เที่ยวภูเก็ต 3 คืน 3 วัน - เที่ยวกันอย่างมีความสุข

การเดินทางไปท่องเที่ยวภูเก็ตของเราครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วเจอฝนเต็มๆ ครั้งนี้เน้นพักผ่อนและท่องเที่ยวบนบก เพราะถึงจะไม่เจอฝนหนักแต่ก็ไปตรงช่วงมรสุมเข้าเล็กน้อยพอดี ใช้เวลา 3 คืน 3 วัน เนื่องจากจองตั๋วราคาโปรโมชั่น บินกลางคืน


แผนการเดินทาง

คืนแรก

- รับรถเช่า Avis

- เข้าที่พักใกล้หาดป่าตอง

วันที่ 1

- ทานข้าวใกล้ป่าตอง

- เดินเล่นหาดป่าตอง

- เข้าที่พัก ถาวร ปาล์ม บีช รีสอร์ท หาดกะรน

- เดินเล่นที่ถนนคนเดินหลาดใหญ่ และชมสตรีทอาร์ต ถ.ถลาง

- ทานบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดในรีสอร์ท

- เดินเล่นที่ตลาดใกล้หาดกะรน

วันที่ 2

- เข้าคาเฟ่ของรีสอร์ท Sweet Talk

- เรียนทำพิซซ่าที่ Ciao Bistro ห้องอาหารอิตาเลี่ยนของรีสอร์ท

- เรียนทำค็อกเทลในรีสอร์ท

- เที่ยวชมหาดต่างๆ

- เดินดูของทะเลสดๆที่ตลาดชาวเล หาดราไวย์

- ทานอาหารค่ำที่รีสอร์ท

วันที่ 3

- ทานอาหารกลางวันที่รีสอร์ท

- แวะเที่ยวชมหาดต่างๆจนค่ำ

- ทานอาหารเย็น

- คืนรถเช่าและเดินทางกลับ



ข้อมูลการท่องเที่ยวภูเก็ตเพิ่มเติม

- 17 หาด ในภูเก็ต : https://gowithampth.com/17beaches-in-phuket

- 7 เมนูเด็ด มาภูเก็ตต้องลอง : https://gowithampth.com/7-menus-phuket

- รีวิวถาวร ปาล์ม บีช รีสอร์ท : https://gowithampth.com/thavorn-palm-beach-resort-phuket



บันทึกการเดินทาง

คืนแรก

ก่อนเดินทาง เข้าไปรับเลนส์ไวด์ที่ EC Mall สาขาฟอร์จูน ชั้น 4 มาค่ะ เคยใช้แต่เลนส์เทเล จึงอยากลองเลนส์ไวด์ที่ระยะไม่มากดูบ้าง เน้นถ่ายอาคารและวิว ตัวนี้ไม่เบี้ยวจนแปลกตา กำลังดีเลย กล้องตัวที่ใช้อยู่เกือบ 2 ปีแล้ว ก็ซื้อจากที่ EC Mall มีอุปกรณ์การถ่ายรูปทุกชนิด ประกันร้านและประกันศูนย์ ราคาดี มีหลายสาขาทั่วกรุงเทพฯ


การจองตั๋วบินราคาโปรโมชั่นบางครั้งเวลาอาจจะไม่สวยมากนัก แต่อารมณ์อยากไปเที่ยว ขอให้คาบเกี่ยววันหยุดบ้างก็พอแล้ว ทริปนี้จึงจองได้เวลาขาไปที่ 20.30 น. ค่ะ


เช็คอินออนไลน์ล่วงหน้าและเซฟไฟล์บอร์ดดิ้งพาสมาแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาต่อแถวเช็คอินหน้าเค้าน์เตอร์ เพราะสามารถเปิดไฟล์บอร์ดดิ้งพาสให้เจ้าหน้าที่ดูทั้งตอนเข้าสนามบิน และก่อนขึ้นเครื่องได้เลย เมื่อเดินผ่านช่องตรวจกระเป๋าเข้ามาด้านในแล้ว ขอแวะที่เบอร์เกอร์คิง ร้านประจำที่ชอบเข้ามาใช้สิทธิพิเศษ นอกจากร้านนี้ยังมีอีกหลายร้านที่ร่วมรายการนะคะ ลองเช็คกันดู ^^



