ทริปต่อเนื่องจากการไปงานปอยส่างลองที่แม่ฮ่องสอน มีเวลาเที่ยววัดที่เชียงใหม่ 6-7 เมษายน 2561

นั่งรถตู้มาจากแม่ฮ่องสอนมาถึงอาเขตเชียงใหม่ 15:50 น. ดูเวลาแล้วรอรถเมล์ไม่นาน เที่ยวรถ 4 โมงเย็น นั่งสบายแอร์เย็นในราคา 15 บาท


จุดหมายปลายทางที่ลงรถเมล์คือแถวโรงแรมท่าแพอินน์ที่เราจะพัก พอมาถึงวางกระเป๋า เก็บภาพห้องพักเล็กน้อย เราชอบพักที่นี่เพราะสะดวกสบายเรื่องอาหารการกิน จะไปไหนก็ง่ายไปหมด เดินเที่ยวได้สบาย ที่นี่จะเป็นโรงแรมวินเทจ มีของเก่าเยอะมาก ใครชอบของเก่ามาพักได้ โรงแรมท่าแพอินน์


วางกระเป๋าได้ก็ออกมาซนรอบเวียงกันเลย เดินตามถนนท่าแพมุ่งหน้าตรงไปที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เราจะมาวัดพระสิงห์ทุกครั้งที่มีโอกาส พระธาตุประจำปีเกิดมะโรงอยู่ที่นี่ รอบนี้อยู่ที่นี่จนมืดเลย เริ่มต้นที่วิหารหลวงที่ประดิษฐานพระศรีสรรเพชร


เดินมาที่วิหารลายคำ ที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ หรือพระสิงห์ที่ทุกคนคุ้นเคย


เดินออกจากวิหารลายคำมาถ่ายภาพมุมมหาชน มุมนี้จะเห็นวิหารลายคำ พระธาตุหลวง และอุโบสถ


เดินมากราบพระธาตุหลวง พระธาตุประจำปีเกิดปีมะโรง และถ่ายรูปในมุมที่ชอบ



ยอดฉัตรพระธาตุหลวงเป็นทองคำแท้หนัก 10 กิโลกรัม เพิ่งจะยกยอดฉัตรนี้ในวันมาฆบูชาที่ผ่านมา กล้องมือถือซูมสุดได้แค่นี้ อาจจะไม่ชัดนัก


เดินวนมาที่หอไตรที่อยู่ด้านขวาของประตูวัด แสงกำลังสวยพอดี


ด้านหน้าวิหารหลวงที่มีรูปปั้นครูบาฯ และเป็นจุดวงเวียนสำหรับวนรถด้วย


เดินย้อนไปที่พระธาตุหลวงอีกครั้ง ยิ่งมืดยิ่งสวย สง่า และสงบ


ออกจากวัดพระสิงห์ก็เดินย้อนกลับมาที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เราชอบที่นี่ตั้งแต่เก็บค่าเข้าต่างชาติก็แบ่งกลุ่มคนที่อยากเข้ามาจริงๆ กับคนที่เข้ามาทำเสียงดังวุ่นวายได้ มาช่วงที่พระและเณรกำลังทำวัตรเย็นภายในวิหารหลวงที่ประดิษฐานพระอัฏฐารส


ออกจากวิหารหลวงมาด้านหลังจะเป็นเจดีย์หลวง ด้านบนจะประดิษฐานพระแก้วหยกเชียงใหม่ ตามตำนานพระแก้วมรกตองค์ที่ประดิษฐานที่วัดพระแก้วภายในพระบรมมหาราชวัง พระแก้วมรกตเคยประดิษฐานที่วัดเจดีย์หลวงฯ แต่หอพระแก้วได้เสียหายไปตามกาลเวลาไปแล้ว



ด้านหลังจะมีพระนอนทรงเครื่องสวย ในศาลาเปิดโล่ง 3 ด้าน


ปิดท้ายคืนนี้ (6 เมษายน 2561) ด้วยการมาถ่ายรูปตามนักท่องเที่ยวจีนที่ประตูท่าแพ



เช้า 7 เมษายน 2561 มีความตั้งใจจะไปวัดบ้านเด่นที่แม่แตง แต่ก่อนจะออกนอกเมืองเราก็ออกสำรวจกาดหลวงและริมน้ำปิงยามเช้าในบรรยากาศดีๆ


แวะมาจิบยาธาตุที่ร้านสล่ามองโอสถ ตรงข้าม ktb ท่าแพ แก้วละ 5 บาท เราเรียกที่นี่ว่า "สภายาธาตุ" เพราะหลายเรื่องที่เชียงใหม่เราก็รู้จากที่นี่


