขอให้คุ้มกับที่เมื่อคืนนอนหนาวทามกลางฝนตกหนักตลอดทั้งคืนหน่อยนะ

และเค้าก็มา สวยจนต้องกดชัตเตอร์รัวๆ

งดงามจริงๆ ของจริงสวยมาก

เมื่อหมอกปรากฏทุกคนก็ต่างวิ่งกันมาถ่ายรูป

หมอกคือซุปตาร์

มาถึงตอนนี้บอกเลยว่าคุ้มค่ากับการรอคอยมากๆ ธรรมชาติสวยงามเสมอ สัญญาจะจดจำภาพสวยงามเหล่านี้ตลอดไป

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันนะคะ

สุดท้ายนี้ขอบอกว่าเที่ยวได้ก็ต้องอนุรักษ์ได้ ธรรมชาติจะได้อยู่กับเราตลอดไป......

เรื่อยๆไปจนแก่

 วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 17.12 น.

ความคิดเห็น