ครั้งนี้ต้องเดินไกลหน่อยค่ะ เกท 77 นู่นเลย แน่นอนว่าประตูด้านล่างจะต้องขึ้นบัสไปต่อเครื่องบิน


การเดินทางครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ไปกับสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เราว่าก็ไม่ได้ถึงกับแคบซะจนอึดอัดเหมือนอย่างที่คิดภาพตามคนอื่นเขาพูดกันนะ แถมยังโหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่องได้ฟรีอีก 10 กิโลกรัมด้วย แต่ของเราเป้กับกระเป๋ากล้องถือขึ้นเครื่อง ประหยัดเวลาไปได้อีก


แอบมากระซิบว่า แอร์ฯน่ารักอ้ะ เจอคนหนึ่งหน้าคล้ายดีเจวุ้นเส้น อยากขอถ่ายรูปมาก แต่เขิน ก็เลยแอบถ่ายมาได้แบบเบลอๆ


เดินทางเวลากลางคืนมันดีตรงที่เราจะได้เห็นวิวจากมุมสูงที่เต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับจากด้านล่าง บางครั้งอาจจะได้เห็นดาวและพระจันทร์ด้วย แต่การจะถ่ายรูปดวงไฟเล็กๆด้านล่างในเวลาที่เครื่องบินกำลังเคลื่อนตัวไปนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย (ต้องรอให้สัญญาณแจ้งรัดเข็มขัดดับลงก่อนนะ) เพราะถ้าตั้งค่าให้รับแสงได้มากก็จะทำให้ไฟลากเป็นเส้น พอจะตั้งให้ชัตเตอร์ลั่นเร็ว ภาพก็จะมืดมืด ใครก็ได้ช่วยบอกเทคนิคนี้ทีค่ะ


ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 25 นาที ก็มาถึงสนามบินภูเก็ต ตอนเครื่องลงแอบลุ้นว่าจะลงแรงไหม เพราะเป็นอีกเรื่องที่มีคนพูดถึง แต่ไม่จ้า ลงนุ่มกว่าที่คิดเยอะเลย เมื่อเดินเข้ามาภายในอาคารแล้วก็มองหาเค้าน์เตอร์ Avis เพราะใช้บริการรถเช่าโดยจองมาแล้วเรียบร้อย ใช้เวลาไม่นาน ก็เดินออกมารอเจ้าหน้าที่อีกส่วนมารับหน้าสนามบิน เพราะรถเช่าจะอยู่ที่ออฟฟิศศูนย์บริการด้านนอก ต้องขึ้นรถตู้ไปค่ะ


รถเช่าของ Avis นอกจากจะมีสภาพพร้อมใช้และดูใหม่ทุกคันแล้ว ราคาก็ยังไม่แพง แถมยังคืนรถช้าได้ฟรีอีก 4 ชั่วโมงเลยด้วย ติดต่อสอบถามที่ โทร. 02-555-3000-4 หรือเว็บไซต์ https://www.avisthailand.com


จองที่พักสำหรับคืนแรกผ่านแอปพลิเคชั่นเอเจนซี่มาในราคา 2xx บาท มีโทรทัศน์ แอร์ น้ำดื่ม เครื่องทำน้ำอุ่น ผ้าเช็ดตัว ที่นอน หมอน ผ้าห่ม พร้อม ไม่เก่าด้วย ถือว่าแจ่มเลยกับราคานี้ Tuana Blusky Patong Resort อยู่ติดสถานีตำรวจ ไม่ทราบราคาปกตินะคะ ถ้าสนใจก็ลองติดต่อสอบถามกันดู


วันที่ 1

ทานข้าวใกล้ป่าตอง - เดินเล่นหาดป่าตอง - เข้าที่พัก ถาวร ปาล์ม บีช รีสอร์ท หาดกะรน - เดินเล่นที่ถนนคนเดินหลาดใหญ่ และชมสตรีทอาร์ต ถ.ถลาง - ทานบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดในรีสอร์ท - เดินเล่นที่ตลาดใกล้หาดกะรน

