อีกหนึ่งเกาะเล็กๆที่ความสวยงามไม่เล็ก "เกาะนูซา ปนีดา" (Nusa Penida) ซึ่งเกาะนี้อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ของเกาะบาหลี ประเทศอินโดเนียเซีย อากาศที่นี้จะแห้งกว่าบาหลีนิดหน่อย นอกจากนั้น ยังเป็นแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงและมีพื้นที่สำหรับดำน้ำ รวมไปถึงชาวบาหลีเชื่อว่าเกาะนี้เป็นดินแดนแห่งเวทมนตร์และเป็นที่อยู่ของพ่อมดในตำนาน เจอโร เกอเด เมอจาลิง


ซึ่งนี่คือสถานที่ทั้งหมดที่ Nusa Penida อยากให้เรามาเยี่ยมชมกัน


- ดำน้ำแหวกว่ายธาราอันแสนกว้างใหญ่ที่จะให้ทุกคนได้สัมผัสกับโลกใต้น้ำ พร้อมกับอิ่มเอิมไปกับฝูงปลาน้อยใหญ่ที่ใกล้แค่เอื้อม กับ Manta Bay, Wall point, GT point และ Gamat bay


- อีกหนึ่งที่แห่งความประทับใจของทริปนี้คือ Angel Billabong อันนี้ต้องบอกตรงๆว่าห้าม ห้าม และห้ามพลาด คือสวยมากจริงๆ แต่ที่ต้องระวังคือหินบาดมาก อยากถนัดหน่อยอาจจะต้องใช้รองเท้าสำหรับปืนเขา



- ถัดจาก Angel Billabong ไม่กี่ร้อยเมตร สามารถเดินมาถึงอีก 1จุดชมวิว ที่เรียกว่าสุดยอดจริงๆ ที่นี่คือ Broken Beach อย่างที่บอกว่าเป็นจุดชมวิวอย่างเดียว ทำให้สถานที่แห่งนี้ไม่ควรลงไป เพราะอาจจะเกิดอันตราย



- Highlight อีกที่นึงของการเดินทางครั้งนี้คือ จุดชมวิวที่ทุกคนต้องรู้จักเพราะที่นี่คือ Kelingking Beach ที่เป็นที่กล่าวขานของความโหด เพราะทางที่ต้องเดินลงไปถึงจุดข้างล่างคือทั้งชันและคับแคบรวมไปถึงสะพานที่กำลังปรับปรุง ทำให้มีนักท่องเที่ยวน้อยคนนักที่จะกล้าลงไป



- Teletubies Hills อีกสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะเป็นทุ่งหญ้ากว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ช่วงที่เรามาคือช่วงลมอุ่นๆ แต่แดดแรงไม่เบา ต้องทาครีมกันแดดดีๆนะคะ



- อีกหนึ่งที่ที่ต้องห้ามพลาดคือ Tree House หรือบ้านต้นไม้หลังน้อยที่อยู่ติดกับ Atuh Thousand Islandทั้งสามที่ไม่ว่าจะเป็น Atuh Thousand Island, Atuh Beach หรือ Tree House สามารถเดินถึงกันได้หมด แต่อาจจะต้องใช้เวลานิดนึง



- หลังจากอิ่มเอมกับ Tree House นี่คือทางกลับขึ้นมาของเราจ้าท่านผู้ช๊มมม จะมีจุดชมวิวของ Atuh Thousand Island ที่สามารถเห็นได้ทั้งเกาะและหาดเล็กๆของนาง อย่าลืมแวะแช๊ะรูปไว้เป็นที่ระลึกกันด้วย




- เดินเลาะๆมาเรื่อยๆก็จะเจอหาด Atuh Beach ซึ่งต้องเดินลงไปไกลพอประมาณ หากใครมีเวลาเเละมีเสบียงติดไปด้วย อย่าลืมลงไปดูกันนะคะ



อันนี้แอบถาม โดยปกติเเล้ว Nusa Penida จะเป็นเกาะเล็กๆที่พักจะมีอยู่แค่ไม่กี่ที่ เเละเกือบทุกที่จะมองเห็นวิวทะเลหรือติดทะเล ซึ่งเป็นบรรยากาศดีๆที่ต้องเก็บไว้เลย


________________________
การเดินทาง
- ให้นั่งเครื่องบินมาที่สนามบิน ท่าอากาศยานนานาชาติงูระห์ไร เดนปาซา (DPS) : ใช้เวลาเดินทางจากไทยประมาณ 4-6 ชม
- นั่งเรือต่อจากท่าเรือซานูร์ Sanur beach ไปที่เกาะ Nusa Penida : ใช้เวลาการเดินทางของ speech boat ประมาณ 45 นาที

________________________
ห้องพัก
มีตั้งแต่ราคาหลักพันถึงหลักหมื่น แต่จะหลักเท่าไหร่ internet ก็ใช้ไม่ค่อยได้นะจ้า ไวไฟช้ามาก รวมไปถึงที่พักบางทียังเป็นน้ำออกเค็มๆหน่อยๆ แต่สิ่งที่ดีงามคือที่พักเกือบทุกที่จะติดทะเลแบบ Seaview

________________________
การซื้อทริป
ทริปที่นี่มีตั้งแต่ซื้อเป็นแบบทัวร์ one day trip ตลอดจนทัวร์แบบที่เราสามารถ manage รายละเอียดตามใจเราได้ แต่ถ้าเป็นแบบเจน เจนซื้อทัวร์แบบ 2D 1N ซึ่งจะแบ่งเป็น 1วัน city tour อีก 1วันเจนเลือกเป็น snorkeling เพราะไม่อยากเน้นหนักมากในวันเดียว

________________________
อาหารการกิน
ที่นี่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกความอดทน แบบเข้าข่ายลูกเสือที่แท้ทรู เพราะเราจะได้กินอาหาร Local แบบที่ไม่ค่อยได้ expect เท่าไหร่ รวมไปถึงอาหารต้องเน้นย้ำตลอดเวลาว่าอย่าเผ็ดมาก แต่ถ้า safe zone จริงๆอาจจะต้องเป็นอาหารประจำชาติอย่าง หมี่โกเรง ที่รสชาติจะจืดๆหน่อย แต่รับรอง ปลอดภัยท้องไม่เสียแน่นอนจ้า

________________________
สิ่งที่จำเป็นต้องเตรียมไป
ที่นี่แดดแรงมาก อย่าลืมแว่นกันแดดและครีมกันแดด รวมไปถึงยาสามัญประจำบ้านด้วย

________________________
การซื้อสินค้า
ถ้าตั้งราคาไว้ 200,000 IDR ให้ต่ออย่างน้อยครึ่งนึงของราคาทั้งหมด ที่นี่สินค้าไม่ได้คุณภาพอย่างที่คิดไว้ และที่สำคัญอย่าเม้ามอยแม่ค้าเพราะคนที่นี้พูดภาษาไทยได้ในระดับนึงเลย


PS. สำหรับใครที่ยังคิดอะไรไม่ออก หวังว่านูซา ปนีดาจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะช่วยทำให้คุณฟินไปกับวันหยุดหรือช่วงเวลาพิเศษๆ

#nusapenida
#island
#travelblogger
#bali
#indonesia

ความคิดเห็น