หลังจากผ่านพี่ยามอารมณ์ดีเข้าไปในกระโจมสูง ทางเล็กๆ ก็นำเราผ่านเจ้าหนุ่มสองคน

คนตัวโตคล้องงูไว้บนคอ ส่วนอีกคนตัวเล็กกว่า คล้องกล้องถ่ายรูป

“จับงูมั๊ยพี่” เจ้าตัวโตถาม

“จับได้เหรอ เสียเงินมั๊ยอะ” อาเจ๊สงสัย

“จับฟรีครับพี่ แต่ถ้าถ่ายรูปด้วยเสียร้อยนึง เอางูคล้องคอแบบนี้” เขาตอบ

ผมไม่อยากจับงู และไม่อยากเสียเงิน เลยขอถ่ายรูปซะเลย ^^

Underwater World Pattaya ต้อนรับเราด้วยรอยยิ้ม และอากาศอบอุ่นยามบ่าย

ติดกันเป็นโซนทัชพูล ที่ให้คุณจับสัตว์ในอ่างได้ แต่ห้ามยกขึ้นมาเหนือน้ำครับ

ข้างๆ มีอีกัวน่าให้ดูเปลี่ยนบรรยากาศ

ถัดมาอีกนิดเป็นโซนกิจกรรมให้อาหารปลาคราฟ เต่า และปลาในตู้ปลาต้านแรงโน้มถ่วง

ตู้ต้านแรงโน้มถ่วงไม่สวยวิ๊งเหมือนภาพในเว็บ แถมปลาก็ไม่แคร์อาหารในมือเราซักนิด

ลองแล้วลองอีกจนน้ำหยดเป็นทาง ในเมื่อมันไม่เล่นด้วย เดินต่อก็ได้ หิวแล้วอย่ามาเรียกนะ!!

ยิ่งใกล้ถึงทางเข้าโซนใต้น้ำ ไอเย็นของเครื่องปรับอากาศก็ลอยมากระทบ ผมอยากเข้าไปหลบร้อนในนั้นแล้วหงะ

“นี่ๆ จะบ่ายสองครึ่งแล้ว เราต้องไปตู้นาก” อาเจ๊ประกาศ

ปัญหาคือตู้นากอยู่อีกทาง ต้องแบกกระเป๋ากล้องเหงื่อแตกพลักต่อไป

ทางไปตู้นากอยู่ทางเดียวกับทางออก ต้องเดินผ่านโซนสัตว์เลื้อยคลานด้วย

ส่วนตัวผมคิดว่าจุดนี้ไม่ค่อยเข้ากับที่นี่เท่าไหร่ และตู้ที่พวกมันอยู่ก็ดูจะเล็กไปนิดครับ

ตู้นากหลบอยู่มุมอาคาร ถ้าไม่มีนักท่องเที่ยวนั่งรอดูการแสดงอยู่กลุ่มใหญ่ เราคงไม่สังเกตุ

ถึงเวลา นักแสดงค่อยๆ หย่อนตัวลงมาจากด้านบน แล้วเริ่มโชว์ด้วยรอยยิ้ม

เจ้านากแสนรู้ให้ความร่วมมืออย่างดี ก่อนส่งท้ายด้วยการเป็นนายแบบให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปคู่

การแสดงอีกรอบจะเริ่มในเวลา 15.00 ที่โซนปะการัง เราเดินย้อนกลับทางเดิม

แอร์จ๋า ฉันมาแล้วววว

ก่อนเริ่มแสดง มีเวลาให้ผมค่อยๆ ถ่ายสัตว์น้ำในตู้ และที่สำคัญ มันเย็นสบายยย

ในอุโมงแต่ละช่วง จะมีป้ายบอกว่าจะมีการแสดงเริ่มขึ้นตรงจุดไหนติดอยู่ตรงทางเดิน

ไม่มีคนเลย ทั้งอุโมงเป็นของเรา ได้ภาพสวยๆ แน่นอนนน

หารู้ไม่ มันคือความสงบก่อนพายุมา...