ตื่นสายๆ เพราะเน้นมาพักผ่อน มีเวลาเหลือเฟือ ออกมาก็เจอฝนปรอยๆฟ้าครึ้มๆ ขับรถไปเดินเล่นที่หาดป่าตองกันต่อค่ะ มาเจอแดดเปรี้ยงพอดี หาดป่าตองเต็มไปด้วยฝรั่ง มีคนจีนอยู่บ้างประปราย บ้างนอนอาบแดด บ้างเล่นน้ำ บ้างเล่นเครื่องเล่น ดูเป็นเหมือนหาดสวรรค์ของนักท่องเที่ยว ร้านอาหารริมชายหาดก็มี เดินออกมาก็มีรถสาธารณะ ทั้งแท็กซี่ สองแถว รถโพท้อง(สองแถวคันใหญ่) ไว้คอยให้บริการมากมาย ที่พักใกล้ๆก็มีให้เลือกเยอะแยะ ตลาดของกินของใช้ก็มี หาดป่าตองแห่งนี้จึงเป็นหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในภูเก็ต


แต่ก็อย่างว่า ย่านนี้เป็นย่านของนักท่องเที่ยว อาหารการกินจึงมีราคาค่อนข้างแพงตามไปด้วย เราจึงวนรถหาร้านที่อยู่ห่างจากหาดเข้ามามากหน่อย แล้วก็ได้มาเจอร้านเย็นตาโฟไสน้ำเย็น อยู่ที่ถนนไสน้ำเย็นค่ะ ราคาไม่แพงเกินไปและหน้าตาน่าทานดี รสชาติก็อร่อยด้วย บะหมี่เกี๊ยวแห้ง ข้าวหมูกรอบ เป๊บซี่ น้ำแข็ง 2 แก้ว ทั้งหมด 120 บาทเอง


จากนั้นตั้งใจจะเข้าที่พัก เข้าใจว่าที่พักขึ้นไปทางหาดกมลา จู่ๆฝนเริ่มตกหนัก ค่อยๆขับรถไปจนถึงแล้ว ปรากฎว่าไปผิดที่ ฮ่าๆๆๆๆ รีสอร์ทในเครือถาวร มี 2 แห่ง ในภูเก็ตค่ะ ถาวร บีช วิลเลจ แอนด์ สปา อยู่หาดกมลา และ ถาวร ปาล์ม บีช รีสอร์ท อยู่หาดกะรน จึงวกรถกลับไปยังหาดกะรน ที่นี่ไม่มีฝนเลยสักเม็ด ทางเข้าออกรีสอร์ทจะอยู่อีกด้านหนึ่ง ส่วนฝั่งที่ใกล้หาดจะเป็นทางด้านหลัง


เข้ามาจอดรถ และเดินไปทำการเช็คอิน ได้รับ Welcome Drink เป็นน้ำกระเจี๊ยบเย็นๆ


บริเวณด้านหน้ามีสนามหญ้ากว้างขวาง ต้นไม้ใบหญ้าดูร่มรื่นดีมากเลยค่ะ สามารถลงไปเดินเล่นชิลๆได้


ชมภาพและข้อมูลเพิ่มเติม ถาวร ปาล์ม บีช รีสอร์ท : ที่นี่

ห้องพักที่นี่มีมากกว่า 300 ห้อง ทั้งเตียงคู่และเตียงเดี่ยว ภายในห้องจะเน้นใช้สีขาวและสีเหลืองอ่อนเป็นหลัก ให้ความรู้สึกอบอุ่น น่ารัก สวยมาก อุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆก็มีไว้ให้ครบครัน


ในห้องเราใช้เลนส์ไวด์ถ่ายเป็นหลักนะคะ ยังไม่ค่อยชินมือเลยยังเปลี่ยนกลับไปกลับมาอยู่ แต่ชอบมาก ทริปหน้าจะพกไปใช้อีกเยอะๆเลย จัดมาจาก EC Mall ราคาหมื่นปลายๆ ประกันศูนย์ ร้านนี้เชื่อถือได้แน่นอนเรามั่นใจมาก เพราะกล้องตัวที่ใช้อยู่เกือบ 2 ปี ก็เป็นประกันที่นี่ แต่ไม่เคยมีปัญหาเลยค่ะ