เดินผ่านร้านขายของที่กำลังเปิดร้านเจอน้องมายืนรับลมอยู่


ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม เดินมาที่กาดหลวงขึ้นรถสองแถวแม่แตง ลงสุดสายที่แยกทางเข้าวัดพอดี บางคันจะจอดก่อนถึงแยก บางคันจอดให้ที่วินรถพ่วงข้างเลย ต่อพ่วงข้างเข้าไปไม่นานก็จะถึงวัดบ้านเด่น หรือวัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน เรามารอบนี้ครั้งที่ 3 แล้ว มาถึงก็ตกใจในความหนาแน่นของทัวร์ทุกชาตทุกภาษา รถทัวร์จอดเต็มลานหน้าวัด ลานในวัดก็เป็นรถตู้ รถยนต์เต็มไปหมด เราเป็นพวกใจเย็นรอถ่ายรูปได้นาน แต่รอบนี้ครึ้มฝนมาก รูปมากหน่อยเพราะวัดนี้สวย
















เราแวะมากินก๋วยเตี๋ยวร้านหน้าวัด ก๋วยเตี๋ยวเนื้ออร่อย เนื้อไม่สาป ซุปหอม ราคา 35 บาท


อิ่มแล้วก็โทรเรียกพ่วงข้างเข้ามารับ ระหว่างรอก็กินน้ำแข็งไสก่อน เพิ่มความหวานให้ร่างกายบ้าง (มือดำจากตากแดดที่แม่ฮ่องสอนมา กะขึ้นเลย)


ตอนแรกจะแวะแม่ริมก่อนเข้าเมืองแต่เราใช้เวลาที่วัดบ้านเด่น 3 ชั่วโมงกว่า เวลาไม่น่าทันกลับบ้านแน่ๆ ก็ตรงกลับตัวเมืองเชียงใหม่เลย บ่ายแล้วถึงเวลาแวะจิบกาแฟที่ร้าน Fact Cafe Gallery & Cafe ร้านนี้มีงานศิลปะเต็มร้านเลย ใครชอบก็สามารถซื้อได้



อิ่มกาแฟก็เดินมาที่วัดดวงดี ใกล้ๆ สามกษัตริย์ และพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา



เดินต่อมาที่วัดอุโมงค์มหาเถรจันทร์ วัดนี้สงบมาก เราภายในอุโบสถจะมีพระพุทธรูปทองคำที่เปลี่ยนพระพักตร์ตามแสงไฟได้ 9 แบบ ภายในมีป้ายห้ามถ่ายรูปก็เลยไม่มีรูปให้ชม แต่ส่วนอื่นก็น่าสนใจมาก




ก่อนกลับไปรับกระเป๋า ก็เดินไปวัดเชียงมั่น ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในตัวเมืองเชียงใหม่ และเป็นวัดแห่งแรกในเขตกำแพงเมืองในปี พ.ศ.1839 ประดิษฐานพระเสตังคมณี (พระแก้วขาว) พระศิลาซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางปราบช้างนาฬาคีรี และเจดีย์ช้างล้อมที่สร้างเลียนแบบสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช




ห้องน้ำที่นี่สะอาดมาก ไม่มีกลิ่น แถมแห้งด้วย


หมดเวลาซนแล้ว ต้องรีบกลับไปรับกระเป๋า เดินจากโรงแรมท่าแพอินน์ไปที่ถนนคนเดินวัวลาย ถนนคนเดินวันเสาร์ที่ของกินอร่อยหลายอย่าง เรากินก่อนกลับบ้านจนอิ่ม






ปิดท้ายทริปนี้ด้วยการเข้าวัดศรีสุพรรณ ทุกวันเสาร์จะมีลานวัฒนธรรม มีการแสดง และพิธีทางศาสนาด้วย ส่วนเราก็มาถ่ายรูปที่อุโบสถเงินหลังแรกของโลก







ปิดท้ายด้วยการเข้าอุโบสถหลังเก่า


ถึงเวลาต้องไปต่อแล้ว เดินต่อไปที่สนามบิน ขากลับเราชอบนั่งฝั่งขวาของเครื่อง ตอนตีโค้งกลับกรุงเทพฯ จะได้เห็นแสงไฟเมืองเชียงใหม่ชัดเจน


1 ชั่วโมงก็ถึงดอนเมือง รอบนี้ลองถ่ายขาลงบ้าง

จบทริปสั้นๆ แม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่ ทริปต่อไปก็มาเชียงใหม่อีก ไปงานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่


ติดตามทริปเดินทางอื่นๆได้ที่:

เพจ: ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว

IG: prapat / ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว



ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว

 วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 03.32 น.

ความคิดเห็น