เพราะเมื่อถึงเวลา นักท่องเที่ยวต่างชาติมาจากไหนกันเยอะแยะ มุมถ่ายรูปช้านพังหมดแล้ววว

เหล่าปลาก็ดูเหมือนจะรอคอยเวลานี้เหมือนกัน เมื่อนักประดาน้ำปรากฏขึ้น พวกมันก็มารุมกันชุลมุน

หลังจากให้อาหารเสร็จ นักท่องเที่ยวก็ต่อแถวกันถ่ายรูปกับนักประดาน้ำ

เป็นที่รักของทั้งปลาและมนุษย์จริงๆ พ่อหนุ่ม

ช่วงเวลาโชว์รอบต่อๆ ไป เราเดินวนไปวนมาถ่ายโน้นถ่ายนี้ไปเรื่อย

ก่อนออกจากโซนใต้น้ำ เป็นโซนแมงกะพรุน ที่ยิ่งได้ดูใกล้ๆ ยิ่งรู้สึกทึ่งกับทั้งรูปร่างและลีลาของพวกมัน

เสียดายที่วันนั้น (9 พฤษภาคม 2561) โซนแมงกะพรุนปิดปรับปรุง เหลือตัวเล็กๆ ให้ดูไม่กี่ตัว

เราย้อนกลับมาในอุโมง เพื่อดูการให้อาการปลาที่โซนไจแอ้นท์ ออฟ สยาม

เจ้าตัวใหญ่พวกนี้สุขุม ไม่วุ่นวายเหมือนโซนปะการัง พวกมันค่อยๆ ลอยเอื่อยเข้าหานักประดาน้ำแล้ว“ดูด”อาหารเข้าปากอย่างนุ่มนวล

สุดท้าย การให้อาหารโซนปลาฉลาม

กว่าจะมาถึงจุดนี้ ผมเดินกลับไปกลับมาจนเหนื่อย

“อยากกลับบ้านแล้วอ๊ะ” ตัวขี้เกียจกระซิบ

“แต่มันคือฉลามเชียวนะ รอมาถึงขนาดนี้ ไม่อยู่ต่อได้ไง” ตัวขยันเถียง

โอเคๆ งวดนี้ฝ่ายธรรมมะชนะ อยู่ต่อก็ด้ายยย

รอบนี้มีนักท่องเที่ยวมารออยู่แล้วพอสมควร คุ้นหน้าหลายคน เพราะดูมาตั้งแต่โชว์แรกเหมือนกัน

ในที่สุดก็ถึงเวลา นักประดาน้ำมาแล้ววว

ฉลามแลดูอยู่ดีกินดี จนไม่ค่อยกระตือรือร้นมากินอาหารเท่าไหร่ แย่งปลาตัวเล็กตัวน้อยไม่ทัน

มีแต่พี่ใหญ่ฉลามพยาบาลที่ว่ายเนิบๆ เข้าใส่นักประดาน้ำจนหน้าคะมำ

โชว์ตัวซักรอบ แล้วก็กลับไปนอนอืดเหมือนเดิม

ฉลามพยาบาล หรือปลาฉลามขี้เซา เป็นสัตว์หากินผิวดิน มีอาหารคือปลาเล็กๆ หอย กินปู ดังนั้นที่มันขี้เกียจแบบนี้ก็น่าจะปกติดี ไม่ป่วยไข้ครับ

ก่อนกลับ แวะถ่ายป้ายนิดนึง



สรุป

นี่เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดเล็กที่มีอะไรให้ดูเยอะพอสมควร ถ้าเดินผ่านๆ ใช้เวลาไม่เกิน 40 นาที แต่ถ้าอยากดูโชว์ให้ครบ ควรเผื่อเวลาไว้ซัก 1.30 ชั่วโมงจ้า

ชอบ

  • การแสดงตรงเวลา และนักแสดงก็เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวมาก
  • อุโมงใต้น้ำสวยงาม
  • เดินวนไปวนมาได้ตามชอบ

ไม่ชอบ

  • ตอนบ่ายอากาศร้อน มาช่วงเช้าน่าจะดีกว่า
  • รู้สึกว่าโซนสัตว์เลื้อยคลาน ไม่ค่อยเข้ากับสถานที่
  • ค่าเข้าสูง ส่วนตัวคิดว่าต้องได้ดูอย่างน้อย 2 โชว์ถึงจะคุ้มครับ



ข้อมูล

พิกัด

เวลา

  • 9.00 - 17.30

รอบการแสดง

  • ตู้นาค 10.00 / 14.30
  • โซนปะการัง 10.30 / 15.00
  • โซนปลาฉลาม 11.00 / 16.00
  • โซนไจแอ้นท์ ออฟ สยาม 11.30 / 15.30

ราคา

  • ผู้ใหญ่ 250 บาท
  • เด็ก (ความสูง 90 - 130 เซ็นติเมตร) 150 บาท
  • เด็ก (สูงน้อยกว่า 90 เซ็นติเมตร) ฟรี

อื่นๆ



https://www.facebook.com/bearducktravel/

ความคิดเห็น