จากห้องพักมองเห็ววิวด้านหลังรีสอร์ท เต็มไปด้วยต้นมะพร้าวและต้นไม้เยอะมาก เห็นสระว่ายน้ำด้วย ซึ่งที่นี่มีทั้งหมด 3 สระด้วยกัน


จู่ๆฝนก็ตก นกเอี้ยง 1 ตัว ก็บินมาหลบฝนที่ระเบียงอย่างไม่กลัวคน และมีนกตัวที่ 2 บินตามมาด้วย น่ารักมาก


มีพนักงานมาเคาะประตูห้อง บอกว่ามี Welcome Fruit มาให้ ดีจังเลยค่ะ


พอฝนซาก็ออกมาเดินสำรวจโรงแรมกันต่ออีกหน่อย ทั้งสระว่ายน้ำ ต้นไม้ในสวน สนามหญ้า ทางเดิน และนกน้อย ให้ความรู้สึกเหมือนสวนหลังบ้านขนาดใหญ่อันอุดมสมบูรณ์


และโซนนั่งพักผ่อนต่างๆที่อยู่ในอาคารด้านหน้า


ช่วงเย็นออกไปเดินเล่นกันที่ถนนคนเดินหลาดใหญ่ และชมสตรีทอาร์ต อยู่ที่ถนนถลาง ย่านเมืองเก่านั่นเองค่ะ มีเฉพาะเย็นวันอาทิตย์เท่านั้น ถ้าหากมาวันอื่นหรือช่วงเวลาอื่นก็สามารถเดินเล่น ถ่ายรูปสวยๆกับอาคารเก่าแก่ สไตล์ชิโนโปรตุกีสที่ผสมผสานเอาความเป็นศิลปะตะวันตกและตะวันออกเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน และมีร้านอาหาร ร้านขนมต่างๆอยู่ย่านนี้อีกหลายร้าน


ที่หลาดใหญ่มีร้านขายของกินเป็นหลัก และมีของใช้อยู่บ้าง แต่ละอย่างก็น่าทานมาก ซึ่งบางอย่างจะเป็นเมนูท้องถิ่น


พอใกล้ค่ำ กลับมาที่รีสอร์ท เดินไปทานบุฟเฟต์ซีฟู้ดกันที่ห้องอาหาร Old Siam อยู่ด้านหลังรีสอร์ท มองเห็นวิวทะเล และนั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกได้


สำหรับบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดที่นี่มีเฉพาะค่ำวันอาทิตย์เท่านั้น ในราคา 790 บาท


นอกจากซีฟู้ดแล้วก็ยังมีเมนูอื่นๆอีกมากมายไว้ให้ตักทานกันได้ไม่อั้น เรื่องของรสชาตินั้นถือว่าอร่อยใช้ได้เลยล่ะค่ะ


ช่วงประมาณ 20.00 น. จะมีการแสดงรำไทยอีก 3-4 ชุดให้ชมกันด้วยนะคะ


อิ่มแล้วลงมาเดินเล่นดูสระว่ายน้ำฝั่งใกล้ทางออกด้านหลัง จะมีรูปปั้นจรเข้อยู่ด้วย


แล้วเดินเลยออกมาด้านนอก ไม่น่าเชื่อว่าดึกดื่นแล้วยังมีนักท่องเที่ยวนั่งรับลมกันอยู่ริมหาด ทั้งมืดๆแบบนั้นเลย จึงลองตั้งกล้องถ่ายหน่วงเวลา เปิด ISO สูงๆ จนมองเห็นเหมือนแสงกลางวันแบบนี้เลย จริงๆต้องการได้แค่แสงรำไร แต่ตั้งค่าเยอะไปหน่อย ^^”


แล้วก็เดินเลยมาฝั่งตลาด มีร้านอาหาร ร้านขายของใช้ ร้านสะดวกซื้อ และที่เห็นมีหลายร้านก็คือร้านไอศกรีมผัดแบบนี้ค่ะ


วันที่ 2

เข้าคาเฟ่ของรีสอร์ท Sweet Talk - เรียนทำพิซซ่าที่ Ciao Bistro ห้องอาหารอิตาเลี่ยนของรีสอร์ท - เรียนทำค็อกเทลในรีสอร์ท - เที่ยวชมหาดต่างๆ - เดินดูของทะเลสดๆที่ตลาดชาวเลย์ หาดราไวย์ - ทานอาหารค่ำที่รีสอร์ท

ลงมาทานอาหารเช้าของถาวรปาล์ม ที่นี่สามารถรับประทานอาหารเช้าได้ตั้งแต่ 07.00 – 10.00 น. มีหลายเมนูให้เลือกทานดีค่ะ


พอสายๆมีนัดเข้าร้านเบเกอรี่และร้านกาแฟของที่พัก คือ Sweet Talk และ Coffee Talk จะอยู่ริมถนนด้านหลังรีสอร์ท ฝั่งตรงข้ามถนนก็เป็นหาดกะรนแล้วค่ะ


จัดโทสต์ ชาเขียวลาวา บราวนี่ น้ำสับปะรดปั่น และมิกซ์เบอร์รี่สมูทตี้


ละเลียดของหวานแล้วออกมาเดินเล่น ดูสวนต้นไม้และสระว่ายน้ำด้านหลัง ร่มรื่นมาก


ช่วงเที่ยงมาเรียนทำพิซซ่าต่อค่ะ ไม่ได้ไปเรียนไกลที่ไหนเลย ในรีสอร์ทนี่เอง ที่ Ciao Bistro and Café ร้านอาหารอิตาเลี่ยนจะมีห้องทำพิซซ่าเตาถ่านอยู่ด้านหน้า สามารถติดต่อขอเรียนทำพิซซ่าด้วยตัวเองได้ เชฟจะสอนตั้งแต่วิธีการนวดแป้ง ลงน้ำหนักมืออย่างไร ตลอดจนถึงการอบออกมาพร้อมทาน มันจะอร่อยด้วยความภาคภูมิใจในฝีมือตัวเองนี่แหละค่ะ ราคา 300 บาท ได้เรียนรู้ ลงมือทำ เสร็จแล้วก็เอาออกมานั่งทานได้เลย ให้คนอื่นๆทานขี้มือ เอ้ย ฝีมือของเราด้วย


เท่านั้นยังไม่พอค่ะ เดินเข้ามาที่บาร์เครื่องดื่มด้านในรีสอร์ท ยังมีสอนการชงค็อกเทลด้วยนะ เป็นศิลปะที่ต้องเรียนรู้ด้วยความเข้าใจเลยล่ะค่ะ


ช่วงเย็นขับรถออกไปเดินเล่นชายหาดทางด้านล่างกันค่ะ หาดกะตะ และหาดกะตะน้อย แต่ละหาดให้ความรู้สึกคล้ายๆกัน มีนักท่องเที่ยวเยอะพอสมควร


จนมาถึงจุดชมวิว 3 อ่าว หรือ 3 หาด คือ หาดกะตะน้อย หาดกะตะ และหาดกะรน


มาแวะต่ออีก 3 หาด คือหาดในหาน หาดยะนุ้ย และหาดราไวย์ หาดในหานจะคล้ายๆกับ 3 หาดที่ผ่านมาเมื่อสักครู่


หาดยะนุ้ยเป็นหาดเล็กๆอยู่ใกล้ทางไปจุดชมวิวกังหันลมและแหลมพรหมเทพ นักท่องเที่ยวน้อย ลงเล่นน้ำชิลๆได้เลย


ส่วนหาดราไวย์ไปช่วงเย็นน้ำลด เห็นมีแต่เรือจอดอยู่เต็มไปหมด


จึงหาที่จอดรถทางปลายๆใกล้สะพานท่าเทียบเรือ


แล้วเดินเข้าตลาดขอทะเลงสดของชาวเล เดินเข้าไปฝั่งขวาเป็นร้านขายของทะเลสดๆอยู่เป็นสิบๆร้าน ราคาค่อนข้างแพงเพราะเน้นขายนักท่องเที่ยว แต่คนไทยกันเองสามารถต่อรองราคาได้นะ ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็นร้านอาหารซีฟู้ด สามารถซื้อของสดเองแล้วนำไปให้ร้านปรุงสุกให้ได้ โดยคิดราคากิโลกรัมละ 100 บาท ครึ่งกิโลกรัม 70 บาท แทบทุกร้าน เราได้แต่หอยนางรม 3 ตัวร้อยมาทานให้หายอยาก ให้ที่ร้านเปิดฝาให้ ทานง่ายๆ แต่ไม่มีเครื่องไม่มีน้ำจิ้มให้นะคะ


กลับมาทานอาหารค่ำที่รีสอร์ทกันต่อ มื้อนี้ที่ห้องอาหาร Old Siam อีกครั้ง แต่รอบนี้ทานแบบอลาคาสกันค่ะ บอกได้เต็มปากเต็มคำว่าอร่อยมาก!! อร่อยทุกอย่าง ส่วนเรื่องของราคาก็ค่อนข้างสูงตามไปกับวัตถุดิบ รสชาติ และหน้าตาอาหารแต่ละเมนู ถือว่าลงตัวแล้วแหละ


ยำทะเลรวมมิตร กุ้งแม่น้ำทอดซอสมะขาม แกงเขียวหวานไก่ในลูกมะพร้าว ข้าวผัดทะเล ข้าวผัดต้มยำทะเล


วันที่ 3

ทานอาหารกลางวันที่รีสอร์ท - แวะเทียวชมหาดต่างๆจนค่ำ - แวะทานอาหารเย็น - คืนรถเช่าและเดินทางกลับ

เช้านี้ไม่ได้ลุกขึ้นมาทานอาหารเช้า เพราะเมื่อคืนอิ่มมาก ฮ่าๆๆๆ ลุกขึ้นมานั่งเล่นชิลๆอยู่ในห้องพัก


แล้วก็เดินออกมาชมนกชมไว้ในรีสอร์ทต่ออีก ชอบความร่มรื่น ชะอุ่ม และดอกไม้นานาชนิดของที่นี่ รวมถึงสระว่ายน้ำและทัศนียภาพมุมต่างๆด้วย ทำให้รู้สึกได้มาพักผ่อนอย่างเต็มที่แถมยังได้เที่ยวสถานที่อื่นๆไม่ไกลอีกตั้งหลายที่แน่ะ


ทิ้งท้ายด้วยมื้อกลางวันอีกครั้ง ที่ห้องอาหาร Ciao Bistro จัดเต็มด้วยอาหารอิตาเลี่ยนหลากหลายเมนู รสชาติอร่อยเลยล่ะค่ะ


Zuppa Di Pesce, Bruschetta Al Pomodoro, Fritto Misto, Braciola Di Maiale, สเต็กปลา และเฟตตูชินี่


น้ำมะพร้าว อร่อยมาก!!! ไม่เคยลองที่ไหนอร่อยเท่านี้มาก่อนจริงๆนะคะ ถ้าใครไปอยากให้ลอง


หลังจากเช็คเอ๊าท์ออกมาแล้ว ก็ได้เวลาเที่ยวชมชายหาดอีกหลายๆที่ ลงน้ำ เดินเล่น ชมวิว ดูฝรั่งอาบแดด อีกหลายหาดจนมืด

(ชมภาพและข้อมูลเพิ่มเติม 17 หาดในภูเก็ต : https://gowithampth.com/17beaches-in-phuket )


ขอมาแวะทานอะไรแซ่บๆก่อนกลับอีกสักมื้อ ระหว่างทางที่หาปั๊มเติมน้ำมันก็ได้เจอกับร้านอาหารอีสานพอดี จัดเบาๆที่ ส้มตำ ต้มแซ่บ และปีกไก่ทอด


จากนั้นกลับเข้าไปคืนรถที่ออฟฟิศ Avis ภูเก็ต ซอยในยาง 13 (เสิร์ชในแผนที่ว่า “Avis Office”) แล้วรอให้รถตู้เข้าไปส่งในสนามบิน รอสักพักก็ได้เวลาขึ้นเครื่องกลับแล้ว


ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันจนถึงตรงนี้นะคะ แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้าค่ะ ^^




ติดตามบันทึกการเดินทางต่อๆไปได้ที่ :

GowithAmp

https://facebook.com/GowithAmp

http://gowithampth.com

ความคิดเห็น